๏ กลอนพลอยสีวานรไสว ๚ะ๛
๏ กลอนพลอยสีวานรไสว ๚ะ๛ ๏ หากบอกฉัน สิ้นสี จะดีไหม
แม้นญาติวงศ์ยิ่งใหญ่ในสีสัน
หนึ่งชุดขาว สี่กากี ที่เห็นกัน
หนึ่งเขียวนั้น เหินห่าง จางไปนาน ๚
๏ หากมาเหมา เอาฉัน ปั้นสีเหลือง
ญาติอาจเคือง พาลเหมา ถึงเผาบ้าน
ญาติแผดแสง แดงปรี่ อนันตกาล
เสพสำราญ สีกากี ถึงสี่นาย ๚
๏ ฉันจึงชอบ ตัวลีบ ทำตัวเล็ก
อายุแก่ แสร้งเป็นเด็ก ดีเหลือหลาย
พูดเงื่อนโง่ มิรู้มิชี้ ดีจะตาย
มิมีหมาย ป้ายหัว เอาปูนทา ๚
๏ ฉันจึงชอบ เป็นคน ผู้จนสี
ทั้งชีวี ปราศหมอง เริงร้องร่า
โน่นญาติฉัน แดงไสว ใหญ่คับฟ้า
เต็มอัตรา สีกากี ทั้งสี่คน... ๚
๏ เมื่อเปิดเขียน อินเตอร์เน็ต หลากเพ็ดถ้อย
เว็บนี้คอย ว่าฉัน "อำพัน"สถล
เว็บโน้นว่า ฉันมันเลือด "โกเมน"ปน
"ไพลิน" ล้น "ศักดินา" เออ บ้า บอ ๚
๏ อย่ามาพ่น ป้ายฉัน คั้นเค้นสี
อับปะรี เหาเห็บ เก็บเข้าห่อ
จะสีรุ้ง สีแรด แผดเผาจอ
เพชรพลอยพ่อ เขวี้ยงขว้าง กางกานท์กลอน ๚
๏ เบื่อเหลือเกิน พวกอยากสี ชีวีพล่าน
ขุดตำนาน แปลบปรี่ รี่สลอน
ฉันมันคน คลำจด บทละคร
ฝึกวานร เล่นจอ ล้อลิเก ๚ะ๛
จารไว้หน้าจอ ณ เรือนนนทบุรี สยาม ราชอาณาจักรไทย ณ คืนพระอังคาร ๒๔ มีน พระพุทธศักราช ๒๕๕๒ วันโกน แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีชวด ณ เพลา ตีหนึ่งกับอีกยี่สิบสามนาที : tiki_ทิกิ - 25 มี.ค. 52 01:23:58
ที่มา //www.thaipoem.com/forever/ipage/poem124478.html //www.thaipoem.com/forever/ipage/poem124478.html
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
Create Date : 25 มีนาคม 2552 |
Last Update : 18 มกราคม 2555 21:15:33 น. |
|
11 comments
|
Counter : 1542 Pageviews. |
|
|
|
"นามสกุลนี้ หนูเป็นอะไร กับคนนั้น ? "
ข้าพเจ้าก็จะตอบตาแป๋ว กับเขาเสมอ ด้วยปราถนาจะ
บอกว่า ท่านผู้นั้น เป็น พี่ชายคนโตของบิดาข้าพเจ้า
แต่ พอ นาน เข้า ชีวิต ข้าพเจ้า ไปไหน ก็มีหน้าที่ต้องตอบคำถามนี้ จนรำคาญใจ ยิ่งโต ข้าพเจ้าก็รู้สึก
ต้องมีหน้าที่ตอบคำถามดังนี้ มากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะย่างเท้าไปที่ไหน ทำอะไร ตำแหน่ง
แห่งที่ของใครคนนั้น สีนั้น ของเขา เหมือนเป็นหัวโขน
ที่ปะไว้บนหัวข้าพเจ้า อย่างดิ้นไม่หลุด
ข้าพเจ้าจำได้
ว่าความอึดอัดนั้น ทำให้ ถึงแก่ไปหาพระอาจารย์
ที่วัดชนะสงคราม เมื่ออายุสักสิบเจ็ดได้
สิ่งที่ข้าพเจ้าขอท่านคือ
" อาจารย์ช่วยดูเปลี่ยนนามสกุลให้หนูใหม่ทีสิคะ "
แล้วข้าพเจ้าก็ คิดตั้งนามสกุลใหม่ อลังการงานสร้าง
ด้วยความพิโรธ ที่ต้องทนใช้นามสกุล คนดังในสังคม คน
มี " สี " คนนั้น ไม่รู้แล้ว
แต่พระอาจารย์ ส. ณ วัด ชนะสงคราม ก็ หว่านล้อม
ข้าพเจ้า ด้วยการปฏิเสธ มองหน้าข้าพเจ้าอย่างงุนงง ราว
กับว่า ได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในโลก
" คุณ โยม มีนามสกุลพ่อแม่ใช้ จะไปเปลี่ยนทำไม
ไม่เป็นมงคลแก่ตนเองดอก "
ในวันนั้น ข้าพเจ้า บอกตรง ๆ ว่า
ไม่อยากได้ชื่อว่า เป็น " หลาน... " นายคนนั้นเลย
ข้าพเจ้ามัน พวกปัจเจกนิยม รักสันโดษ ไม่ชอบ
คนวุ่นวายกับชีวิต ไม่ชอบให้ใครมาสั่ง ซ้ายหัน ขวาหัน
และ จะทำตามสิ่งที่ข้าพเจ้าจะทำ ตามปรัชญาปัจเจกชน
ของข้าพเจ้า
แต่อย่างไร ข้าพเจ้าก็ยังเปลี่ยนนามสกุลไม่ได้
และยังต้องไปที่ไหน มีตราประทับอยู่บนหน้าทุกที่ว่า
"หลาน..."
ทั้งชาติ