การเดินทางนอกจากจะทำให้จิตใจแกร่งขึ้นแล้ว...ยังช่วยบ่มเพาะความคิดให้เติบโตตามไปด้วย...
Group Blog
 
All Blogs
 
คุณยายกับยายอ่อน

คุณยายกับยายอ่อน 

   

               นับตั้งแต่จำความได้ช่วงที่คุณยายยังมีชีวิตอยู่ ที่บ้านต่างจังหวัดของฉันจะมีผู้คนไปมาหาสู่เยอะมากเหตุผลหนึ่งคงเป็นไปตามประสาวิถีชีวิตชาวบ้านตามต่างจังหวัด แต่เหตุผลที่สำคัญกว่านั้นแม้ฉันจะเป็นเด็กก็ยังรู้สึกได้ก็คงเพราะคุณยายของฉันท่านเป็นคนใจกว้างมากๆ ฉันจำได้ว่าสวนขนาดใหญ่ที่บ้านซึ่งมีทั้งพืชผักผลไม้กินได้หลากหลายชนิด ดูเหมือนชาวบ้านทุกคนจะมีสิทธิ์ที่จะเข้ามาเก็บกินได้ตลอดเวลา บางคนมารยาทดีก็รู้จักอ้าปากขอเจ้าของบ้าน แต่บางคนก็เดินเข้าสวนไปเก็บหน้าตาเฉย ครั้งหนึ่งฉันเคยแอบว่าคนที่ไม่รู้จักอ้าปากขอกับคุณยาตามประสาเด็กหวงของ คุณยายก็จะบอกว่า

 

                            “ช่างเขาเถอะลูก... เขาคงรู้สึกคุ้นเคยกับบ้านเรามาก ”   

 

                   และเมื่อถึงหน้ามะม่วงฉันและพี่ๆน้องๆก็จะมีหน้าที่เอามะม่วงที่คุณยายจัดใส่ในตะกร้าไว้ให้ไปแจกชาวบ้านทั้งใกล้และไกล แจกจนมะม่วงหมดสวน มะม่วงแต่ละปีเราจะเก็บได้เยอะมากแต่เราไม่ขายคุณยายให้แจกอย่างเดียว

 

                   ด้วยเหตุนี้คุณยายจึงมีคนรักและเคารพนับถือมาก แต่ละวันจะมีชาวบ้านไปมาหาสู่ไม่ขาดสาย บ้างก็มาเยี่ยมเยียนพูดคุยตามประสาคนแก่ด้วยกัน หรือบ้างก็เอาของมาให้เป็นการตอบแทนน้ำใจที่คุณยายมีให้เสมอ

 

                  สำหรับยายอ่อนแกเป็นคนที่พิเศษกว่าคนอื่นไม่เพียงแกจะไปมาหาสู่บ้านฉันเป็นประจำเกือบทุกวัน แต่แกยังเป็นเหมือนเพื่อนรุ่นน้องที่คุณยายชอบพอและรักใคร่แบบคนรู้ใจกันทุกเรื่อง บ้านยายอ่อนอยู่ถัดรั้วหลังบ้านฉันไป จึงไปมาหากันง่าย  แต่นานๆครั้งคุณยายจึงจะไปบ้านยายอ่อนสักทีคงเพราะคุณยายแก่มากแล้ว ส่วนใหญ่ยายอ่อนจะเป็นฝ่ายมาหาคุณยายที่บ้านมากกว่า แกชอบมาช่วงบ่ายๆและจะขลุกอยุ่กับคุณยายตลอดจนเย็นจึงกลับ

               ทุกครั้งที่ยายอ่อนมาที่บ้านและเห็นฉันนั่งเล่นอยู่ใต้ถุนบ้านใกล้ๆคุณยายแกจะทักทายเป็นเชิงเย้าหยอกฉันก่อนสมอ หรือแม้วันที่ฉันไปโรงเรียน ตอนเย็นกลับบ้านแกก็จะตะโกนทักทายเย้าหยอกฉันก่อนตั้งแต่แกเห็นฉันโผล่เข้าประตูบ้านซึ่งอยู่ห่างจากตัวบ้านเกือบร้อยเมตร บ้างก็

            “อ้าว...หลานน้อยกลับมาแล้ว..เหนื่อยไหมลูก..”หรือไม่ก็

             “แหม..วันนี้หลานน้อยเหนื่อยแก้มแดงมาเลยนะ”แกไม่เรียกชื่อฉันโดยตรง แต่เหมือนจะเรียกแทนคุณยาย

 

                  นอกจากยายอ่อนจะเป็นเพื่อนคุยที่ดีของคุณยายแล้วแกยังเป็นเหมือนหมอนวดประจำตัวของคุณยายด้วย ดังนั้นเมื่อฉันนึกถึงยายอ่อนทีไรภาพที่แกกำลังง่วนอยู่กับการนวดคุณยายตรงไต้ถุนบ้านพื้นยกสูงแบบบ้านต่างจังหวัดก็จะปรากฏขึ้นทุกครั้ง   

