เวลาและสายน้ำไม่เคยคอยใคร
 
 

ตามอู๊ดกลับบ้าน...(3)

ส่งความคืบหน้าทางด้านไต้หวันค่ะ

วันที่ 22 ธ.ค. 50 อู๊ดหายไป 12 วัน

  • ช่วงค่ำที่แคมป์คนไทย มีการประชุมกันระหว่างบริษัทเอเย่นในไต้หวัน กับคนงานไทยคนที่ส่งข่าวในเรื่องนี้ คือหลี เขาโทรมาแจ้งทางบ้านว่าเขาจะสอบถามเกี่ยวกับการรับผิดชอบต่อการหายตัวไปประสิทธิ์ ทางบ้านฝากถามว่าถ้าไม่เจอซักที จะให้บริษัทจ้างนักสืบให้ได้หรือเปล่า ซึ่งจากการโทรถาม เขาเล่าว่าในช่วงแรกล่ามไม่เปิดโอกาสให้พูดเรื่องนี้ เขาบอกว่าคุยเรื่องอื่นก่อน เช่นเรื่องขอเพิ่มค่าอาหารจาก 2,800 เป็น 3,500 ซึ่งแรงงานไม่เห็นด้วย

  • ส่วนในความคืบหน้าเรื่องประสิทธิ์ นั้นเขาจะคุยส่วนตัวกลุ่มย่อย และได้คำตอบเรื่องประสิทธิ์ว่าล่ามเทิดพงษ์ ได้ทำทุกทางแล้ว ไม่ว่าจะส่งเอกสารแจ้งตำรวจ ส่งไปยังมูลนิธิหลายๆที่ เมื่อถูกคนไทยถามเรื่องจ้างนักสืบ ก็ต่อว่า จะใช้เงินที่ไหนมาจ้างเป็นหมื่น สองหมื่น สรุปก็คือเขาจะไม่จ้างนั่นเอง ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเคยรับปากว่าจะคุยกับบริษัทนายจ้างให้




ความคืบหน้าของครอบครัว

ครอบครัวได้คุยกันว่าเราจะรอฟังข่าวจากไต้หวัน จนถึงวันหยุดปีใหม่ ถ้ายังไม่ได้ตัวเขาเราจะไปไต้หวันกันเอง โดยดิฉันกับน้อง(อ๊อด) จะไปเองโดยจะศึกษาข้อมูลก่อน เช่น

  1. ถ้าไปจะขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้างเพื่อมาทำหน้าที่ล่ามให้เรา (เรามีค่าจ้างที่จำกัด)

  2. จะไปในลักษณะไหน เช่นจะเดินเพื่อแจกใบปลิวรูป และเบอร์โทรติดต่อ หรือเราจะหาทางเพื่อให้ได้ออกตามสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ หรือโทรทัศน์

  3. พวกเราจะไปกันอย่างประหยัด เนื่องจากเราต้องการเก็บเงินไว้ เผื่อว่าทำทุกหนทางยังไม่เจอ เราจะใช้เงินที่เหลือเพื่อจ้างนักสืบ หรือ ลงโฆษณา พร้อมให้รางวัลคนที่แจ้งด้วย



คุณพ่อบอกว่าอู๊ดมีเงินที่ส่งมาประมาณ 1 แสนบาท ก็เหลือไว้ซักหมื่นสองหมื่น เพื่อทำบุญ ที่เหลือจะใช้ติดตามเขาได้เลย ดิฉันกับอ๊อดนั้นไม่ต้องการใช้เงินเขา ก็จะออกค่าใช้จ่ายในการไปไต้หวันกันเอง แต่ถ้าจำเป็นเราจะใช้เงินของเขา เพื่อให้เป็นรางวัลคนแจ้ง เพราะเราต้องการคนมามากกว่าต้องการเก็บเงินเขาไว้โดยที่เขาอาจไม่มีโอกาสใช้มัน

การตัดสินใจว่าเราควรจะไปกันเองที่ไต้หวันนั้น ไม่ใช่ว่าเราไม่ทราบว่ามันยากที่จะเจอคน แต่มันเป็นสิ่งที่พี่ทั้งสองจะทำเพื่อเขา

