อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

9 เรื่องน่ารู้ที่คุณต้องเจอที่สนามบิน รู้ไว้เดินทางด้วยตัวเองได้ ง่ายนิดเดียว




บอกเล่าเรื่องน่ารู้ที่คุณต้องเจอที่สนามบิน พร้อมบอกเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้การเดินทางที่สนามบินผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีอุปสรรค ทำให้คุณเหมือนเป็นนักเดินทางมืออาชีพ

          สำหรับนักเดินทางมือใหม่หรือใครที่ไม่ค่อยได้ใช้บริการเครื่องบิน อาจจะเคยไปยืนเก้ ๆ กัง ๆ ที่สนามบิน ทำอะไรไม่ถูก ซึ่งมันก็น่างงจริง ๆ ค่ะ พอเข้าไปในสนามบินปั๊บก็ดูวุ่นวายไปหมด วันนี้เราจึงได้รวบรวมเรื่องราวน่ารู้ที่นักท่องเที่ยวต้องเจอที่สนามบิน รวมทั้งเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้คุณเหมือนเป็นนักเดินทางมืออาชีพ เดินทางด้วยตัวเองหรือไปเที่ยวคนเดียวโดยเครื่องบินได้สบาย ๆ ไม่มีสะดุด ไม่ต้องง้อหรือรอใครเลย จะมีอะไรบ้าง...ไปดูกันค่ะ 
1. ทุกสายการบินจะกำหนดปิดให้เช็กอินที่เคาน์เตอร์ 45 นาที ก่อนเครื่องออก

          ใครที่เดินทางบ่อย ๆ ก็มักจะทราบกันดีว่าสายการบินส่วนใหญ่จะปิดให้เช็กอินที่เคาน์เตอร์ก่อนเวลาเครื่องออกราว ๆ 40-45 นาที ใครที่ต้องโหลดกระเป๋าควรเตรียมตัวมาให้ถึงสนามบินก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพราะอะไรก็ไม่แน่นอน เผื่อเจอแถวรอเช็กอินยาว กว่าจะได้เช็กอินโหลดกระเป๋า กว่าจะไปผ่านจุด ตม. (สำหรับคนเดินทางต่างประเทศ) ก็ต้องวิ่งไปขึ้นเครื่องกันตาหูเหลือก บางสายการบินไม่อนุโลมให้แม้แต่นาทีเดียว ก็อาจจะต้องตกเครื่องไปตามระเบียบนะคะ

2. เช็กอินออนไลน์ได้แล้ว

          ปัจจุบันเกือบทุกสายการบินจะมีระบบเช็กอินออนไลน์ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว เราสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของสายการบิน แล้วเข้าระบบเช็กอินออนไลน์ไว้ก่อนได้เลย โดยส่วนใหญ่จะให้เช็กอินออนไลน์ได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทาง พอเช็กอินแล้วก็พรินท์ใบเช็กอินออกมา หรือจะบันทึกข้อมูลไว้ในอีเมลแล้วโชว์ให้เจ้าหน้าที่สแกนบาร์โค้ดที่สนามบินก็ได้ วิธีนี้จะสะดวกสำหรับคนที่ไม่ต้องโหลดกระเป๋า เพราะมาถึงสนามบินก็เดินไปที่ห้องผู้โดยสารขาออกเพื่อสแกนกระเป๋าและบุคคลได้เลย

3. กระเป๋าต้องจัดมาอย่างดี ทั้งใบที่จะโหลดและนำขึ้นเครื่องบิน

          การโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องบิน และการนำสัมภาระขึ้นเครื่องบิน ใช่ว่าจะเอาอะไรขึ้นและเอาขึ้นกี่กิโลกรัมก็ได้นะคะ เพราะเขาจำกัดน้ำหนัก และมีกฏห้ามนำของบางสิ่งบางอย่างขึ้นเครื่องบินด้วย มาดูกันทีละแบบเลยค่ะ