                  ยายอ่อนอายุอ่อนกว่าคุณยายพอสมควร แกเป็นคนแก่ที่ตัวอ้วนและอารมณ์ดี ฉันจะได้ยินเสียงหัวเราะดังเอิ๊กอ๊ากของแกเป็นระยะๆ เมื่อแกอยู่กับคุณยาย ฉันจึงรู้สึกว่าแกเป็นคนแก่ใจดีคนหนึ่งที่ฉันจะพูดคุยและเย้าแหย่ได้ตามประสาเด็กที่ไม่รู้สึกเกร็งหรือเกรงในความเป็นผู้ใหญ่ของแก ก่อนกลับบ้านฉันมักจะเห็นแกมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านทุกครั้ง บางทีก็เป็นผักหรือผลไม้ที่คุณยายบอกให้เก็บไปกินหรือไม่ก็เป็นของที่คุณยายให้เป็นพิเศษ

 

                   ความสัมพันธ์ระหว่างคุณยายกับยายอ่อนอาจเรียกได้ว่าเป็นความผูกพันที่ทั้งคู่อาจไม่รู้ตัวเลยว่าแทบจะขาดกันไม่ได้ เมื่อไหร่ที่ยายอ่อนหายไปเกินสองวัน คุณยายจะต้องถามถึงทันทีและบอกให้แม่ฉันแวะไปดู

 

                          “ภาเอ๊ย..ลองไปดูยายอ่อนที่บ้านแกหน่อยซิ เป็นอะไรไปหรือเปล่าถึงไม่แวะมาหา...สองวันแล้ว หรือว่าแกไปไหนทำไมไม่เห็นมาบอก ?... ก่อนไปอย่าลืมให้ใครเก็บผักขี้เหล็กไปให้ แม่แก้วเขาแกงกินด้วยนะ” คุณยายจะคิดถึงหมอนวดหรือเพื่อนคุยไม่อาจรู้ได้แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะเตือนให้เอาของไปฝากลูกสาวยายอ่อนด้วย

 

             และครั้งนั้นก็ได้รู้ว่ายายอ่อนแกไม่ค่อยสบายซึ่งแม่ฉันก็ได้เข้าไปช่วยเรื่องหยูกยาและแนะนำให้ไปหาหมอ นับจากนั้นมาฉันก็เริ่มรู้สึกได้ว่าจากที่ยายอ่อนเคยมาหาคุณยายได้เกือบทุกวันก็ทิ้งระยะห่างออกไป นั่นเพราะยายอ่อนแกเจ็บออดๆแอดๆมาเรื่อยชนิดสามวันดีสี่วันไข้ และดูคุณยายจะเข้าใจจึงได้แต่คอยสั่งให้แม่ฉันไปเยี่ยมเยียนและดูแลเรื่องหยูกยารวมทั้งอาหารการกินของยายอ่อนด้วยความห่วงใย

 

                    แต่แล้วเวลาผ่านไปไม่นานนักคุณยายฉันท่านก็มีอาการไม่สบายไม่ต่างไปจากยายอ่อนหลายคนลงความเห็นว่าคงจะตามประสาคนแก่ที่อายุแปดสิบกว่าปีแล้ว แต่ต่อมาไม่กี่วันฉันก็ได้ยินแม่คุยกับคุณลุงซึ่งเป็นพี่ชายว่าคุณยายทานอาหารไม่ค่อยได้และดูจะทรุดลงทุกวัน หมอประจำสถานพยาบาลของอำเภอสมัยนั้นก็บอกแต่ว่าเป็นโรคคนแก่        

 

              ส่วนยายอ่อนนั้นวันหนึ่งฉันได้ยินน้าแก้วพูดถึงยายอ่อนให้แม่ฟังว่า “แม่แกไม่ค่อยอยากกินยาหรือกินข้าวเลย...เอาแต่นอนซมบ่นคิดถึงคุณยายบอกเป็นห่วงคุณยายอยากจะมานวดให้คุณยาย…”

 

              และแล้ว...วันที่ทุกคนไม่คิดว่าจะมีขึ้นก็มาถึง...เป็นเช้าของวันที่ฉันเห็นแม่ยิ้มได้หลังจากที่ไม่ได้เห็นแม่ยิ้มมาตั้งแต่คุณยายไม่สบาย แม่บอกว่า  “วันนี้แม่ดีใจจริงๆ...คุณยายทานข้าวได้มากกว่าทุกวันที่ผ่านมา... ” ยิ้มของแม่เต็มไปด้วยความหวัง....

