ข่าวด่วน บทกวี เรื่องจากใจ tiki_ทิกิ ที่นี่ค่ะ บันทึก ummm My Novel too.(In Thai).
 
จับไม่ติด...จดไม่ทัน...ลำดับ ๑๕

จับไม่ติด จดไม่ทัน
บันทึกวันนี้ แวะเวียนมาหน้าจอ
ด้วยเสมือนห่างหายเว็บไปนานแสนนาน

........ที่ต้องขออภัยทุกท่านผู้อ่านที่ได้ร่วมบริจาค
พิมพ์หนังสือ ครบรอบอายุ ๑๐๐ ปี ครูบาดวงดี
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
ซึ่งแต่ละท่านยังมิได้รับหนังสือแต่ประการใด
ก็ขอให้เย็นใจ ด้วยเพราะ ผู้เขียนเกิดความ
เนือยหนืดในระยะนี้ ด้วยหลายสาเหตุดังจะกล่าว
ต่อไปดังนี้
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4447605/W4447605.html

1 ......ในเช้าวันหนึ่งหลายเดือนมาแล้ว
มื่อข้าพเจ้ามีอันจะต้องจับรถป้ายแดงของคุณหนู
ลูกสาวซึ่งเธอบอกให้แม่ช่วยขับไปส่งเธอที่ทำงาน
ในเช้าวันหยุดนั้น ซึ่งเธอจะไปขึ้นรถโค้ชไป
ต่างจังหวัดนิดหน่อย
......แคร้ด....
เสียงอันเกิดจากการเลี้ยวตีวง ทำให้ช่วงล่างด้านซ้าย
ของรถคันดังกล่าวเสียดสีกับแง่งมุมซีเมนต์ข้างตึก

........ผล....แม่ลงไปเลย หนูจะขับไปจอดที่ทำงาน
ไว้เอง...

.....แม่เดินเซื่องๆลงมา ด้วยรู้สึกผิดเต็มประตู
อพิโธ่ ใครจะอยากทำรถป้ายแดงคุณหนูเป็นรอย
ยุบซ้ายที่ขอบล่างใต้ประตูเช่นนั้นเล่า

แต่อีกสองสามสัปดาห์ต่อมา ก็ต้องนั่งรถคันนั้นไป
พัทยา เพื่อร่วมงานแต่งงานของหลานชาย ดังได้
พร่ำพรรณนาไปแล้ว
แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 49 20:14:58
: tiki_ทิกิ - [ 11 มิ.ย. 49 19:37:31 ]

2 ......ในระหว่าง หลายเดือนที่ผ่านมา
ข้าพเจ้าก็ยังคง ควบคุณหญิงคันเก่าแก่ดั้งเดิม
ผ่านสามสี่จังหวัด อยู่เป็นประจำ เช่น นนทบุรี กรุงเทพฯ
ธนบุรี สมุทรปราการ อะไรแถบนั้น...
............หลายครั้งหลายคราก็จับตัวเองไปนั่งขลุกอยู่
ที่โรงพิมพ์ ทำราวกับเป็นเสมียนตราประจำโรงพิมพ์
ไปเสียแล้ว (คนมันว่างเยอะ)

: tiki_ทิกิ - [ 11 มิ.ย. 49 19:42:22 ]

3
.....ผ่านเวลาไปกับการทำหนังสือ อย่างขะมักเขมัน
บางช่วงก็ ตื่นกลางดึกที่คอนโดชั้น ๑๒ กลางกรุง ด้วย
ความคุ้นชินว่าเป็น " บ้าน" เสียยิ่งกว่า ที่จะรู้สึก
เวลากลับบ้าน สวนนนทบุรี....
........ในรถที่ใช้คนเดียว ขับคนเดียว และ ขนคนเดียว
อันเต็มไปด้วยสัพเพเหระรุงรัง
.......เอกสารทุกชนืด หนังสือ สรรพตำราวิชาการ
ตลอดจน สิ่งที่พิมพ์สำเร็จออกมา และที่ยังไม่ได้พิมพ์
สำเร็จออกมา เป็นขบวนการตรวจพิสูจน์อักษรอยู่
ก็กองพะเนินเทินทึก
แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 49 20:13:37
: tiki_ทิกิ - [ 11 มิ.ย. 49 19:45:36 ]


4 ....ในบางช่วง น้ำก็ลอดท้ายรถเข้าไป ทำต้นฉบับ
เปียกปอนเป็นด่างดวง

........ในบางช่วง ที่จอดรถหน้าบ้านสวนนนท์ และ ฝน
เทโครมจักๆ อยู่ยังไม่หาย น้ำท่วมพอสันฐานประมาณ
ให้ต้องสวมบู๊ทเดินเข้าบ้าน ก็บ่อยครั้ง...

..........จิตวิญญาณ ของข้าพเจ้าอยู่หนใด ข้าพเจ้าก็หารู้ไม่
: tiki_ทิกิ - [ 11 มิ.ย. 49 19:46:55 ]


5 หลายครั้งที่ไปร่วมงานโน่นนี่ที่เขาเชิญมา แต่ราวกับ
จิตวิญญาณของข้าพเจ้ามิได้อยู่บนโลกมนุษย์สักเท่าใด
มันโบยบินหายไป ระหว่างบันทัดแห่งบทความว่าด้วย
การปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานเหล่านั้น ซึ่งสร้างโทสะ
ให้แก่ข้าพเจ้าเสียยิ่งกว่าวิถีชีวิตปกติของคน

................ข้าพเจ้าจึงรำพึงถามตนเองเสมอว่า
การทำงานหนังสือศาสนานี้ เขาทำกันให้ได้บุญหรือ ให้ได้
บาป กันแน่หนอ...?

.............หาก ข้าพเจ้า ซึ่งมีนิสัย ทำอะไรต้องสำเร็จ
หากไม่สำเร็จ ก็ไม่ทำ...อย่างไรก็ต้องผลักดันให้มันสำเร็จ
ไปสักอย่างจนได้สิน่า
: tiki_ทิกิ - [ 11 มิ.ย. 49 19:50:11

6 ..............ในระหว่างการตรวจพิสูจน์อักษร อันเป็นคดีให้
โมโหโกรธากันบ่อยๆ ในหนังสือวัดแถบปลายบางนนทบุรี
ข้าพเจ้า ก็พลิกผันตัวเอง ไปจัดหน้าหนังสือให้หลวงปู่ดวงดี
เสียอีกครั้ง ทั้งนี้ พร้อมที่จะทำให้ทันงานฉลองสิริราชสมบัติ ๖๐ ปี
ของในหลวงเป็นหลัก...และก็แอบหวังจะให้เสร็จเร็วพอจะ
ไว้แจกวันงานวันเกิดคุณยายของตนเองด้วย

..........แต่แล้ว เมื่อใกล้งานวันเกิดครบ ๙๙ ปี คุณยายของ
ข้าพเจ้าเอง หนังสือก็เสร็จไม่ทันจนได้ ต้องวิ่งแน่บไป
ไกรจิตติ อาร์ต แกลเลอรี่ ถนนข้าวสาร เพื่อขอหนังสือ
วัดบรมวงศ์ ซึ่งคุณหลานฐาพิมพ์ บทโคลงเฉลิมพระเกียรติ
เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์ไว้.ได้มา ๔๐ เล่ม.และ ได้
หนังสือที่ระลึก หลวงพ่อแฉ่งวัดบางพัง ปากเกร็ดอีก ๒๕ เล่ม.
มาอุ่นๆในรถ อยู่นับแต่วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๔๙ เป็นต้นมา
...........ได้ ทันนำแจกในงานวันที่ ๑๔ พฤษภา อย่างปัจจุบัน
ทันด่วน เหมือนกัน
: tiki_ทิกิ - [ 11 มิ.ย. 49 19:52:50 ]


