อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

5 วิธีรับมือ เมื่อมีผู้หญิงอื่นมาอ่อยแฟนเรา



ความรัก

วิธีรับมือเมื่อรู้ว่ามีผู้หญิงอื่นมาอ่อยแฟนของเรา สาว ๆ ที่เป็นแฟนตัวจริง จะมีวิธีการรับมืออย่างไรได้บ้าง เพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคนรัก

          แน่นอนอยู่แล้วว่า "แฟนของเรา ก็ต้องหวงเป็นของธรรมดา" แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาอีกเช่นกันค่ะ ที่จะมีหญิงอื่นชอบที่จะมาชม้อย ชะม้ายชายตาให้กับแฟนของเรา หรือพูดง่าย ๆ ว่า "อ่อย" ถ้าแฟนของเราไม่ได้คิดอะไรก็แล้วไป !!! แต่ถ้าเราเริ่มรู้สึกว่าเขาเริ่มเข้ามายุ่งกับแฟนของเรามากเกินไป จนทำให้รูสึกอึดอัด เราพอจะมีวิธีรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร เพื่อเป็นการประกาศเตือนว่า "ฉันเริ่มไม่ชอบใจที่เธอเข้ามายุ่งกับแฟนฉันแล้วนะ" 
1. ศึกษาข้อมูลฝ่ายตรงข้าม

          ถ้าคุณพอจะได้ได้กลิ่นที่ไม่ชอบมาพากล และคิดว่าผู้หญิงคนนี้นี่แหละที่กำลังอ่อยแฟนเรา ขอให้สาว ๆ ทั้งหลายถือคติที่ว่า "รู้หน้าไม่รู้ใจ" ลองเลียบ ๆ เคียง ๆ ค่อย ๆ ล้วงข้อมูลทีละนิด ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน เพราะส่วนใหญ่ผู้หญิงจ้องจะจับแฟนหนุ่มของคุณส่วนใหญ่ มักจะเป็นเพื่อนร่วมงาน อาจจะเป็นเพื่อนของเขา หรืออาจเป็นแฟนเก่าที่ต้องการจะกลับมาจุดไฟรักเก่าก็ได้ค่ะ

2. ประกาศตัวว่า "ฉันคือตัวจริง"

          บางทีสถานการณ์การอ่อยแฟนชาวบ้านจะจบลง เมื่อตัวคุณเองประกาศออกไปอย่างชัดเจนเลยว่า “ฉันนี่แหละที่เป็นตัวจริง” ถ้าผู้หญิงคนนั้นรู้จักมีสามัญสำนึกอยู่เสียหน่อย และเป็นคนดีพอ เธอคนนั้นจะต้องพยายามเลิกล้มความความคิดที่จะอ่อยหรือจีบแฟนของเราค่ะ

3. อย่าหลุดพฤติกรรมงี่เง่า

          เมื่อรู้ว่ามีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาอ่อยแฟนเรา อย่างแรกคุณต้องเตือนสติตัวเอง นั่นคืออย่าได้แสดงพฤติกรรมงี่เง่าต่าง ๆ อย่างการโวยวายใส่อีกฝ่าย ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ไต่สวนความกันเสียก่อน เพราะยิ่งเราแสดงความงี่เง่าออกไปมากเท่าไร แฟนเรานี่แหละที่จะเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย และอึดอัดเวลาอยู่กับเรามากขึ้นเท่านั้น อะไรที่คุณมองว่ามันหยุมหยิมเกินไปที่จะเอาความ ปล่อยเบลอไปบ้างก็ได้

4. ไม่มุ่งร้ายคู่แข่ง

          เพราะชีวิตจริงไม่เหมือนกับละครที่คุณจะได้คิดวางแผนแย่งแฟนหนุ่มคืนกลับมา รู้ไว้เลยนะคะ…นอกจากแฟนหนุ่มจะมองคุณแย่แล้ว พฤติกรรมนี้ยังเป็นการเพิ่มคะแนนความสงสารให้กับคู่แข่งแบบไม่รู้ตัว ถ้าสาวคู่แข่งมาอ่อยแฟนคุณ ต่อหน้า คุณแค่ต้องทำตัวเป็นแม่พระ (แต่ไม่ใช่ใจกว้างเกินไป) และวางตัวให้ดูดีกว่าเธอทั้งความคิด กิริยามารยาท รวมถึงการแสดงออกต่าง ๆ ฟังดูยากใช่ไหมคะ แต่จำเป็นต้องทำค่ะ !!!



