อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

พ่อค้าสายโหด เขียนบิลมั่ว - ไม่พอใจชักปืนขู่ กูก็ขายของกูอย่างนี้



พ่อค้าสายโหด ! เขียนบิลมั่ว - ไม่พอใจชักปืนขู่ กูก็ขายของกูอย่างนี้

แฉร้านอาหารป่าแถวซอยบ่อยาง เขียนบิลไม่รู้เรื่อง พอลูกค้าถามไม่พอใจ ด่ายับ แถมชักปืนขู่ บอกกูขายของกูอย่างนี้ !

       เมื่อวันที่ 7 เม.ย.60 เมื่อเพจดังอย่าง เครือสหพัฒน์-แหลมฉบัง มีการแชร์คลิปวีดีโดร้านขายอาหารป่า แถวซอยบ่อยาง (เครือสหพัฒน์) ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งสาเหตุที่ทำให้พ่อค้าโหดรายนี้มีอาการโมโห เนื่องจากว่า มีลูกค้ากลุ่มหนึ่งได้สั่งอาหารมานั่งรับประทานที่ร้าน จากนั้นเมื่อถึงเวลาเช็กบิล ลูกค้าไม่เข้าใจในรายการที่เป็นลายมือของพ่อค้า ที่เหมือนกับการเขียนบิลมั่ว ๆ ขึ้นมา เป็นแค่เส้น ไม่บอกว่ารายการอาหารที่สั่งนั้นคืออะไร ลูกค้าจึงได้สอบถามกับพ่อค้า แต่กลับทำให้พ่อค้าไม่พ่อใจ ด่าลูกค้าแล้วชักปืนขู่ และราคาแพงเกินจริง อาหาร 5 อย่างทั้งหมด 1,695 บาท โดยผู้โพสต์คลิปดังกล่าว ได้เผยถึงราคาอาหาร ดังนี้

       ต้มยำน้ำข้น ทะเล 260 บาท
       กวางผัดเผ็ด 260 บาท
       ไก่คั่วเกลือ 280 บาท (ครึ่งตัว)
       เก้งผัดเผ็ด 260 บาท
       ต้มยำไก่ 160  บาท
       ข้าวเปล่า 3 จาน 50 บาท
       หงษ์กลม 300  บาท
       โซดา 5ขวด น้ำแข็ง 2 กระติก 105 บาท
       เป๊บซี่ 3 ขวด 30 บาท


       นอกจากนี้ เมื่อลูกค้าเดินออกมา พ่อค้ายังยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อเป็นการประกาศศักดินา

  ทั้งนี้ เมื่อคลิปดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียล ทำให้ชาวเน็ตแห่แชร์คลิปนี้มากกว่า 3 พันครั้ง และเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ส่วนใหญ่บอกว่าพฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ควรมาทำอาชีพค้าขาย และมีบางคนก็เคยไปอุดหนุนร้านดังกล่าวมาแล้ว ส่วนใหญ่บอกว่าร้านนี้มักจะคิดเงินเกินราคา และมีบางรายเคยเจอพ่อค้าคนนี้ควักปืนขู่ตอนจ่ายตังค์มาแล้ว รวมถึงยังให้ความเห็นว่าเป็นสิทธิของลูกค้าที่สามารถสอบถามรายการบิลได้



ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก เครือสหพัฒน์-แหลมฉบัง




 

Create Date : 09 เมษายน 2560    
Last Update : 9 เมษายน 2560 12:52:12 น.
Counter : 1535 Pageviews.  

10 ที่เที่ยวกำแพงเพชร สวยได้ใจจนอยากไปอีก



ที่เที่ยวกำแพงเพชร

แนะนำที่เที่ยวกำแพงเพชร จังหวัดน่าเที่ยวของไทย ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งโบราณสถาน ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตผู้คนที่เรียบง่าย ใครอยากเที่ยวกำแพงเพชร ลองเข้ามาดูกัน

กำแพงเพชร อีกหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยวของไทย แต่เชื่อหรือเปล่าว่า…น่าจะมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ยังไม่รู้ว่าที่กำแพงเพชรมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ทั้งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตผู้คน ที่ล้วนแล้วสร้างเสน่ห์ให้กำแพงเพชร เป็นอีกหนึ่งจังหวัดฝันของนักเดินทางใครหลายคน วันนี้เราเลยอยากขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวกำแพงเพชรที่น่าสนใจให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักมากขึ้น ไม่แน่นะว่า คุณอาจตกหลุมรักกำแพงเพชรเข้าโดยไม่รู้ตัว
1. โมโกจู

ที่เที่ยวกำแพงเพชร
ภาพจาก sittichai butlop / Shutterstock.com

ยอดเขาสูงที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อีกหนึ่งสถานที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย เพราะเมื่อไปถึงยอดเขา นักท่องเที่ยวจะเจอกับทิวทัศนี่สวยงามตระการตา โดยเส้นทางพิชิตยอดดอยโมโกจู จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเที่ยวชมเพียง 4 เดือนเท่านั้น คือ เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะต้องทำการติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และเป็นผู้นำทางขึ้นเพื่อความปลอดภัย อีกทั้งยังต้องค้างแรมกลางป่า และใช้เวลาไป-กลับ ประมาณ 5 วัน 4 คืน ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรฟิตร่างกายมาให้พร้อม (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โทรศัพท์ 090 579 291)

2. ช่องเย็น

ที่เที่ยวกำแพงเพชร
ภาพจาก Seeworld88 / Shutterstock.com

ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 28 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจะสัมผัสอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี และเป็นจุดดูพระอาทิตย์ตก ณ จุดชมวิวผาสวรรค์ ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง นอกจากอากาศที่นี่จะฟินได้แบบถึงใจแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้ชื่นชมกับความสวยงามของพรรณไม้และนกนานาชนิด ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เพราะช่องเย็นมีบริการทั้งบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการ (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โทรศัพท์ 090 579 291)

3. อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร ประกอบด้วยกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับประกาศให้เป็น "มรดกโลก" จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2534 แบ่งออกเป็นโบราณสถานฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ซึ่งมีความแตกต่างกันในการใช้วัสดุก่อสร้าง โบราณสถานด้านตะวันออกเป็นที่ตั้งเมืองกำแพงเพชร โบราณสถานสร้างด้วยศิลาแลงและมีขนาดใหญ่ ส่วนโบราณสถานฝั่งตะวันตก คือ เมืองนครชุมก่อสร้างด้วยอิฐและมีขนาดเล็ก แต่รูปแบบศิลปะที่ปรากฏนั้นมีลักษณะร่วมสมัยระหว่างสุโขทัยและอยุธยา (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร โทรศัพท์ 055 854 736-7 หรือ เฟซบุ๊ก อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร)

4. วัดพระสี่อิริยาบถ

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

ตั้งอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เป็นวัดขนาดใหญ่และมีโบราณสถานที่เป็นเอกลักษณ์ คือ มณฑปพระสี่อิริยาบถ ทั้งนี้ภายในวัดยังมีโบราณสถานสำคัญต่าง ๆ ประกอบด้วย "มณฑปจตุรมุข" ซึ่งมีรูปแบบเหมือนดังที่พบที่วัดเชตุพนและวัดพระพายหลวง จังหวัดสุโขทัย "พระมหาวิหาร" วิหารขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าสุด และ "บ่อตัดศิลาแลง" ตั้งอยู่ด้านหน้าวัด เป็นบ่อที่ใช้ในการตัดศิลาแลงให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ ก่อนที่จะนำไปใช้ในการสร้างวัด (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร โทรศัพท์ 055 854 736-7 หรือ เฟซบุ๊ก อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร)

5. น้ำตกคลองลาน

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติคลองลาน จุดเด่นของน้ำตกคลองลานอยู่ที่ ลำธารที่ไหลเป็นสายยาวเหยียดเหมือนคลอง อีกทั้งยังเป็นน้ำตกที่สูงและใหญ่ เหมาะกับการพักผ่อนตามธรรมชาติและการถ่ายรูปสุด ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนใหญ่นิยมมาทานอาหารริมธารน้ำตก ส่วนเด็ก ๆ ก็ลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังมีจุดกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติคลองลาน โทรศัพท์ 088 407 9915

6. ตลาดย้อนยุคนครชุม

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

ที่เที่ยวกำแพงเพชร
ตั้งอยู่บริเวณเทศบาลตำบลนครชุม นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศตลาดแบบย้อนยุค เห็นได้จากการแต่งการด้วยชุดไทยของพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งเป็นเอลักษณ์ของชาวนครชุม นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งสินค้าต่าง ๆ เช่น สินค้าหัตถกรรม งานจักสาน แวะชิมอาหารโบราณที่หาทานได้ยาก รวมถึงการชมการละเล่นพื้นบ้าน การประกวดร้องเพลง และการบรรเลงดนตรีไทย เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมตลาดย้อนยุคนครชุม ได้ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์แรกของเดือน (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมตลาดย้อนยุคนครชุม โทรศัพท์ 055 738 868 หรือ เฟซบุ๊ก ตลาดย้อนยุคนครชุม)

7. วัดบรมธาตุนครชุมกำแพงเพชร

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

ตั้งอยู่บริเวณตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคูเมืองกำแพงเพชร ภายในประอบด้วยศาสนสถานสำคัญ เช่น พระบรมธาตุเจดีย์ภายในบรรจุพระสารีริกธาตุ 9 องค์, ต้นศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่ที่พระยาลิไททรงปลูกไว้, พระอุโบสถหลังเก่า, พระวิหาร, วิหารพระนอน, ศาลาเรือนไทย ยังมีศาลาการเปรียญที่ใช้เป็นศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมวัตถุโบราณและเรื่องราวต่าง ๆ ของเมืองนครชุมเอาไว้มากมาย เพื่อให้เป็นแหล่งความรู้แก่ชุมชน ทั้งทางด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตสืบไป

8. บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง (บึงสาป)

ที่เที่ยวกำแพงเพชร
ภาพจาก Natalia Sidorova / Shutterstock.com

ตั้งอยู่ที่บ้านลานหิน ตำบลลานดอกไม้ อำเภอเมืองกำแพงเพชร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอันเกิดจากนำพุร้อนธรรมชาติ ที่ปราศจากสารเจือปน ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นที่ร่ำลือในเรื่องคุณสมบัติในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ อย่างอาการปวดเมื่อยตามร่างการ หรือโรคผัวหนัง จึงทำให้มีทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างเดินทางกันมาอาบ ดื่ม และกิน บางรายก็นำน้ำกลับไปเพื่อความเป็นสิริมงคล แถมภายในยังมีบ้านพักรับรองให้นักท่องเที่ยวได้นอนค้างคืนอีกด้วย (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร โทรศัพท์ 055 718 280-96 หรือ เฟซบุ๊ก บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง – บึงสาป)

9. สระมรกตกำแพงเพชร

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

ตั้งอยู่บริเวณตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองกำแพงเพชร อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เคยเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียล มีลักษณะเป็นบ่อดินลูกรังขนาดใหญ่ ความสวยงามอยู่ที่ในบ่อมีน้ำสีฟ้าครามสวยงาม นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่อาจต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินผ่านโขดหินต่าง ๆ เพราะน้ำในบ่อลึกประมาณ 8-10 เมตร ซึ่งมีทั้งความลึกและเย็น (เดินไม่ดีอาจพลัดตกลงไปได้) ซึ่งสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

10. ริมแม่น้ำปิง

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

          สถานที่พักผ่อนหย่อนใจในตัวเมืองกำแพงเพชร นักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากสัมผัสบรรยากาศดี  ๆ ท้องฟ้าสวย ๆ แถลมพัดเย็นสบาย นั่งมองแม่น้ำไหลเอื่อย ต้องลองมาที่นี่ดู นอกจากบรรยากาศชิล ๆ แล้ว ทุกวันเสาร์ที่สองและที่สี่ของเดือน ที่นี่จะมีถนนคนเดิน ตั้งแต่แยกศาลเจ้าพ่อเสือ ถึงสามแยกไฟแดงด้านหลังโรงพยาบาลกำแพงเพชร นักท่องเที่ยวสามารถเลือกช้อปสินค้า ชิมอาหารอร่อย ๆ หลากหลายรสชาติ และชมสีสันแห่งแสงไฟที่สะท้อนผืนน้ำและบรรยากาศสวยงามยามค่ำคืนริมฝั่งแม่น้ำปิงได้อีกด้วย

