++ Positive Speaking ++

Positioning <ภาคจ๋องงง> : ผู้นำก็มิได้สำคัญไปกว่าผู้ตามนะสิบอกให่




Positioning <ภาคจ๋องงง>

: ผู้นำก็มิได้สำคัญไปกว่าผู้ตามนะสิบอกให่



หลังจากพล่ามแพล่มไปกะเรื่อง positioning ภาคแรก << คลิ๊ก ไปเมื่อวันตะก่อนโน้น วันนี้องค์ลงประทับ เลยมาปั่นตอนต่อ โดยยังอยู่หน้าแรกๆของหนังสือเดิม คือ POSITIONING : The Battle for Your Mind หรือชื่อตามภาษาถิ่นว่า กลยุทธ์การสร้างภาพพจน์

กลยุทธ์การสร้างภาพพจน์
ผู้แต่ง : Al Ries & Jack Trout
ผู้แปล : ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บซีเอ็ด

----------------------------------------------


จากความเดิมตอนที่แล้ว เรารู้กันแล้วว่า

การทำอะไรได้เป็นคนแรก ไม่สำคัญเท่ากับ

การเข้าไปอยู่ในใจผู้คน ได้เป็นคนแรก


ผู้ที่ได้เข้าไปอยู่ในใจผู้คนได้เป็นคนแรก จึงมักจะได้เป็นผู้นำตลาด
และเนื่องจากการ position คือการวางตำแหน่ง ซึ่งนั่นหมายถึงจะต้องมีจุดอ้างอิง

ในกรณีที่มีผู้นำตลาดที่เค้าแข็งอยู่แล้ว ก็ย่อมเป็นจุดอ้างอิงที่ดี
คนอื่นๆจะวางตำแหน่งของตัวเอง หรือจะวางภาพพจน์ตัวเองอย่างไร
ผมมีเคสในใจ ดวงน้อยๆ มาฝากครับ

ในยุคหนึ่ง เอวิส บริษัทรถเช่าที่บ้านเราคุ้นเคยดี ขาดทุนติดต่อกันเป็นปีที่ 13
ไม่ว่าจะพยายามโฆษณาว่าตัวเองบริการดีเลิศประเสริฐศรีอย่างไร คนมะกันก็ไม่ยอมปันใจไปจาก เฮิรตซ์ ซึ่งเป็นเจ้าตลาดอยู่
ช่วงนั้น เฮิรตซ์ถึงกะใช้โฆษณาว่า
บริษัทรถเช่า จะมีก็แต่เฮิรตซ์ กะไม่ใช่เฮิรตซ์
(เห็นมะ อันนี้ก็ position โดยอ้างอิงตัวเอง เทียบกับพวกกระจ๊อกอื่นๆ)

ถ้าผมเป็นเอวิส ผมก็คงวนเวียนคิดจนหัวระเบิด เพื่อจะหามุมที่จะโม้ให้ได้ว่า เราก็ไม่ได้เป็นอันดับสอง รองน้ำใต้ศอกใครนะเฟ้ย
แต่เป็นโชคดีของเอวิสครับ ที่เค้าไม่คิดแบบผม ฮ่าๆ
สิ่งที่เอวิสทำ คือประกาศ โป๊ด-สิ-ชั่น ตัวเองไปเลยว่า

AVIS is only No.2

So why go with us?