5. หยุดความมโนลงบ้าง

          เราเข้าใจอาการหวงก้างที่เกิดขึ้นเมื่อมีผู้หญิงมาอ่อยแฟนคุณ ก็เกิดจากความมโนที่มากเกินไป เรื่องบางเรื่องอาจไม่จริงหรือยังไม่เกิดขึ้นก็ได้นะคะ อย่าเพิ่งคิดมโนจนทำให้ทะเลาะกัน ลองทำใจให้สบาย ๆ อย่าถึงขั้นต้องมานั่งหวาดระแวงจนเขาไม่มันต้องไปไหน และต้องกลับมานั่งคอยรายงานว่าแต่ละวันเจอใครบ้าง เพื่อที่ว่าเขาเผลอโกหกออกมา คุณจะได้จับแบบคาหนังคาเขา ใช่ไหมละคะ ?

          เอาจริง ๆ แล้วความอ่อยจากผู้หญิงอีกคนจะไม่สามารถทำลายความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนได้เลย ถ้าเราเลือกที่จะจับมือคนรักด้วยความเข้าใจ บอกเลยว่าต่อให้มีอีกกี่สิบกี่ร้อยผู้หญิงขี้อ่อยมาอยู่ตรงหน้า ก็ไม่อาจทำลายความสัมพันธ์ของคู่คุณได้อย่างแน่นอน ^ ^

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
allwomenstalk.com และ positivemed.com




 

Create Date : 28 มีนาคม 2561    
Last Update : 28 มีนาคม 2561 5:57:53 น.
Counter : 1681 Pageviews.  

​สูตรทำคุกกี้ผลไม้ เติมความอร่อยเอาใจคนชอบเคี้ยว



คุกกี้เสี่ยงทายคงต้องชิดซ้ายให้กับเมนูคุกกี้ผลไม้ สูตรขนมกินเล่นเพลิน ๆ เติมประโยชน์จากวิตามิน อร่อยเต็มคำทั้งเด็กและผู้ใหญ่

เมนูคุกกี้ ที่คุ้นเคยทั้งคุกกี้เนยสดหรือคุกกี้ช็อกโกแลต แม้จะอร่อยแต่คงไม่เหมาะกับสายสุขภาพ ดังนั้นลองเติมผลไม้ให้มีคุณค่าขึ้นดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำคุกกี้ผลไม้ เช่น คุกกี้ลูกเกด คุกกี้แอปเปิล คุกกี้กล้วยหอม หรือใครอยากใส่ผลไม้อื่น ๆ ก็ลองดัดแปลงได้เลยนะคะ
หมายเหตุ : คุกกี้ข้าวโอ๊ต 1 ชิ้น ให้พลังงานประมาณ 75 กิโลแคลอรี
9 สูตรทำคุกกี้ผลไม้
1. คุกกี้ข้าวโอ๊ตลูกเกด

     เริ่มกันที่คุกกี้ผลไม้ที่คุ้นลิ้นนั่นคือ คุกกี้ข้าวโอ๊ตลูกเกด สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ จับลูกเกดไปแช่น้ำก่อนเพื่อให้นิ่มเวลาทำคุกกี้ และเนื้อคุกกี้ทำจากข้าวโอ๊ตผสมแป้งเล็กน้อย จะทำแบบคุกกี้กรอบหรือคุกกี้นิ่มก็เอาตามชอบนะคะ

​​ส่วนผสม คุกกี้ข้าวโอ๊​ตลูกเกด​​​

      • ลูกเกด 100 กรัม
      • น้ำร้อน (สำหรับแช่ลูกเกด)
      • ข้าวโอ๊ต 250 กรัม
      • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
      • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
      • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา (ถ้าใช้เนยจืดใส่เกลือ 1/2 ช้อนชา)
      • เนยเค็ม (อุณหภูมิห้อง) 150 กรัม
      • น้ำตาลไอซิ่ง 125 กรัม​​
      • ไข่ไก่ 1 ฟอง
      • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
      • ผงอบเชย 1/2 ช้อนชา