          ถ้าเป็นกระเป๋าที่จะโหลดใต้ท้องเครื่อง ต้องดูกฏระเบียบสายการบินให้ดีค่ะ ว่าเขาให้เอากระเป๋าโหลดได้ไม่เกินกี่ใบ ขนาดกระเป๋าไม่เกินเท่าไร และน้ำหนักรวมไม่เกินกี่กิโลกรัม ถ้าคำนวณแล้วว่าน้ำหนักต้องเกินที่กำหนดแน่นอน แนะนำให้ซื้อน้ำหนักเพิ่มเลยค่ะ เพราะการซื้อน้ำหนักเพิ่มออนไลน์จะถูกกว่ามาซื้อหน้าเคาน์เตอร์ ข้าวของในกระเป๋าก็ไม่ควรเป็นสิ่งของมีค่าและแตกหักง่าย ปลาร้า กะปิ น้ำปลาหวาน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่กลิ่นแรง ๆ ถ้าไม่จำเป็นอย่าเอาไปด้วยเลยค่ะ เพราะถ้ามันแตกหรือถุงรั่วขึ้นมา กระเป๋าเน่าแน่นอน และที่สำคัญห้ามลืมเด็ดขาด...ตอนนี้ทุกสายการบินออกกฎห้ามนำพาวเวอร์แบงค์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่มีแบตสำรองโหลดใต้ท้องเครื่องบินแล้วนะคะ เตรียมนำมาแพ็กใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องได้เลย

          ส่วนกระเป๋าที่จะนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน หลายสายการบินกำหนดให้ผู้เดินทางสามารถนำกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ ส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม และสามารถนำกระเป๋าติดตัวขึ้นเครื่องได้อีก 1 ใบ เช่น กระเป๋าสะพายผู้หญิง, กระเป๋าเป้ใบเล็ก ๆ โดยมีกฏว่าของที่นำขึ้นเครื่องนั้นต้องไม่มีวัตถุต้องห้าม และต้องไม่มีของเหลวขนาดขวดเกิน 100 มิลลิลิตร สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ก่อนจัดกระเป๋าควรรู้ สิ่งของต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบิน และ 12 สิ่งควรมีใส่กระเป๋า เพื่อการเดินทางสุดแฮปปี้บนเครื่องบิน

          คงไม่มีใครอยากจะมานั่งรื้อกระเป๋าเพื่อเอาของบางสิ่งบางอย่างทิ้งเพราะน้ำหนักเกิน หรือเป็นของต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบินใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นเตรียมจัดมาดี ๆ เลย ไม่เสียเวลามานั่งรื้อด้วย อ้อ...อย่าลืมหาโบหรือแท็กติดกระเป๋าสีสันสดใสติดกระเป๋าทุกใบด้วยนะคะ จะได้เป็นสัญลักษณ์ให้เห็นง่าย ๆ เวลาไปรอรับกระเป๋าค่ะ

4. แต่งตัวให้เรียบง่ายที่สุด

เรื่องน่ารู้ สนามบิน
ภาพจาก mariakraynova / Shutterstock.com

          สำหรับใครที่คิดว่ามาถึงสนามบินเร็วแน่นอน และจะไม่หงุดหงิดกับการต้องถอดนั่นนี่ออกตอนต้องผ่านเครื่องสแกนบุคคลเพื่อเข้าเกต ก็จัดเต็มมาเลยค่ะ แต่ถ้าให้แนะนำก็ควรแต่งตัวให้เรียบง่ายไว้ก่อน ไม่ต้องมีเครื่องประดับมากมาย โดยเฉพาะเครื่องประดับที่เป็นโลหะ รองเท้าก็เลือกที่ถอดง่าย ๆ สิ่งของพวกผ้าพันคอ หมวกสวยงาม เสื้อโค้ท เสื้อแขนยาว เก็บใส่กระเป๋าไว้ก่อน เพราะจะต้องถอดหมดค่ะ ตรงจุดสแกนกระเป๋าและบุคคลเจ้าหน้าที่จะให้เราเอาของทั้งหมดที่ติดตัวมาวางใส่ตะกร้าเพื่อผ่านเครื่องสแกน แล้วตัวเราเองก็จะต้องเดินผ่านเครื่องสแกนไปแบบตัวเปล่า บางสนามบินที่เคร่งครัดมาก ๆ ก็จะให้เราถอดรองเท้าด้วยค่ะ