มีแต่คนพยายามบอกว่าตัวเองดียังงัย เป็นอันดับหนึ่งยังงัย นี่เล่นวางตัวเองเลยว่าเป็นอันดับสอง
งง และดึงความสนใจไปตั้งแต่เฮดเลยสิครับงานนี้
เค้าขยายความอย่างนี้ครับ

เนื่องจากเราเป็นอันดับสอง เพราะฉะนั้นยังงัยซะ เราก็จะต้องบริการคุณอย่างสุดความสามารถที่สุด ยิ่งกว่าใครๆ เพื่อให้คุณยอมรับเรา

สิ่งนี้ได้ผลครับ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เค้าก็โฆษณาซะปากฉีกอยู่แล้วว่า ตัวเองบริการดีกว่าคนอื่น บริการเป็นอันดับหนึ่งจริงๆนะ เชื่อเหอะๆ พลี้สๆ
แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ..
ทว่า เพียงแค่ย้ำกะชาวโลกให้ชัดๆ ว่าชั้นเป็นอันดับสอง
ทุกคนกลับเห็นภาพทันทีว่า ที่เอวิส คุณจะได้รับบริการที่ดีกว่า
หลังโฆษณานี้ ปีแรกเอวิสทำกำไรได้ทันที 1.2ล้านเหรียญ (มูลค่าสมัยมะโว้)
ปีถัดมา 2.6 และปีที่สาม 5 ล้านเหรียญครับ

----------------------------------------------


นอกจากนี้ ยังมีเคสคลาสสิคของเซเว่นอัพ ในปี 2511 (ผมยังไม่เกิดเรย คลาสสิคเจรงๆ )
ถ้าคุณจะทำแคมเปญให้ เซเว่นอัพ ที่มีคู่แข่งคือ สไปร์ท อยู่ คุณจะทำอย่างไรครับ

ติ๊กต่อก

ในตลาดน้ำอัดลมตอนนั้น น้ำดำ(โค้ก กะเป๊ปซี่) มีส่วนแบ่งอยู่ 2 ใน 3 ครับ
ที่เหลืออีก 1 ใน 3 เป็นสารพัดน้ำอัดลมที่เหลือรวมๆกัน

ที่นี้พ่อเซเว่นอัพแกทำเปรี้ยว
คือแทนที่จะอ้างอิงกะคู่แข่งในตลาดของตัวเอง อย่างสไปร์ท
กลับไปอ้างอิงกะยักษ์ใหญ่ ผู้น้ำในตลาดน้ำอัดลมทั้งหมด คือโค้ก
โดยเปิดแคมเปญว่า

เซเว่นอัพ ไม่ใช่โคล่า


เชื่อหรือไม่ ยอดเซเว่นอัพในปีนั้น เพิ่มจาก 87.7ล้าน เป็น 190ล้านเหรียญ .. โอ้วหม่ายกู้ดดดดดดส์ส์ส์ส์

------------------------------------------------------------------
* ตอนนี้มีพล็อทภาคต่ออยู่ในหัวอีก 2 ตอน 2 หัวข้อ จาก 2 เล่มหนังสือนะครับ ถ้าองค์ลงประทับอีกเมื่อไหร่ คงเบ่งปู้ดๆออกมาได้เร็ววัน

(c)2007 positive speaking by หมีเซอะ




 

Create Date : 08 กันยายน 2550    
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2550 18:12:13 น.
Counter : 1635 Pageviews.  

เดอะ PIONEER : คนแรกของโลก สำมะคันจริงหรือ


เดอะ PIONEER : คนแรกของโลก สำมะคันจริงหรือ

จากประสบการณ์ผู้บุกเบิกแบบหมีๆ์

วันนี้ได้มีโอกาสค้นดูหนังสือเล่มเก่าๆ เจอะหนังสือชื่อ POSITIONING : The Battle for Your Mind มีการออกแบบปกและตั้งชื่อภาษาไทยได้เร้าใจ พอๆกะสาวอกกระดานว่า กลยุทธ์การสร้างภาพพจน์
ซึ่งในโลกกะลาของผม หนังสือเล่มนี้ ถูกยกให้เป็นหนังสือขึ้นหิ้งเล่มนึงเลยครับ
(อย่างน้อยก็ดีพอที่จะสอนเราให้ ไม่มองอะไรเพียงรูปร่างภายนอก - เหมือนกันกะอย่าตัดสินคนด้วยขนาดหน้าอกนั่นแหละ - ฮ่า)