วิธีทำคุกกี้ข้าวโอ๊ต

     1. แช่ลูกเกดในน้ำร้อนประมาณ 10 นาที และผสมแป้งที่ร่อนพร้อมเบกกิ้งโซดา เกลือป่น และผงอบเชยลงไปในข้าวโอ๊ต พักไว้
     2. ตีเนยกับน้ำตาลไอซิ่งจนเป็นครีม หลังจากนั้นใส่ไข่ไก่กับกลิ่นวานิลลา ตีจนเข้ากันเป็นครีม
     3. ใส่ของแห้งที่ผสมพักไว้ลงไปในโถเนย แบ่งใส่สัก 2-3 รอบ ตีพอเข้ากัน
     4. นำลูกเกดไปกรองน้ำออก ใส่ลูกเกดลงไป คลุกให้เข้ากัน ตักคุกกี้ใส่ถาดที่จะอบ ขนาดตามชอบ อบที่อุณหภูมิ 170-175 องศาเซลเซียส ประมาณ 18-20 นาที ถ้าชอบกรอบ ๆ ลดอุณหภูมิลงเหลือ 160 องศาเซลเซียส แล้วอบต่ออีก 5-10 นาที พออบเสร็จแล้วก็นำคุกกี้มาพักบนตะแกรงให้เย็นสนิท

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ คุกกี้ข้าวโอ๊ตลูกเกด สูตรทำคุกกี้ธัญพืชกรอบนุ่มรับวันพิเศษ

++++++++++++++++++
9 สูตรทำคุกกี้ผลไม้
2. คุกกี้ฟักทองข้าวโอ๊ตแครนเบอร์รี

     แครนเบอร์รีอบแห้งกินเปล่า ๆ ก็หวานไปหน่อย ลองจับไปทำคุกกี้ผลไม้ดูสักครั้งสิคะ ขอนำเสนอเมนูคุกกี้ฟักทองข้าวโอ๊ตแครนเบอร์รี สูตรนี้ใส่ข้าวโอ๊ตแทนแป้งผสมกับฟักทองบดและธัญพืชต่าง ๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคือ แครนเบอร์รี

ส่วนผสม คุกกี้ฟักทองธัญพืช

      • น้ำมันมะพร้าว 1/4 ถ้วย
      • น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย
      • ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด (Rolled Old-Fashioned Oats) 1 ถ้วย
      • ข้าวโอ๊ตบดละเอียด (Quick Cooking Oats) 1 ถ้วย
      • แครนเบอร์รีอบแห้ง 2/3 ถ้วย
      • เมล็ดฟักทองดิบ 2/3 ถ้วย
      • เมล็ดแฟลกซ์ 1/4 ถ้วย
      • เครื่องเทศ Pumpkin Pie Spice 1 ช้อนชา
      • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
      • ฟักทองบด 1/2 ถ้วย
      • ไข่ไก่ 2 ฟอง (ตีพอแตก)

วิธีทำคุกกี้ฟักทองธัญพืช

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 325 องศาฟาเรนไฮต์ และปูกระดาษรองอบที่ถาดอบ เตรียมไว้
     2. ใส่น้ำมันมะพร้าวกับน้ำผึ้งลงในชามทนความร้อน นำเข้าไมโครเวฟอุ่นพอร้อน คนผสมให้เข้ากัน
     3. ผสมข้าวโอ๊ตทั้ง 2 ชนิด แครนเบอร์รีอบแห้ง เมล็ดฟักทองดิบ เมล็ดแฟลกซ์ เครื่องเทศ และเกลือป่น คนผสมให้เข้ากัน
     4. ใส่ฟักทองบด ไข่ไก่ และส่วนผสมน้ำมันมะพร้าว ลงไปคนจนเข้ากัน
     5. นำที่ตักไอศกรีมตักส่วนผสมคุกกี้วางลงถาดอบที่ปูกระดาษไข นำเข้าเตาอบประมาณ 15-20 นาทีจนสุก นำออกมาพักทิ้งไว้สักครู่ พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Pumpkin Breakfast Cookie / leelalicious.com

++++++++++++++++++
9 สูตรทำคุกกี้ผลไม้
3. คุกกี้ข้าวโอ๊ตบีทรูท

     เติมสีสันให้คุกกี้ผลไม้ด้วยบีทรูทกันดีไหม พบกับเมนูคุกกี้ข้าวโอ๊ตบีทรูท สูตรจาก Easy to Fit Body สูตรนี้ใส่แป้งโฮลวีทกับข้าวโอ๊ต เพิ่มความกรุบจากถั่วและช็อกโกแลตชิพ