7 .......เห็นข้าพเจ้าวิ่งไปวิ่งมา ตนเองจะเลิ่กลั่กดังว่าก็หาไม่
ยังคง ขรึม สุขุม คัมภีรภาพ ในการขับรถไป มา จับแพะ ชน
แกะ อยู่ดังเดิม
.........ดังที่ข้าพเจ้ากล่าวว่าไว้ ว่า
มีอาการ
ฝันประหลาดหนักหนาในคราหนึ่ง
ถึงรำพึงไว้ในเว็บ ..เก็บแปลกสิ่ง
เห็นที่รักขับโพล์คตู้ขาวเสียจริง
แล้วว่าวิ่ง ส่งหนังสือ ถือเป็นกอง

และในฝันฉันก็ออกอาการหนัก
ด้วยอุ้มแบกแม่ที่รักคุณเจ้าของ
"แม่สามี" ซึ่งป่วย..ไร้ใครประคอง
ไยถึงต้องเป็นตัวข้าฯ น่าอัศจรรย์

...ไต่บันไดขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง
มองตะลึงคล้ายจะไต่ขึ้นสวรรค์
แต่ลนลานปานประหนึ่งเกินจำนรรจ์
โผล่ทีชั้นนั้นกลับหมายกลายพื้นดิน

.....ครั้งมองไปทางซ้ายจะย้ายโยก
กลับมีพระนั่งโบกเรียกเข้าถิ่น
มิต้องไต่ขึ้กุฏิท่านยลยิน
เรียกเข้าสิ้น เจริญชัย ให้น้ำมนต์

...หนังสือ" หลวงปู่ดวงดี"ถือให้เห็น
มอบล่วงหน้าตรงประเด็นเป็นสับสน
.................. : tiki_ทิกิ - [ 11 มิ.ย. 49 19:54:53 ]


8 .................
แต่อีกวันต่อมาคราเลี้ยววน
ขับรถตน ประกันสังคม ก็เจอดี

....จะเข้าจอดถึงที่มีอันคราก
มิอาจลากวิ่งต่อหนอคุณพี่
สายคลัชท์หลุดขาดกระเด็นเห็นทันที
น้อมรำลึกฝันทั้งนี้มีที่มา

....เหมือนหลวงปู่ท่านดูอยู่เสมอ
ที่พบเจออุบัติการณ์งานผวา
เช้าวันนั้นไปรับเงินค่าหวยนา
สองพันค่าเฉียดพอดีที่รถพัง...
: tiki_ทิกิ - [ 11 มิ.ย. 49 19:56:53




%%%%%%%%%%%%%%%%%



%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%





Create Date : 11 มิถุนายน 2549
Last Update : 1 กรกฎาคม 2553 8:29:38 น. 28 comments
Counter : 955 Pageviews.  
 
 
 
 
เข้าไปค้นงานที่เว็บพันทิป ได้เรื่องเก่ามาดังนี้
//topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2007/03/W5259061/W5259061.html

ขึ้นแท่น
กว่าจะขึ้นแท่น (พิมพ์) ได้

ต้องผ่านอะไรมากมาย
แต่แล้ว...........หนังสือครูบาดวงดี ครบ ๑๐๑ ปี
ย่าง ๑๐๒ ปีก็เคลื่อนจากจอคอมพ์ สู่แท่นพิมพ์
เพื่อเตรียมเข้ารูปเล่มสิ้นเดือนนี้ สู่วัดท่าจำปี
ต่อไป

.........แล้วก็มาถึงอีกเล่ม
จ่อคิวหมาดๆ รอส่งรอบวันศุกร์ แต่ไม่ผ่าน...เพราะ
การแก้ไขหน้าทำไปไม่ตรงกัน
ในขณะที่ข้าพเจ้าส่งเมล์ ให้แก้ไขเพิ่มหน้าเพิ่มข้อมูล
เป็นการนำพระคาถาสารพัดชนิดลงให้ไป

เจ้าหน้าที่โรงพิมพ์ยังคงแก้ไขงาน
ก่อนวันศุกร์เสาร์ก่อนอยู่...
เมื่อไปถึงโรงพิมพ์ จึงเห็นว่า งานที่ส่งมา
ไม่มีการเปิดไฟล์ดู..เลย

ก็ไม่เป็นไร..
ข้าพเจ้าใจเย็นพอ
ใช้เวลาสองวันเต็ม ทั้ง พฤหัส ศุกร์ ที่ผ่านไป
ประกบตัวต่อตัวกับน้องหน้า คอมพิวเตอร์กร๊าฟฟิค
นั่งไล่กันทีละหน้า อย่างอดทน

และ ต้องอดกลั้นมากๆ...กับข้อมูล
แล้วเล่า
การแก้ไข โยกย้ายหน้า จากด้านหน้าไปด้าน
หลังทั้งหมด แล้วก็สลับกันอย่างสิ้นเชิง
ผลก็ออกมาเป็นต้นฉบับล่าสุดอย่างที่เห็น
: tiki_ทิกิ - [ 26 มี.ค. 50 00:38:17 ]




~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:3:52:51 น.  

 
 
 
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ความคิดเห็นที่ 1

คืนวันศุกร์ที่ผ่านไป...ย้ายตัวเองไปสิงสู่ ณ
คอนโดกลางเมือง...แก้ไขเรื่องต้นฉบับพิมพ์ หน้าคอมพ์
ทั้งคืน จนเช้า...
มีเสียงโทรศัพท์สั่งงานจากพระอาจารย์ในช่วงสาย
และเมื่อแก้ไขให้ท่านจนเสร็จสิ้น ...ก็ตัวข้าพเจ้าเอง
นั้นแหละ ที่กราบเรียน พระครูฯ ท่านว่า
เห็นทีจะไม่นำข้อเขียนที่นั่งพิมพ์ให้ท่านนั้น
ไปลงในหนังสือเล่มนี้แน่ เพราะไม่อยากมีปัญหาเรื่อง
ลิขสิทธิ์อะไรในตอนนี้
ด้วยเพราะงานที่ท่านให้พิมพ์ให้นั้น เขาเขียนไว้โต้งๆว่า
ห้ามนำบทเขียนเขาแม้สักส่วนไปลงพิมพ์ ยกเว้นได้
รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์ อักษร

ก็รู้ดีวา เล่มนี้ พระฯท่านต้องการแจกฟรี
แต่งานที่ผ่านเราไป ก็ต้องสงวนลิขสิทธิ์ให้เจ้าของ
ผลงานที่มาอยู่ดี

ข้าพเจ้านำตัวเองไปถึงโรงพิมพ์ยามบ่าย
พยายามลืมตาไว้เสมอ จนเย็นค่ำ
งานแก้ไข ทั้งภาพ และ ข้อความเป็นงานละเอียดอ่อน เพราะจิตใจคนแก้ที่ตั้งใจทำให้เราอย่าง
"ถวายหัว" ให้ นั้น น่ายกย่อง

