คำอธิบาย: โบสถ์ใหม่วัดปรางค์หลวง ภาพโดย @Single Mind for Peace
|
ที่กล่าวมานี้เป็นการเลือกชนิดดินในทางด้านวัตถุเท่านั้น ดังได้กล่าวมาแล้ว สำหรับการสร้างโบสถ์นั้นต้องพิจารณาถึง ความบริสุทธิ์ของพื้นดินให้ลึกซึ้งยิ่งไปกว่านั้น สถานที่ที่จะสร้างโบสถ์จะต้องมีความบริสุทธิ์ในการใช้สอยก่อนหน้านี้มาด้วย เช่น
-ไม่เคยเป็นสุสานหรือเคยเป็นเชิงตะกอนมาก่อน
-ไม่เคยเป็นที่ประหาร
-หรือไม่เคยเป็นที่ใดๆ ที่มีการใช้งานที่เป็นอัปมงคลมาก่อน
โบสถ์ที่สร้างในน้ำในกรณีที่ต้องการความ บริสุทธิ์ของพื้นที่ปลูกสร้างเป็นพิเศษ ตัวโบสถ์จะต้องอยู่ห่างจากฝั่ง ชั่วระยะวักน้ำสาดไม่ถึง และเมื่อพระภิกษุ ข้ามจากฝั่งมายังโบสถ์แล้ว จะต้อง ชักสะพานออกไม่ให้มีสิ่งเชื่อมต่อระหว่าง ฝั่งกับตัวโบสถ์
คำอธิบาย: งานสร้างโบสถ์วัดปรางค์หลวง นนทบุรี ภาพ :@Single Mind for Peace
|
และในการสร้างโบสถ์ใหม่ทุกครั้ง พระสงฆ์จะต้องประกอบพิธีถอนความไม่บริสุทธ์ิใดๆ ที่อาจมีในพื้นที่นั้นเสียก่อน
ในการสวดถอนของคณะสงฆ์นั้น พระภิกษุจะห่างกันในระยะหัตถบาสจนเต็มพื้นที่ที่จะต้องการสวดถอน ถ้าไม่อาจหาพื้นดินบริสุทธิ์ได้ก็จะกระทำสังฆกรรมกันกลางน้ำ โดยชักสะพานหรือสิ่งที่ทอดข้ามติดต่อระหว่างโบสถ์น้ำหรืออุทกเขปกับฝั่งออก เพื่อตัดความเชื่อมโยงระหว่างพื้นดินที่ไม่บริสุทธิ์กับแพ หรือเรือที่ใช้ทำสังฆกรรม ในกรณีที่ใช้โบสถ์เก่าก็มักจะทำให้บริสุทธิ์ขึ้นมาใหม่ ด้วยการสวดและผูกสีมาทับซ้อนของเดิม ดังนั้นเราจึงเห็นวัดโบราณบางวัด มีหลักสีมาสองหรือสามหลัก
คำอธิบาย: ลูกนิมิตซึ่งถูกเตรียมไว้ ภาพจากวัดขุนสมุทรจีนโดย@Single Minde for Peace
|
ใบสีมาและ ลูกนิมิต
เมื่อการสร้างโบสถ์ขึ้นเป็นอาคารสำเร็จเรียบร้อยแล้ว สงฆ์ยังจะต้องทำพิธีผูกพัทธสีมา คือตั้ง ใบสีมา เป็นเครื่องหมายเขตบริสุทธิ์ล้อมรอบอาคารที่เป็นตัวโบสถ์อีกชั้นหนึ่ง เมื่อเสร็จพิธีผูกพัทธสีมาแล้วจึงถือว่าใช้โบสถ์นั้นทำสังฆกรรมได้ วัตถุที่ใช้กำหนดเขตสีมานั้นเรียกว่า นิมิต ซึ่งเป็นวัตถุที่นำมาวางเป็นเครื่องหมายให้คนเห็นเป็นหลักฐาน เช่นเดียวกับการกำหนดหมุดโฉนดที่ดินในปัจจุบัน ในอดีตนั้นเมื่อพระสงฆ์ประกาศเขตอุโบสถและ ไม่มีผู้ค้านกรรมสิทธิ์แล้วจึงฝังลูกนิมิตเป็นที่หมาย และนิมิตนั้นต้องไม่เป็นสิ่งที่เคลื่อนย้ายได้ง่าย ปัจจุบันนี้จึงนิยมฝังลูกหินกลมลงในดิน ตรงที่ที่ต้องการกำหนดเขต