ส่วนผสม คุกกี้ข้าวโอ๊ตบีทรูท

      • กล้วยหอม 2 ลูก
      • ข้าวโอ๊ต 2 ถ้วย
      • แป้งโฮลวีท 150 กรัม
      • น้ำเชื่อมไซรัป (หรือน้ำผึ้งก็ได้) 60 มิลลิลิตร
      • นมอัลมอนด์ (นมสด หรือนมถั่วเหลือง) 1/2 ถ้วย
      • วอลนัท (หรือถั่วอื่น ๆ) 1 ถ้วย
      • ช็อกโกแลตชิพ 1 ถ้วย
      • บีทรูท 50 กรัม

วิธีทำคุกกี้ข้าวโอ๊ตบีทรูท

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส
     2. นำกล้วยหอมมาบดด้วยการใช้มือ หรือพายบดก็ได้
     3. นำบีทรูทมาสับหรือปั่นแล้วคั้นน้ำออกมา
     4. เอากล้วยหอม ข้าวโอ๊ต แป้งโฮลวีท น้ำเชื่อมไซรัป และนมอัลมอนด์ลงไปผสมให้เข้ากัน
     5. ใส่ถั่วและช็อกโกแลตชิพลงไปผสมคนให้เข้ากัน
     6. ใส่น้ำบีทรูทลงไป นวดให้เข้ากันอีกครั้ง
     7. นำที่ตักไอศกรีม หรือช้อนตักส่วนผสมคุกกี้วางลงถาดรองอบที่ปูกระดาษไข หรือแผ่นซิลิโคนแล้วเรียบร้อย
     8. แต่งหน้าด้วยถั่ว หรือช็อกโกแลตชิพ
     9. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของคุกกี้ ทำเสร็จพร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ คุกกี้ข้าวโอ๊ตบีทรูท ของหวานคลีนฉบับไดเอต ส่งต่อความหวานที่ไม่อ้วน

++++++++++++++++++
9 สูตรทำคุกกี้ผลไม้
4. คุกกี้ข้าวโอ๊ตกล้วยหอมสตรอว์เบอร์รี 

     สตรอว์เบอร์รีสุก ๆ จับมาทำคุกกี้ผลไม้รวมได้นะคะ พบกับเมนูคุกกี้ข้าวโอ๊ตกล้วยหอมสตรอว์เบอร์รี สูตรนี้เติมรสหวานจากน้ำผึ้งและกล้วยหอม ตัดเลี่ยนด้วยสตรอว์เบอร์รี

ส่วนผสม คุกกี้ข้าวโอ๊ตกล้วยหอมสตรอว์เบอร์รี (ประมาณ 15 ชิ้น)

      • ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
      • แป้งโฮลวีท 3/4 ถ้วย
      • ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา
      • ผงอบเชย 1 ช้อนชา
      • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
      • น้ำมันมะพร้าว หรือเนยจืดละลาย 2 ช้อนโต๊ะ
      • กล้วยหอมบด 1/4 ถ้วย
      • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
      • น้้ำผึ้ง 1/2 ถ้วย
      • สตรอว์เบอร์รี (หั่นเต๋า) 3/4 ถ้วย

วิธีทำคุกกี้ข้าวโอ๊ตกล้วยหอมสตรอว์เบอร์รี

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 325 องศาฟาเรนไฮต์ และปูกระดาษรองอบที่ถาดอบ เตรียมไว้
     2. คนผสมข้าวโอ๊ต แป้งโฮลวีท ผงฟู ผงอบเชย และเกลือในอ่างผสม เตรียมไว้
     3. คนผสมน้ำมันมะพร้าว กล้วยบด กลิ่นวานิลลา และน้ำผึ้ง คนจนเข้ากัน เทลงในส่วนผสมแป้ง คนผสมจนเข้ากัน เติมสตรอว์เบอร์รีลงไป คนจนพอเข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
     4. ใช้สกู๊ปตักส่วนผสมคุกกี้ลงในถาดอบ กดให้แบนแล้วนำไปอบประมาณ 12-14 นาทีหรือจนสุก นำออกมาพักไว้ให้เย็นประมาณ 10 นาที 

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Strawberry Banana Bread Oatmeal Cookies / amyshealthybaking.com

++++++++++++++++++
9 สูตรทำคุกกี้ผลไม้
5. คุกกี้ข้าวโอ๊ตแอปเปิล

     ถ้าลูกรักไม่ชอบกินผลไม้ก็แปลงร่างเป็นคุกกี้ผลไม้เลยสิคะ พบกับเมนูคุกกี้ข้าวโอ๊ตแอปเปิล ใส่แอปเปิลแดงผสมกับข้าวโอ๊ตและแป้งโฮลวีท เติมกลิ่นวานิลลาลงไปหน่อย รับรองเด็ก ๆ ชอบแน่นอนค่ะ