หากไม่ได้ลงไปคลุกคลีงานอย่าง ถึงพริก
ถึงขิงเช่นนี้ ข้าพเจ้าก็อาจจะแค่ "สั่ง" แล้ว "รอรับด่วน"
อย่างสมัยก่อน

วันนี้ งานที่เขาเร่งแก้ให้เต็มที่นี้
ต้องใช้กำลังใจมากมาย จึงจะสำเร็จได้ พร้อม
รอยยิ้ม.........แม้ว่า งานพิมพ์อาจจะล่าช้าออกไป 3-4 วัน
ก็เป็นได้

: tiki_ทิกิ - [ 26 มี.ค. 50 00:46:48 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:3:53:32 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 2

งานหนังสือเป็นเรื่องละเอียดกระจุกกระจิก
และ ต้องใข้ สติ บวกด้วยความอดทน ใจเย็น อารมณ์
ต้องดีอีกต่างหาก

ยิ่งงานหนังสือถวายพระภิกษุสงฆ์ดังที่ทำอยู่
ข้าพเจ้าต้องเป็นตัวกลางของทุกฝ่าย...เย็นวันศุกร์
ก็ต้องไปโผล่หน้าที่วัด ไปถ่ายรูปต่างๆใต้กุฏิท่าน ดึก
กว่านั้น ก็เร่งจี่ไปโผล่ที่ศูนย์การค้าสุดท้ายกลางใจเมือง
เพราะ คีย์แผดที่ใช้ที่นั่น ไม่สามารถ พิมพ์ นิคหิต อํ ได้
ทำให้ ข้าพเจ้าต้องพิมพ์ เป็น อัง แล้ว เด็กที่โรงพิมพ์
ต้องแก้ เป็น อํ ให้อีก เสียเวลามาก

เมื่อต้องแก้ปัญหาไปทีละจุด แต่ก็สำเร็จไปส่วน
หนึ่ง วันนี้ ทั้งวัน ข้าพเจ้าก็นั่งตรวจต้นฉบับอย่างละเอียด
แล้วก็มาที่เครื่องคอมพ์ตอนเย็น เพื่อจะไล่พิมพ์ หน้า,บันทัด, ข้อความที่แก้ ไปที่ละช่วง เพื่อที่เช้าวันรุ่งขึ้น จะต้อง
ส่งเมล์อีกครั้ง หากเขาจะเปิดอ่าน หรือ อาจต้องส่งโทรสารตามไปอีกด้วยเช่นกัน

.............ถามว่าทำไปได้อะไร
ทุกอย่างที่ผ่านมา ทุกเล่มที่ผ่านไป ข้าพเจ้าได้ "ความรู้ใน
ภาคปฏิบัติ" ขึ้นมาที่ละส่วน...ข้าพเจ้าไม่ใช่เด็กรุ่นใหม่ที่
ความรู้ Desktop Publishing แค่ระดับต้นๆ หลายสิบปีก่อน
เด็กเดี๋ยวนี้เขาจำแม่น ใช้ไฟล์ โปรแกรมใหม่ล่าสุดกัน
อย่างที่เราตามไม่ทัน...แค่คุยกับเขารู้เรื่อง ก็บุญหนักหนา
แล้ว....เช่นเดียวกับการเป็น ดีเจ คนรุ่นใหม่ เขาต้อง ใช้
คีย์ทุกอย่างหน้าเครื่องห้องส่งเป็นหมด รุ่นเราเข้าไปต้อง
เอ๋อ ออกอากาศผิดถูกเป็นแน่ ...เหมือนกัน

คนรุ่นเก่า ต้อง นั่งดู ดูเด็กรุ่นใหม่ เป็นครู

ก็ต้องขอบคุณที่ชีวิตยังมีพอให้เห็นความก้าวหน้า
ในเรื่องการพิมพ์ที่ก้าวไปเรื่อยอย่างไม่หยุดยั้ง อยุ่ที่คุณ
และ ข้าพเจ้าจะนำอะไรไปพิมพ์...

: tiki_ทิกิ - [ 26 มี.ค. 50 00:58:50 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:3:54:02 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 3
ยังมีเรื่องสนุก ตลก ระหว่างการทำงานที่น่าเล่าให้ฟัง แต่คืนนี้ หลังจาก จัด "สารบัญหน้า" เสร็จสรรพ กับ
การแก้ไขหน้า ยาวเหยียดกว่า 4 หน้า เอสี่ ข้าพเจ้าก็หมด
แรงจะเล่าเรื่องสนุก ตลก ดังว่า ก็ขอแค่ฝาก ใจไว้ว่า พรุ่งนี้ งานนี้ น่าจะได้ขึ้นแท่นจริงเสียที
: tiki_ทิกิ - [ 26 มี.ค. 50 01:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5
.......เช้านี้
ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาอย่างสับสนเสียจริง เพราะจับตัวเองไม่ถูก
ว่ากำลังนอนอยู่บ้านไหน ที่ไหนกันแน่

..........ไปโน่น มานี่ งานทั้งนั้น และที่แน่ๆ วันทีอยู่ที่คอนโด
จนเช้านั้น ข้าพเจ้านั่งอยู่หน้าจอคอมพ็ จนถึงเกือบเที่ยงที่
แต่งตัวออกจากบ้าน.....ไปโรงพิมพ์...เมื่อคืน ข้าพเจ้าก็
หลงอยู่เหมือนกันว่า นอนที่ไหนกันแน่...

เอาเป็นว่า พอเกือบเก้าโมงเช้า ก็เช็คว่าทางโรงพิมพ์
ได้รับเมล์ข้าพเจ้าหรือเปล่า ไล่จี้ให้เขาเปิดเมล์
จากนั้น เกือบหนึ่งชั่วโมง ที่ทำงานกันทางโทรศัพท์
ก็คาดว่า ...เขาคงทำงานได้เหมือนกับที่เรานั่งแก้กัน
50:49 นาที จากมือถือข้าพเจ้าที่สั่งงานไป....

บ่ายนี้ หลังจากเช็คอีกเล่มว่า เรียบร้อยหรือยัง
ข้าพเจ้าก็โทรศัพท์ไปนัดแนะ พวกน้องๆ ห้องพันทิปที่ เคย
ไปกินหมูกระทะด้วยกัน ว่า วันที่ ๕ เมษายน นะ ให้ไป
ห้องหอฉัน โรงพยาบาลสงฆ์ มั่นใจว่า เราจะมีหนังสือไป
บริจาค น่าจะใช้คำว่า ถวายพระภิกษุอาพาธ และ จะมี
หนังสือไปตั้งบริจาค หน้าเคาน์เตอร์รับบริจาคที่นั่นด้วย

ระหว่างนั้น ข้าพเจ้าเก็บกระดาษที่เขา print มา
จากเครื่องให้ตรวจเป็นต้นฉบับ นำมาเข้าเล่มด้วยกาวลา
เท็กข์........แปะหน้าหลังเป็น ข้อมูล ก่อนทำงานพิมพ์
อีกเล่ม อีกครั้ง

........................ถามตัวเองว่า กำลังทำอะไร และ
ทำไปทำไม........?