เงินที่จ่ายไปแม้ไม่คุ้มค่าอะไร แต่เราจะลองทำ มันเป็นการชี้ให้เห็นว่าเรารอความหวังจากใครไม่ได้แล้ว เราต้องลงมือทำเอง และดิฉันเชื่อว่าต้องมีคนสนใจการกระทำของเราอย่างแน่นอน แม้จะไม่ประสบความสำเร็จแต่เราจะทำเพื่อเขา เราจะทำให้ทุกคนรู้ว่าชีวิตเขาสำคัญ ถึงเขาจะเป็นเพียงผู้ใช้แรงงาน เขาไม่ใช่บุคคลสำคัญระดับชาติ แต่เขาสำคัญที่สุดในครอบครัว โดยเฉพาะต่อชีวิตต่อจิตใจของพ่อแม่ของเขา และเป็นตัวอย่างให้แรงงานไทยได้เห็นว่า พวกเขาควรจะได้รับการเอาใจใส่เหมือนๆกับคนที่นั่นเหมือนกัน

สิ่งที่ดิฉันอยากจะสอบถามคนที่มีความรู้เรื่องกฏหมายก็คือ ถ้าเขาป่วยจริงเขาต้องทนทุกข์ทรมาน หรือเขาอาจเสียชีวิตก็ได้ หรือเขาอาจจะหายสาบสูญไปเลย ใครจะเป็นคนรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้ เขาควรจะได้อยู่ในที่พักอย่างปลอดภัย จนกว่าจะส่งกลับไทยตั้งแต่เขาป่วยในแคมป์แล้วใช่หรือไม่ และเมื่อเขาหายตัวไปเขาควรได้รับการติดตามอย่างเร่งด่วนใช่หรือไม่

ดิฉันยังไม่แน่ใจในคำตอบ ในเรื่องกฏหมาย แต่ความรู้สึกของคนเป็นญาติพี่น้องอยากจะออกไปหาเขาเองตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าเขาหายตัวไปแล้ว ทำไมถึงได้นิ่งนอนใจกันมากขนาดนั้น? นอกจากนั้นเขายังเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ เรื่องผีสาง พากัน ได้แต่ทำพิธี ทำบุญแคมป์กันอยู่ เขาควรจะเน้นการติดตามหาคนด้วยซิถึงจะถูก ดิฉันไม่ทราบว่าเรื่องมันควรจะจบตรงจุดไหน ก็ยังมองไม่เห็นทางเลยค่ะ

รบกวนช่วยคิดหาทางออกด้วยนะคะ




 

Create Date : 27 ธันวาคม 2550   
Last Update : 13 มกราคม 2551 13:33:42 น.   
Counter : 208 Pageviews.  


ตามอู๊ดกลับบ้าน...(2)

์วันที่ 21 ธ.ค. อู๊ดหายไป 11 วัน

ดิฉันได้โทรไปคุยเรื่องนี้กับล่ามเทิดพงษ์ ได้รับคำตอบว่าเขาไม่สามารถทำได้เพราะกฏหมายของไต้หวันจะไม่มีการเขียนบันทึกใบแจ้งความในกรณีที่เป็นคนต่างด้าว เขาแค่ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น ดิฉันโทรแจ้งเหตุการณ์ต่อคุณสัญญา(สามี)ให้ช่วยประสานไปยังคุณเอกลักษณ์(ดิฉันติดงานคุมสอบ) เพราะล่ามบอกว่าไม่มีใบแจ้งความ ควรจะทำอย่างไรต่อไป

เวลาประมาณเที่ยงคุณสัญญาโทรมา บอกว่าคุณเอกลักษณ์แนะนำให้โทรไปคุยกับคุณสุพจน์โดยตรง เพื่อเช็คดูว่าคุณสุพจน์ได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง

ดิฉันได้โทรไปหาคุณเอกลักษณ์อีกที ให้ข้อมูลเกี่ยวกับล่ามเพิ่มว่าได้เคยโทรคุยกับเพื่อนคนไทยของอู๊ดในแคมป์ชื่อหลี เขาเล่าว่า “ล่ามเทิดพงษ์สั่งห้ามคนไทยที่รู้เห็นเหตุการณ์ที่อู๊ดหายตัวไปพูดเรื่องนี้ และหลีเสียใจมากต่อเหตุการณ์ที่อู๊ดหายเนื่องจากก่อนที่อู๊ดจะหายไปในตอนเย็นวันที่ 10 ธ.ค. อู๊ดได้เดินออกจากแคมป์ไปครั้งหนึ่งแล้วในตอนเช้าแต่เพื่อนๆที่จะไปทำงานเห็นพอดี เลยวิ่งไปดึงกลับมา แล้วหลีก็เป็นคนฝากอู๊ดให้ล่ามเทิดพงษ์ และกำชับว่าดูให้ดีๆนะคนป่วยเดินได้ไกลแล้วจะออกจากแคมป์แล้ว ผมฝากดูน้องผมหน่อย และเมื่อเขามาทราบว่าน้องหายไปอีกและช่วยกันหาแล้วไม่เจอเขาเสียใจมากกินเหล้าจนเมา ต่อว่าล่ามรุนแรงจนเกือบจะชกต่อยกัน หลังจากวันนั้นเขาถูกหัวหน้างานเรียกพบ และตักเตือนว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก จะถูกส่งกลับไทย”