ส่วนผสม คุกกี้ข้าวโอ๊ตแอปเปิล (ประมาณ 15 ชิ้น)

      • ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
      • แป้งโฮลวีท 3/4 ถ้วย
      • ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา
      • ผงอบเชย 1+1/2 ช้อนชา
      • เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
      • น้ำมันมะพร้าว หรือเนยจืดละลาย 2 ช้อนโต๊ะ
      • ไข่ไก่ 1 ฟอง
      • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
      • น้ำเชื่อมอากาเว 1/2 ถ้วย
      • แอปเปิลแดง (หั่นเต๋า) 1 ถ้วย

วิธีทำคุกกี้ข้าวโอ๊ตแอปเปิล

     1. คนผสมข้าวโอ๊ต แป้งโฮลวีท ผงฟู ผงอบเชย และเกลือในอ่างผสม เตรียมไว้
     2. คนผสมน้ำมันมะพร้าว ไข่ไก่ กลิ่นวานิลลา และน้ำเชื่อม คนจนเข้ากัน เทลงในส่วนผสมแป้ง คนจนเข้ากันอีกครั้ง สุดท้ายใส่แอปเปิลลงไป คนพอเข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
     3. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 325 องศาฟาเรนไฮต์ และปูกระดาษรองอบที่ถาดอบ เตรียมไว้
     4. ใช้สกู๊ปตักส่วนผสมคุกกี้ลงในถาดอบ นำไปอบประมาณ 13-15 นาทีหรือจนสุก นำออกมาพักไว้ให้เย็นประมาณ 10 นาที

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Apple Pie Oatmeal Cookies / amyshealthybaking.com

++++++++++++++++++




 

Create Date : 27 มีนาคม 2561    
Last Update : 27 มีนาคม 2561 5:03:08 น.
Counter : 1715 Pageviews.  

ฮือฮา ! Big C ส่ง "รถมินิบิ๊กซี" วิ่งขายของตามหมู่บ้าน



รถมินิบิ๊กซี

แชร์สนั่น พบรถ "มินิบิ๊กซี" วิ่งขายสินค้าตามหมู่บ้าน แบบเดียวกับรถโชห่วย ด้านสังคมออนไลน์เสียงแตก มีทั้งชอบและไม่ชอบ

          วันที่ 24 มีนาคม 2561 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า เบสท์ มิวสิค ได้มีการแชร์ภาพ "รถมินิบิ๊กซี" ซึ่งเป็นรถจำหน่ายสินค้าขนมขบเคี้ยว อาหารแช่แข็ง และบริการจ่ายบิลต่าง ๆ ของบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) โดยมีพนักงานแคชเชียร์ 1 คน และพนักงานขับรถ 1 คน ให้บริการแก่ลูกค้าในหมู่บ้านจัดสรร ในจังหวัดนครราชสีมา 
รถมินิบิ๊กซี
หลังภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยมีบางส่วนมองว่าการที่ Big C ทำแบบนี้เป็นเหมือนการผูกขาดธุรกิจ แย่งช่องทางทำมาหากินของรายย่อยและรถโชห่วยต่าง ๆ จนเกินไป แต่ก็มีหลายคนที่มองต่างออกไปว่า เป็นเรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจ และส่งผลดีต่อประชาชนตามหมู่บ้านต่าง ๆ ที่จะได้รับความสะดวกสบาย และมีตัวเลือกในการซื้อสินค้ามากขึ้นกว่าเดิม 
รถมินิบิ๊กซี
รถมินิบิ๊กซี
รถมินิบิ๊กซี
รถมินิบิ๊กซี
รถมินิบิ๊กซี
รถมินิบิ๊กซี
รถมินิบิ๊กซี
รถมินิบิ๊กซี
บิ๊กซี
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า BigC เคยนำรถจำหน่ายสินค้ามินิบิ๊กซี มาเปิดให้บริการในช่วงกิจกรรมวิ่งการกุศลก้าวคนละก้าว โดยเป็นการร่วมเดินทางพร้อมกับทีมงานไปจนถึงอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งภายในรถมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปโภค-บริโภค และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ภาพและข้อมูลจาก
, เฟซบุ๊ก เบสท์ มิวสิค, บิ๊กเกรียน




 

Create Date : 27 มีนาคม 2561    
Last Update : 27 มีนาคม 2561 4:53:39 น.
Counter : 787 Pageviews.  