5. ต่อแถวสแกนกระเป๋าและบุคคลในแถวที่ไม่มีผู้ชาย

          ข้อนี้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับคนที่รีบจริง ๆ นะคะ ให้สังเกตว่าแถวไหนที่คนแต่งกายง่าย ๆ ธรรมดา และมีผู้ชายน้อยที่สุด เพราะผู้ชายส่วนใหญ่จะต้องถอดเข็มขัดโลหะและถอดรองเท้าคัตชู รองเท้าผ้าใบออก ก็จะกินเวลาไปประมาณหนึ่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องดูองค์ประกอบอื่น ๆ ไปด้วย

6. ในห้องผู้โดยสารขาออกมีปลั๊กไฟ

          แทบจะทุกสนามบิน พอเราเดินผ่านจุดสแกนกระเป๋าและบุคคลไปแล้ว ก็จะมีที่นั่งให้ผู้โดยสารได้นั่งพักผ่อนมากมาย และยังมีปลั๊กไฟไว้ให้ด้วยค่ะ สำหรับใครที่ลืมชาร์จแบตฯ โทรศัพท์ และยังพอมีเวลาระหว่างรอขึ้นเครื่องบิน ก็สามารถเตรียมสายชาร์จมาชาร์จกันได้ ถ้ากระเป๋ายังมีที่ว่างก็เอาปลั๊กสามตาแบบพกพาติดมาด้วยก็ได้ค่ะ เผื่อปลั๊กไฟมีคนชาร์จเยอะ :D

7. ร้านอาหารราคาถูกมีทุกสนามบิน

          ใครที่เคยกินข้าวที่สนามบิน จะทราบกันดีค่ะว่าราคาจะสูงกว่าปกติ ยังไม่ทันได้ไปเที่ยวเลย เสียค่าอาหารไปแล้วหลายร้อยบาท แต่ถ้าไม่อยากเสียเงินแพง ๆ เราจะบอกว่าแต่ละสนามบินจะมีฟู้ดคอร์ท ซึ่งราคาจะพอ ๆ กับร้านค้าทั่วไป อย่างสนามบินสุวรรณภูมิ ฟู้ดคอร์ทจะอยู่ที่ชั้น 1 ชั้นเดียวกับบริการแท็กซี่ของสนามบิน ชื่อ Magic Food Court ราคาเริ่มต้นประมาณ 40 บาท (นักท่องเที่ยวจีนจะเยอะหน่อย) ส่วนที่สนามบินดอนเมืองจะมีอยู่ 2 แห่ง คือ ชั้น 1 ของอาคารสำนักงานท่าอากาศยานดอนเมือง ราคาเริ่มต้นประมาณ 35 บาท และชั้น 2 ของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (Terminal 2) ราคาเริ่มต้นประมาณ 50 บาท ถือเป็นอีกทางเลือกดี ๆ ของนักเดินทางเลย

8. ตรวจเช็กเกตอยู่เรื่อย ๆ

เรื่องน่ารู้ สนามบิน
ภาพจาก TJmedia / Shutterstock.com

          หลังจากที่เช็กอินแล้ว จะมีการแจ้งเกตที่ต้องไปรอขึ้นเครื่องบิน ซึ่งในบางกรณีอาจจะมีการเปลี่ยนเกตทีหลัง เพราะฉะนั้นต้องคอยเช็กจอแสดงเวลาบินของไฟล์ทที่เราจะเดินทางไว้และคอยฟังประกาศตลอด ดูว่าเกตยังเป็นหมายเลขเดิมไหม ถ้ามีการเปลี่ยนเกตจะได้ไม่ต้องวิ่งเหนื่อยหอบหรือตกเครื่อง แม้ว่าเราจะมาอยู่ที่เกตแล้วก็ตาม แต่ถ้ามีกาารเปลี่ยนเกตแล้วเราไม่ไปขึ้นเครื่องตามเวลาที่กำหนด ก็ตกเครื่องได้เช่นกันนะคะ T^T