เป็นยังไงบ้างคะ ? กับสถานที่ท่องเที่ยวกำแพงเพชรที่เราเอาฝากกันในวันนี้ แต่ละที่เที่ยวล้วนแล้วมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยกันทั้งนั้น ใครที่เลือกไม่ถูกว่าจะไปเที่ยวที่นี่ไหนดี เราแนะนำให้เพื่อน ๆ ลองหาวันหยุดยาว ๆ สักสามวันสองคืน แล้วตระเวนเที่ยวกำแพงเพชรกันดูนะคะ เชื่อแน่ว่าคุณจะต้องประทับใจกับสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้อย่างแน่นอน ^ ^

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
thai.tourismthailand.org, เฟซบุ๊ก อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร, เฟซบุ๊ก ตลาดย้อนยุคนครชุม, เฟซบุ๊ก บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง – บึงสาป, เฟซบุ๊ก Pinyapat Khamrod




 

Create Date : 08 เมษายน 2560    
Last Update : 8 เมษายน 2560 13:12:04 น.
Counter : 4203 Pageviews.  

สูตร ตำแตงปูปลาร้า อีกหนึ่งเมนูอร่อยในร้านส้มตำ



ตำแตง เป็นอีกหนึ่งเมนูอร่อยของร้านส้มตำ ที่ใส่แตงร้านแทนเส้นมะละกอ สับแตงร้านให้เป็นเส้นกรอบๆ ตำกับปูปลาร้า ความหวานของแตงร้านก็ออกมาผสมด้วย เมนูนี้จะมีน้ำเยอะกว่าส้มตำปกติ เพราะแตงร้านเวลาตำน้ำของแตงร้านจะออกมาด้วยเวลาปรุงก็ควรปรุงให้รสจัดเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม
ส่วนผสม

 

  • กระเทียม 5-6 กลีบ
  • พริกแห้ง ตามชอบ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาร้าต้มสุก 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา
  • มะเขือเทศสีดา
  • ปูเค็ม 2 ตัว
  • แตงร้านสับ 2 ลูก
  • มะนาว ครึ่งลูก

วิธีทำ

  1. ตำกระเทียมกับพริกแห้งให้แหลก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า และน้ำตาลปี๊บ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. ผ่าครึ่งมะเขือเทศสีดาใส่ลงไป ตามด้วยปูเค็ม แกะกระดองปูให้เรียบร้อยแล้วตำให้เข้ากัน
  3. ใส่เส้นแตงร้านสับลงไปตำอย่างเบามือ พอให้น้ำเข้าเส้น จากนั้นให้บีบมะนาวลงไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย

เรียบเรียงโดย Food MThai




 

Create Date : 08 เมษายน 2560    
Last Update : 8 เมษายน 2560 13:02:06 น.
Counter : 2131 Pageviews.  

คุณกำลังเป็นแบบนี้หรือไม่? เช็กลิสอาการเตียงดูด อันตราย! เสี่ยงเป็นโรค



พอเวลาเหนื่อยๆ เคยเป็นกันไหมคะ รู้สึกล้าจนไม่อยากลุกขึ้นจากเตียงเลย เหมือนหมอนและที่นอนมันสามารถดูดพลังเราได้ ถ้าตื่นมาแล้วพบว่ามีความรู้สึกอย่างนี้ วันนั้นทั้งวันคุณจะไม่อยากทำอะไรเลยล่ะ หากเป็นแบบรู้บ่อยๆ คุณรู้หรือไม่ว่ามันเป็นสัญญาณอันตรายที่จะพาคุณไปสู่โรคร้ายได้นะ

เช็กลิส 5 อาการเตียงดูด คุณเป็นแบบนี้หรือไม่?

1. เวลาเหนื่อยมักนึกถึงเตียงเป็นอันดับแรก

เวลาเสร็จจากการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ เมื่อเหนื่อยมากๆ ก็จะนึกถึงเตียง รู้สึกหมดพลัง อยากล้มตัวลงนอนที่เตียงตลอดเวลา

2. เห็นเตียงแล้วง่วง อยากนอนตลอดเวลา

แค่เห็นเตียงก็ทำให้รู้สึกง่วงได้เลย เพราะความรู้สึกของคุณนั้นอยากจะนอนตลอดเวลา แม้มันจะไม่ใช่เวลาปกติที่คุณเข้านอนก็ตาม

3. การได้นอนอยู่บนเตียง มีความสุขมากที่สุด

อยู่บนเตียงแล้วสบาย ปลอดภัย ไม่อยากลุกออกไปทำอะไร แค่ได้อยู่บนเตียง นอนกลิ้งไปกลิ้งมา แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

4. อยากให้ทุกๆ ที่มีเตียง นึกถึงเตียงตลอดเวลา

ถ้าตรงนี้มีเตียงก็ดีนะ เป็นคำพูดที่คุณคิดอยู่ในใจ เมื่อเวลาที่คุณเหนื่อย เครียด หรือมีเรื่องที่ทำให้คุณไม่สบายใจ คุณก็จะคิดถึงเตียง อยากนอนตลอดเวลา

5. ทำทุกกิจกรรมอยู่บนเตียง

ไม่ว่าจะกิน นอน ดูหนัง เล่นโทรศัพท์ คุณก็นอนทำอยู่เตียง ไม่ยอมลุกออกไปไหน คล้ายกลับว่ามันมีพลังพิเศษ สามารถดูดตัวคุณให้ติดกับเตียงได้ตลอดเวลา

หากอ่านมาถึงจุดนี้แล้วพบว่าตัวเองนั้นมีอาการต้องสงสัยตามที่กล่ามว่า ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าอันตรายมากๆ เพราะอาการเตียงดูดจากสาเหตุเหล่านี้ มันสามารถทำให้คุณหลายเป็นคน “ขาดแรงบันดาลใจ” ในการทำสิ่งต่างๆ ซึ่งสิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาการ “โรคซึมเศร้า” หรือ “สภาวะเครียด”

เมื่อพบว่าตัวเองนั้นมีอาการสุ่มเสี่ยงก็ควรที่จะเริ่มแก้ไขตั้งแต่ต้น เพื่อป้องกันไม่ให้สภาพร่างกายและจิตใจ รู้สึกขาดกำลังใจ และไม่อยากทำอะไรต่อจากนี้ โดยมีวิธีรักษาคือ

