Group Blog
 
All blogs
 
Japan Trip 2014 Day6 Kiyomizu Ginkakuji Philosopher's path Nijo Fushimi Inari







2-Apr-2014



วันนี้ตื่นเช้าตามเคยเพราะโปรแกรมแน่นอีกแล้ว ตื่นเช้าเรานั่งรถบัสป้ายหน้าโรงแรม สาย 104 ไปลงวัดน้ำใส จริงๆแล้วก่อนลง 1 ป้าย ในรถเค้าประกาศว่าถ้าจะไปวัดให้ลงป้ายนี้แต่เราลงป้ายหน้า แล้วข้ามถนนเดินขึ้นเนินไปวัด ขึ้นไปพอสมควรแต่ร้านรวงข้างทางยังไม่เปิด ก็เดินไปเรื่อยๆจนมาถึง ที่นี่ปิดซ่อมหลาย นโซนเหมือนกัน ถ่ายรูปแล้วเดินกลับ ในวัดนี้เรารู้สึกเฉยๆ แต่ต้นซากุระสวยดี ถ่ายรูปเสร็จก็เดินลงเขาระหว่างเดินก็พยายามมองหาร้านอาหารเช้า



ใส่เต็มยศก่อนขึ้นรถบัส




ขึ้นมาแล้วครับ


ถึงแล้วข้ามถนนแล้วก็เดินขึ้นเนิน


ย่าหลานเดินคู่กัน


ถ่ายข้างทางมาเรื่อยๆ




ไกลเหมือนกันนะ




เช้าเกินยังไม่เปิด












เกือบถึงแล้ว


ในที่สุดก็ถึง














ซากุระ นางแบบ หรือกระเป๋าใครงามกว่ากัน


เดินมาเรื่อยๆ



ซื้อตั๋วก่อน


เข้าไปถ่ายรูปกันครับ




































นั่งพักแป๊บ




ตามธรรมเนียม






เดินต่อไป






โรงเตี๊ยม




ช่างกล้องสุดฮิป




ด้านล่างซากุระสวยๆเต็มไปหมด















เดินลงเนินหาอาหารเช้า













จนใกล้ทางออกก็เจอร้าน Oggy เป็นร้านแต่งอารมณ์โบราณ โต๊ะไม้ที่เรานั่งอายุเป็น 100 ปี มีนาฬิกา เครื่องคิดเงิน เพลงเก่าๆเปิดเคล้าไป คุณลุงคุณป้าทำกันสองคน น้องทัณฑ์หม่ำข้าวผัด ม๊ากับคุณย่าสั่งข้าวผัดเครื่องแกงกะหรี่ ส่วนป๊ากับลุงแซนด์วิช แป้งที่นี่นวดผสมแป้งเปียกให้ความนุ่มมาก หม่ำกันเสร็จเราก็ออกเดินทางต่อ



เครื่องคิดเงิน



สั่งอาหาร



รออาหาร





มันตายไปนานแล้ว



โต๊ะไม้เก่าๆ



เรื่องราวของร้าน



ได้พัดมาใหม่





บรรยากาศร้าน









คุณป้าโชว์ 2 กะทะ 1 เตา



ในที่สุดก็มา น่ากินมาก



กินเสร็จคุณลุงให้คิดเงินเอง






หม่ำกันเสร็จเราก็ออกเดินทางต่อ เดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามขึ้นรถบัสสาย 100 ไปวัดเงินกัน เดินมาเจอซากุระตรงถนนนักปราญช์เต็มไปหมด ระหว่างทางขึ้นก็มีขนมขายป๊าเสร็จมันทอดเสียบไม้ น้องทัณฑ์กับม๊ากินไอติมกัน เดินมานิดนึงก่อนถึงทางเข้าวัดก็เสร็จชูครีมรสซากุระอร่อยมาก แต่มันจะเยิ้มกินไปก็เปื้อนไป ตอนแรกนึกว่าวัดนี้จะไม่ค่อยมีอะไร แต่จริงๆแล้ววัดนี้ให้ความรู้สึกสงบกว่าวัดทอง มีป่าไผ่ น้ำตก หญ้ามอสเต็มไปหมด สวยมาก