9. บัตรประชาชน/พาสปอร์ต และบอร์ดดิ้งพาสต้องใช้จนกว่าจะได้นั่งบนเครื่องบิน

          ตั้งแต่เริ่มเช็กอินเราก็จะต้องใช้บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตแล้ว อย่าลืมหยิบมาจากบ้านเด็ดขาดนะคะ สำคัญเป็นอันดับ 1 เลย พอเช็กอินเรียบร้อยก็จะได้บอร์ดดิ้งพาส แล้วก็จะต้องใช้บัตรประชาชน/พาสปอร์ต กับบอร์ดดิ้งพาส แสดงก่อนผ่านจุดสแกนกระเป๋าและบุคคล พอเข้าไปที่เกตก่อนผ่านประตูออกไปขึ้นเครื่องก็ต้องแสดงต่อเจ้าหน้าที่อีกครั้ง จนถึงหน้าประตูเครื่องบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็จะขอดูอีก จนเราได้นั่งในที่นั่งของเรานั่นล่ะ ถึงค่อยเก็บเข้ากระเป๋าให้ดี เพราะฉะนั้นตั้งแต่มาเช็กอินก็เก็บบัตรประชาชน/พาสปอร์ต และบอร์ดดิ้งพาส ไว้ในจุดที่หยิบง่าย (แต่ก็ต้องระวังตกหล่นหายด้วยนะคะ) จะได้สะดวกต่อการหยิบแสดงต่อเจ้าหน้าที่ค่ะ

เรื่องน่ารู้ สนามบิน

          ทั้งนี้ก็เป็นเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่าจะมีประโยชน์สำหรับนักเดินทางมือใหม่ เราเป็นกำลังใจให้นักท่องเที่ยวที่เพิ่งเริ่มหัดเดินทางด้วยตัวเองนะคะ นำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กันได้เลย :)




 

Create Date : 04 มกราคม 2561    
Last Update : 4 มกราคม 2561 13:49:05 น.
Counter : 1343 Pageviews.  

ช็อกสายตาประชาชน ! ตำรวจฟาดสุนัขพันธุ์โกลเด้นเลือดสาด ตายอนาถริมทางเดิน



ตำรวจตีหมา

วิจารณ์สนั่น ตำรวจชาวจีนตีสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ จนเลือดสาด นอนตายอย่างสุดน่าเวทนาริมทางเดิน ท่ามกลางสายตาประชาชนจำนวนมากที่เดินผ่านไปมา พากันช็อกไปตาม ๆ กัน

          เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานว่า เกิดเป็นกระแสที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมออนไลน์ ภายหลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอสุดสะเทือนใจจากประเทศจีน โดยเฉพาะคนรักสุนัขเห็นแล้วถึงกับน้ำตาร่วง ในคลิปเผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งใช้ไม้กระบองฟาดสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ที่ถูกจับล่ามโซ่ไว้กับที่กั้นริมทางเท้า 
ตำรวจตีหมา
โดยรายงานเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวได้ฟาดสุนัข ที่ไร้ทางสู้ตัวนี้อย่างรุนแรง และทำเช่นนั้นซ้ำ ๆ โดยไม่มีการยั้งมือ ขณะที่มันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทรมาน เลือดของมันสาดกระจายเกลื่อนพื้นไปทั่วบริเวณดังกล่าว กระทั่งในที่สุด มันได้สิ้นใจตายจากไปในสภาพสุดน่าเวทนา

          เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่บริเวณริมถนนแห่งในเขตเทียนซิน นครฉางชา มณฑลหูหนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน โดยสถานที่เกิดเหตุเป็นที่สาธารณะและมีผู้คนเดินผ่านไปมาพลุกพล่าน รวมทั้งเด็กเล็ก ต่างพากันช็อกกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปตามกัน แต่ไม่มีใครสามารถเข้าไปห้ามหรือหยุดการกระทำดังกล่าวได้