กลยุทธ์การสร้างภาพพจน์
ผู้แต่ง : Al Ries & Jack Trout
ผู้แปล : ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บซีเอ็ด

----------------------------------------------

เมื่อตอนเป็นกบหนุ่ม ผมเชื่อว่า การได้ทำอะไรเป็นคนแรก จะทำให้เราเป็นที่จดจำได้ง่าย
(แต่ถ้าดูจากกระทู้บางแห่ง ที่มักจะมีคนโพสแบบ "เย้..คนแรก" จะเห็นได้ว่าไม่เป็นความจริง :P)

เข้าเรื่อง..
หลายคนรู้ว่าคนแรกที่ทำให้มนุษย์บินได้คือ พี่น้องตระกูลไรท์
แต่ไม่มีใครเลยที่รู้ว่าคนที่ทำได้คนที่สองคือใคร
เช่นเดียวกับที่ หลายคนรู้ว่าคนแรกที่ค้นพบทวีปอเมริกาคือ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
แต่ไม่มีใครอีกนั่นแหละ ที่รู้ว่าคนที่ค้นพบอเมริกาคนที่สองคือใคร

ถ้าไม่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก จะเข้าเป็นที่เท่าไหร่ก็ล้มเหลวเท่ากัน

ผมเป็นคนโชคดี ที่ได้มีโอกาสคลุกคลีอยู่กับองค์กรที่ทำอะไรได้เป็นคนแรก(หรือแรกๆ) ทั้งในระดับประเทศ และระดับโลก (คนไทยนี่แหละ)
ซึ่งแน่นอนว่าเส้นทางของการทำอะไรใหม่ๆขึ้นมาเป็นคนแรกนั้น นอกจากไม่ได้มีพรมแดงปูทางแล้ว อุปสรรคขวากหนามยังมากมายยิ่งกว่าน้องๆนักล่าฝันซะอีก (แถมยังไม่มีแฟนคลับมาคอยเชียร์ด้วย..ฮึ่ม!)
และมีบ้างบางครั้ง บางโปรเจค ที่การเป็นที่หนึ่งไม่มีความหมาย เพราะสิ่งที่พัฒนานั้น ถูกคนที่ตามมาข้างหลัง นำไปต่อยอดทำกำไรกันพุงปลิ้น อย่าว่าแต่จดจำเลย เพราะบางครั้งต้องเรียกว่าไม่มีใครรู้จักคนทำคนแรกซะด้วยซ้ำไป

คนแรกในโลกจริง หรือ คนแรกในโลกแห่งภาพพจน์

เรารู้หรือไม่ว่าความจริงแล้ว IBM ไม่ใช่บริษัทแรกที่คิดค้นคอมพิวเตอร์ !
แท้จริงแล้วบริษัทแรกที่คิดค้นคอมพิวเตอร์สำเร็จคือ บ.สเปอร์รี่แรนด์ (Sperry Rand) ซึ่งการที่คิดค้นคอมพิวเตอร์ได้สำเร็จเป็นเจ้าแรก ทำให้บริษัทมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุเปียก ในขณะที่ IBM ซึ่งมาทีหลัง ใช้การสร้างภาพพจน์ เป่ากระหม่อมชาวบ้านชาวช่อง จนได้เป็นสุดยอดนักล่าฝัน เอาตำแหน่งบริษัทแรกที่คิดค้นเครื่องคอมพิวเตอร์ไปครอง

อีกตัวอย่างที่หลายคนอาจเคยสงสัยตอนเด็กๆ เมื่อเรียนวิชาสังคมในชั้นประถม นั่นคือ โคลัมบัส ค้นพบทวีปอเมริกาทั้งทวีป แต่ทำไมมีชื่อเป็นแค่ชื่อประเทศโคลัมเบีย เท่านั้นเอง

สิ่ิงที่ทำให้โคลัมบัสต่างไปจากนีล อาร์มสตรอง หรือสองพี่น้องตระกูลไรท์ ก็คือ การรับรู้ในวงกว้าง
หลังจากค้นพบทวีปอเมริกา มิสเตอร์โคลัมบัสก็เอาแต่ตะบี้ตะบันค้นหาสำรวจตรวจตราทวีปใหม่ไม่หยุดหย่อน
ในขณะที่มิสเตอร์ อเมริโก เวสปุกชี มาถึงทวีปนี้หลังตั้ง 5 ปี แต่เค้ากลับทำสิ่งสำคัญ2อย่างคือ

  • ทำการบันทึก การค้นพบอย่างละเอียด - ซึ่งภายหลังมีการตีพิมพ์ถึง 40ภาษา
  • ทำการประกาศความสำเร็จ เขาบอกให้โลกรู้ว่า เขาพบว่าทวีปใหม่เป็นทวีปอิสระ ไม่ติดกะทวีปเอเชีย

เรื่องทวีปใหม่ โคลัมบัสรู้มาตั้ง 5ปีแล้ว .. แต่ก็แล้วไง
บทสรุปของนิทานเรื่องนี้ ผมขอโคดมาคำต่อคำจากหนังสือเลยแล้วกัน

ก่อนเขาเสียชีวิต รัฐบาลสเปนได้ปูนบำเหน็ดและแต่งตั้งขั้นสูงให้เขาโดยสาเหตุ 2ประการดังกล่าว
ชาวยุโรปจึงให้เกียรติอเมริโก เวปุกชี ว่าเป็นผู้ค้นพบทวีปอเมริกา และตั้งชื่อทวีปตามชื่อของเขา
ในช่วงเวลาเดียวกัน คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ได้เสียชีวิตในคุก


การทำอะไรได้เป็นคนแรก ไม่สำคัญเท่ากับ

การเข้าไปอยู่ในใจผู้คน ได้เป็นคนแรก


(c)2007 positive speaking by หมีเซอะ

เทส เทส เทส




 

Create Date : 13 สิงหาคม 2550    
Last Update : 8 กันยายน 2550 10:39:58 น.
Counter : 1343 Pageviews.  

คุณพ่อปากจัด กะ แอ๊บแบ๊ว (และความหน่อมแน้มเรื่องหลักการใช้ภาษาไทย)



1.คุณพ่อปากจัด



ช่วงนี้มีคนมาให้ผมเล่นบทเป็นที่ปรึกษาบ่อยจนรู้สึก แก่เกินอายุ ยังงัยพิกล (โปรดเชื่อโดยไม่ต้องมีเหตุผล )
หน้าที่ที่ต้องทำก็คือ..ไม่ต้องทำอะไร นอกจากฟังๆๆ แล้วอาจตั้งคำถามกลับบ้าง
ถามไปตอบมา ไม่ทันจะให้คำปรึกษาอะไร
มันก็ดันสบายใจกันไปซะหมด .. ซะงั้น

สรุปว่า
ตอนนี้ขาดแค่ฉากกั้น กะป้ายเซเว่น
ก็สามารถเปิดห้องสารภาพบาป24ชม.ได้แว้ววว ..



ด้วยจรรยาบรรณของที่ปรึกษาที่ดี ปกติแล้วไม่ควรเอาเรื่องเหล่านั้นมาเม้าท์ต่อ
และแม้ผมจะอวบอ้วนไปด้วยจรรยาบรรณ
แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยปกติ .. จึงไม่แปลกที่จะเม้าท์เรื่องนี้ครับ

---------------------------------

เรื่องนี้เป็นเรื่องของเพื่อนในเอ็มคนหนึ่ง ชื่อน้องจี

เธอมาบ่นว่าอยากเรียนทำอาหาร แต่กังวลว่าคุณป๊ะป๋าจะไม่ชอบ
ด้วยเหตุผลว่าไม่มีประโยชน์ และทำให้ต้องกลับบ้านดึก