เวลาประมาณ 16.30 น.คุณเอกลักษณ์โทรหาดิฉัน ขอให้ส่งสำเนาบัตรประชาชนไปให้ทางมูลนิธิจะส่งไปยังอัครราชทูตที่ปรึกษา(ฝ่ายแรงงาน) ที่ประจำที่ไต้หวัน และคุณเอกลักษณ์ขอให้ดิฉันช่วยตรวจสอบร่างหนังสือที่ทางมูลนิธิจะประสานไปยังอัครราชทูตฯ โดยส่งมาทางอีเมล์

เวลาประมาณ 20.30 น. ดิฉัน และ คุณสัญญา ช่วยกันตรวจสอบและแก้ไขบางข้อมูล จึงส่งกลับคุณเอกลักษณ์อีกที



วันที่ 20 ธันวาคม อู๊ดหายไป 10 วัน

ดิฉันได้โทรไปถามความคืบหน้ากับคุณสมบูรณ์ ที่ศูนย์แรงงานไทยได้รับทราบว่า ทางสำนักงานตำรวจไต้หวันได้รับจดหมายร้องเรียนที่ดิฉันส่งไปจากประเทศไทย และได้ถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณสมบูรณ์ เขาจึงได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการป่วยของนายประสิทธิ์ ทางตำรวจก็รับว่าจะสั่งการไปยังตำรวจท้องที่อีกที

ช่วงเย็นคุณเอกลักษณ์ โทรหาดิฉัน และอธิบายว่าจากการสอบถามผู้มีประสบการณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทราบว่า key man ที่สำคัญในเรื่องนี้คือ คุณสุพจน์ พงศ์สุพัฒน์ หัวหน้าศูนย์แรงงานไทยในไทเป คุณเอกลักษณ์เลยแนะนำให้ โทรไปบอกล่ามเทิดพงษ์ ขอใบแจ้งความจากสถานีตำรวจเพื่อนำไปพบคุณสุพจน์ เปรียบเสมือนว่าล่ามเทิดพงษ์ เป็นตัวแทนญาติ หรือผู้ปกครอง เข้าไปขอความช่วยเหลือตัวแทนภาครัฐของไทย คือคุณสุพจน์


วันที่ 19 ธันวาคม อู๊ดหายไป 9 วัน

ได้รับการติดต่อจาก คุณเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ สังกัดมูลนิธิกระจกเงา ในการขอข้อมูลเพิ่มเติม และได้ขอเวลาหาข้อมูลว่าควรจะดำเนินการอะไรได้ต่อไป โดยประสานงานไปตามหน่วยงานหรือมูลนิธิอื่นๆ ที่ให้ข้อมูลได้


วันที่ 18 ธันวาคม อู๊ดหายไป 8 วัน

ดิฉันได้โทรปรึกษาศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ สังกัดมูลนิธิกระจกเงา ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ให้ส่งรายละเอียดไปให้ โดยดิฉัน ได้ส่งไปทางเมล์






 

Create Date : 27 ธันวาคม 2550   
Last Update : 1 พฤษภาคม 2551 15:28:26 น.   
Counter : 282 Pageviews.  