ทนายเกิดผล แนะ อี้ แทนคุณ ชวนแม่ค้าไปเปิดตลาดหน้าบ้านตัวเอง เจริญแน่นอน



ทนาย

ทนายเกิดผล แนะนำ อี้ แทนคุณ ชวนแม่ค้าไปเปิดตลาดหน้าบ้านตัวเอง กิจการน่าจะเจริญ หลังอีกฝ่ายเตรียมยื่นหนังสือขอให้ผ่อนผันเปิดตลาดข้างบ้านป้าทุบรถ

หลังนายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ระบุว่า เตรียมยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ กทม. ขอให้ผ่อนผันเปิดตลาดข้างบ้านป้าทุบรถ ในระหว่างรอศาลตัดสิน วอนสังคมอย่าอินมากกับกระแสโซเชียล ขอให้ฟังทั้ง 2 ฝ่าย ตามที่รายงานไปก่อนหน้านี้นั้น 
ล่าสุด วันที่ 26 มีนาคม 2561 ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า "แนะนำคุณอี้ ให้ชวนแม่ค้าไปเปิดตลาดหน้าบ้านของคุณแทน เชื่อว่า กิจการน่าจะเจริญรุ่งเรืองครับ ผมสนับสนุนให้เปิดตลาดหน้าบ้านคุณอี้ แทนคุณ 1 เสียง ครับ" 
ทนาย
ภาพและข้อมูลจาก




 

Create Date : 27 มีนาคม 2561    
Last Update : 27 มีนาคม 2561 4:46:15 น.
Counter : 1115 Pageviews.  

นอนถูกท่า บรรเทาอาการป่วยได้ ไม่ลองไม่รู้ !



ท่านอนที่ถูกต้อง

จะมัวแต่ทรมานกับอาการป่วยจนนอนไม่หลับกันอยู่ทำไม ในเมื่ออาการป่วยเหล่านี้สามารถบรรเทาได้แค่เพียงนอนให้ถูกท่าเ­­­ท่านั้น ! 
หลายคนคงเคยประสบปัญหาอาการนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สบายตลอดทั้งคืนเพราะอาการป่วย ซึ่งอาการบางอย่างนั้น ทำให้เราไม่สามารถนอนในท่าที่สบาย บางคนถึงกับต้องนั่งหลับเพื่อให้รู้สึกปวดน้อยลงเลยก็มี ซึ่งการนอนไม่หลับนี่ล่ะที่จะส่งผลให้อาการหายช้าหรือหนักกว่าเ­­­ดิม แต่เลิกกังวลกันได้เลย เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมจะพาทุกคนไปพบกับท่านอนที่ช่วยให้คุณนอ­­นหลับสบายขึ­้น และไม่ต้องมัวมานั่งพะวงกับอาการป่วยอีกด้วย ใครที่กำลังป่วยด้วยอาการเหล่านี้นำไปใช้แล้วหลับสบายหายห่วงจ้­­­า 
นอนถูกท่า บรรเทาอาการป่วยได้ ไม่ลองไม่รู้ !
1. กรดไหลย้อน
ท่านอนที่เหมาะสม : นอนตะแคงซ้าย 
หากคุณมีอาการแสบร้อนกลางอก ขอแนะนำให้นอนตะแคงไปทางซ้ายค่ะ เพราะการที่เรานอนตะแคงซ้ายจะทำให้แรงดันบริเวณที่ต่ำกว่ากล้าม­­­เนื้อบริเวณหูรูดหลอดอาหารลดลง ซึ่งเมื่อแรงดันส่วนนั้นลดลง กรดในกระเพาะอาหารที่จะไหลย้อนขึ้นมาสร้างความระคายเคืองบริเวณ­­­หลอดอาหารก็จะลดลงด้วยเช่นกัน

          โดยการนอนตะแคงควรจะอยู่ในท่าที่แขนของคุณอยู่ในลักษณะที่สบาย นั่นคือยื่นไปด้านหน้า และงอเข่าขึ้นมาทางด้านส่วนบนของร่างกายเล็กน้อย แต่ถ้าอาการของคุณค่อนข้างหนักละก็ ควรจะเปลี่ยนมานอนในท่าหงายแล้วใช้หมอนรองบริเวณใต้หน้าอกและศีรษะ­โดยต้องให้สูงกว่าลำตัวไม่เกิน 6 นิ้ว จะช่วยทำให้หลับสบายมากขึ้น 

นอนถูกท่า บรรเทาอาการป่วยได้ ไม่ลองไม่รู้ !