ไม่รู้ว่าพูดกันอีท่าไหน เพราะผมไม่ขอให้เธอเล่า
คาดว่าเสียงคุณพ่อคงจะฟังระรื่นหูน้องจีมาก ซะจนอยากให้ยอดคุณพ่อส่ง sms ให้แทน .. (เหมือนในโฆษณา..มั้ง)


แต่เธอย้อนอดีตให้ผมฟังตอนหนึ่งว่า ยอดคุณพ่อเคยชมเธอเรื่องการแต่งตัวครับ

บางส่วนจากบทสนทนาในเอ็ม ซึ่งใส่ไข่ (ไม่ผักกระเทียมเจียว) แล้ว
น้องจี : ก็แต่งตัวไปเที่ยวปกตินะ
บราเท่อหมี : อื่อ ฮึ
น้องจี : ไม่เคยใส่สายเดี่ยว
บราเท่อหมี : (พยักหน้า หงึก..หงึก)
น้องจี : แต่พ่อเคยด่าว่า
บราเท่อหมี : (หงึก..หงึก..หงึก)
น้องจี : ผู้หญิงกลางคืนบางคนยังไม่แต่งตัวแบบนี้เลย


อุ๊ยย.. คุณพ่อรู้จักผู้หญิงกลางคืนด้วยแฮะ .. เจ๊ยยย ม่ายช่ายยยย ..

ถึงตรงนี้ ผมอยากถามคุณผู้อ่าน แบบเดียวกะที่ถามคุณน้องจีกลับไปว่า

มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง กับคำชมจากคุณพ่อคำนี้ครับ?


...


2. แอ๊บแบ๊ว



จากกรณีเรื่องแอ๊บแบ๊ว แอ๊บบ๊องส์ ที่กวนใจผู้อนุรักษ์ภาษาทั้งหลาย
ผมเห็นด้วยกะ อาจารย์เนาวรัตน์ พงศ์ไพบูลย์ คับ
ท่านว่าภาษามีวิวัฒนาการได้

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คำศัพท์ แต่อยู่ที่เราอ่านหนังสือน้อยลง
ทำให้ได้พบเห็นตัวอย่าง แบบอย่างที่ดีๆ น้อยลงต่างหาก



ดังที่ว่ารักแท้แพ้ระยะทางฉันใด
เมื่อเราห่างไกลจากการอ่านถ้อยคำที่สวยงามและถูกต้อง
ต่อให้ศรรักปักทรวง ห่วงหวงการพูด+เขียน+ใช้ถ้อยคำที่สวยงามขนาดไหน
ก็ยากที่จะสมหวังในรัก
...
ชิมิคับ


3.


กลับมาที่วาทะคุณพ่อปากจัด
ผมบอกเธอไปว่าสิ่งที่ผมเห็น มี 3 เรื่องครับ

  1. คุณพ่อไม่ปลื้มเรื่องการแต่งตัวของสาวๆยุคใหม่

  2. คุณพ่อห่วงคุณลูก กลัวว่าจะถูกคนอื่นมองลูกไม่ดี

  3. คุณพ่อใช้คำเพื่อสื่อข้อ 1 และ 2 ได้น่าระทดระทวยหัวใจ .. มวากกกก



ดูแล้ว โศกนาฏกรรมทางอารมณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เกิดจากข้อ 1 หรือ 2
(แถมทั้งข้อ 1 และ 2 ยังน่าส่งเสริมให้มีมากขึ้นๆด้วยซ้ำไป)
ผมเห็นว่า เรื่องนี้มันเป็นคนละเรื่องเดียวกันกะกระแส แอ๊บแบ๊ว-ว็อด-ฉึ นั่นแหละครับ

นั่นคือเป็นเรื่องของ

ความหน่อมแน้มเรื่องหลักการใช้ภาษาไทย


ที่อยู่คนละฟากฝั่ง นั่นเอง





 

Create Date : 03 สิงหาคม 2550    
Last Update : 11 สิงหาคม 2550 3:15:11 น.
Counter : 995 Pageviews.  