มีคำตอบให้ตัวเองตอนกำลังเดินไปมาระหว่างบ้าน
กับประตูรั้วบ้านที่เราอาศัยเขาอยู่.....ว่า

" โชคดีที่ได้เกิดมาเป็นคน อวัยวะยังครบได้ทำบุญ
ได้ทำความดี ในระหว่างที่ยังมีสติสัมปชัญญะ แข้งขายัง
เดินได้ ไม่เป็นอัมพาตลุกไปทำบุญไม่ได้ และ ไม่ได้
แก่จนเป็นอัลไซเมอร์ไป จนไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไร และ ดี
ที่ไม่ได้เกิดเป็นสัตว์ (พวกนั้น)...มิฉะนั้น บุญ เป็นอย่างไร
คงไม่รู้จัก"

แล้วเลยรู้สึกดีกับสิ่งที่ตัวเองทำ..

: tiki_ทิกิ - [ 26 มี.ค. 50 20:34:43 ]


 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:3:54:34 น.  

 
 
 
และ ก็ ขอต่อไว้ว่า เล่มต่อไปจะเป็นอะไร

จากที่นี่
ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง
เพิ่งได้มีเวลากลับมา ณ เรือนนนท์
ที่ซึ่งคอมพ์ใช้ได้ไม่ติดขัด จะเขียนจะทำอะไรก็สะดวกหน่อย

ที่ผ่านมา นำหนังสือพิมพ์ ๒ ฉบับ พร้อมกัน
ไป ณ โรงพยาบาลสงฆ์ (ที่ตีได้ประมาณ ๓๐๐ เล่ม
ส่งให้ หอสมุดแห่งชาติไป ๑๙ เล่ม
ไป ยังลูกค้าผู้ร่วมบริจาค ณ พัทยา งานทำบุญนั้น 52เล่ม

แจกจ่ายไปยังผู้ร่วมบริจาคไปได้พอสมควร ติดงานเล่มใหม่ที่ อาจารย์ ส ท่านสั่งพิมพ์ด่วน
เมื่อ วันที่ ๑๙ เมษายน จะให้เสร็จลงแท่นอีกวันที่ ๒๖ ที่จะถึงนี้
ในขณะเดียวกัน ได้สั่งทางโรงพิมพ์ให้พิมพ์เพิ่ม อีก ๑๒๐๐ เล่มสำหรับ
หนังสือ พระบรมสารีริกธาตุ- ชีวิตพอเพียง เพราะไม่พองานบุญ ไม่พอแจก
ก็เลย เตรียมงานเพื่อจะนำไปแจกต่ออีกดังนี้

ศุกร์ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๐ นี้ จะนำไปถวายวัดพระมหาธาตุ จังหวัด เพขรบุรี
เนื่องจากน้องชายและ น้องสะไภ้ ที่เคยร่วมบุญพิมพ์ ทุกเล่มมาตลอด กำลังจะนำ
พระพุทธรูปไปถวายที่วัด แล้วจะเดินทางไปหัวหินในวันเดียวกัน ก็เลย จะนำไป มอบให้
ท่านเจ้าอาวาส ๑๐๐ เล่ม
ก็ขอได้รับทราบกันโดยทั่วหน้า

สำหรับ เล่มอื่นนั้น กำลังเรียบเรียงการพิมพ์ใหม่
เพราะ การเขียนงานที่เน้นเรื่อง พุทธศาสนามากไปสักนิด
อาจทำให้สมาชิกท่านอื่นที่นับถือศาสนาอื่นรู้สึกไม่สะดวก
ที่จะรับ หรือ จะร่วมลง ก็เลย ตัดสินใจว่า
จะพิมพ์หนังสือเล่มใหม่ขึ้นมาอีกเล่ม และ ถ้าเป็นเรื่อง
ทางพุทธศาสนามากหน่อย ก็จะตัดงานเขียนท่านอื่น
ที่ไม่สะดวกเพราะนอกศาสนา ออกไป อย่าว่ากันนะคะ
การจะพิมพ์หนังสือสักครั้ง
ผู้เขียนเขียนเรื่องรักใคร่สมัยวัยรุ่น วัยเจริญพันธุ์มา
มากแล้ว ปัจจุบันนี้ ผู้เขียนมีอายุตัวเลขหลักสิบหลายหลัก
อยู่ จะประพฤติตนตามใจตัวในเรื่องเขียนต่อไปเห็นทีเด็ก
รุ่นหลังจะสงสัยว่า คนเขียนลืมวัยตนเอง
ดังนั้น
ในหนังสือเล่มต่อไปที่กำลัง ทำต้นฉบับ และ คิดเขียนอยู่
จึงเป็นไปเพื่อความสุขสงบใจของตนเองเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ มี โจทย์ ต้องแก้ หลายจุดเช่น
การเขียนเพื่อแจก ...งบคงไม่มีแล้ว
การเขียนเพื่อขาย...ต้องพิมพ์อย่างน้อย ๓๐๐๐ เล่มขึ้นไป
การเขียนเพื่อขาย ต้องใช้สีดี จำนวนหน้าก็มากสักหน่อย
กระดาษที่ใช้ ก็ต้องดีให้สมกับเงินที่ลูกค้าจะซื้อ และ ราคาที่จะตั้งตามใจไม่ได้
เพราะครึ่งหนึ่งของราคา หน้าปก จะต้องเป็นการจัดจำหน่ายของฝ่ายจัดจำหน่าย

ดังนั้น เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว
จำต้องขอเวลา หนังสือที่ตนเองจะพิมพ์ไปอีกระยะ
เงินมิได้หาง่าย
ที่ผ่านมา จุดประสงค์ในการพิมพ์เพื่อแจก ระบบหนังสือสีเดียวทั้งเล่ม ได้บรรลุ วัตถุประสงค์ไป
จนเกินพอดีพอเพียงไปเสียแล้ว เนื่องจากมีการ" พระขอมา" จะมีเล่มโน้น เล่มนี้ สีอย่างนั้น ชื่ออย่างนี้ ฯลฯ
ทำให้ จำเป็นต้องบอกท่านไปว่า ขอให้เป็นการพิมพ์ให้ครั้งสุดท้าย และ เล่มนี้ ท่านกรุณา จ่ายเงินเองด้วย
ก็คงต้องจบการบริจาคไว้ตามที่ตั้งเป้าไว้เพียงเท่านั้น

เล่มต่อไป ก็จะเป็นเรื่องที่ตนเองจะต้องพิมพ์
ต่อเนื่องจากที่เคยพิมพ์เมื่อปี ๒๕๔๗ มา แล้วหยุดลง
เพราะการเจ็บป่วยของสังขารปลายปี
ในปลายปี ๒๕๔๘ ได้ ปวารณาพิมพ์หนังสือแจก
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ มาทั้งปี จนถึงต้นปีนี้แล้ว และ ยังมี
หนังสืออีก สองวัด อย่างน้อย ที่จะต้องพิมพ์แจกในรายการเรียงคอยอยู่
ดัที่กำลังทำอยู่ จึงต้องของดเพราะเป็นเรื่อง
นอกเหนือรายการสิ่งที่จะทำ และ เป็นการทำความลำบาก
ให้แก่ตนเองจนเกินไป เกรงจะได้บาป ไม่ได้บุญเสียมากกว่า
ดังนั้น ในช่วงนี้ จึงเป็นการตระเตรียมต้นฉบับ เพื่อ
พิมพ์อยู่สองส่วนคือ