          ขณะที่ทางกองบัญชาการตำรวจท้องถิ่น ได้ออกมาเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวได้ปฏิบัติไปตามหน้าที่ตามกฎปฏิบัติในการจัดการและควบคุมสัตว์ เพื่อปกป้องไม่ให้พลเมืองได้รับบาดเจ็บจากการถูกสุนัขกัด โดยได้ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่ามีคนเดินเท้า 2 ราย อายุ 66 ปี และ 23 ถูกสุนัขจรจัดพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ตัวหนึ่งกัดทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ

ตำรวจตีหมา

ภายหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ก็กลายเป็นกระแสที่วิจารณ์อย่างหนัก หลายคนต่างพากันรู้สึกไม่พอใจมาก เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการทารุณกรรมสัตว์อย่างโหดเหี้ยม แต่ทั้งนี้ในประเทศจีนไม่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์

          อย่างไรก็ดี ได้มีการตั้งเพจในเว็บไซต์ Change เพื่อเรียกร้อง ให้มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าว โดยตั้งเป้ารายชื่อไว้ที่ 25,000 ราย และขณะนี้ (3 มกราคม 25601) มีผู้คนมากมายจากหลายประเทศเข้าไปร่วมลงรายชื่อมากกว่า 17,000 รายแล้ว

ภาพจาก weibo.com, change.org




 

Create Date : 04 มกราคม 2561    
Last Update : 4 มกราคม 2561 13:41:08 น.
Counter : 1111 Pageviews.  

คลิปท่าออกกำลังสำหรับสาวหุ่นลูกแพร์ เปลี่ยนหุ่นแย่ ๆ ให้กลับมาเพรียว



สาวหุ่นลูกแพร์ที่ช่วงบนเล็ก แต่รากฐานอย่างสะโพกและต้นขาค่อนข้างมั่นคง หรือเรียกง่าย ๆ ว่าขาใหญ่ ไซส์ไม่ธรรมดา มาออกกำลังกายแก้หุ่นลูกแพร์ให้เป็นหุ่นที่ใครได้เห็นก็อยากให้แชร์วิธีออกกำลังกายกัน !

 

 

          สำหรับสาว ๆ ที่มีหุ่นทรงลูกแพร์ คือมีสัดส่วนช่วงบนค่อนข้างเล็ก ไหล่แคบ ต้นแขนไม่ใหญ่ ทว่าตั้งแต่บั้นเอวลงไปจนถึงน่อง กลับเป็นทรงผายเนื่องจากมีไขมันสะสมบริเวณสะโพก ก้น และต้นขามากกว่าส่วนอื่น ๆ สาวคนไหนมีรูปร่างแบบนี้คงหนักใจพอสมควร เพราะหาเสื้อผ้าใส่ค่อนข้างยาก แต่เรื่องหุ่นจะไม่เป็นปัญหาสำหรับสาว ๆ ตลอดไปหรอกนะคะ เพราะแค่ลองท่าออกกำลังกายตามนี้ หุ่นลูกแพร์ไซส์ไหนก็แล้วแต่ เดี๋ยวก็กลายเป็นหุ่นดี ๆ สัดส่วนกระชับขึ้นเป็นกอง !





 

Create Date : 03 มกราคม 2561    
Last Update : 3 มกราคม 2561 8:42:04 น.
Counter : 1224 Pageviews.  