เดินจากร้านนิดนึงก็เห็นถนนใหญ่แล้ว



ข้ามถนนมารอรถเมล์



ถึงแล้ว



ซากุระเต็มไปหมด





ถ่ายป้ายก่อน







ทางเดินริมคลองอันเลื่องชื่อ



มันทอดแปลกดี







แม่ลูกหม่ำไอติม



ชูครีม







ป้ายหน้าวัด



เข้ามาข้างใน

























































เดินเสร็จแล้วเดินลงมาทางถนนนักปราญช์ สวยจริงๆคนกำลังดีไม่เยอะไป ระหว่างทางเป็นบ้านคน เป็นร้านเล็กๆ เดินจนมาสุดน้องทัณฑ์ปวดฉี่ ป๊ากับน้องทัณฑ์เลยเดินย้อนมาซื้อกาแฟ เพื่อขอเข้าห้องน้ำ เสร็จแล้วเราเดินลงไปด้านล่างเพื่อหาป้ายรถเมล์ ระหว่างรอที่ป้ายก็วางแผนกันใหม่ ตอนแรกจะนั่งรถเมล์ไปเลย แต่ตอนหลังเปลี่ยนใจนั่งลงสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด higashiyama เพื่อนั่งรถไฟใต้ดินไปสถานีนิโจ


เริ่มเดินจากต้นคลอง

































































เปลี่ยนมาดูสีเหลืองบ้าง



ซากุระเยอะจริงๆ



คู่รักแบบในการ์ตูนญี่ปุ่น



แล้วก็เดินต่อ











ระหว่างทางก็ช้อปปิ้งบ้าง



อั้ยย่ะมีเด็กได้ถ่ายคู่สาวด้วย











แล้วเราก็เดินต่อไป




















ซื้อกาแฟและขอคุณลุงเข้าห้องน้ำ






เดินออกซอยเล็กๆมาด้านล่าง



เจอสุสานด้วย



ต้นไม้ริมรั้ว



ลงรถเมล์มาลงตรงป้าย Higashiyama เพื่อขึ้นสถานีรถไฟใต้ดิน



เจอร้านข้างทางขายสตอเบอร์รี่ด้วย ลูกใหญ่อร่อยมาก หม่ำเสร็จเดินไปสถานีแล้วขึ้นรถไฟไปสถานีนิโจ




จากสถานีเดินไปนิดนึงก็ถึงปราสาทแล้ว ปราสาทใหญ่โตมากเลย ทัวร์จีนมากันเพียบ เราเดินเข้าไปข้างในปราสาทถึงโซนที่เหยียบไม้เป็นเสียงนกไนติเกล ทำให้นึกถึงเรื่อง Otaru เสร็จจากในปราสาทก็เดินชมสวน จนน้องทัณฑ์กับคุณย่าเริ่มหมดแรงและปวดเท้า


ออกจากสถานีใต้ดินก็เห็นรั้วแล้ว





ด้านหน้าทางเข้าปราสาท









เข้าไปด้านในกัน





































































ออกจากปราสาท ถึงสถานีเกียวโตคุณลุงไปหาซื้อรองเท้ากับคุณย่า ส่วนเราซื้อซูชิปลาซาบะกับขนมแล้วนั่งรถไฟใต้ดินไปโผล่สถานี kujo ออกมาข้างๆโรงแรม ถึงโรงแรมไปสอบถามว่ามีเมล์มาไหม เค้าบอกว่ามาถึงแล้วค่าส่ง 700 เยน ค่อยโล่งใจหน่อย เดินถึงห้องก็มีจดหมายน้อยเสียบอยู่หน้าห้องว่ามีจดหมายมา ถือว่าบริการดีมากเลยครับ