๑ ส่วนที่ตนเองจะพิมพ์ต่อเนื่องจากปี ๒๕๔๗ เพื่อเผยแพร่ข้อธรรมและ วรรณกรรม
ร้อยกรองผสานร้อยแก้วที่ตนตั้งใจไว้เพื่อจำหน่าย
( ยังแจกทีเดียวไม่ได้เพราะไม่ใช่ มูลนิธิ และ ไม่ใช่ลูกเศรษฐี )

๒ ส่วนที่จะต้องพิมพ์บริจาค อีกสองวัด เหนือ ๑ วัด เป็นเรื่องพระประวัติพระมหาราชพระองค์หนึ่ง
ควบคู่ไปกับการบอกบุญเพื่อวัดท่านจะซื้อที่สร้างวัดถวายพระมหาราชองค์นั้น ซึ่งก็กำลังดูรูปแบบ
งบประมาณที่ทางวัดจะมีมาให้ตลอดจนดูผู้อุปถัมภ์การพิมพ์ให้วัดต้อไป(มิได้รีบร้อน)

๒.๑ และ ทางใต้ ๑ วัด กำลังรอคิวผู้อุปถัมภ์บริจาค หนังสือวิปัสสนากัมมัฏฐาน หนึ่งเล่มอยู่

การที่ตั้งใจจะทำงานไว้ ก็มีความ เด็ดขาด ที่จะ
มิให้งานเล็กงานน้อยที่มีปัญหามาสร้างปัญหาให้ระบบคอย
คิวงานที่จัดอยู่ จึงกราบเรียนทุกท่านไว้ ณ ที่นี้
หาก ท่านใด ที่ร่วมบริจาคมา ยังไม่ได้รับหนังสือ
ก็ขอให้รออีกสักนิด เพราะ ต้องดูเรื่องใหญ่ เฉพาะตรงหน้า
ให้เสร็จสิ้นไปก่อน

ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ
: tiki_ทิกิ - [ 24 เม.ย. 50 11:30:39 ]


 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:3:55:28 น.  

 
 
 
เดินสาย 2...วัดพระธาตุ เพชรบุรี
๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๐ ๙:๓๐ นาฬิกา
ได้เวลาที่ ขบวนเดินทางด้วยรถตู้จากนนทบุรี ถึงวัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี ลงจากรถก็ขอถ่ายป้ายไว้ก่อนให้ได้เห็นกันทั่ว

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 21:05:41 ]


 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:3:55:58 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 1

มองขึ้นไปบนฟ้า ก็เห็น เจดีย์พระมหาธาตุ
เห็นร่องรอยการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระเจดีย์พระธาตุ

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 21:09:47 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:3:56:25 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 2

มองไปทางขวา เห็นวงนาฏศืลป์กำลังรำกันอย่างสวยงาม
เห็นทีจะแก้บนอย่างใดอย่างหนึ่ง

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 21:12:13 ]


 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:3:56:52 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 3

มองไปทางหน้าโบสถ์ ตรงกลางก็เห็นมีพระพุทธรูปยืนอยู่ด้านหน้าโบสถ์ จดไม่ทันว่าพระอะไร ต้องรีบเดินไปอีกนิด

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 21:16:26 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:3:57:23 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 4

มองดูป้ายประกาศทำพิธีดวงตราพระโพธิสัตว์เทวราชฯ
จตุคาม รามเทพ ๙๙๙๙ องค์ที่ให้จอง ถือเป็นแหล่งที่มา
ของเงินทุน เพื่อปฏิสังขรณ์บูรณะพระเจดีย์โบสถ์วิหารองค์
พระชำรุด ฯลฯ
ที่จะเห็นต่อไป

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 21:20:24 ]


 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:02:41 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 5

เดินตามคณะทำบุญเข้าไป ระหว่างทางจะเห็นองค์พระงาม
ที่ตั้งอยู่ข้างทางเดินในระเบียง

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 21:27:26 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:05:35 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 6

องค์พระที่บูรณะแล้ว องค์ขวา ส่วนองค์ซ้ายในเงารางๆนั้น
อันเป็นมรดกชาติ ศาสนา พุทธชาวไทย ยังรอการบูรณะอยู่

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 21:30:32 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:06:32 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 7

พระสงฆ์ ๙ รูป ท่านนังรออยู่ ณ ระเบียง รอบพระมหาธาตุ
มีชุดเครื่องถวายวางอยู่ด้านหน้า ของญาติโยมทางเพชรบุรี จัดไว้ให้

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 21:34:24 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:09:22 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 8

ถัดขึ้นมา คือหนังสือชีวิตพอเพียง เล่ม พระบรมสารีริกธาตุ
วัดโพธิ์พฤกษาราม บ้านเจียด เขมราฐอุบล ( สั่งพิมพ์เพิ่มเติม อีก 1200 เล่ม) นำมาร่วมถวายในงานนี้ 100 เล่ม

และ หนังสือ ชีวิตพอเพียงเล่ม สมโภชน์ ๓๐ ปี เสนาสนะสงฆ์ วัดโพธิ์พฤกษาราม บ้านเจียด เขมราฐ อุบล สั่งพิมพ์ ๑๒๐๐ เล่ม โดย ท่านอาจารย์ ส. วัดชนะสงครามสั่งพิมพ์ ๘๐๐ เล่ม ) (และสั่งในส่วนของผู้เขียนอีก ๔๐๐ เล่ม)

ได้นำมาเพื่อถวายพระภิกษุ อีก ๑๐๐ เล่ม จึงรวม เป็น
๒๐๐ เล่มในวันนี้ด้วย

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 21:42:10 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:10:47 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 9

และที่ด้านข้างขวาของพระสงฆ์ อยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าที่นั่ง
คอยเก็บภาพงานนี้อยู่ คือพระพุทธรูป ปูนปั้นฝีมือเก่าข่าง
ชาวเพชรบุรี ซึ่ง ได้รับการ บูรณะโดยกลุ่มชาวนนท์ที่มา
ในครั้งนี้ อันเป็น ชาวเมืองเพชรโดยกำเนิดหลายท่าน
สาเหตุ คือ น้องชายที่ถูกรถชนปีก่อน มีเจตนาจะ
สร้างพระพุทธรูปถวายในพระพุทธศาสนา ส่วนภรรยาเป็น
ชาวเมืองเพชรบุรี จึงได้ปรึกษาพี่ชายที่ยังอยู่เพชรบุรีกันว่า
พระพุทธรูปในวัดมหาธาตุวรวิหาร ซึ่ง อยู่ใกล้บ้านแค่ข้าม
ถนนกันมา นี้ ท่านได้ หักพัง ชำรุดทรุดโทรมเป็นส่วนใหญ่
สมควรที่จะได้มาบูรณะซ่อมแซมองค์ท่าน ก็เป็นเงินหลาย
หมื่นอยู่ น่าจะสักเกือบห้าหมื่นบาท น้องชายและ น้องสะไภ้
ผู้เขียนจึงได้ บอกบุญญาติโยมไป และ สำเร็จเสร็จสิ้น
เพียงในหนึ่งเดือน ก็มางานฉลองสมโภชถวายองค์พระที่
ซ่อมเสร็จแล้วในครั้งนี้

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 21:50:23 ]



 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:13:17 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 10