อีกเรื่องดีดี ที่น่าอ่าน



อีกเรื่องดีดี ที่น่าอ่าน



วันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2545 ห้องประชุมใหญ่ <ตู๊ด..ตู๊ด..>

ผมเป็นคนหนึ่งในผู้บริหารสิบกว่าคน นั่งรอด้วยความกระวนกระวายถึงการประชุม ครั้งแรกของผู้นำคนใหม่ของ <ตู๊ด..ตู๊ด..> ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่ครั้งนี้มีถึงสองคนพร้อมกัน

ทุกคนนั่งเงียบ ไม่มีการพูดคุยกัน ผมใช้เวลาสั้นๆ นึกถึงปัญหาที่หนักหน่วงและไม่เห็นทางรอดของบริษัท ใจลอยไปถึงตัวเลขผลประกอบการที่เลวร้าย ร้ายจนต้องถึงกับเปลี่ยนผู้นำองค์กรจากคุณเฮเลน่า แซนด์เบิร์ก เป็นทั้งสองท่านนี้

ในวันนั้น คุณเฮเลน่ายังนั่งเป็นหนึ่งในที่ประชุมนั้นด้วย "คุณเฮเลน่าจะนึกถึงอะไรอยู่ จะโกรธบริษัทแม่ที่ปลดเธอออกรึเปล่า" ผมนึกในใจและเผลอมองคุณเฮเลน่าอย่างไม่ตั้งใจ

ผมเริ่มลำดับความเลวร้ายที่เกิดขึ้นระหว่างที่ นั่งรอ มันเริ่มมาจากอะไรกันแน่ที่ทำให้เราตกต่ำถึงจุดนี้ได้ เพราะเราทะเลาะกันเอง แบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งฝรั่งแบ่งไทย หรือเพราะว่าคู่แข่งรายใหม่ที่แข็งแรงอย่าง <ตู๊ด..ตู๊ด..> ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดได้ไม่กี่เดือน แต่แย่งส่วนแบ่งการตลาดไปจนหมด หรือเพราะเจ้าตลาดที่แข็งแรงและได้เปรียบตลอดกาลอย่าง <ตู๊ด..ตู๊ด..> หรือเพราะความพลาดพลั้งของการตลาด หรือฝ่ายขาย หรือด้านสินค้าที่ผมดูแลอยู่

หรือเพราะทุกอย่างที่ผมนึกรวมๆ กัน

ผมนึกไปเรื่อยเปื่อยและเริ่มกังวลมากขึ้นเมื่อคิดถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้ว และยิ่งท้อถอยเมื่อได้ยินข่าวว่าผู้ถือหุ้นทั้งสองฝ่ายส่งซีอีโอมาข้างละคน ด้วยเหตุผลเพราะผู้ถือหุ้นต่างใหญ่ทั้งคู่และไม่มีใครกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ทำให้ <ตู๊ด..ตู๊ด..> กำลังจะมีซีอีโอสองคนเพราะเหตุผลทางการเมือง คนหนึ่งเข้ามาเพราะเป็นคนนำบริษัทแม่มาลงทุนและกำลังจะขาดทุนมหาศาล อีกคนเข้ามาเพื่อปกป้องทรัพย์สินของครอบครัวที่กำลังจะสูญค่า

มันจะแย่ลงอีกรึเปล่า มีซีอีโอคนเดียวยังแทบเอาตัวไม่รอด ถ้ามีสองคนแล้วทะเลาะกันเอง ยิ่งไม่ลงเหวไปกว่านี้หรือผมคิดในใจ

