วิธีบูชา"พระของขวัญ" (ตอนที่ ๒/๒) จบ
วิธีบูชาพระของขวัญ (จบ) เรียบเรียงโดยอาจารย์มงคลบุตร
ศึกษาบทความก่อนหน้า
วิธีบูชาพระของขวัญ ตอนที่ ๑/๒
การอธิษฐานสั่งและทับทวีวิชชารวมความศักดิ์สิทธิ์ ของผู้เจริญภาวนา และวิชชาดังกล่าว โดยตลอดครบไตรมาสโดยไม่ขาดตอนเลยนั้น จึงบังเกิดผลดีแต่การปฏิบัติธรรมและการดำเนินชีวิตในทางโลกของผู้มีพระไว้ในครอบครอง เป็นอันมาก
ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ ก่อนที่ท่านจะมอบพระของขวัญให้แก่ผู้ใด พระเดชพระคุณท่านจะต้องให้ผู้ที่มาขอรับพระฝึกปฏิบัติภาวนาก่อน จึงจะมอบพระของขวัญให้ไป พร้อมด้วยกำชับให้ผู้นั้น หมั่นเจริญภาวนาอยู่เสมอ อย่าให้ทอดทิ้งธรรม แล้วภายหลังต่อมาจึงได้พิมพ์คำแนะนำการปฏิบัติภาวนาแจกพร้อมกับพระให้แก่ผู้มาขอรับพระทุกคน และได้ถือปฏิบัติสือต่อมาจนตราบเท่าทุกวันนี้
เมื่อท่านทั้งหลายได้เข้าใจดังนี้แล้ว หากได้พบหรือมีพระดังที่ได้กล่าวนี้ ก็จงหมั่นปฏิบัติบูชาโดยเพียรพยายาม ละ ชั่วด้วย กาย วาจา ใจ หมั่นประกอบแต่กรรมดี ด้วยกาย วาจา และใจ ชำระจิตใจให้สะอาดและบริสุทธิ์ เป็นสัมมาทิฏฏิแต่ฝ่ายเดียว รักษาศีลเจริญสมาธิ และปัญญา หรือกล่าวโดยรวมๆ ว่าเจริญภาวนาอยู่เสมอ ก็จะประจักษ์ในผลแห่งคุณความดีหรือบุญกุศลนั้นด้วยตนเอง
วิธีปฏิบัติเพื่อบูชาพระของขวัญ พระสมเด็จธรรมกาย หรือพระผงธรรมขันธ์
ท่านจงน้อมใจของท่านให้หยุดอยู่ ณ ที่ ศูนย์กลางกายตัว (ดังจะได้กล่าวในตอนหลัง) นึกบูชาพระรัตนตรัยซึ่งเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีสิ่งอื่นใดในโลกจะศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่า
เสร็จแล้วจงพิจารณาพระของท่านให้จำได้ แล้วหลับตาน้อมองค์พระนั้น ไปตั้งไว้ ณ ที่ ศูนย์กลางกายตัว แล้ว ให้บริกรรมภาวนาว่า สัมมาอะระหัง ๆ ๆ ๆ พร้อมกับตรึกนึกให้เห็นองค์พระนั้นให้เหมือนกับเห็นด้วยนัยน์ตาจริงๆ
นึกหนักขึ้นก็ชัดหนัก ขึ้นจนเห็นชัดแจ้งกับตาจริงๆ การเห็นนั้นไม่ใช่ตามนุษย์หยาบ (ตาเนื้อ) เห็น แต่เป็น ตาใน หรือตาของกายมนุษย์ละเอียด หรือ กายฝัน ซึ่งเป็นทิพย์เห็น เมื่อเห็นชัดแจ้งดังนั้นแล้ว ก็ต้องมองให้เห็นไว้เสมอในอิริยาบถทั้ง ๔ คือ นั่งก็เห็น นอนก็เห็น ยืนก็เห็น หรือจะเดินก็เห็นทั้งนั้น