ข้อมูลเพิ่มเติมของอู๊ด

ข้อมูลของน้องชายดิฉัน

ชื่อ นายประสิทธิ์ สมอินทร์ (อู๊ด)
บัตรประชาชนเลขที่ 3 4113 00170 795
หมายเลข passport X622919
ที่อยู่ เลขที่ 169 Chung-kang south road, Tai-san shian,Taipei county, Taiwan R.O.C.
ประสิทธิ์เดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ประเทศไต้หวัน โดยผ่านพิธีการที่ถูกต้องตามกฏหมาย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 กับบริษัท CTCI
ตลอดเวลาที่อยู่ไต้หวัน ประสิทธิ์ทำงานก่อสร้างดังกล่าวด้วยดีตลอดมา มีการโทรศัพท์กลับบ้านอย่างสม่ำเสมอ และไม่มีความผิดปกติใด

วันที่ 7 ธันวาคม
ทางบ้านได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนชาวไทยว่าเขาป่วยหนัก มีอาการอ่อนเพลียเหม่อลอย ไม่ยอมพูดจากับใคร ไม่กินข้าวไม่ดื่มน้ำ เพื่อนๆต้องช่วยกันดูแล ป้อนข้าวป้อนน้ำ จนล่ามได้พาไปหาหมอ 2 ครั้ง แต่อาการยังไม่ดีมาก
หลังจากทางบ้านได้รับโทรศัพท์ ก็แจ้งให้ล่ามช่วยดำเนินการประสานกับนายจ้างให้เขาลาป่วยกลับมา
รักษาที่ประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะกลับได้ประมาณวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2550

วันที่ 10 ธันวาคม  เวลาเย็น
เขาได้หายตัวไป คาดว่าจะเดินออกมาจาก camp ที่พักโดย ลำพัง ซึ่งคนที่พบเขาล่าสุดคือล่าม ( camp boss ) ชื่อ เทิดพงษ์ เจอเขาลงมาจากชั้น 2 ขณะนั้นล่ามกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ได้ถามเขาว่าจะไปไหน ลงมาเล่นได้ แล้วล่าม
ก็คุยโทรศัพท์ต่อ จากนั้นประมาณ 15 นาที ไปดูที่ห้องก็ไม่เจอเขาแล้ว จึงไปเรียกคนช่วยกันตามหา 2 คน แต่ไม่เจอ เมื่อเพื่อนๆคนไทยเลิกงานแล้ว ได้ช่วยกันออกตามหาเขาหลายชั่วโมงแต่ยังไม่พบและล่ามได้แจ้งตำรวจแล้ว
ขณะนี้ยังไม่พบตัวเขาเลย

ข้อมูลที่ดิฉันได้ดำเนินการไปแล้ว

วันที่ 11 ธันวาคม ดิฉันไปแจ้งที่สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงแรงงาน ซึ่งเขาก็รับเรื่องและ Fax ไปให้สำนักงานแรงงานไทยในไต้หวัน ซึ่งอยู่ในไทเป และดิฉันก็ได้ขอหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อที่สำนักงานในไทเปไว้ ได้รับทราบว่าผู้ที่ประสานงานเรื่องนี้ชื่อคุณสมบูรณ์ ได้โทรไปติดตามเรื่องหลายครั้ง
แล้ว การทำงานของเขาก็คือโทรไปสอบถามกับล่าม เมื่อล่ามแจ้งตำรวจแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เลยไม่ได้แจ้งอีก และได้ประกาศออกทางวิทยุคนไทยให้แล้ว

วันที่ 14 ธันวาคม ดิฉันได้ขอสายคุยกับหัวหน้าสำนักงาน เพราะอยาก
ให้ท่านเร่งให้ตำรวจช่วยค้นหามากกว่านี้เพราะเขาหายไปได้ 5 วันแล้ว ได้รับคำตอบคือ ท่านบอกว่าอย่าคิดในแง่ร้าย เขาอาจจะมีปัญหาส่วนตัวจึงได้หลบหนีไป แต่ดิฉันได้ยืนยันท่านว่า ดิฉันถามเพื่อนๆเขาแล้ว เขารับรองได้ว่าไม่มีเรื่องพวกนี้แน่นอน เขาอาจจะกินเหล้าและสูบบุหรี่บ้าง แต่เขาไม่ได้กินบ่อย ส่วนเรื่องการพนันนั้นตัดออกไปได้เลย เพราะพวกเขาทำงานแผนกเดียวกัน พักห้องเดียวกัน ส่วนใหญ่จะไปไหนก็ไปด้วยกัน ดิฉันก็เชื่อว่าน้องชายไม่ได้ตั้งใจหลบหนี รู้จักนิสัยเขาดี เขาไม่ใช่คนกล้าขนาดนั้น และเขาก็พอใจในงานที่ทำอยู่ จึงไม่น่าหนี

