A Frozen Flower อำนาจ ราคะ ใครจะหยุดได้ : ราชอาณาจักร ความรัก ความภักดีคุณจะเลือกสิ่งใด
A Frozen Flower อำนาจ ราคะ ใครจะหยุดได้ : ราชอาณาจักร ความรัก ความภักดี คุณจะเลือกสิ่งใด ชีวิตเราทุกวันต้อง “ตัดสินใจ” มากกว่าหนึ่งครั้งแน่ หลายครั้งเป็นการตัดสินใจที่ง่าย หลายครั้งเป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่จะมีกี่ครั้งที่คุณต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง “ความอยู่รอด” “ความถูกต้อง” หรือ “ความพึงพอใจ” ของตนเอง ผมเห็น Teaser ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนจะเข้าฉาย แต่ไม่มีโอกาสได้เข้าไปชมในโรงภาพยนตร์ เมื่อได้มีโอกาสชมเอาเมื่อตอนนี้ ก็รู้สึกว่า หากเรา “สลัด” ประเด็นที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมออกไป แล้วลอง เอาตัวเอง “เข้าไปนั่ง” เป็นตัวละครหลักทั้งสามตัวดูสิว่า ถ้าคุณเป็นเขา เขา และเขา คุณจะตัดสินใจอย่างไร เรื่องราวใน “A Frozen Flower” ย้อนกลับไปในรัชสมัยราชวงศ์ ‘โครยอ’ อันอ่อนแอของเกาหลี ที่ตกเป็นประเทศราชของจักรวรรดิหยวนของชาวมองโกล อีกทั้งพระราชาเองยังมีความสัมพันธ์กับฮงริน หัวหน้าราชองครักษ์หนุ่มที่ทรงชุบเลี้ยง (และแอบปิ๊งปั๊ง) มาตั้งแต่เด็ก แม้จะมีมเหสีรูปโฉมงามสะคราญซึ่งเป็นราชธิดาของฮ่องเต้หยวนอยู่แล้วก็ตาม หลังจากเหตุการณ์พยายามลอบปลงพระชนม์พระราชา ฮ่องเต้แห่งหยวนก็ได้ส่งสาสน์เร่งเร้าให้พระราชารีบมีรัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ หาไม่แล้วจะแต่งตั้งขุนนางใหญ่ของหยวนมาดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราชา สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป นั่นหมายถึง ราชวงศ์ ‘โครยอ’ จะถูกกลืนชาติโดยสมบูรณ์ พระราชาจึงแก้ปัญหาด้วยการออกอุบายให้ฮงรินมีสัมพันธ์กับพระมเหสีเพื่อให้พระนางตั้งครรภ์โอรสผู้จะเป็นรัชทายาทแห่งโครยอต่อไป สำหรับตัวผมเองดูหนังเรื่องนี้แล้วมองว่า โศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นนั้นเป็น “ความผิด” ของใครกันแน่ มองเผิน ๆ อาจกล่าวได้ว่า ก็พระราชานั่นแหละเป็นต้นเหตุ เพราะตัวเองไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์กับสตรีได้ จึงต้องคิดแผนประหลาด “ยอม” ให้ฮงรินราชองครักษ์หนุ่มหน้าหวานซึ่งเป็นแฟนของตัวเอง ไปรับใช้พระมเหสี เพียงเพื่อให้ได้รัชทายาทมาสืบราชบัลลังก์รักษาราชวงศ์โครยอไว้ (ทั้ง ๆ ที่เด็กที่จะเกิดมามิได้มีเชื้อสายราชวงศ์โครยอแม้เพียงน้อย) แต่หากเราลองเอาตัวเองเข้าไปนั่งอยู่ในใจของพระราชาดูบ้างหละ เราจะทำอย่างนั้นหรือเปล่า ตอบยาก เพราะจริง ๆ แล้วถามว่าพระราชาทรงเจ็บปวดมั้ย เพียงแค่ให้แฟนตัวเองมานอนกับเมียตัวเอง (งงมั้ยครับ) ก็คงมากพอ ซ้ำทั้งสองยังมารักกันจริง ๆ แถมยังมาเห็นฉากรักอันเร่าร้อนกลางหอพระสมุดหลวงอีก ถ้าไม่ใช่ทรงเห็นแก่ราชอาณาจักรโครยอและพระราชวงศ์ของบูรพมหากษัตริย์แล้วจะทรงตัดสินพระทัยเช่นนั้นหรือ
ฮงรินหละ ในฐานะหัวหน้าราชองครักษ์อันสนิท เขามีหน้าที่ต้องถวายการอารักขาพระราชาและยอมตายแทนพระราชาได้ สิ่งใดเป็นพระบัญชา ฮงรินย่อมต้องปฏิบัติตาม แต่ความพิศวาสที่เกิดขึ้นหลังจากการได้ลิ้มลองรสรักกับสตรีเพศ มิอาจทำให้ราชองครักษ์หนุ่มหน้าหวานหักห้าม “ราคะ” ในใจของตัวเองไว้ได้ เขาเลือกที่จะละทิ้ง “ความภักดี” ที่เคยถวายต่อพระราชาในฐานะราชองครักษ์ และที่มากกว่านั้นคือ สลัด “ความรัก” ที่เคยมีให้บุรุษเพศผู้ชุบเลี้ยงและมีสัมพันธ์สวาทกับตนมานานกว่าสิบปี แต่ถ้าเราลองเข้าไปนั่งในหัวใจของฮงรินดู เราจะเลือกสิ่งใด แล้วพระมเหสี มิยิ่งหนักกว่าหรือ ทรงถูกปฏิบัติเสมือนหนึ่งเป็นเพียงสิ่งของหรือสัตว์เลี้ยง ที่บุรุษเพศนึกอยากจะยกให้ผู้ใดก็ได้ เมื่อพระราชาที่ทรงคิดว่าจะเป็นพระราชสวามีมีใจให้กับราชองครักษ์หนุ่มมากกว่า หัวใจอันแห้งเหี่ยวกลับเหมือนได้ฝนจากฟ้าอันช่ำเย็น เมื่อราชองครักษ์หนุ่มซึ่งเคยเป็นคนรักของพระราชาเป็นผู้เติมเต็มมันให้กับนาง หากลองเข้าไปนั่งในใจขอเธอบ้าง เราจะเลือกสิ่งใดระหว่างความถูกต้อง ศีลธรรม ประเทศชาติ หรือความสุขทางเพศที่ได้จากผู้ชายที่เธอรัก
Create Date : 07 มกราคม 2553 |
Last Update : 7 มกราคม 2553 7:25:47 น. |
|
4 comments
|
Counter : 2156 Pageviews. |
|
|
พระมเหสีและฮงรินคือสิ่งที่อีกฝ่ายขาดไปตั้งแต่ต้น และเข้ามาเติมซึ่งกันและกันจนครบในภายหลังอย่างแท้จริง
อาจกล่าวได้ว่าองค์ชายเป็นผู้ถูกทรยศหัวใจ แต่เมื่อได้เป็นผู้ตีกรอบขีดเส้น ให้คนสองคนมามีความสัมพันธ์กันโดยฝืนใจ จะแปลกอะไรที่หัวใจสองดวงจะค้นพบกันเอง และต้องการที่จะโลดแล่นไปอย่างอิสระตามความปรารถนาของตัวเองบ้าง
สรุป องค์ชายเป็นบุคคลเห็นแก่ตัวครับ ภายใต้กรอบของความยำเกรงและสิ่งที่เรียกว่าจงรักภักดี มันได้ตีกรอบทางเดินและปิดประตูความต้องการที่แท้จริงของฮงรินมาตั้งแต่ต้นแล้ว แม้สิ่งใดหยิบยื่นให้ฮงรินก็ต้องรับไว้ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี หรือการผิดเพศซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการมาแต่ต้นเลยก็ได้
ปล แลกเปลี่ยนความคิดกันได้นะครับ