15 ข้อต่อไปนี้แหละ ที่ทำให้คู่รักมีความสุขมากกว่าเดิม



รักหวาน

กว่าจะพบเจอคนถูกใจว่ายากแล้ว แต่การจะรักษาความสัมพันธ์ให้ดีเหมือนเดิมนั้นยากกว่า เรียกว่ายิ่งคบกันนาน ๆ ก็ถูกความเบื่อหน่ายเข้ามาแทนที่ความตื่นเต้นเร้าใจ และใครที่ไม่อยากปล่อยให้ความรักครั้งนี้หลุดมือไปละก็ วันนี้เรามีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกัน ไม่ว่าจะคู่รักข้าวใหม่ปลามันหรือคู่รักที่คบกันมานานก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ค่ะ

          1. พื้นที่ส่วนตัว : ช่วงแรกรักนั้นก็อยากจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดแต่มันจะทำให้คุณทั้งคู่ไม่มีโมเมนต์โหยหาหรือคิดถึงกันน่ะสิ ดังนั้นขอให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับตัวเองบ้าง เจอหน้ากันอีกทีจะได้มีเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้คุย ไม่ใช่พูดคุยกันแต่เรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ แบบนี้น่าเบื่อแย่เลย

2. ความผ่อนคลาย : ความผ่อนคลายจะทำให้คุณทั้งคู่สบายใจที่คบกัน นั่นหมายถึงคุณต้องมีความเป็นเพื่อนอยู่ในความสัมพันธ์ด้วยเช่นกัน อย่าทำตัวเป็นแฟนที่คอยเอาแต่ใจหรือทำตัวเป็นแม่ที่คอยบงการเหมือนเขาเป็นเด็กตลอดเวลา เชื่อสิว่าอยู่กับใครแล้วสบายใจเขาก็อยากอยู่กับคนคนนั้น

3. โรแมนติก : ความโรแมนติกไม่มีวันตาย ต่อให้คุณทั้งคู่จะไม่ใช่คนโรแมนติกก็เถอะ แต่ในช่วงโอกาสพิเศษต่าง ๆ ก็ควรมีโมเมนต์หวาน ๆ บ้าง รับรองว่าความสัมพันธ์ของคุณจะแน่นแฟ้นขึ้นอีกสเต็ปเลยล่ะ

4. บรรยากาศพิเศษ : ไม่ต้องโรแมนติกทุกวันหรือรอแค่โอกาสพิเศษเท่านั้น เพียงแค่วันหยุดสัปดาห์หรือช่วงเย็นหลังเลิกงานก็สามารถสร้างบรรยากาศพิเศษให้กันและกันได้ เช่น เข้าครัวทำอาหารกินเอง หรือออกไปฟังเพลงชิล ๆ ริมน้ำ

5. เซ็กส์ : 18+ นิดหนึ่ง แต่มันก็คือเรื่องธรรมดาสำหรับคู่รัก หาเวลาสวีทหรือกุ๊กกิ๊กกันบ้าง หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวต่างจังหวัดรับอากาศดี ๆ ก็เจ๋งไปเลย

6. ตามใจตัวเอง : ตามใจตัวเองไม่ใช่เรื่องผิดสักนิด หากคุณชอบไปไหน ชอบทำอะไร ก็ทำไปเลยโดยที่คุณทั้งคู่ควรมีขอบเขตให้กันและกัน ที่สำคัญการทำตามใจตัวเองไม่ได้หมายถึงการไม่แคร์คนรอบข้างซะหน่อย นอกจากนี้ควรปล่อยให้เขาได้ทำตามความต้องการของตัวเองด้วยเช่นกัน

7. โดนเนื้อโดนตัวกันบ่อย ๆ : โดนเนื้อโดนตัวกันไม่ได้หมายถึงเรื่องบนเตียงเสมอไป เช่น การลูบหัว การกอด ดึงจมูกเบา ๆ หรือการจับมือ สิ่งเหล่านี้ก็มีส่วนช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของคุณแนบแน่นกว่าเดิมได้เช่นกัน


8. ไม่พึ่งพาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป : หรือพูดง่าย ๆ ว่าทำตัวเป็นภาระของอีกฝ่ายนั่นแหละ อะไรที่คุณทำเองได้ก็ทำเองบ้างหรือลองฝึกทำสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเองดีกว่าที่จะพึ่งพาเขาแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะสุดท้ายแล้วไม่มีใครจะอยู่กับเราได้ตลอดเวลา การพึ่งพาตัวเองได้จึงเป็นผลดีทั้งต่อคุณเองและเขาด้วย