ส่วนอาการป่วยนั้นเพื่อนๆเขารู้ดีว่าผิดปกติอย่างฉับพลัน ยังน่าสงสัยอยู่

หัวหน้าท่านช่วยให้ดิฉันได้ให้รายละเอียดของน้องชายกับผู้จัดรายการวิทยุอีกครั้งเท่านั้นเอง ทั้งๆก่อนหน้านี้ก็บอกว่าออกอากาศให้แล้ว แล้วยังต้องถามอีก แม้แต่ข้อมูลต่างๆเขาก็ไม่เคยโทรถามเพื่อนแรงงานไทยเลยไม่เคยลงไปดูที่เกิดเหตุอะไรเลย

นอกจากนั้นดิฉันก็ได้โทรไปขอคำปรึกษากับศูนย์คุ้มครองและดูแลผลประโยชน์ของคนไทยในต่างแดน กรมการกงสุล เขาก็โอนสายให้พนักงานที่รับผิดชอบไต้หวัน ดิฉันได้คำตอบว่าถ้าไปยื่นที่แรงงานแล้ว ไม่จำเป็นต้องมายื่นที่นั่นอีก เพราะสองหน่วยงานประสานกันอยู่แล้ว พอดิฉันขอคำแนะนำเพราะห่วงน้องชายมาก ควรจะทำยังไงถึงจะมีการค้นหาอย่างจริงจัง เขาก็ตอบว่าคุณควรจะใจเย็นและรอดีกว่า เขาแจ้งตำรวจแล้ว ให้ตำรวจดำเนินการดีที่สุด

่ดิฉันก็ได้ส่งเรื่องร้องทุกข์ไปทางอินเตอร์เน็ตแล้ว ตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค.และได้รหัสติดตามเรื่องคือ 101 / 2550 ได้โทรถามความคืบหน้า ในวันที่ 17 ธ.ค. ได้รับคำตอบว่าส่งไปสำนักงานแรงงานในไต้หวันแล้ว ยังไม่ได้รับการตอบกลับ

นอกจากนั้นก็ได้ส่งเมล์ไปเองที่สำนักงานที่ไต้หวันด้วย และวันที่ 17 ธ.ค. ได้พาคุณพ่อคุณแม่ไปติดต่อขอความช่วยเหลือจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้รับการช่วยเหลือ จากท่านรองผู้กำกับ พ.ต.ท.อนุชา สุธยดิลก ตำรวจสากลกองการต่างประเทศ แต่ท่านก็บอกว่า ที่ไต้หวันไม่มีสำนักงานตำรวจสากลที่ท่านสามารถประสานงานได้ แต่ท่านก็ได้ทำหนังสือส่งไปให้ ท่านบอกว่าท่านช่วยได้แค่นี้จริงๆ ดิฉันก็ซาบซึ้งในการทำงานช่วยเหลือของท่านที่ทำให้ทันที และไม่ส่งเรื่องต่อให้คนอื่นรับผิดชอบ

ดิฉันขอขอบพระคุณคุณเอกลักษณ์ และมูลนิธิกระจกเงาเป็นอย่างมาก ที่รับเรื่องของดิฉันไว้ทำให้ดิฉันรู้สึกมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาโทรติดต่อได้เลยค่ะ

หมายเลขโทรศัพท์ดิฉัน
089 7644431 , 023847755 (ที่บ้าน แต่พ่อแม่อยู่ตลอดค่ะ)
สามีดิฉัน สัญญา เก่งเกตุ 089 7724132

เบอร์โทรอื่นๆ
เพื่อนไทยในไทเป หลี 886 939591869 ณรงค์ 886 953211637
น้าแก้ว 886 953344432
ล่ามเทิดพงษ์ 089 20808245 ( ล่ามของบริษัท ที่เห็นน้องชายดิฉันคนสุดท้าย)
คุณสมบูรณ์(เจ้าหน้าที่ศูนย์แรงงานไทยในไทเป) 0227011413




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2550   
Last Update : 11 ธันวาคม 2555 23:31:42 น.   
Counter : 563 Pageviews.  


ตามอู๊ดกลับบ้าน...

ประสิทธิ์ สมอินทร์ (อู๊ด) เขาคือใคร?