เมื่อทำให้เห็นอยู่เสมออย่างนี้ พระท่านก็จะโปรดเรา ต่อแต่นั้นท่านจะปาฏิหาริย์นิรมิตองค์ของท่านออกไปบ้าง เล็กเข้ามาบ้างแล้วเปลี่ยนเป็นสีต่างๆ ขาวเป็นเงินยวงบ้าง เป็นสีปรอทบ้าง เป็นสีทองคำบ้าง เป็นสีเหลืองต่างๆบ้าง เป็นสีขาวสะอาดบ้าง เป็นสีแก้วมรกตบ้าง ขาวใสเหมือนเพชรบ้าง ใสเหมือนกระจกส่องเงาหน้าบ้าง
เมื่อเห็นได้ถึงขนาดนี้แล้ว อย่ายินดียินร้าย ทำใจให้เฉยเป็นอุเบกขาไว้ นึกว่านั่นเป็นปาฏิหาริย์ ของพระท่าน พระท่านโปรดเรา
เราต้องเคารพระลึกถึงท่านเสมอ และให้น้อมใจหยุดในหยุดลงไปที่ศูนย์กลางองค์ท่าน จะเห็นที่หมายเป็นจุดเล็กใสเท่าปลายเข็ม พอใจหยุดนิ่งได้ถูกส่วนเข้าก็จะเห็นดวงกลมใสแจ่ม ณ ที่ศูนย์กลางองค์พระนั่นก็ให้รวมใจหยุด ณ ที่ศูนย์กลางดวงนั้นต่อไปอีก ก็จะเห็นดวงและองค์พระใสบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ขยายส่วนโตขึ้น และมีรัศมีสว่างขึ้นกว่าเดิม
ทีนี้ก็ให้จรดใจไว้อยู่ ณ ที่ศูนย์กลางดวงใสแจ่มตรงศูนย์กลางกาย องค์พระนั้นไว้เรื่อย ให้เห็นทุกอิริยาบถทีเดียว
เมื่อทำได้ดังนี้ ชื่อว่าบูชาพระองค์ท่านด้วยคารวะยิ่ง ไม่มีการบูชาอื่นจะยิ่งไปกว่า ในขั้นนี้ องค์พระท่านจะปาฏิหาริย์จนเต็มส่วนของท่าน ใสเหมือนแก้วหมดทั้งองค์ งามไม่มีที่ติ ท่านจะประทับอยู่ที่ศูนย์กลางกายของเราตามเดิม แต่ประทับผินพระพักตร์ ออกตามกายของเรา ที่ศูนย์กลางกายของเป็นที่ประทับของท่าน ใจเราก็ต้องให้หยุดที่ศูนย์กลางองค์พระเหมือนกัน ให้เหมือนกับหยุดอยู่ที่ศูนย์กลางกายมนุษย์
เมื่อเราเข้าถึงองค์พระดังนี้แล้ว ต้องการอะไรก็อาราธนาให้ท่านช่วย ต้องสำเร็จตามปรารถนา ต่างแค่ช้ากับเร็วเท่านั้น หรือทันใดนั้นก็ได้ เมื่อเราหัดทำใจให้เข้าถึงองค์พระได้ชำนิชำนาญคล่องแคล่วดังนี้แล้ว ในเมื่อเราจะไปทางบกก็ดี ทางน้ำก็ดี ทางอากาศก็ดี หรือจะไปในที่ใดที่หนึ่งก็ดี หรือมีเหตุการณ์ บังเกิดขึ้นโดยปัจจุบันก็ดีเราจะรอาราธนาให้ท่านช่วยได้ทันท่วงที ถ้าเรารับราชการ ขอให้การรับราชการของเราราบรื่นเรียบร้อย ไม่เป็นที่สะดุดตาสะดุดใจผู้หลักผู้ใหญ่
ถ้าเราค้าขาย ขอให้การค้าการขายของเราให้ซื้อง่ายขายคล่อง กำไรงาม ถ้าเราทำนา ทำสวน ทำไร่ ทำกิจการใดๆ ขอให้การกระทำนี้ได้ผลเกินควรเกินค่า ถ้าเราจะไปทางน้ำทางบก ขอให้ไปดีมาดี สวัสดีมีชัย ในกาลทุกเมื่อ เทอญฯ
Create Date : 06 สิงหาคม 2555 |
Last Update : 9 สิงหาคม 2555 9:35:08 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1486 Pageviews. |
|
|