2. ปวดไซนัส

ท่านอนที่เหมาะสม : นอนตะแคง หนุนหมอนสูง 

อาการไซนัสอักเสบหรืออาการไข้หวัดธรรมดา เป็นท่าที่ไม่ควรนอนหงายอย่างเด็ดขาด เพราะคุณอาจจะเกิดอาการสำลักในขณะนอนหลับและเป็นอันตรายได้ ดังนั้นท่านอนที่ดีที่สุดคือการนอนตะแคงและหนุนหมอนให้สูงขึ้น และที่สำคัญก็ควรจะให้แขนนั้นอยู่ในลักษณะที่ช่วยซัพพอร์ตให้ศี­­­รษะวางได้สะดวกอีกด้วยโดยอาจจะกอดหมอนก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ควรงอตัวและปล่อยขาตามสบาย เพื่อจะได้นอนหลับได้สนิทมากขึ้น 


ภาพจาก saveandrelief.org


3. ปวดประจำเดือน

ท่านอนที่เหมาะสม : นอนหงาย หนุนหมอนใต้เข่า 

ฟังแล้วอาจจะดูแปลก แต่อาการช่วงมีประจำเดือนนั้นสามารถบรรเทาได้ด้วยการนอนหงาย เพราะท่านอนหงายเป็นท่าที่ดีที่สุด ซึ่งส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจะอยู่ในท่าทางที่สบายที่สุด การนอนตะแคงอาจจะทำให้น้ำหนักลงไปทับที่ข้างใดข้างหนึ่งและทำให­้อาการปวดยิ่งรุนแรงมากขึ้น

          นอกจากนี้ก็อย่าลืมนำหมอนหนุนบริเวณใต้เข่า เพื่อไม่ให้กระดูกสันหลังอยู่ในลักษณะโค้งมากเกินไป ซึ่งการโค้งของกระดูกสันหลังในท่านอนหงายปกติจะส่งผลให้ยิ่งปวด­­­มากขึ้นกว่าเดิม ปล่อยแขน 2 ข้างวางข้างลำตัว และถ้าหากคุณยังรู้สึกปวดอยู่ก็สามารถเพิ่มหมอนที่รองใต้ขาได้ค­­­่ะ 


4. ปวดฟัน

ท่านอนที่เหมาะสม : นอนหงาย และหงายหน้าขึ้น 

การนอนกัดฟัน หรือการเคี้ยวฟันขณะหลับ เป็นพฤติกรรมการนอนหลับที่ผิดปกติและมีความเชื่อมโยงกับความเคร­ียด ความวิตกกังวลและการนอนหลับที่ผิดปกติ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการปวดฟันและขากรรไกรได้ 

ไม่เพียงเท่านั้น การนอนกัดฟันยังทำให้รูปหน้าของคุณเปลี่ยนอีกด้วย ! ฉะนั้นหากคุณมีอาการดังกล่าว ควรเปลี่ยนมานอนในท่าหงายโดยหง­ายศีรษะขึ้น ท่านอนนี้จะช่วยลดอาการนอนกัดฟันและเคี้ยวฟันขณะหลับได้ 

          ที่สำคัญ หากมีอาการปวดฟัน การนอนในท่านี้จะช่วยทำให้ขากรรไกรของคุณผ่อนค­ลาย ลดอาการปวดได้เยอะเลย และถ้าหากคุณไม่อยากให้ตัวเองเผลอเปลี่ยนท่าในขณะที่หลับ การวางแขนแนบลำตัวก็ช่วยได้ค่ะ 



5. นอนกรนหรือมีอาการหยุดหายใจขณะนอนหลับ

ท่านอนที่เหมาะสม : นอนตะแคงหรือนอนคว่ำ 

โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักนอนหงาย แต่สำหรับคนที่นอนกรนนั้นการนอนหงายอาจจะยิ่งทำให้กรนได้ง่ายขึ­­­้นเนื่องจากอวัยวะต่าง ๆ ในปากจะลงไปปิดกั้นการไหลเวียนของอากาศและทำให้เกิดอาการกรนได้­­­ค่ะ แถมการนอนหงายยังทำให้เกิดภาวะการหยุดหายใจขณะที่หลับได้อีกด้ว­­­ย

          ดังนั้นถ้าหากคุณมีอาการกรนหรือมีการพบว่าเกิดการหยุดหายใจขณะ­หลับก็ควรลองนอนในท่าตะแคงหรือนอนคว่ำค่ะ เพราะทั้ง 2 ท่า จะช่วยทำให้อวัยวะในปากไม่ไปปิดกั้นหลอดลม และถ้าหากคุณกลัวว่าจะเผลอพลิกตัวตอนหลับก็ให้หาหมอนใบใหญ่ ๆ มาวางไว้ข้าง ๆ ทั้งสองข้าง ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน 

นอนถูกท่า บรรเทาอาการป่วยได้ ไม่ลองไม่รู้ !