ดิฉันชื่อมยุรี เก่งเกตุ ค่ะ ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พ่อแม่มีลูก 3 คนดิฉันเป็นคนโตค่ะ มีน้องชายอีก 2 คน คนรองชื่อประเสริฐ (อ๊อด) สมอินทร์ และคนเล็กที่หายไป ก็คือประสิทธิ์หรืออู๊ด

ดิฉันเป็นอาจารย์อยู่คณะเทคนิคการแพทย์ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติค่ะ (อาจารย์ ป.ตรี) ก็ไม่ได้เก่งนะคะ แต่มีประสบการณ์ทางด้านคลังเลือดมา 4 ปี เขากำลังต้องการพอดี เลยได้สมัคร อยู่ที่นี่ตั้งแต่ 2544 แล้ว

น้องคนรองเป็นวิศวกรค่ะ ทำงานอยู่นิคมอมตะนคร แต่งงานแล้วยังไม่มีลูก

ส่วนน้องคนเล็กเขามีปัญหาด้านการเรียนมาตั้งแต่มัธยมเลยเรียนน้อยที่สุด จบ ม.6 จาก ก.ศ.น. ด้วยความที่ไม่ชอบค้าขายทั้งๆที่บ้านที่ศรีบุญเรืองสามารถค้าขาย หรือเปิดร้านค้าอะไรได้ เขาก็ไม่อยากทำ เขาถนัดในแนวช่างเชื่อมมากกว่า และได้ไปเรียนที่ศูนย์ฝึกวิชาชีพมาด้วย เขาเคยทำงานก่อสร้างในเมืองไทยด้วยกับบริษัทอิตาเลี่ยนไทย แต่เนื่องจากงานค่อนข้างเสี่ยงพ่อแม่เป็นห่วง เลยลาออกไปทำงานโรงงานในนิคมอมตะนครกับพี่ชาย ชีวิตเขาเคยลำบากมาหลายครั้งไม่ว่าทำงานก่อสร้าง หรือแม้แต่ไปเป็นทหาร 2 ปี เพราะจับใบแดงได้

จุดที่ทำให้เขาต้องไปทำงานเมืองนอกก็คือ มีญาติไปทำงานที่ไต้หวันและได้เงินเดือนค่อนข้างจะดี เป็นงานโรงงานเหมือนทำในไทย ความเป็นอยู่ก็ไม่ลำบากมาก เขาเลยอยากลองไปบ้างเผื่อจะได้เก็บเงินซักก้อน อายุก็ยังน้อยครอบครัวก็ไม่มีเลยตัดสินใจได้ง่าย
ครั้งแรกที่ไปก็ผ่านเอเย่นเสียเงินไป 140,000 บาท ไปทำแรกๆก็ดีเป็นโรงงานประกอบชิ้นส่วนอะไรซักอย่าง เงินเดือนดี เพราะมีโอทีเยอะด้วย เขาส่งเงินให้แม่เก็บได้เดือนละ สองหมื่นห้าพันขึ้นไป แต่อยู่ได้ประมาณ 1 ปี โรงงานก็ยุบ เลยถูกส่งไปอยู่ที่อื่นเงินเดือนน้อยมาก ส่งกลับบ้านไม่ถึงหมื่น เขาเลยอยากกลับมาก่อน


เมื่อกลับมาพักได้ไม่กี่เดือน ก็หาทางไปอีกเพราะยังอยากไปทำงานเก็บเงินเพิ่ม ทั้งๆที่รอบนี้พ่อแม่ก็ไม่อยากให้ไป เพราะกลัวถูกหลอกเหมือนกับหลานที่ไปแล้วได้งานไม่ดีอย่างที่บริษัทอ้าง รอบนี้น้องชายต้องจ่ายให้บริษัทเหลียนหยางตั้ง 150,000 บาท โดยตัวแทนอ้างว่าเป็นงานดี เงินเดือนดี ไม่ได้ทำงานหนัก เขาจะให้ไปขับรถเจาะดิน(ประมาณนี้แหละ) น้องชายก็เลยขอไป ทั้งที่ดิฉันคัดค้านมากแทบจะทะเลาะกัน

ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการที่ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากให้นายหน้า มันเหมือนการทำนาบนหลังคนชัดๆ ถ้ารัฐบาลส่งจ่ายแค่ 4 หมื่นเอง แต่ต้องสอบแข่งขัน เขาก็รอไม่ไหว สุดท้ายก็เลยตามใจเพราะเงินของเขาเอง เขาหลงเชื่อคำพูดนายหน้าด้วย
พอไปทำจริงๆแรกๆก็ได้ลงไปทำในอุโมงค์ใต้ดิน ที่จะเป็นเส้นทางเดินรถไฟฟ้าใต้ดิน ส่วน OT เขาให้เฝ้ายาม โดยคนหนึ่งเฝ้าด้านบน อีกคนลงไปเฝ้าด้านล่าง คิดดูค่ะว่าน่าเป็นห่วงขนาดไหน ดิฉันยังกลัวแทนเขาเลย มีแต่พ่อที่โทรคุยแล้วบอกว่าให้กำดินขึ้นมาแล้วอธิฐานว่าให้แม่พระธรณีปกปักรักษาลูกด้วยเถิด