คำอธิบาย: ตัวอย่างภาพใบสีมา : @Single Mind for Peace
|
ใบสีมา ก็คือเครื่องหมายแสดงให้รู้ว่าใต้ดินตรงนั้นมีลูกนิมิตฝังอยู่ในพุทธบัญญัติเดิมได้กำหนดไว้ว่านิมิตอาจใช้แสดงได้ด้วยวัตถุ ๘ ชนิด คือ ภูเขา ศิลา ป่าไม้ ต้นไม้ จอมปลวก หนทาง แม่น้ำ หรือแอ่งน้ำ
แต่ในปัจจุบันนี้ไม่มีความสะดวกที่จะใช้สิ่งเหล่านี้ กำหนดเขตสิ่งปลูกสร้าง เพราะที่ดินสำหรับสร้างวัดมีขนาดเล็ก ต้องการกำหนดจุดที่แน่นอนเพื่อป้องกันกรณีพิพาท จากเจ้าของที่ดินที่มีอาณาเขตติดต่อกัน ในสมัยพุทธกาลนั้นอาจกำหนดจากสิ่งที่ระบุไว้ในพุทธบัญญัติได้เพราะ ที่ดินส่วนใหญ่ยังว่างเปล่าปราศจากเจ้าของครอบครอง การกำหนดเขตอารามก็ชี้เอาสิ่งที่มีขนาดใหญ่เป็นที่หมายได้สะดวก
สำหรับการใช้ใบเสมา ๒ ใบซ้อน ปักเป็นอาณาเขตกระทำสังฆกรรม รอบโบสถ์นั้น มีทางสันนิษฐานว่าโบสถ์เดิมเป็นโบสถ์ ที่ใช้ในการทำสังฆกรรมของนิกายหนึ่ง ต่อมาเมื่อสงฆ์ในวัดนั้นเปลี่ยนเป็นนิกายอื่น จึงได้มีการผูกใบเสมาขึ้นใหม่ซ้อน กับเสมาเดิม หรือในอีกกรณีหนึ่ง วัดเดิมซึ่งเป็นวัดที่ราษฎรสร้างขึ้น ได้รับการอุปถัมภ์เป็นวัดหลวง จึงมีการผูกเสมาหลวงขึ้นใหม่ซ้อน กับเสมาเดิม
คำอธิบาย: สีมาชัยหน้าโบสถ์ ซึ่งจะได้รับการบูชาจากผู้ที่จะเข้าพิธีอุปสมบททุกครั้ง
|
ถือกันว่าเขตสีมานี้เป็นเขตที่สำคัญสุดของวัด เพราะในการกระทำสังฆกรรมในบางกรณี คณะภิกษุหรือสงฆ์ผู้ประกอบพิธีเท่านั้นจึงจะเข้าไปในเขตสีมาได้ ผู้อื่นจะย่างกรายล้ำเข้าไปไม่ได้เลย หากมีผู้ละเมิดแล้ว สังฆกรรมนั้นจะไม่สมบูรณ์ จะต้องทำใหม่
ดังนั้นบางวัดที่เข้มงวดในเรื่องนี้จึงนิยมผูกสีมา ไว้ชิดกับตัวโบสถ์ที่ริมผนังด้านนอกเสียทีเดียว เพื่อขจัดปัญหา แต่ก็มีบางวัดที่ทำสีมาติดกับกำแพงรอบนอก ล้อมเอาพุทธาวาสเป็นเขตสีมาไว้ทั้งหมด ดังเช่นวัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ในกรุงเทพมหานคร สีมาที่กำหนดเขตไว้กว้างเช่นนี้นิยมเรียกกันว่า มหาสีมา