1. ลุกขึ้นมาออกกำลังกายซะ

ในระยะแรกๆ ให้ขึ้นลุกขึ้นมาออกกำลังกายก่อน เพราะการออกกำลังกายจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีพลังที่จะไปทำอย่างอื่นได้ต่อ

2. ทานอะไรหวานๆ สักหน่อย

เมื่อร่างกายของคุณทำงาน เรียน หรือทำกิจกรรมอื่นๆ มาทั้งวัน ก็มักจะทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ทั้งนี้ก็เพราะระดับน้ำตาลนั้นลดลง ทำให้ร่างกายไม่กระปรี้กระเปร่าเหมือนก่อน คุณอาจลองมาทาน หรือดื่มอะไรหวานๆ สักนิด เพื่อทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้น

3. รักษาด้วยยา

หากผู้ป่วที่มีอาการหนักมาก อาจจะต้องพึ่งยาเป็นตัวช่วยในการรักษา ทั้งนี้การใช้ยารักษานั้นต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของจิตแพทย์นะ

ด้วยวิถีการดำเนินชีวิตของเรานั้นมีอะไรให้ทำมากมายในแต่ละวัน หากใครที่รู้สึกว่าเหนื่อย มีอาการเนือยๆ ไม่อยากทำอะไร เครียด หรือกำลังกังวลอะไรสักอย่าง ลองหันมาปรึกษาหรือพูดคุยกับคนรอบข้างดู อย่างน้อยการระบายก็เป็นวิธีที่ดี ที่จะช่วยให้คุณนั้นรู้สึกว่าได้วางเรื่องที่กำลังแบกอยู่ลง นอกจากนี้คุณควรหาเวลามาทำกิจกรรมอื่นเพื่อเป็นการผ่อนคลายตนเองบ้าง เช่น พบปะเพื่อนฝูง กินข้าว ดูหนัง หรือฟังเพลง สิ่งเหล่านี้อาจทำให้สมองที่ตึงเครียดของคุณผ่อนคลายลง เหมือนได้เต็มพลังให้ชีวิตอีกครั้งก็ได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Infographic Thailand




 

Create Date : 08 เมษายน 2560    
Last Update : 8 เมษายน 2560 12:51:46 น.
Counter : 940 Pageviews.  

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน บนหมู่เกาะในทะเลอันดามัน



ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

พาเที่ยวชุมชน 9 หมู่เกาะ ณ ท้องทะเลฝั่งอันดามัน นับจากจังหวัดระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง และสตูล ซึ่งในแต่ละเกาะหรือแต่ละชุมชนมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นของตัวเอง

          แหล่งท่องเที่ยวในบ้านเรามีการพัฒนาการรูปแบบท่องเที่ยวได้หลากหลาย มีการนำทรัพยากรจากธรรมชาติ ทรัพยากรชุมชนประเพณีวัฒนธรรม รวมถึงองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ ที่อยู่คู่กับชุมชน และอื่น ๆ มาปรับให้สอดคล้องกันการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนและประเทศได้อย่างดีเยี่ยม
           หากชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ ที่มีการพัฒนาการท่องเที่ยวกระจายอยู่ทั่วประเทศ มีรูปแบบตามเนื้อหาสาระของชุมชน ตามภูมิศาสตร์ ประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิม ตามสภาพสังคมของชุมชนนั้น ๆ หรือแม้กระทั่งการเกษตรกรรม การทำไร่ ทำสวน ก็สามารถสร้างสรรค์เป็นมูลค่าเพิ่มจากการท่องเที่ยวขึ้นมาได้ สำหรับพื้นที่ทางด้านท้องทะเล หมู่เกาะต่าง ๆ ซึ่งในวันนี้ชุมชนแต่ละที่ได้ปรับตัวด้านการท่องเที่ยวขึ้นมาอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน หากรวมผืนทะเล หมู่เกาะทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามันก็นับเป็นจำนวนไม่น้อย

           ฤดูกาลนี้ อนุสาร อ.ส.ท. หยิบยกชุมชนท่องเที่ยวตามหมู่เกาะท้องทะเลฝั่งอันดามัน นับจากจังหวัดระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง และสตูล ซึ่งในแต่ละท้องที่มีอัตลักษณ์ โครงสร้างสังคม โครงสร้างภูมิศาสตร์ ศาสนา อาชีพ เป็นจุดเด่นที่ต่างกันมานำเสนอแก่ผู้อ่าน ดังจะเห็นได้ว่าแต่ละเกาะ แต่ละชุมชน มีรูปแบบการท่องเที่ยวในชุมชนที่เหมือนกัน คือมีการประกอบอาชีพประมง การทำไร่ ทำสวน ซึ่งมีการต่อยอด สร้างสรรค์ พัฒนาด้านการท่องเที่ยวจนเป็นชุมชนท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างเข้มแข็ง

วิถีชาวเลที่หมู่เกาะสุรินทร์


ท่องเที่ยว 9 ชุมชน



           หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นหาดทราย ป่าเขา หรือสิ่งมีชีวิตได้ท้องทะเลที่มีความหลากหลาย ทั้งหมู่ปลาน้อยใหญ่ ปะการังหลากชนิด สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ อีกจำนวนมาก ที่เราสามารถลงไปชื่นชมได้อย่างใกล้ชิด

           เริ่มต้นที่ท่าเรือคุระบุรี เดินทางด้วยเรือเร็วประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงเกาะสุรินทร์เหนือ เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ มีหาดทรายสวยงามคืออ่าวช่องขาด และยังมีหาดทางด้านหลังเกาะ คือหาดไม้งาม มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์เป็นศูนย์กลางการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ส่วนเกาะใหญ่ที่อยู่ใกล้กันคือเกาะสุรินทร์ใต้ โดยมีอ่าวช่องขาดคันกลางไว้ เดิมทีเคยเป็นที่พักอาศัยของชนเผ่ามอแกน อาศัยเรือเป็นบ้าน ปัจจุบันได้เคลื่อนย้ายชนเผ่ามอแกนทั้งหมดไปตั้งบ้านเรือนที่อ่าวบอน