 

                      แต่แล้ว...เป็นเรื่องยากที่ฉันจะเข้าใจและอธิบายได้.. สายของวันนั้น..คุณยายก็จากพวกเราไป...ทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้า..มีผู้คนมาเต็มบ้าน หลายคนร้องไห้...ส่วนฉันคงจะเด็กเกินไปไม่ได้รู้สึกอาลัยจนต้องร้องไห้รู้สึกแต่ว่าจะไม่มีคุณยายอีกแล้ว ...จำได้เพียงว่าวันนั้นแม่ให้ไปอยู่ที่บ้านคุณลุงซึ่งรั้วบ้านด้านข้างติดกัน ที่นั่นมีลูกๆคุณลุงเป็นเพื่อนเล่น

 

                       วันนั้นทั้งวันฉันขลุกเล่นอยู่กับญาติๆรุ่นเดียวกันที่บ้านคุณลุง พอตกเย็นความมืดสลัวเริ่มกรายเข้ามาฉันจึงรู้สึกอยากกลับบ้าน..

 

                       ฉันเดินเข้าประตูบ้านที่ห่างจากตัวบ้านเกือบร้อยเมตร ท่ามกลางความสลัวมีแสงไฟวอมแวมส่องมาไกลจากตัวบ้าน เดินผ่านแนวดอกไม้สองข้างทางไปเรื่อยๆ รู้สึกกลัวบรรยากาศสลัวเล็กน้อยตามประสาเด็ก และเมื่อถึงกอตะไคร้ที่ปลูกงามจนดูเป็นพุ่มใหญ่ตรงทางเลี้ยวก่อนถึงตัวบ้าน ฉันก็เห็นเงาตะคุ่มของใครคนหนึ่งก้มลงง่วนอยู่กับกอตระไคร้ พลันรู้สึกอุ่นใจเหมือนมีเพื่อน..คงมีใครสักคนมาเอาตระไคร้ไปปรุงอาหาร....และแล้วก็มีเสียงทักทายมาจากเงาตะคุ่มนั้น ….ยายอ่อนนั่นเอง...

 

                             “กลับมาแล้วเหรอหลานน้อย..เที่ยวทั้งวันเลยนะ...แม่รออยู่บนบ้านแน่ะ...”

 

                   คำทักทายหยอกเย้าแบบเดิมๆของยายอ่อน ทำให้ฉันใจชื้นคิดแต่ว่าแกคงหายจากอาการป่วยแล้ว และมาช่วยงานที่บ้าน ฉันเดินเข้าไปใกล้ตัวบ้านโดยไม่ได้ตอบอะไร  

 

                        พอขึ้นบันไดบ้านไปเห็นชาวบ้านหลายคนยังคงอยู่ช่วยงานที่บ้าน บ้างก็จัดดอกไม้ เพื่อพิธีการต่างๆบ้างก็สาละวนกับเรื่องเตรียมอาหารสำหรับเลี้ยงคนพรุ่งนี้ ระหว่างที่ฉันเดินผ่านกลุ่มชาวบ้านที่นั่งล้อมวงจัดดอกไม้อยู่นั้น ก็แว่วได้ยินเสียงน้าไสพูดกับเพื่อนในวงเดียวกันว่า

 

                          “ยายอ่อนแกคงจะรักคุณยายมากนะ...แกเลยตามไปด้วย...”

 

                 “นั่นน่ะสิ...ไปห่างกันไม่ถึงชั่วโมงเลยนะ... สงสัยคุณยายคงไปหาแกก่อน...”น้าแย้มสำนองต่อ

 

           ความเป็นเด็กทำให้ฉันยังงงกับเรื่องที่แว่วได้ยินมาจากวงจัดดอกไม้ คุณยายเสียแล้ว แต่ยายอ่อนไปไหนกับคุณยาย และเมื่อสักครู่ฉันยังเห็นยายอ่อนอยู่เลยแกทักฉันด้วย ฉันได้แต่เก็บความสงสัยไว้ตามประสาเด็กจนเข้านอน จึงได้ความกระจ่างจากแม่

 

                          “ยายอ่อนแกเสียแล้วลูก...หลังคุณยายไม่ถึงชั่วโมง..แกคงขึ้นไปอยู่บนสวรรค์กับคุณยายแล้วล่ะ”

                   "...!!!...?"

 

................................

 

                    

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 




Create Date : 15 มิถุนายน 2555
Last Update : 24 มิถุนายน 2555 19:21:01 น. 0 comments
Counter : 8211 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

SmileIce
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"คนฉลาดที่อยู่แต่ที่เก่า...ไม่เท่าคนโง่ที่เดินทาง.."
จากหลวงปู่หล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง


"การเปลี่ยนแปลง...ต้องนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า..."

New Comments
Friends' blogs
[Add SmileIce's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.