นี่คือผลพวงของการขับรถอย่างไม่เอาไหนของนักศึกษา
เอแบคท่านหนึ่ง ซึ่งเสยเอาน้องชายของผู้เขียนที่กำลัง
เดินข้ามถนนกระเด็นขึ้นมาคอฟาดกระจกเป็นอัมพาต
โดยบัดดล ถูกผ่าตัดด่วน อยู่สมิติเวชพระราม๙ หกเดือน
เข้าฟื้นฟูสมรรถภาพ ณ ศูนย์สิรินธร นนทบุรีกว่าสี่เดือนที่
ผ่านมา...และ นี่คือ เจ้าภาพสร้างพระพุทธรูปองค์นี้
ซึ่งต้องใข้ ไม้สองขากระโผลกกระเผลกมา โดยมีคนดูแล
ที่จ้างมาโดยเฉพาะตามประกบตัวไม่ห่างอยู่ด้านข้าง

โปรดสังเกตความสามารถของมือที่ยังยืดไม่ได้เต็ม
ที่เหมือนเดิม....แต่ กำลังใจมั่นคงที่จะต่อสู้ให้เหมือนเดิม
ให้ได้ภายในปีนี้

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 22:00:25 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:15:21 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 11

มองไปทางขวาของที่นั่งอยู่ คือ กลุ่มญาติทั้งหมดที่มาร่วม
งานบุญเฉพาะส่วนกันในวันนี้ จะเห็นหญิงชราสองท่านคือ
คุณแม่ของทั้งสองฝ่าย ที่ ท่านหนึ่งก็พูดอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง เหมือนเด็กเล็ก คือคุณแม่ของผู้เขียนและน้องชาย

และ อีกท่านหนึ่งความจำแม่นยำ แต่ก็เริ่มหลงบ้างบางครั้ง
คือ คุณแม่ของน้องสะไภ้ที่มาในวันนี้

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 22:11:09 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:16:53 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 12

ครั้นมองไปตรงหน้า ยังพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ก็เห็นชื่อที่
ฐานองค์พระ สกุลเดียวกับน้องสะไภ้ ก็ถามได้ความว่า
เป็นคุณปู่ แท้แท้ ท่านเป็นผู้สร้างพระองค์ใหญ่ที่ประทับนั่ง
หันหลังให้พระธาตุ องค์นั้น แต่สำหรับผู้เขียนก็เห็นภาพงาม
จึงเก็บมาไว้ในเครื่อง

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 22:17:57 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:24:59 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 13

พระพุทธรูปองค์ใหญ่ดังว่า ท่านประทับนั่งอยู่เป็นประธาน
ให้แก่พระพุทธรูปองค์เล็กที่หลานท่านไปซ่อมให้
ภาพเงาสะท้อนในกระจก คือพระพุทธรูปอีกฝั่งที่หัน
หน้าให้เจดีย์พระมหาธาตุ

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 22:22:52 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:25:18 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 14

เมื่อพิธีการถวายพระพุทธรูป หนังสือที่พิมพ์ และ สิ่งของ
อื่นๆ แก่พระภิกษุสงฆ์เสร็จสิ้นลง
คุณ มาร์ค เพื่อนของน้องชายก็บอกผู้เขียนว่า เดินไปเห็น
ช่างกำลัง ซ่อมพระอยู่ ทำงานอยู่คนเดียว เป็นผู้หญิง

........แปลกที่แต่ละวัด มักจะมี แค่คนสองคนมาซ่อมวัด
และ มักเป็นเพศหญิง....
ทำไมผู้ชายที่ร้องว่าใครต่อใครไม่ใช่พุทธแท้ จึงไม่
ค่อยมาซ่อมพระ ซ่อมโบสถ์ กุฎิ ศาลาให้วัด บ้างหนอ ?
เสมือนว่า คนทำไม่ค่อยพูด คนพูด ไม่ได้ ทำ ดังนี้หรือไม่

ผู้เขียนจึงมุ่งเดินไปดูคุณผู้หญิงซ่อมพระดังว่า

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 22:31:12 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:32:15 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 15

พระพุทธรูปเก่าเหล่านี้ล้วนชำรุด
บ้างแขนโหว่ จมูกกุด ท่านเห็นไหม ?
มาได้เห็น ยากเข็ญจับหัวใจ
หวังวันหน้าคงได้มาซ่อมแซม

tiki_ทิกิ

เดินผ่านไป บันทึกความ เสียหายของกาลเวลาที่มี
ต่อพระอิฐพระปูน
ทำให้นึกถึงคำสอนของอาจารย์ ส(ฆราวาส)ท่านหนึ่ง
ซึ่งเคยอบรมเสมอว่า ถ้าจะให้รูปพระพุทธเจ้า อยู่ถึงห้าพัน
ปี ก็ต้องเป็นพระทองสัมฤทธิ์ ที่อยู่ยงคงกระพันที่สุด พระ
อิฐ พระปูน ท่านย่อมเสื่อมสลาย รวมทั้งโบสถ์ศาลาต่างๆ
ก็ย่อม พุพังตามกาลเวลา เช่นกัน

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 22:37:45 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:32:48 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 16

นี่คือหญิงแกร่งคนหนึ่ง ที่กำลังทำการซ่อมแซมองค์พระอยู่
สอบถามได้ความว่า เป็นชาวศรีประจันต์ สุพรรณบุรี
แต่ได้มาอยู่เมืองเพชรบุรี กับญาติ เขาจึงให้มาทำงาน
ซอ่มพระ ดังที่เห็น

ผู้เขียนมองเห็น "คนที่อยู่เบื้องหลังความงามขององค์พระ
ที่บูรณะซ่อมแซมแล้ว " แล้ว รู้สึก อยากถาม
เหล่ากวี ที่ป่าวๆ กันว่า ตนเป็น พุทธแท้ ใครบ้างที่มา
ช่วย ซ่อม ช่วย แซม ช่วยอุปถัมภ์ ศาสนสถาน เพื่อ
ให้ องค์รัตนตรัยยังคงอยู่...
พวกเขาอยู่ไหนกัน

หรือว่า ตั้งหน้าตั้งหน้า Anti พระที่พยายามหาเงิน
มาอุปการะพุทธสถานให้ได้เช่นนี้อยู่
แล้ว ผู้หญิงคนหนึ่ง กำลัง ซ่อมองค์พระ ที่ใครก็
ถือนักถือหนาว่า ผู้หญิงไม่ควรแตะ แต่ประเทศนี้ เรามี
นักวาดเขียนหญิงที่ซ่อมสีในวัด เรามี อบาสิกาที่หาเงิน
เข้าวัดเป็นอันมาก เรามี ทวยเทพมหาเทวะที่เสด็จลงมา
โปรดญาติโยม เพื่อให้ทุกวัดมีเงินซ่อมศาสนสถาน สาธุ

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 22:46:14 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:35:22 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 17