           กิจกรรมท่องเที่ยวบนหมู่เกาะสุรินทร์คือเที่ยวชมธรรมชาติบนเกาะ ดำน้ำชมปะการังน้ำตื้นตามอ่าวต่าง ๆ เช่น เกาะสุรินทร์เหนือ อ่าวช่องขาดมีหาดทรายสวยงาม ยามน้ำลดผืนทรายกว้าง อ่าวแม่ยายเป็นแหล่งปะการังน้ำตื้นที่สวยงามและสมบูรณ์มาก หรือถ้าเดินเท้าจากอ่าวช่องขาดไปอ่าวไม้งามจะผ่านอ่าวกระทิง หาดทรายขาวเนียน บรรยากาศสงบเงียบ ส่วนอ่าวไม้งามเป็นอ่าวขนาดใหญ่ หาดทรายขาวเนียน น้ำทะใส มีลานกางเต็นท์ มีร้านอาหารสำหรับบริการนักท่องเที่ยว

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           ส่วนเกาะสุรินทร์ใต้มีความงดงามไม่แพ้เกาะสุรินทร์เหนือ โดยเฉพาะแนวปะการังน้ำตื้น เต่าทะเล กุ้งมังกร ปลาสวยงามมากมาย นอกจากนี้ยังได้ชมวิถีชีวิตชุมชนของชาวมอแกน ที่รวมกลุ่มตั้งบ้านเรือนเป็นหลักแหล่งอยู่ที่อ่าวบอน ปลูกบ้านเรือนยกพื้นสูงอยู่ตลอดแนวหน้าชายหาด พร้อมกับมีโรงเรียน มีสถานีอนามัยอยู่ด้วย

           นักท่องเที่ยวนิยมมาเยือนหมู่บ้านชาวเลเพื่อชมวิถีชีวิตที่มีความผูกพันกับท้องทะเลมาช้านาน พวกเขาดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย อาชีพดั้งเดิมคือการจับสัตว์น้ำมาเลี้ยงชีพ ต่อมาก็เป็นลูกจ้างของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จึงมีรายได้ที่แน่นอน และยังมีอาชีพบริการขับเรือพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำชมปะการังด้วย

           ภายในบริเวณหมู่บ้านจะพบชาวบ้านนำเครื่องจักสาน เสื่อพื้นบ้าน กำไลสาน กระติบใส่ของ สินค้าส่วนใหญ่เป็นงานฝีมือที่ทำขึ้นมาเอง และยังมีงานฝีมือเป็นเรือชาวเลเกาะไม้ขนาดจิ๋ว นำมาขายเป็นของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน

           หากต้องการชมบรรยากาศที่สวยงามของอ่าวบอนต้องเป็นช่วงยามเช้า มีพระอาทิตย์ขึ้นหน้าอ่าว แต่น่าเสียดายว่าทางอุทยานไม่ให้นักท่องเที่ยวมาพักค้างแรมที่อ่าวบอน ต้องไปพักที่อ่าวช่องขาดหรือหาดไม้งาม ในพื้นที่กำหนดไว้เท่านั้น

การติดต่อ

           อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา 82150 โทรศัพท์ 0 7647 2145-6 และ 0 7647 2146

เรือโดยสาร

           ติดต่อสอบถามบริษัทชาบีน่าทัวร์ โทรศัพท์ 08 1737 5801, 08 1737 2625 และ 0 7647 2216

หมายเหตุ

           - ปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายนของทุกปี

           - เปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายนถึงวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี

เกาะปันหยี ตำนานแห่งท้องทะเลที่อ่าวพังงา


ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           เรื่องราวของวิถีชุมชนที่ตั้งอยู่กลางท้องทะเลอันเป็นที่รู้จักกันมาช้านานอย่างเกาะปันหยี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา

           เกาะปันหยี หรือบ้านกลางน้ำที่มาจาก “โต๊ะบาบู” ผู้นำชาวอินโดนีเซียที่อพยพมาเมื่อ 200 ปีก่อน เมื่อมาพบเกาะปันหยี ได้ขึ้นไปปักธงเพื่อให้กลุ่มที่อพยพมาด้วยกันรู้ว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการตั้งบ้านเรือน คำว่า “ปันหยี” แปลว่า “ธง” เกาะปันหยีเป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่กลางทะเล มีบ้านเรือนประมาณ 200 หลังคาเรือน มีที่ราบที่เชิงเขาประมาณ 1 ไร่ ใช้สำหรับสร้างมัสยิดและกุโบร์ ชาวเกาะส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ประกอบอาชีพทำประมงพื้นบ้าน ตลอดจนมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารมากมาย

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะปันหยีส่วนใหญ่เป็นเรื่องของชุมชนที่มีจุดเด่น คือ “บ้านกลางน้ำ” หมู่บ้านที่ปลูกสร้างอยู่กลางทะเลโดยไม่มีพื้นดินเลย บ้านเรือนเรียงรายติดกัน มีการสร้างสนามฟุตบอลลอยน้ำเป็นลานกีฬาชุมชนขึ้นมา

           ชุมชนเกาะปันหยีตั้งอยู่ท่ามกลางท้องทะเลที่โอบล้อมด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ มีระบบการดำรงชีวิตที่พึ่งพาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ มีข้อจำกัดด้านนิเวศ ภูมิศาสตร์ และโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ประมงน้ำตื้น ประมงอวนลอย โป๊ะ เลี้ยงหอยแครง และเลี้ยงปลาในกระชัง

           ธรรมชาติงดงามในพื้นที่อ่าวพังงาเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น ถ้ำลอด เขาหมาจู เขาพิงกัน เขาตาปู ซึ่งมีลักษณะเหมือนตาปู และยังมีกลุ่มยอดเขาต่าง ๆ อีกมากมาย พร้อมกับมีผืนป่าที่สมบูรณ์อีกด้วย จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวอ่าวพังงาและเที่ยวชมเกาะปันหยีเสมอมา

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           บนเกาะปันหยีมีร้านขายสินค้าของที่ระลึก เช่น ผ้าบาติก สร้อย กำไล แหวน ที่ทำมาจากหอยมุก และยังมีผลิตภัณฑ์อาหารจากทะเล เช่น หมึกแห้ง ปลาเค็ม น้ำพริกกุ้งเสียบ กะปิ และเป็นจุดพัก รับประทานอาหารของนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวอ่าวพังงาด้วย

