หลังจากที่ไปปายกันมาซะสองวัน หลังจากเดินทางออกจากปาย ก้อตรงดิ่งมาเชียงใหม่ ตอนแรกตั้งใจจะนอนค้างที่รีสอร์ทแถวๆ แม่ริม สะเมิง แต่ถุงเห็นรถขับขึ้นไปกันเยอะมาก เลยเปลี่ยนแผน มานอนค้างที่หางดง สะเมิงดีกว่า เพราะที่นั่นถุงไปเป็นประจำ แต่ไม่ได้แพลนไว้ว่าจะพักที่ไหน เริ่มแรกเลยก้อนู่นเลย กฤษดาดอยรีสอร์ท น้องเขยบอกไม่เคยมาพักที่นี่ก็อยากมาพัก แต่คิดอยู่แล้วว่าคงเต็มเมื่อไปถึง ก็เต็มจริงๆ ก็เลยตระเวณหาที่พักแถวๆ บริเวณนั้น ไม่ได้สักที่ สรุปว่ามาได้ที่เดิม ที่เคยมาพักกันประจำ ไม่ใช่ที่ไหนไกลหรอกค่ะ ก็ อุทยานล้านนา รีสอร์ท ค่ะ อยู่ในหุบเขาเลย ที่นี่ถ้ามาจากทางแยกหางดงเชียงใหม่จะขึ้นไปกฤษดาดอยรีสอร์ท ก็จะถึงอุทยานล้านนารีสอร์ทก่อนใครเพื่อนเลย ถ้าไม่สังเกตุดีดีก็จะไม่รู้เลยว่าที่ตรงนี้มีรีสอร์ทกับเค้าด้วย เพราะรีสอร์ทนี้อยู่ในหุบเขาเลยล่ะค่ะ รู้สึกว่าละครเรื่องดาหลา (มั้ง) จะเคยมาถ่ายทำที่นี่ด้วย หลังจากได้ที่พักเป็นบ้านเป็นหลังแต่มีสองห้องแล้วก็ตามอัทธยาศัยค่ะ อ้อ ลืมบอกไปว่า ที่พักที่นี่ราคา หลังละ พันแปดร้อยบาทค่ะ จัดว่าแพงไปนิดนึงสำหรับช่วงเทศกาลนะ เมื่อสองปีที่แล้วถุงมาพักช่วงเทศกาลเหมือนกัน มากันเป็นคาราวานเลย ยังแค่หลังละพันสองอยู่เล้ย ไม่กี่ปีเอง พันแปดแระ เฮ้อ อะไรก้อแพงเนาะ สรุปสองหลังก้อสามพันหก

บรรยากาศที่นี่เงียบ สงบดีค่ะ อากาศก็เย็นกว่าที่ปายมากๆ เลย ช่วงเย็นเด็กๆ ก็วิ่งเล่นกันที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ปีนี้ดอกไม้ไม่ค่อยมีไม่เหมือนที่มาคราวที่แล้วแต่ไม่เป็นไร ไม่เน้น ช่วงเย็นๆ น้องเขยเอาเต๊นท์มากาง เห็นว่าอยากจะนอนดูดาว ก็ปล่อยให้กาง พอค่ำๆ หน่อยก็สั่งอาหารมาทานกันที่บ้าน โทรฯไปสั่งค่ะ แต่ชาร์ตค่าส่งยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของราคาอาหาร เอ้า เอาเข้าไป แต่ก็ไม่เป็นไร ช่วงกอบโกยของเค้า เรายินดีจ่ายอยู่แล้น หลังจากเด็กๆ ทานอาหารเย็นกัน ถุงก็เป็นวิสกี้อีกตามเคยค่ะ ก็นั่งทานที่ระเบียงบ้านนั่นแหละ แต่ทานได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องมูฟเข้าไปทานในบ้าน เพราะข้างนอกมืด และอากาศหนาวม๊ากกกกขอบอก หนาวจิงๆ ส่วนเด็กๆ ก็โน้ตบุคคนละตัว เล่นกันไปตามสบาย ที่นี่มี WR ไว้บริการด้วย ครึ่งชั่วโมง ห้าสิบบาท ค่ะ เลยบอกไม่ดีกว่า เพราะไม่คุ้ม คืนนั้นก็นอนหลับกันสบายค่ะ


ตื่นเช้ามาของอีกวัน อากาศหนาวเย็นม๊ากกกกกก คงเป็นเพราะว่าอยู่ในหุบเขานิ ตอนเช้ามาเด็กๆ ไปทานอาหารเช้ากันกว่าจะเดินกลับมาที่พักก็ปาไปเก้าโมงกว่า เก็บของ เก็บเต็นท์เสร็จก็ปาไปสิบโมงแล้ว เชื่อมะ ที่นี่สิบโมงยังอากาศหนาวเย็นอยู่เล้ย หลังจากเช็คเอ้าท์กันเรียบร้อย ก็พากันไปเดินเล่นที่กฤษดาดอยรีสอร์ท ที่นี่ไม่ผิดหวังเรื่องความสวยงาม ของการจัดสถานที่ และดอกไม้ค่ะ ใครมาที่นี่ถุงรับประกันได้ในความสวยและความประทับใจ ส่วนจะประทับใจแค่นี้ดูที่รูปกันเลยดีกว่าค่ะ

วันนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องของปาย ปาย เหมือนเดิม อย่างที่เคยบอกไว้แต่แรกว่ารูปเยอะมากค่ะ ปายทิปนี้เป็นเรื่องของเด็กๆ แทบทั้งนั้น จริงๆ แล้ววันแรกเมื่อไปถึงเรากะไปเดินกันที่ถนนคนเดิน มีของขายเยอะมาก แต่ของแต่ละอย่างก็เหมือนๆ กันแทบทุกร้าน ที่ถุงถ่ายรูปมาก็มีไม่เท่าไหร่ จะถ่ายก็แต่ร้านที่มัน คึ คึ อย่างเช่นร้านควายเมิน หุหุ จริงๆ แล้วเค้าเก็บเงินค่าถ่ายรูปด้วยนะ ถึงแม้จะเป็นกล้องของเราก้อเหอะ แต่ถุงมะให้อ่ะ เจ้าของร้านมองหน้าเลย ช่างปะไร คนสวยก็ต้องมีคนมองนิ ฮิฮิ ส่วนอีกวันที่เด็กๆ เล่นชิงช้า ก็คือหมู่บ้านยูนนาน เค้าบอกว่าที่นี่ขาหมูยูนนานอร่อย แต่มะได้ทานหรอก กลับมาทานส้มตำหน้าอำภอดีกว่า ค่ะ ดูรูปเลยละกาน เพราะเยอะม๊าก

หวัดดีปีใหม่ที่รักที่คิดถึงทุกคนจ้า
ปีใหม่ที่เพิ่งผ่านมาได้สองสามวัน ยังคงมีกลิ่นอายของการเฉลิมฉลองปีใหม่กัน หวังว่าคงจะมีความสุขกันทุกคนเน้ ยังไงก็แล้วแต่ถุงก็ขออวยพรให้ทุกคนมีแต่ความสุขนะคะ

และก็กลับมาแล้วสำหรับทัวร์ปาย เราเดินทางกันไปหลายคน มีถุง คุณยาย น้องสาว น้องเขย และเด็กๆ F4 คือ ฟ้า ฟรอยด์ การ์ฟิล์ด โฟร์วิลล์ และที่ขาดไม่ได้คือ ข้าวปุ้น อิอิ ส่วนเส้นทางที่เราใช้ในการเดินทางก็คือ เส้นถนนแม่ริม แม่มาลัย เส้นที่ 1095 เน้ และน้องอ้วนดำก็พาเราไปถึงเมืองปายช่วงบ่ายๆ วันจันทร์ที่ 28 ค่ะ ช่วงวันเดินทางไปปายก็มีรถขับสวนมาจากเมืองปายมากมาย บางคนอาจจะลางานก่อนเพื่อจะได้ไปพักผ่อนและสูดบรรยากาศที่ปายได้เต็มที่ ถุงคิดงั้นนะ เมื่อไปถึงปาย เราจองที่พักเป็นแบบเต๊นท์ไว้ที่ เพื่อนปายรีสอร์ท อยู่ใกล้ๆกับ คอฟฟี่อินเลิฟ เลย พอไปถึงบังเอิญว่าห้องพักว่างก็เลยขอเปลี่ยนเป็นห้องพักจะดีกว่า ห้องนึงก็ตกราวๆ พันสี่ร้อยบาท ราคาก็จัดว่าไม่แพงสำหรับในช่วงเทศกาลแบบนี้

วันที่สองกะตื่นมาเช้าหน่อยนึงขับรถพาเด็กๆไปถ่ายรูปกันที่คอฟฟี่อินเลิฟ หูยยยยย พี่น้องเอ้ย นี่ขนาดมาหกโมงเช้านะ คนล้านแสนแปด มาถ่ายรูปกันที่จอดรถกะไม่มีถุงเลยต้องเสี่ยจอดมันซ้อนคันข้างถนนนี่แหละ(วะ) กะถ่ายรูปให้เด็กๆ ก้อกลับมาที่พักทำธุระส่วนตัวเสร็จกะเช็คเอ้าท์ออกแระกะพาเด็กๆ ไปที่หมู่บ้านยูนนาน แล้วกลับมาทานส้มตำที่หน้าอำเภอ อืมม์ที่นี่ก้อคนเยอะม๊ากกกกกกกกกกก หาที่จอดรถกะยาก ที่ไม่ประทับใจมากๆ ก็คือ ถุงกำลังจะจอดรถเพื่อจะแวะทานส้มตำที่หน้าอำเภอ ระหว่างที่จะจอดก็กำลังตั้งลำรถเพื่อที่มันจะได้จอดได้ชิดๆ ถนน แต่แล้วระหว่างนั้นกะมีรถแมงกะไซต์โผล่มาจากไหนกะมะรู้มันมาจอดตัดหน้าแล้วทำหน้าทำเป็นมะรุมะชิ ดูมันดิ ตรูกำลังตั้งลำอยู่นะเว้ย นี่หรือที่เค้าว่า คนที่นี่มีน้ำจาย หุหุ ช่างมันเต๊อะ หาที่จอดใหม่กะได้ฟะ แต่ส้มตำหน้าอำเภออร่อยถูกปากจริงๆ อร่อยมากๆ เลยค่ะ ถ้าใครไปแล้วต้องแวะทานดูนะคะ อร่อยจิงๆ กลังจากนั้นก็เดินทางกลับไปค้างที่เชียงใหม่ต่อค่ะ แล้วจะกลับมาเล่าต่อว่าบรรยากาศที่เชียงใหม่เป็นอย่างไร สรุปว่าทัวร์เมืองปายที่ใครๆ ก็ประทับใจ แต่สำหรับถุง ถุงว่าไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะเราไปกันในช่วงเทศกาลพอดีนิ ผู้คนเลยเยอะทุกอย่างแย่งกันกิน แย่งกันซื้อ แย่งกันถ่ายรูป ดูรูปเองเต๊อะว่ามันวุ่นวายแค่หนาย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