ผู้เขียนสัมภาษณ์ไปมา ก็ถามว่า ใช้อะไรซ่อมองค์พระ
เธอก็บอกว่า เป็น epoxy สองชนิด คือ A และ B อย่างละ
เท่ากัน ผู้เขียนก็ขอ ลองใช้เกรียงขนาดจิ๋วป้ายส่วนผสม
ดังกล่าว อุดรูโหว่ใต้แขนองค์พระ จนเกือบเสร็จสิ้นไปรู
หนึ่งเลยขอแรงให้เธอช่วยกดมือถือถ่ายรูป"ป้า"ให้ที คุณผู้หญิง
ผู้นั้น ดีใจมากที่ได้ถ่ายรูปให้ ป้า และ อาลัยอาวรณ์มากที่ผู้เขียน
ผู้ได้ลงมาช่วยป้ายส่วนผสมซ่อมปูนจะต้องจากไป
เพราะเขาโทรฯเรียกกันแล้ว
แต่ไม่ใช่ดอก เสียงเรียกที่เข้ามากลายเป็นน้องสีน้ำฟ้า
แห่งพันทิปนั่นเอง น้องเลยได้บุญไปด้วยเลย สาธุ

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 22:54:42 ]



 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:37:59 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 18

ออกจากวัดมหาธาตุวรวิหาร เมืองเพชรบุรีแล้ว ก็ไปแวะ
บ้านพี่ชายอีกสองคนของตระกูลคุณน้องในเมือง
ไปแวะกินอาหารอร่อย ร้านแม่นุ้ย ตีนบันไดวัดเขาวัง
แล้วก็ตรงไปบ้านริมทะเลของน้องชาย ที่เขาเพิ่งได้
มาอีกครั้ง หลังจากที่ไปนอนโรงพยาบาลมาเกือบปี
และ แทบหมดหวังว่าจะได้มาที่นี่อีกครั้งแล้ว
แต่เดชะบุญ ความตั้งใจเรื่องการทำบุญทำทาน
ที่พี่ร่วมกับ น้อง และ ภรรยาเขาช่วยกันสร้างมาให้ตลอด
ไม่ว่าจะเป็นชวนน้องสะไภ้มาร่วมทำบุญโรงพยาบาลสงฆ์
ที่ผู้เขียนและ ลูกสาว จองทำไว้เป็นประจำ เดือนสองเดือนหน
ให้แก่เขามาเรื่อยๆ หรือ บุญทานอื่นๆที่มีโอกาส
แต่สำหรับ บุญใหญ่ที่น้องกระทำมาและช่วยพยุง
ชีวิตไว้ให้ถึงวันนี้ คือ อานิสงส์ที่ดูแลคุณแม่ผู้ชรามาอย่าง
ดี รวมทั้ง ว่าจ้างเด็กดูแลคูณแม่คนเดียวมาเสมอ และ คอย
ห่วงใยเรื่องอาหารกานกิน ความเป็นอยู่ของคุณแม่
มา นี้น่าจะเป็นอานิสงส์ของบุญนี้ที่ช่วยให้เขา หายได้
สามารถเป็นผู้เป็นคน หัดเดินใหม่ได้ นั่งได้ ลุกได้ แม้ต้อง
มีคนคอยประคอง คอยส่งไม้แขนให้ ก็ตาม

บุญมาอยู่ตรงหน้า และเราทุกคนก็ร่วมกันสร้าง
ด้วยกันทั้งนั้น อย่างที่ท่านจะได้บุญทั้งหมดร่วมกัน คือ
ร่วม อนุโมทนาบุญด้วยเท่านั้นเอง

: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 23:23:57 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:41:32 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 19

เรื่องของบุญเพชรบุรี ก็เสร็จสิ้นลง ยามบ่ายทุกคนพักผ่อน
ชายทะเลจริงๆ เป็นโลกส่วนตัวอันเงียบสงบ มีแต่
ลมเย็นจากทะเลเข้ามา
หลายคนบ่นว่าน่าจะค้าง แต่สำหรับน้องชายแล้ว
ยังเป็นปัญหาในการมาค้าง เพราะเขาคือ คนไข้ของ
สถานบำบัด ศูนย์สิรินธรอยู่ ยังจะต้องไปให้คณหมอ
ดูแลอีกสักพัก ก่อนจะต้องมาพักรักษาตัวเองต่อไป

ชีวิตคนเราเป็นของไม่เที่ยงจริงๆ
พระพุทธองค์จึงทรงกล่าวว่า

"ชีวิตคนเสมือนพยับแดด เหมือนหยดน้ำค้าง
เหมือนอะไรที่ไร้สาระ ที่มีแต่เวลาเท่านั้นที่จะยัง
พอมีให้เรา ได้ ทำบุญทำทานเป็นคนดี ใช้ชีวิตทุกขณะ
ด้วยคุณงามความดี ก่อนที่จะตายไป "

รอบตัวข้าพเจ้า มีการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย
อยู่เรื่อยๆ

ข้าพเจ้านึกถึงชีวประวัติพระพุทธองค์ นึกถึงธรรมะ
ของพระพุทธองค์ แล้วก็นึกถึงชีวิตคนรอบข้าง ที่ไม่รู้ว่า
วันไหน ตัวเองจะจบชีวิตลงไปจากโลกนี้ เพื่อจะไปเกิดใหม่
ในสภาพใดไม่มีใครบอกได้

นึกถึง หนทางนิพพาน มรรคมีองค์แปด ของพระองค์
แล้วสงสัย ว่า อีกนานแค่ไหน อีกกี่ล้านกัปกัลป์
ที่เราจะต้องเกิดแล้ว แก่ เจ็บ ตาย แล้ว เมื่อใดเล่า ?
เราจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์สารพัดชนิดอีก ผจญเวร ผจญกรรมกันอีกต่อไป

หนทางกลับมาจากเพชรบุรี จึงเป็นการสำเหนียก
ชีวิตที่ยังหลงเหลืออยู่ ว่าเรากำลังเดินไปเส้นทางใดกัน
เราจะช่วยเหลือทุกคน ช่วยเหลือพระพุทธศาสนาให้อยู่
คงบนแผ่นดีนนี้ไปอีกนานเท่าใด ก็เท่าที่เรายังมีลมหายใจ

tiki_ทิกิ
นำหนังสือที่พิมพ์ร่วมกัน
กับญาติโยมนำถวายพระภิกษุสงฆ์
พุทธศาสนา...๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๐
บันทึกไว้ ณ ๒๑-๒๓:๕๕ นาฬิกา คืน
๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๐
: tiki_ทิกิ - [ 28 เม.ย. 50 23:56:15 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:44:01 น.  

 
 
 
ความคิดเห็นที่ 21

หลายคนแอนตี้ เหรียญทำบุญเข้าวัด
ข้าพเจ้าเคยหัวเราะขำคนพวกนี้นะ
ว่าทำไมเอา เทพ เอาพระเข้ามาขาย
ต่อมาพอสัมผัสเข้ากับตนเอง

เห็นเงินเข้าช่วยทำบุญวัดน่ะ

เพิ่งเห็น พระทรุดโทรม เจดีย์ชำรุด ที่วัดต้องการ
เงินซ่อมแซมมหาศาล

ส่วนผู้คนที่เขาได้เหรียญ ได้ ผ้ายันต์ ผ้าปลุกเสก ฯลฯไป
เขาก็ได้ความปลื้มปิติ
ที่ได้ช่วยทำบุญให้วัด เห็นเหรียญก็เป็นที่ระลึก
ว่าได้ ร่วมวัดนั้นๆ ทำกุศล เหมือนได้ ใบอนุโมทนาบุญ
นะ

