Group Blog
 
All Blogs
 
การขอขมา-กิจของผุ้มีบุญบารมีจะพ้นทุกข์ (ตอนที่๒/๓)

การขอขมา เป็นสิ่งที่สำคัญและไม่ควรละเลย เพราะ เป็นพุทธกิจ อริยกิจ เป็นกิจของผู้มีบุญบารมีที่จะพ้นทุกข์ แม้แต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันตเจ้าทั้งหลาย ถึงแม้นจะเข้าสู่พระนิพพานสันติบทไปแล้ว ท่านเหล่านั้นก็ยังไม่ละเลยต่อขมาปนกิจ

ถ้าหากการขอขมา ไม่มีความจำเป็นและไม่มีอานิสงส์เสียแล้ว ก็คงจะไม่ได้เห็น พิธีการขอขมาในรูปแบบต่างๆ มากมาย เช่น การขอขมาโทษต่อพระรัตนตรัยก่อนนั่งภาวนา, การขอขมาบิดามารดาและญาติ สำหรับผู้ที่จะบวชเป็นต้น

ตามปกติ เราไม่สามารถที่จะติดตามดูกรรม และผลของกรรมที่เกิดขึ้นได้ เราไม่อาจทราบได้ว่าในอดีตเราเคยได้เบียดเบียนและทำความเดือดร้อนให้กับบุคคลและสัตว์ใดๆไว้หรือไม่ อย่างไร...

แต่เราต้องเคยได้ประกอบกรรมไม่ดี อย่างน้อยอย่าหนึ่งไว้อย่างแน่นอน เพราะความเป็นปุถุชน จึงไม่มีใครเลย ในโลกนี้ที่จะไม่เคยทำความผิดพลาด

ท่านผู้รู้จึงให้ขอขมาซึ่งกันมื่อมีโอกาส เพราะเป็นการแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน ปลดระวางทิฏฐิมานะ และเบื้องต้นเพื่อให้ใจของผู้ขอขมาเป็นอิสระจากบาปในใจตน,

การขอขมามีมหาอานิสงส์สูง เป็นพุทธกิจ เป็นกิจของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เป็นกิจของพระอรหันตเจ้าทั้งหลาย เป็นอริยกิจ เป็นกิจของพระอริยเจ้าทั้งหลาย เป็นกิจของผู้มีบุญญาบารมีที่จะพ้นทุกข์ทั้งปวงในจักรวาล เป็นกิจเพื่อพระนิพพานอย่างแท้จริงเป็น ๑



อานิสงส์การขอขมา

การขอขมามีอานิสงส์ปลดเปลื้องทุกข์ในใจ เป็นการแสดงความตั้งใจจริงในการยอมรับความผิดพลาด ผู้ที่มองเห็นความผิดพลาดและสำนึกในบาปที่กระทำ ย่อมเป็นการยากที่จะหันกลับไปทำความชั่วอีก

ทั้งผู้รับการขอขมาหากเห็นความตั้งใจของผู้ขอขมา ก็ย่อมมีจิตใจน้อมไปทางตัดรอนความพยาบาทอาฆาตที่เคยมีต่อกัน การขอขมาจึงมีอานิสงส์สูงทั้งต่อผู้ขอขมาและผู้รับการขอขมา เพราะเป็นการบำเพ็ญคุณธรรมขึ้นภายในดวงใจ ได้แก่ ความอ่อนน้อม หิริโอตัปปะ และการให้อภัย

การขอขมาจึงเป็นกิจของผุ้มีบุญบารมีที่จะพ้นทุกข์ทั้งปวงในจักรวาล แม้นสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นศาสดาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ทรงเป็นพระจอมไตรโลก มียศยิ่งใหญ่กว่าผู้ใดในโลกสาม แลพระอรหันตเจ้าทั้งหลายท่านยังเอื้อนพระโอษฐ์ขอขมา

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อครั้งเมื่อพระนางพิมพาผู้เป็นพระชายาของเจ้าชายสิทธัตถะคู่รักคู่บารมีของพระโพธิสัตว์ ได้ร่วมสุข ร่วมทุกข์ยาวนานกว่าสตรีอื่น เมื่อครั้งพระนางเป็นภิกษุณีกราบทูลลานิพพานต่อสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า พระนางก็ได้เอื้อนพระโอษฐ์ กล่าวขอขมาพระมุนีเจ้าดั่งนี้

“ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า เมื่อหม่อมฉันท่องเที่ยวไปในวัฏสงสาร หากมีความพลั้งพลาดใดในพระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดประทานโทษแก่หม่อมฉันด้วยเถิด”

ครั้งนั้นสมเด็จพระผู้มีพระภาคตรัสอดโทษแก่พระนาง และตรัสให้พระนางอดโทษานุโทษต่อพระองค์ ดังนี้

“…โทษผิดอันใดที่เจ้าเคยมีต่อเราตถาคตแต่ปางก่อน วันนี้เป็นวันที่เราตถาคตอดโทษให้แก่เจ้าจนหมดสิ้น อนึ่ง โทษานุโทษอันใด ที่เราตถาคตได้เคยประมาทล่วงเกินเจ้า ด้วยความพลาดพลั้งทั้งลับหลังและต่อหน้าตลอดเวลาที่ยังต้องท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสาร ขอเจ้าจงอดโทษานุโทษนั้น ให้แก่เราตถาคตเสียให้สิ้น แล้วจงดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพานอันเป็นเอกันตบรมสุขไปก่อนเถิดนะ เจ้าพิมพา"

ภาพที่บุคคลขอขมาซึ่งกันและกันจึงเป็นภาพอัศจรรย์ประการหนึ่งในโลก เพราะแม้นแต่สมเด็จพระจอมไตรยังทรงตรัสขอขมา การขอขมาจึงเป็นประหนึ่งการปลดหนี้วิบากกรรมที่มีต่อกัน เป็นการลาทุกข์ ปลูกมรคผล ได้เลิศล้นพ้นมารภัย

บุคลควรตั้งจิตน้อมไปเพื่อขอขมาต่อสรรพสัตว์ทุกชีวิต สูงสุดคือพระรัตนตรัย บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ แม้แต่ต่อบุคคลผู้อยู่ในทิศเบื้องล่าง ก็ควรที่จะกล่าวขอขมาได้

การขอขมาไม่ใช่เป็นการทำตนให้ต่ำต้อยด้อยค่าแต่อย่างใด ตรงกันข้ามผู้ขอขมาเป็นผู้ที่กำลังจะได้รับการเลื่อนขั้นทางจิตวิญญาณ เพราะการขอขมาเป็นการลดละตัวตนและเพิ่มพูนบารมีในดวงใจ เป็นสิ่งที่ทวนกระแสกิเลส และกระทำได้ยากสำหรับบุคคลโดยทั่วไป ดังนั้นจึงเป็นประเพณีของบุคคลผู้จะพ้นทุกข์ทั้งหลาย

*** โปรดติตตามตอนต่อไป ***



ขอขอบพระคุณภาพวัดปรางค์หลวง จาก @Single Mind for Peace
บทความธรรมะรจนาโดย : น้อมเศียรเกล้า


Create Date : 08 มกราคม 2554
Last Update : 9 มกราคม 2554 21:42:05 น. 3 comments
Counter : 2156 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ เวอะมาทักทายค่ะ เพลงไพเราะมากค่ะของลิงค์ได้ไหมค่ะ ชอบมากๆค่ะ


โดย: CrackyDong วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:23:07:18 น.  

 
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ขอให้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปครับ


โดย: บารมี ศรีสวัสดิ์ IP: 118.173.171.233 วันที่: 9 มกราคม 2554 เวลา:6:37:02 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ Cracky Dong,คุณบารมี ยินดีที่ได้รู้จัก

น้อมเอา code เพลงมาแปะที่นี่ ปรากฏว่า แปะไม่ได้ค่ะ

เอาอย่างนี้นะ ลองไปหาจาก youtube ดู เพลงนี้ชื่อ "เส้นทางสีขาว"

น้อมชอบเพราะเวลาฟังจะนึกถึงตอนที่ตนเองตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง

ประกอบกับคิดว่าเพลงนี้ไม่ค่อยรบกวนสมาธิเวลาอ่านบทความค่ะ เลยเลือกเพลงนี้ค่ะ



โดย: น้อมเศียรเกล้า วันที่: 9 มกราคม 2554 เวลา:21:37:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้อมเศียรเกล้า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Friends' blogs
[Add น้อมเศียรเกล้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.