การเดินทาง

           การล่องอ่าวพังงา-เกาะปันหยี

           1. ท่าเรือท่าด่านศุลกากร ตั้งอยู่ในอำเภอตะกั่วทุ่งห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาไปเล็กน้อย

           2. ท่าเรือสุระกุล หรือท่าเรือกะโสม ในอำเภอตะกั่วทุ่ง

           3. ท่าเรือในบริเวณอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา

           4. ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวจากจังหวัดภูเก็ตหรือพังงา มีให้บริการมากมาย โปรแกรมท่องเที่ยวใช้เวลาประมาณครึ่งวัน

สามช่องใต้ มิติความงามแห่งธรรมชาติในวิถีชุมชน

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           ในพื้นที่ของบ้านสามช่องแบ่งออกเป็นสองหมู่บ้านเล็ก ๆ คือหมู่บ้านสามช่องเหนือ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารทะเลรสเลิศ และหมู่บ้านสามช่องใต้ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มช่างภาพและนักเดินทาง เนื่องจากวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน รวมไปถึงทัศนียภาพยามเช้าที่สวยงาม

           สามช่องใต้ คือชื่อหมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่งในตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา คำว่า “สามช่อง” ในความหมายของคนพื้นถิ่นก็คือ “สามแยก” โดยจากหมู่บ้านมีเส้นทางทางน้ำเชื่อมต่อไปยังตำบลเกาะปันหยีและตำบลคลองเคียน

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           บ้านสามช่องใต้มีทิวทัศน์งดงามด้วยธรรมชาติทางภูมิประเทศ ทั้งภาพภูเขาหินปูนเรียงราย ผืนน้ำทะเลที่เรียบนิ่ง กว้างไกลสุดสายตา แนวป่าชายเลนสมบูรณ์ ภาพของกระชังเลี้ยงปลาและบ้านกลางน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามเช้าที่ดวงอาทิตย์ขึ้นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามเช้าที่ดวงอาทิตย์ขึ้นนั้น นับเป็นความงามที่ลงตัวอย่างยิ่ง ชาวบ้านสามช่องใต้ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม ปะกอบอาชีพประมงเลี้ยงหอยนางรม เลี้ยงหอยแมลงภู่ และเลี้ยงปลาในกระชัง

           นอกจากนี้ในหมู่บ้านยังมีโฮมสเตย์และร้านอาหารพ้นถิ่นของชาวบ้านที่ขายขนมจีน ชา กาแฟ และโรตี นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้การทำปลาแดดเดียว การทำกะปิ การทำอวน การทำขนมพื้นถิ่นอย่างขนมจากและขนมเปียก นอกจากนี้ยังมีเรือหางยาวนำชมป่าชายเลน ถ้ำลอดในเขาหินปูน ซึ่งระหว่างทางจะผ่านบ้านสามช่องเหนือที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันอีกด้วย

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           สำหรับบ้านสามช่องเหนือเป็นหมู่บ้านชาวประมง ที่มีประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม เดิมเรียกว่า “ทับเหนือ” คำว่า “ทับ” หมายความว่าที่อยู่อาศัยชั่วคราวของชาวประมง ต่อมาเมื่อเป็นชุมชนใหญ่ จึงได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็นบ้านสามช่องเหนือ โดยมีที่มาจากลำคลองสามสายที่ไหลผ่านเหนือหมู่บ้าน คือคลองบางหลาม คลองเชียงใหม่ และคลองตาจอ ไหลมารวมกันเรียกว่าคลองสามช่อง อาชีพของชาวบ้านส่วนใหญ่ ได้แก่ การทำประมง การหาหอย ปลูกป่าชายเลน ทำกะปิ กรีดยาง การทำไปจากมวนยาสูบ

           ทุกวันนี้ชุมชนบ้านสามช่องใต้มีเสน่ห์ความงดงามของวิถีชุมชนที่เพียบพร้อม มีทัศนียภาพสวยงามจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง รวมถึงบ้านสามช่องเหนือซึ่งเป็นชุมชนงดงามไม่แพ้กัน

การเดินทาง

           จากตัวเมืองพังงา ใช้ถนนเพชรเกษม ผ่านตำบลกะไหล ถึงแยกไฟแดงบ้านสามช่องแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอย จากนั้นตรงไปจนถึงสถานีวิจัยป่าชายเลนจังหวัดพังงา แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีก 3 กิโลเมตร จะถึงบ้านสามช่องใต้

ที่พัก

           สามช่องใต้ โฮมสเตย์ โทรศัพท์ 09 3663 0259

เกาะยาวน้อย เส้นทางเชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่ 3 จังหวัด


ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           เกาะยาวน้อยเป็นเกาะขนาดใหญ่อีกเกาะหนึ่งที่อยู่กลางทะเลอันดามัน มีสถานะเป็นตำบลเกาะยาวน้อย อยู่ในท้องที่อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา มีพื้นที่เกาะทางทิศเหนือติดกับอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ และอำเภอเมืองพังงา ทิศใต้ติดกับทะเลอันดามัน ทิศตะวันออกติดกับอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ และทิศตะวันตกติดกับอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จึงเป็นเกาะที่สามารถเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมทางเรือได้ถึง 3 จังหวัด สามารถเดินทางได้จากท่าเรือทั้งภูเก็ต กระบี่ และพังงา

           ชาวบ้านเกาะยาวน้อยส่วนใหญ่เป็นมุสลิม มี 7 หมู่บ้าน มีมัสยิดถึง 8 แห่ง โรงเรียน 4 แห่ง เนื่องจากเป็นตำบลใหญ่ ประกอบกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ จึงทำให้มีผู้คนเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนจำนวนไม่น้อย มีโรงแรม รีสอร์ทขนาดใหญ่และขนาดเล็กอีกจำนวนมาก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติที่สงบ เรียนรู้เรื่องราวของวิถีชุมชนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           หากเดินทางจากกระบี่ ที่ท่าเรือท่าเลน ในเขตอำเภออ่าวลึก จะมีเรือโดยสารออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น เมื่อมาถึงท่าเรือท่าเขา ด้านหน้าเกาะจะเห็นเอกลักษณ์ของเกาะยาวน้อย คือรูปปั้นนกแก๊กคู่ในวงกรอบรูปหัวใจ ซึ่งสามารถพบเห็นนกเงือกได้ง่ายบนเกาะแห่งนี้