9. ใช้เวลากับเพื่อนฝูงบ้าง : แม้จะรักกันมากแค่ไหนแต่ต้องไม่ลืมเพื่อนฝูง แก๊งเพื่อนสาวสุดเฮฮาที่คุณคบมาตั้งแต่สมัยเรียนหรือเพื่อนสนิทในที่ทำงานก็ตาม ควรจัดสรรเวลาให้ดี แล้วออกไปปาร์ตี้ตามสไตล์สาว ๆ บ้าง เพราะอย่าลืมว่าชีวิตนี้ไม่ได้มีแค่ความรักที่สำคัญสำหรับคุณ อย่าลืมว่าครอบครัวและเพื่อน ๆ ก็เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของคุณเช่นกัน

10. มองข้ามเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง : เรื่องไม่เป็นเรื่องก็อย่าทำให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยดีกว่านะคะ เช่น เขามาสาย 10 นาที เมื่อนัดเดตกัน, ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยของเขา, เขาลืมวันสำคัญ เอาเป็นว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบรวมทั้งตัวคุณเองด้วย

11. ชื่นชมกันในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ : ไม่ต้องรอให้เขาทำเรื่องยิ่งใหญ่แล้วค่อยเอ่ยปากชมหรอก แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาใส่ใจทำให้คุณก็เพียงพอแก่การกล่าวขอบคุณเขาแล้วล่ะ แล้วอย่าลืมหาโอกาสตอบแทนความดีของเขาด้วยการทำสิ่งดี ๆ ให้เขาได้ชื่นใจเช่นกัน

12. อาบน้ำด้วยกัน : แช่ตัวลงในอ่างพร้อมจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ แล้วผลัดกันถูหลัง แค่คิดก็ฟินเว่อร์แล้ว ><

13. มองการณ์ไกล : นอกจากความกุ๊กกิ๊กแล้ว เรื่องอนาคตข้างหน้าก็เป็นสิ่งที่คุณต้องคิดด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนแต่งงาน, ซื้อบ้าน, มีลูก รวมทั้งหน้าที่การงานของคุณเองด้วย เพราะความมั่นคงในหน้าที่การงานก็ส่งผลถึงความสัมพันธ์ที่มั่นคงด้วยเช่นกัน

14. อยู่กับปัจจุบันและไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง : แม้อนาคตจะเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องวางแผน แต่ก็อย่าให้สิ่งที่ยังไม่แน่นอนมาทำลายเวลาดี ๆ ในปัจจุบันล่ะ แม้ว่าตอนนี้ทั้งคุณและเขาอาจจะยังไม่มีเงินเก็บสำหรับสร้างเนื้อสร้างตัวก็ตาม แต่อย่าทิ้งกันเพียงเพราะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นอกจากนี้ก็ไม่ควรคาดหวังอะไรมากเกินไป ปล่อยให้ต่างฝ่ายได้เป็นตัวของตัวเองด้วยนะคะ

15. แต่งงานเมื่อพร้อม : สำหรับคู่รักที่ยังไม่ได้ลั่นระฆังวิวาห์ก็ไม่จำเป็นต้องรีบ ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่าคุณต้องแต่งงานอายุ 30 หรือ 35 ปี รอวันที่คุณทั้งคู่พร้อมดีกว่า เพราะการแต่งงานไม่ได้การันตีความมั่นคงเสมอไป แต่ความมั่นคงนั้นอยู่ที่การกระทำและจิตใจของคุณทั้งมากกว่า

และนี่ก็เป็นคำแนะนำดี ๆ ที่เรานำมาฝากกัน แต่ละข้อไม่ใช่เรื่องยากเลย ใครที่อยากให้ความรักของคุณมีความสุขกว่าที่เคยเป็นก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กันนะคะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
idiva.com, huffingtonpost.com และ thoughtcatalog.com




 

Create Date : 03 มกราคม 2561    
Last Update : 3 มกราคม 2561 8:38:44 น.
Counter : 820 Pageviews.  