เขาทำอย่างนี้อยู่ประมาณ 4 เดือน ก็ได้ขึ้นมาทำหน้าที่อ๊อกซ์ กับเชื่อม ซึ่งเขาก็ชอบมากกว่าการเฝ้ายาม ( เขาเคยเล่าว่ามักจะให้คนใหม่เฝ้า) ส่วนเรื่องเงินนั้นที่นายหน้าบอกว่าได้ประมาณสี่หมื่น ก็ไม่ถึงแถมหักค่าต่างๆเป็นหมื่น เหลือไว้ใช้ ห้าพัน ที่เหลือส่งกลับบ้าน ประมาณเดือนละ หมื่นกว่าๆบางเดือนก็หมื่นห้า บางเดือนก็เกือบสองหมื่น และเงินที่หักส่วนหนึ่งก็เป็นค่าล่าม (บริษัทเอเย่นต์ที่นั่น)

ดิฉันขอโทษนะคะที่พูดเรื่องน้องมากไป คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมเขาถึงต่างจากพี่ พวกเราก็อยากจะส่งเสียให้เขาเรียนเพิ่มหรือจะทำอะไร พวกเราก็จะช่วยหาเงินมาลงทุนให้ แต่เขาไม่เอา ถึงเขาจะมีรายได้น้อยยังงัย เขาก็ไม่เคยรบกวนพี่เลย นอกเสียจากพี่จะให้เขาเอง ที่สำคัญเขารู้จักกตัญญูต่อพ่อแม่มาก ถึงเขาจะมีเงินน้อยยังงัยเขาต้องให้พ่อแม่บ้าง เขาภูมิใจมากที่ได้เป็นผู้ให้ แม้แต่ดิฉันยังเคยหยิบยืมเงินเขาประจำ เขาไม่เคยหวงเลย

ในขณะนี้พวกเรายังไม่ได้ยินข่าวของเขาเลย แต่เราจะพยายามใจเย็นรอต่อไปให้ผ่านเทศกาลปีใหม่ไปก่อน แล้วจะทำอะไรต่อไป

ดิฉันได้คุยกับอ๊อดน้องชายคนรองไว้ว่าถ้า 1 เดือนผ่านไป เราจะไม่รอฟังข่าวอยู่บ้าน หรือร้องเรียนไปหน่วยงานไหนแล้ว แต่เราจะศึกษาหนทางที่จะไปติดตามเขาที่ไทเปต่อไป แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอเขา แต่เป็นสิ่งที่เราสองคนพี่น้องจะทำให้พ่อแม่มีความหวังมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้อู๊ดเขาจะเป็นแค่ผู้ใช้แรงงานคนหนึ่ง ไม่ใช่คนสำคัญระดับชาติ แต่เขาสำคัญที่สุดในครอบครัว โดยเฉพาะหัวอกคนเป็นพ่อแม่ ท่านจะเสียใจไปอีกนานเท่าไหร่หากเขาหายไปไม่กลับมาเลย..........




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2550   
Last Update : 26 ธันวาคม 2550 0:31:02 น.   
Counter : 583 Pageviews.  


1  2  3  4  

Tide&Time
 
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หากผู้ใดทราบเบาะแส หรือ มีคำแนะนำใดๆ โปรดลงข้อความไว้บน blog นี้ หรือกรุณาติดต่อ

คุณมยุรี เก่งเกตุ (พี่สาวของอู๊ด)mayuree_kengkate@yahoo.com: 089-764-4431 , 02 – 384-7755

คุณสัญญา เก่งเกตุ (พี่เขยของอู๊ด): 089-772-4132

และขอความกรุณาแจ้งข้อมูลนี้ต่อๆ ไปยังบุคคลที่ท่านคิดว่าสามารถให้ความช่วยเหลือในการตามหาอู๊ดได้
จักขอบพระคุณอย่างสูง
[Add Tide&Time's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com