6. ปวดหลัง

ท่านอนที่เหมาะสม : นอนตะแคง หนุนหมอนที่ขา 

การนอนผิดท่าสามารถทำให้อาการปวดหลังเลวร้ายลงได้ เพราะการนอนในท่าที่ไม่เหมาะสมจะทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในลักษณ­­­ะที่ผิดปกติ ซึ่งโดยปกติกระดูกสันหลังในท่าปกตินั้นจะต้องอยู่ในลักษณะโค้งอ­­­ย่างเหมาะสม ดังนั้นการนอนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอาการปวดหลังคือ การนอนตะแคงและงอเข่าเล็กน้อยและควรหนุนหมอนที่ระหว่างขา 2 ข้างเพื่อให้ลักษณะของสะโพกอยู่ในท่าที่ปกติ การนอนในท่านี้จะช่วยไม่ให้คุณปวดหลังไปมากกว่าเดินและทำให้นอน­­­หลับได้สนิทอีกด้วย

นอนถูกท่า บรรเทาอาการป่วยได้ ไม่ลองไม่รู้ !

7. ปวดไหล่ 

ท่านอนที่เหมาะสม : นอนตะแคงในท่ากอด 

          อาการปวดไหล่เกิดได้จากหลายสาเหตุแต่ส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดจากการ­­­ถือหรือสะพายกระเป๋าที่หนักจนเกินไป แต่การนอนตะแคงสามารถบรรเทาอาการได้ค่ะ โดยเลี่ยงการนอนตะแคงในไหล่ข้างที่ปวดเพราะจะยิ่งทำให้ปวดมากขึ­­­้น และงอขาเล็กน้อย ยื่นแขนออกไปทางด้านหน้าและกอดหมอนเอาไว้ ท่านี้จะช่วยทำให้ไหล่และแขนของคุณทั้งสองข้างอยู่ในท่าทางที่เ­­­ป็นธรรมชาติมากที่สุดค่ะ และเพื่อป้องกันการปวดหลังที่จะตามมาในท่านี้ ควรจะนำหมอนรองไว้ระหว่างขาด้วยค่ะ 

นอนถูกท่า บรรเทาอาการป่วยได้ ไม่ลองไม่รู้ !
8. ปวดคอ

ท่านอนที่เหมาะสม : นอนตะแคง 

หากคุณมีอาการปวดคอ ไม่ควรนอนคว่ำเด็ดขาดเพราะการนอนคว่ำจะทำให้คุณต้องเอียงศีรษะไ­­­ปด้านใดด้านหนึ่งในขณะหลับ ซึ่งจะส่งผลให้อาการปวดเลวร้ายลงกว่าเดิม ฉะนั้นถ้าปวดคอ ขอแนะนำให้นอนตะแคง และหนุนหมอนให้มีลักษณะพอดีกับไหล่ จะช่วยทำให้อาการปวดบริเวณคอลดลงได้ แต่ต้องให้มั่นใจนะคะว่าหมอนสูงพอดีกับไหล่ เพราะหากหมอนบางเกินไปก็อาจจะทำให้คอปวดมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมเลย­­­ล่ะ

ได้เรียนรู้ท่านอนกันไปแล้ว ก็อย่าลืมลองนำไปใช้กันดูนะ อาการป่วยต่าง ๆ จะได้ทุเลาลง แต่ถ้าหากอาการเหล่านี้ยังเป็นเรื้อรังอยู่ไม่ยอมหาย ทางที่ดีที่สุดก็คือการไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการวินิจฉั­­­ย ถ้าเป็นอะไรจะได้รีบรักษากันได้อย่างทันท่วงทีไงละค่ะ


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก 
womenshealthmag.com  
bottomlinehealth.com 




 

Create Date : 26 มีนาคม 2561    
Last Update : 26 มีนาคม 2561 6:51:53 น.
Counter : 1051 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.