ยังไม่ทันคิดอะไรต่อ ประตูห้องก็เปิดออก และมีผู้บริหารสองคนเดินเข้ามา แต่งตัวเรียบร้อยตามสากลนิยม คนหนึ่งเป็นฝรั่ง คนหนึ่งเป็นไทย

และเรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มต้นตรงนั้น จากคนสองคนที่เดินเข้ามา

"วิชัย เบญจรงคกุล และซิคเว่ เบรคเก้"






ลิ้งก์ไปอ่านตอนแรก
จากฉบับวันที่ 9 กค. 50 ในเว็บไซท์ประชาชาติธุรกิจ ครับ




ผมเป็นคนชอบอ่านคอลัมน์มากกว่าข่าว
ซึ่งธรรมชาติของคอลัมน์คือ จะเป็นไปในลักษณะคนเขียนพูดคุยให้ฟัง
(ส่วนใครจะ-เชื่อและฟัง-หรือไม่ นั่นเป็นเรื่องของคนฟัง)

ดังนั้นการได้อ่านคอลัมน์ที่เขียนโดยคนที่มีประสบการณ์ มีวิสัยทัศน์ จากกูรูหลายๆท่าน
นั่นจะเป็นการเรียนรู้ที่ดี และย่นระยะเวลาได้มากทีเดียว

เช่นเดียวกับคอลัมน์ใหม่ในหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ที่ผมกำลังติดหนึบ

คอลัมน์ คนพลิกแบรนด์ แบรนด์พลิกคน
โดย ธนา เธียรอัจฉริยะ



เพราะนอกจาก ความคาดหวัง ที่เนื้อหาคอลัมน์สามารถ ตอบสนอง ได้นั้น
ยังมีสิ่งที่ เหนือความคาดหวัง ให้เป็นโบนัสประสาคนใจดี ให้ได้แฮปปี้อีกอย่าง
คือลักษณะการนำเสนอ การเดินเรื่องของบทความ

กูรูบางท่านมีความฉลาด แต่ไม่ถนัดในการถ่ายทอดส่งต่อความรู้
แต่คอลัมน์นี้ของคุณธนาทำได้น่าสนใจ และไม่น่าเบื่อ


อ่านครั้งแรกนึกว่ากำลังอ่านนิยาย .. โอ้วว ..



มาเพิ่มเติมส่วนหนังสือครับ
ตอนนี้หนังสือพ็อกเก็ตบุ้คออกแล้ว

HAPPY คนพลิกแบรนด์ แบรนด์พลิกคน
โดย ธนา เธียรอัจฉริยะ



HAPPY คนพลิกแบรนด์ แบรนด์พลิกคน
ชื่อหนังสือ : HAPPY คนพลิกแบรนด์ แบรนด์พลิกคน
ผู้แต่ง : ธนา เธียรอัจฉริยะ
จัดพิมพ์โดย : สนพ.มติชน
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บสนพ.มติชน

พิมพ์ไปแล้วสองครั้ง ครั้งแรก กรกฎา' ครั้งที่สอง สิงหา'
แต่ถ้าตามลิ้งก์ไปสนพ.มติชนตอนนี้จะเจ๊อะว่า หนังสือหมด...!!!




 

Create Date : 20 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 11 กันยายน 2550 12:36:32 น.
Counter : 1271 Pageviews.  

ทดสอบการสร้าง feed < ครั้งที่ ii >



คลิ้กเพื่อรับ Teddies RSS : positive speaking feed



คลิ้กเพื่อรับ Teddies RSS : my living room feed



ครั้งนี้ทดสอบเรื่องที่ว่า
เมื่อมีหัวข้อใหม่ ฟีดที่สร้างไว้จะอัพเดทได้อ้ะป่าว




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2550 8:47:26 น.
Counter : 836 Pageviews.  

1  2  3  4  

หมีเซอะ
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เหมือนแมวอย่างกะแกะ..!!
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หมีเซอะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.