ดังนั้นเมื่อจะกระทำสังฆกรรมกันครั้งใด ก็มักจะปิดประตูเขตพุทธาวาสไว้ทั้งหมดจนกว่าจะเสร็จพิธีสังฆกรรม เขตสีมานั้นกำหนดแนวจากหลักสีมาที่ตั้งไว้ล้อมรอบตัวอาคารที่เป็นโบสถ์ เพราะโดยทั่วไปโบสถ์มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ดังนั้นหลักสีมาจึงจำเป็นจะต้องมีอย่างน้อย ๔ หลัก เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ได้ครบถ้วน แต่ถ้าเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ ก็อาจกำหนดให้มีได้มากกว่า ๔ หลักได้ เช่นอาจมีได้ถึง ๘ หรือ ๑๐ หลักเพื่อให้กำหนดแนวเขตได้ชัด โดยเฉพาะหลักสีมาที่อยู่กลางด้านหน้าของโบสถ์นั้นถือว่า เป็นสีมาสำคัญ นิยมเรียกกันว่า สีมาชัย (เสมานี้จะได้รับการบูชาจากผู้ที่จะเข้าพิธีอุปสมบททุกครั้ง)
คำอธิบาย: พระประธานจะทอดพระเนตรลงตรงพื้นโบสถ์ ตำแหน่งที่มีลูกนิมิตฝังไว้
|
ในบางกรณีนั้น อาจกำหนดหลุมนิมิตเพิ่มขึ้นอีกหลุมหนึ่ง ภายในโบสถ์ที่หน้าพระประธานตรงจุดที่พระพุทธปฏิมาทอดพระเนตรลงสู่พื้นโบสถ์
คำอธิบาย: ตัวอย่างรูปแบบของโบสถ์และวิหาร
|
คำอธิบาย: หลักสีมา ภาพจาก@Single Mind for Peace
|
โบสถ์ก็เช่นเดียวกับวิหาร ซึ่งมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมซึ่งแตกต่างกันไป ตามภูมิภาคและประเทศ
คำอธิบาย: โบสถ์มหาอุตม์วัดโคกคงสมโภชน์ ภาพจากไทยรัฐ
|
การสร้างโบสถ์บางแบบในอดีตมีลักษณะปิดทึบไม่มีช่องลมและหน้าต่าง มีแต่ประตูเข้าออกเพียงด้านหน้าด้านเดียว โบสถ์แบบนี้เป็นแบบที่อับทึบไม่ถูกสุขลักษณะก็จริง แต่ก็เป็นที่นิยมสร้างกันสำหรับวัดที่มีประวัติขลังทางอาคม ส่วนมากโบสถ์ที่มีลักษณะเช่นนี้มักจะเป็นโบสถ์ของวัดฝ่ายอรัญวาสี โบสถ์ชนิดนี้เรียกว่า โบสถ์มหาอุตม์ มีวิธีการสร้างโบสถ์ในลักษณะเช่นนี้ ก็เพื่อป้องกันมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดเล็ดลอดเข้าไปในระหว่างกระทำพิธีกรรมได้ และเพื่อช่วยให้พระภิกษุที่ประกอบพิธีมีสมาธิแน่วแน่ เพราะตัวโบสถ์จะป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี
คำอธิบาย: กำแพงแก้วล้อมโบสถ์ ภาพโดย@Single Mind for Peace
|
โบสถ์ก็เช่นเดียวกับวิหาร มักนิยมสร้างกำแพงแก้วล้อมรอบนอกสีมา การทำกำแพงแก้วนั้นเข้าใจว่าทำขึ้นเพื่อเป็นเครื่องประดับเกียรติของอาคาร ในคติเดียวกับการทำกำแพงแก้วล้อมรอบวิหารซึ่งสันนิษฐานว่า มีที่มาจากสุขาวดีสูตรของมหายาน
อ้างอิง : หนังสือลักษณะไทย