           บริเวณท่าเรือท่าเขาเป็นแหล่งรวมรถโดยสารบนเกาะ มีทั้งมอเตอร์ไซค์ให้เช่า รถสองแถว และยังเป็นศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยวบนเกาะ อีกทั้งเป็นศูนย์โอท็อปของชุมชน สินค้าส่วนใหญ่เป็นผ้าบาติกมีรูปปั้นนกเงือก มีจุดชมวิว

           เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวเกาะยาวน้อย ควรเลือกเช่ารถสองแถว คนขับจะไปตามเส้นทางที่ชำนาญกว่า โดยเริ่มจากท่าเรือ เลาะไปตามคลองท่าเขา ผ่านชุมชนประมง สวนยาง จนมาถึงบ้านอันเป้ามีบ่อน้ำจืดกลางทะเล เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต้องดูตอนน้ำลด สามารถเห็นตาน้ำจืดผุดขึ้นมา

           มาถึงบ้านอันเป้า เลี้ยวขวา ผ่านมายังท่าเรือต้นโด หรือต้นประดู่ มีร้านอาหาร มีสะพานยื่นไปในทะเล มีทิวทัศน์ท้องทะเลทางด้านตะวันตก เลียบเลาะไปยังท่าเรือสะพานยาว ชุมชนโฮมสเตย์บ้านท่าค่ายแล้วมาถึงย่านใจกลางเมืองบนเกาะยาวน้อย ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ที่พักในราคาไม่แพงมากนัก

           แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งคือกระชังบ้านมังกร เป็นกระชังเลี้ยงกุ้งมังกรและปลาต่าง ๆ ตั้งอยู่ในบริเวณอ่าวบ้านแหลมไทร จากนั้นก็เป็นแนวชายหาดด้านตะวันออก บริเวณบ้านป่าทรายมีหาดป่าทราย หาดสวย น้ำใส ถัดมาจะมีจุดชมวิว มองเห็นเกาะห้อง เกาะผักเบี้ย เกาะไข่ แล้ววกกลับมาท่าเรือ ท่าเขาอีกครั้ง สามารถนั่งเรือโดยสารเที่ยวสุดท้ายกลับท่าเลนในช่วงเวลา 16.00 น. ได้

           สามารถเลือกเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะยาวน้อยเพียงวันเดียว โดยไม่ต้องพักค้างแรมบนเกาะ หากจะเลือกหาบรรยากาศสวยงามก็ต้องพักค้างแรมกันสักคืน

การเดินทาง

           ท่าเรือท่าเลน กระบี่-ท่าเรือท่าเขา เกาะยาวน้อย ค่าเรือโดยสาร คนไทย 120 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท

           โทรศัพท์ 08 9729 6955 และ 09 3458 2825

           ท่าเรือบางโรง ภูเก็ต-เกาะยาวน้อย เรือธรรมดา คนละ 150 บาท เรือเร็ว คนละ 200 บาท

           โทรศัพท์ 0 7645 4232

           ติดต่อที่พักโฮมสเตย์

           โทรศัพท์ 08 1968 0877, 08 6942 7999 และ 0 7659 7244 เว็บไซต์ kohyaohomestay.com

เรียนรู้วิถีชุมชน ที่เกาะกลาง


ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           เกาะกลางเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำ กระบี่ อยู่ท่ามกลางป่าชายเลนปากแม่น้ำ เชื่อมต่อกับท้องทะเล อยู่ใกล้กับตัวเมืองกระบี่มาก นั่งเรือหางยาวข้ามฟาก ใช้เวลาเพียง 5 นาที บนเกาะแห่งนี้ ประกอบด้วย 3 หมู่บ้าน ประชากรราว 5,000 คน มีความอุดมสมบูรณ์ มีพื้นราบสำหรับปลูกข้าว โดยเฉพาะข้าวคุณภาพพันธุ์ดีอย่างข้าวสังข์หยดที่นิยมปลูกกันมาก ชาวบ้านเกาะกลางมีอาชีพหลักที่ผูกพันกับธรรมชาติและสอดคล้องกับทรัพยากรที่มีอยู่ในสภาพพื้นที่นั้น ๆ

           ชาวบ้านเกาะกลางส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง หาปลา เลี้ยงปลาในกระชัง และทำนา ปลูกข้าว

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           เกาะกลางมีกิจกรรมการท่องเที่ยวของชุมชนที่จะได้เห็นชีวิตความอยู่ การประกอบอาชีพ การทำนา การทำสวนยาง อาชีพประมงพื้นบ้าน การทำผ้าบาติก ผ้าปาเต๊ะ การทำนาข้าวสังข์หยด การทำเรือหัวโทง จำลองเป็นของที่ระลึกไว้จำหน่าย โดยจำลองภาพสะท้อนให้เรื่องราวของชุมชนที่มีอัตลักษณ์ของตนเองในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามายังเกาะกลางอย่างสม่ำเสมอ

           นอกจากนี้ชาวบ้านยังมีอาชีพสักหอยหรือขุดหอย ตามบริเวณชายหาดในช่วงน้ำทะเลลด เพื่อน้ำมาเป็นอาหารและจำหน่าย โดยหอยที่พบมากในบริเวณชายหาดเกาะกลางคือหอยหวาน หอยเม็ด ขนุน หอยราก หอยหลักไก่ หอยจุ๊บแจง หอยปากหนา หอยแครง และหอยแว่น

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           รูปแบบการท่องเที่ยวบนเกาะกลางสามารถเที่ยวได้ด้วยการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ จักรยานขี่เที่ยวเอง หรือใช้บริการรถสามล้อ โดยผู้ขับขี่สามารถพาไปยังจุดต่าง ๆ ในหมู่บ้านได้อย่างทั่วถึง พร้อมกับเป็นไกด์ไปด้วย

การเดินทาง


           จากท่าเรือสวนสาธารณะธาราในตัวเมืองมายังท่าเรือท่าเล (เกาะกลาง) ใช้เวลา 5 นาที มีเรือให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ค่าโดยสารไปกลับ คนละ 20 บาท หากเหมารถสามล้อ ราคา 300-400 บาท ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เราเลือก

ที่พัก

           มีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้บริการ ติดต่อร้านอาหารบ้านมะหญิง โทรศัพท์ 08 6690 1054 และ 08 1271 6102 คลองลุโฮมสเตย์ โทรศัพท์ 09 2839 7168