สาวไลฟ์สดเฟซบุ๊ก...เปิดเพลง "แพ้แล้วพาล" ก่อนดิ่งสะพานพระราม 8



สาวไลฟ์สดเฟซบุ๊กก่อนดิ่งสะพานพระราม 8 วินมอเตอร์ไซค์ เผยถูกจ้างให้มาส่งและให้ถ่ายรูปให้ ก่อนตกลงไปต่อหน้าต่อตา ด้านชาวเน็ตงง คนถือมือถือไลฟ์ให้ ทำไมไม่ห้าม 

  นับเป็นอีกหนึ่งข่าวสะเทือนใจรับปีใหม่ 2018 เมื่อมีการแชร์ไลฟ์สดของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่เธอยังดูยิ้มให้กับกล้องและร้องเพลง "แพ้แล้วพาล" เวอร์ชั่น พลอยชมพู ก่อนจะตกลงจากสะพานร่างดิ่งลงแม่น้ำ หายไปในความมืด ทำเอาชาวเน็ตที่ได้เห็นคลิปดังกล่าวต่างตกใจพร้อม ๆ กับงงว่า ใครเป็นคนถือโทรศัพท์ถ่ายไลฟ์ให้กับเธอ และทำไมเขาผู้นั้นไม่ห้าม
          ทั้งนี้ มีรายงานจาก สวพ.FM 91 ระบุว่า เมื่อเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บวรมงคล รับแจ้งมีเหตุคนตกจากสะพานพระราม 8 ลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบนสะพาน พบขวดสุรา โทรศัพท์มือถือ บัตรประชาชน ระบุชื่อ น.ส.นิตยา อายุ 18 ปี เป็นคนจังหวัดระนอง และสิ่งของต่าง ๆ วางไว้ โดยเบื้องต้นนั้น กระแสน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาค่อนข้างแรง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการค้นหาได้ 
จากการสอบถามทางผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ให้ข้อมูลว่า ได้รับหญิงรายนี้มาจากย่านลาดพร้าว ให้ไปส่งที่สะพานพระราม 8 และหลังจากนั้นได้ให้ตนเองถ่ายรูปให้ ซึ่งระหว่างถ่ายรูปหญิงรายดังกล่าวได้ยืนอยู่ที่ราวสะพานก่อนไถลตกลงไป โดยขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อทางญาติได้  

          และล่าสุด (2 มกราคม 2561) ทีมข่าว Bright TV ได้ลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุพบว่า บริเวณขอบสะพานนั้นไม่มีที่ให้เหยียบเลย และจากการสอบถามเพิ่มเติมไปยังวินมอเตอร์ไซค์ ทราบว่า ขณะที่นั่งรถมาหญิงสาวรายนี้ก็ร้องไห้และพูดถึงแฟน ซึ่งวินมอเตอร์ไซค์เองก็รับฟังและทำหน้าที่ขับรถไป จนถึงที่เกิดเหตุ น้องผู้หญิงก็เจรจาขอจ้างเพิ่ม 500 บาท ให้ถ่ายเฟซบุ๊กไลฟ์และถ่ายรูปให้ 
เมื่อถามขณะนั้นเอะใจอะไรหรือไม่ วินมอเตอร์ไซค์ ตอบว่า ตอนนั้นไม่ได้เอะใจเลยเพราะคิดว่าน้องเป็นคนอาร์ท ๆ ติสท์ ๆ ต้องการมาถ่ายรูปสวย ๆ เท่านั้น เพราะวิวกลางคืนที่นี่มีคนนิยมมาถ่ายรูปกันเยอะและอากาศก็ดี

          ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถติดต่อญาติได้แล้ว แต่ยังหาร่างของหญิงสาวไม่พบ 




 

Create Date : 03 มกราคม 2561    
Last Update : 3 มกราคม 2561 8:35:02 น.
Counter : 1183 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.