ในซองนี้มี JR Pass อยู่



ซูชิซาบะ



น้องทัณฑ์รับรองว่าอร่อย



ส่วนป๊าก็ต้องของหวานๆ






พักกันประมาณชั่วโมง ชวนคุณลุงกับคุณย่าไปศาลเจ้าจิ้งจอก นั่งรถไฟใต้ดินไปลงเกียวโต ใช้ Jr Pass ลงสถานี inari ตอนขึ้นขบวนดันขึ้นแบบ rapid ข้ามไปสามสถานี เลยต้องลงและขึ้นแบบ Local แทน มาถึงก็เริ่มมืดแล้ว ถ่ายรูปเดินขึ้นไปถึงเสาพันต้น แล้วก็กลับไปลงสถานีเกียวโต ออกจากสถานีนั่งแท๊กซี่ไปลง Aeon Mall เราไปหาซื้อกระเป๋าใส่ของเพิ่ม แต่ม๊าก็ได้กระเป๋ามาอีกใบ คุณย่าก็ได้รองเท้า ช้อปเสร็จนั่งแท๊กซี่กลับไปโรงแรมกันก็หมดโปรแกรมเท่านี้


เริ่มจะมืดแล้ว



ขึ้นผิดขบวนต้องนั่งรถกลับ



มาถึงแล้ว ลมแรงมาก








































กลับมาโรงแรมก็เตรียมแพ็คกระเป๋าด้วยความหนักใจว่า แม้จะซื้อมาใหม่แต่ก็ยังยัดลำบาก เป็นวันที่เหนื่อยและสนุกอีกวัน




Create Date : 13 เมษายน 2557
Last Update : 28 ธันวาคม 2559 9:06:49 น. 1 comments
Counter : 1455 Pageviews.

 
กำลังคิดว่าที่หลงขบวนรถไฟอาจเป็นเรื่องดีก็ได้ ดูสีท้องฟ้าซิ สวยมากๆเลย ตัดกับเสาโทริอิสีแดงส้ม แถมได้บรรยากาศวังเวง 😖
วันนี้จริงๆเดินเยอะมาก ทั้งขึ้นเนิน ลงเนิน เดินในวัด เดินในวัง เดินในศาลเจ้า แต่ด้วยความสวยของดอกไม้และทิวทัศน์ ทำให้เพลินไปได้เรื่อย คุณย่าผู้ซึ่งอดทนมาตลอดถึงกับเอ่ยปากว่ากระดูกป่นหมดแล้ว คราวหน้าขอมากับทัวร์นะ!


โดย: Panrawee IP: 183.89.51.54 วันที่: 13 เมษายน 2557 เวลา:22:23:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tiara
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 399 คน [?]




blog นี้ตั้งใจทำขึ้นเพราะต้องการให้ความรู้เรื่องการทำขนมอบเป็นวิทยาทานแก่คนทั่วไป ส่วนเรื่องลูกเป็นพื้นที่สำหรับเก็บบันทึกไว้ให้เกาทัณฑ์ และจะมีโฆษณางานเขียนของ tiara อีกเล็กน้อย หากสิ่งใดเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ก็ยินดีที่จะแบ่งปันค่ะ

ปล. tiara ไม่ได้เปิดสอนคลาสชงกาแฟสดและทำเบเกอรี่แต่อย่างใด ความรู้มีอยู่ใน blog สามารถเรียนฟรีได้เลยค่ะ ^^
ผลงานของ tiara

...เรื่องยาว...

...เรื่องสั้น...

"จอมยุทธ์ผู้ตามหาหงส์ขาว"
"Don't read my mind!"
"ลิลลี่สีขาวกับสาวน้อยของผม"
"หนุ่มรับเหมากับสาวแบรนด์เนม"
New Comments
Friends' blogs
[Add tiara's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.