แต่ส่วนใครจะไปหารายได้เพิ่มก็แต่ละบุคคลไป
สำหรับ วิถีเศรษฐกิจที่หมุนเวียนวนกันขณะนี้
ได้เห็นคนยากจน เขามีงานทำกันมากขึ้น
เช่น ได้ รับจ้างใส่กรอบเหรียญ ได้รับจ้าง ทาสีทองสีเงิน
ที่เขาเรียกกันว่า ปัดเงิน ปัดทอง ฯลฯ กัน

และ สำหรับข้าพเจ้า ก็ได้เห็นปาฏิหาริย์บ่อยๆ

สำหรับชาวพุทธที่ ปฏิบัติจริงจังแล้ว
เขาไม่ว่ากล่าวพระที่ท่าน ให้เช่ารูปเหรียญเข้าวัด
เอาเงินบำรุงวัดกันดอกนะท่าน

ถึงแม้จะมีพวก คอยเที่ยวยกย่องพระปฏิบัติ แต่ที่สังเกต
คนเหล่านั้น ก็ใช่ว่าจะถือศีล ๕ ยังกินเหล้าเมามาย
แล้วเหล้าเข้าปากก็ด่าทอคนโน้น วิจารณ์คนนี้
ตัวเองหาได้ วัด ตัวเองไม่ ว่ามีศีลครบหรือเปล่า
บ้างก็มีแฟนมาก ภรรยามาก บ้างก็ พูดคำ โกหกคำ
เสียดสีแดกดันคำ ส่อเสียดยุให้เขาแตกกันตลอด
บ้างก็ พูดเพ้อเจ้อไปวันวัน อย่างที่ว่า คนพูดไม่ได้ทำ
คนทำไม่ได้พูด


บางพวก ปฏิบัติ ก็ไม่ถูกต้อง แต่กลับไปว่า
พวกนักปฏิบัติที่เขามีกระแสจิตเมตตา สูงกันเสียอีก
เที่ยววิจารณ์ว่าเขาว่าเป็นพุทธแท้ พุทธไม่แท้
ทำให้เรามองเห็นได้ว่า
การถือพุทธ ของสังคมไทย ก็เสมือนหนึ่งพวกถือ
ใบปริญญาบัตร ตรี โท เอก เอาไว้อวด เอาไว้ข่มกัน
ไปเรือยๆว่า ข้าฯนี้ แน่กว่าเอ็ง

หาก ทำใจให้เป็นกุศล
อะไร ก็เพื่อกุศลทั้งหมด ใจเป็นกุศล ก็มีแต่กุศลทั้งนั้น
คิดดี ก็ ทำดี ก็พูดดี

และด้วยการมองที่เมตตา
ก็เห็นว่า ชาวบ้านร้านถิ่นที่เขาหมดเนื้อหมดตัวกันมา
เขาได้ตั้งตัวได้ เพราะได้มีอาชีพค้าขายอันสุจริตต่อเนื่อง
เป็นการช่วยเศรษฐกิจชาติ
การที่เขาสวมพระ สวมเทพ เขาใส่คอ มีเครื่องยึด
เหนี่ยวจิตใจ มีกำลังใจให้เขาเชื่อว่า วันหน้าเขาจะดี ก็ถือ
เป็นเรื่องปลุกจิตใจให้มีใจสู้ เหนื่อยยากแค่ไหนเขาก็สู้ เพราะ
ชีวิตมันเลือกไม่ได้กัน
บางคนเขาก็ ได้เงินจากการทำสร้อยขาย บางคนก็ได้
เงินจากการขาย กรอบพระ กรอบเทพ ฯลฯ บางคนก็ได้เงิน
จากการ ตกแต่งประดับประดากรอบ หรือตกแต่งองค์เทพ
องค์พระ
ที่ไปสังเกตดู ก็เห็น เขาใช้วิชาศิลปะที่เรียนมา มาหา
เงินใช้อย่างสุจริต ไม่ได้ไปปล้นใครกิน
เขาได้วันละไม่กี่สิบกี่ร้อย เขาก็มีความสุขดีกว่านั่ง
งอมืองอเท้าอยู่กับที่

ดังนั้น ก่อนจะไปตามกระแส ด่าแล้วดังลูกเดียว
ฉุกคิดถึงคนที่เขาจน แต่เขาต่อสู้กันหน่อย คนที่เขา
อยู่ต่างจังหวัด มีพระเป็นที่พึ่ง พระขอให้ช่วยหาเงินหาทอง
เข้าวัด เขาก็ช่วยหากัน เขาก็มีรายได้ทางอื่นอย่างที่บอก
มา ดังนั้น เขาจึงขับไล่ความจนไปได้ เพราะมีทางไป
มีทางทำอาชีพ

คุณที่ร่ำรวยกันอยู่แล้ว อย่าไปด่า ไป ว่า เขากันเลย
คุณมีวิชาความรู้กันอยู่แล้ว ร่ำรวยล้นฟ้า มีเวลาก๊ง เหล้า
เคล้าสุรา นารี ฯลฯ แต่พวกเขา หาเช้ากินค่ำ

วันสองวันนี้ ได้ยิน ว่ามีพระทางเหนือ ว่าจ้าง
พิมพ์องค์เทพ อีก หกแสนองค์ ไม่คิดจะว่าอะไรเลย ยินดี
เสียอีกที่วัดนั้นจะได้มีเงินเข้าวัด ไปบูรณะศาสนสถาน
คุณที่อดว่าไม่ได้ ลองคิดมุมกลับ
ว่า ชาวบ้าน เขาไม่ชอบอ่านหนังสื อ พระแจกหนังสือ
ขอบคุณที่มาทำบุญ ก็เอาไปโยนทิ้งเสียเปล่า พระแจกองค์
เทพ ฯ อะไรอย่างนั้น เขายังได้วัตถุอิฐหินปูนทรายผงวิเศษ
อะไรติดตัว เป็น ความสุขทางใจ
ให้ความสุขเขาไปเถิด อย่าไปว่าใครเขาเลย

tiki_ ทิกิ
ตีสองกวา เช้ามืด ๒๙ เมษายน ๒๕๕๐

เหตุใด การที่คนเขาจะได้เหรียญที่เขาเคารพบูชา
เป็นความผิดล่ะ
ข้าพเจ้ากำลังสงสัย ว่า ชาวพุทธ ไยไม่ช่วยกัน
ซ่อมแซมวัด ศาสนสถาน ปล่อยให้ ผู้หญิงไปยืนซ่อมพระ
อยู่คนเดียว ที่ไปทำบุญมา ???

: tiki_ทิกิ - [ 29 เม.ย. 50 02:17:26 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:47:25 น.  

 
 
 
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%

ขอเชิญ แสดงความเห็นที่บล็อกรวมค่ะ

https://www.bloggang.com/viewblog.php?

id=tiki&date=28-03-2009&group=2&gblog=34



กำลัง จัดกลุ่ม และ หมวดกระทู้ ทั้งหมด ใหม่อีกครั้งขอขอบคุณค่ะ

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:49:06 น.  

 
 
 
ขอนุญาตก๊อปภาพซ่อมแซมพระไปลงในเว็บ 3a100.com นะครับ
 
 

โดย: ศ.ธรรมทัสสี IP: 58.9.190.196 วันที่: 9 สิงหาคม 2553 เวลา:16:28:30 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

tiki_ทิกิ
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์งานเขียนในบล็อกนี้ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
H e L L o
free counters
[Add tiki_ทิกิ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com