สอบถามเพิ่มเติม

          ชุมชนการท่องเที่ยวบ้านเกาะกลาง โทรศัพท์ 08 5788 4546

เกาะสุกร ความงดงามที่น่าค้นหา

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           เกาะสุกรเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในท้องทะเลตรัง มีฐานะเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอประเหลียน ตัวเกาะตั้งเป็นแนวขนานกับชายฝั่ง อยู่ห่างจากฝั่งเพียง 3 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 4 หมู่บ้าน โดยมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 3,000 คน ส่วนใหญ่เกือบ 95 เปอร์เซ็นต์นับถือศาสนาอิสลาม

           เกาะสุกรมีเนื้อที่ประมาณ 8,750 ไร่ พื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นที่ราบ ใช้ทำเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่แตงโม เลี้ยงสัตว์ อีกครึ่งหนึ่งมีพื้นที่ลักษณะเป็นควนหรือภูเขาเตี้ย ๆ ประชากรบนเกาะสุกรสวนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและทำสวนยางพารา

           จุดเด่นของพื้นที่เกาะสุกรจะมีการทำนาด้วย การใช้ควายไถนา บางครั้งเราจะได้เห็นฝูงควายแช่ เล่นน้ำในทะเล เป็นภาพที่แปลกตาน่าประทับใจอยู่ไม่น้อยและยังมีการทำไร่แตงโม ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นแตงโมที่มีรสชาติหวานกรอบ เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของเกาะสุกร

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           การท่องเที่ยวบนเกาะสุกรสามารถเที่ยวได้ทั่วถึง ด้วยการนั่งสามล้อเครื่องรอบเกาะไปจุดชมวิวที่สูงสุดของเกาะ จะผ่านตาน้ำจืดที่อยู่ริมชายฝั่งทะเล นอกจากนี้เราจะได้เห็นชุมชน บ้านเรือน การประมงพื้นบ้าน การทำผ้าบาติก การปลูกข้าวใกล้กับชายทะเล  มีควายทะเลที่เป็นจุดเด่นของเกาะแห่งนี้ด้วย

           เกาะสุกรมีรีสอร์ทหรู อย่างญาตารีสอร์ท มีมุมมองพระอาทิตย์ตกที่มองเห็นเกาะเหลาเหลียงและเกาะเภตรา ที่ตั้งโดดเด่นกลางทะเล และถ้าหากจะหามุมพระอาทิตย์ขึ้น ก็จะต้องมาทางหาดบ้านแหลม มีมุมมองแนวต้นมะพร้าวชุมชน ลำคลอง สันทราย ที่ผสมผสานเรื่องของภาพธรรมชาติได้สวยงามและลงตัว

           นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวอื่น ๆ เป็นวิถีชุมชน ชาวประมง เรื่องราวธรรมชาติสวยงามอื่น ๆ ที่น่าค้นหาอีกมาก นอกจากนี้ยังมีมหัศจรรย์ธรรมชาติที่เกิดเป็นสันหลังมังกรอยู่ใกล้กับเกาะสุกร คือสันหลังมังกร ทับทิมสยาม หรือราชาสันหลังมังกรแห่งท้องทะเล หมู่ 4 บ้านหาดทรายทอง กับสันหลังมังกรหยก หมู่ 1 บ้านเสียมไหม

           เกาะสุกรยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ มีหาดทรายหลายแห่งที่มีความสวยงาม และเงียบสงบ โดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันตกของเกาะบริเวณ “หาดโละใหญ่” ซึ่งเหมาะสำหรับเล่นน้ำ และชมความสวยงามของพระอาทิตย์ตกด้วย

การเดินทาง

           การเดินทางไปเกาะสุกรสามารถลงเรือไปได้ 2 ทาง คือ ท่าเรือท่าข้าม อำเภอปะเหลียน มีเรือโดยสารวันละ 1 เที่ยว เวลา 12.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที และท่าเรือแหลมตะเสะ อำเภอหาดสำราญ มีเรือโดยสารหางยาววิ่งตลอดวัน ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที เมื่อถึงเกาะสุกรจะมีรถโดยสาร รถจักรยานยนต์ และรถซาเล้ง (สามล้อพวง) ให้บริการ สามารถเดินทางแบบเข้าไป-เย็นกลับ หรือนอนค้างคืนบนเกาะก็ได้ มีที่พักตั้งอยู่หลายแห่ง อีกทั้งยังมีโฮมสเตย์ให้บริการสำหรับผู้คนสนใจการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชนด้วย ผู้ที่สนใจจะเดินทางไปท่องเที่ยว สอบถามข้อมูลได้ที่ ททท. สำนักงานตรัง โทรศัพท์ 0 7521 5867

ที่พัก

          สุกร คาบาน่า รีสอร์ท โทรศัพท์ 08 9724 2326

          ญาตา สปา แอนด์ รีสอร์ท โทรศัพท์ 09 0545 9614, 08 9647 5550 และ 09 5257 9294

สอบถามเพิ่มเติม

          ติดต่อเรือเที่ยวสันหลังมังกร สุดสาครท่องเที่ยวทะเลแหวก โทรศัพท์ 09 3921 1354

เกาะมุก สวรรค์เล็ก ๆ กลางทะเลตรัง


ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           เกาะมุกตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของจังหวัด พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโขดผาสูงหันหน้าออกสู่ทะเลทางด้านทิศตะวันตก เป็นที่อาศัยของนกนางแอ่น มีหมู่บ้านประมงอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะ เป็นพื้นที่ราบ มีปลายแหลมทรายหันหน้าเข้าหาแผ่นดินใหญ่ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณพันกว่าคนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม

           อาชีพหลักของคนบนเกาะ ได้แก่ ประมงพื้นบ้าน จับปลา วางลอบหมึก บนเกาะมีเส้นทางเดินลัดเลาะไปตามบ้านเรือน สามารถเดินชมวิถีชาวเกาะมุกได้เกือบรอบเกาะ

           หากเดินทางมาถึงท่าเรือบนเกาะมุกจะได้เห็นหาดทรายสีขาวมาแต่ไกล ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นที่ตั้งของรีสอร์ท ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือ เมื่อมาถึงตัวเกาะแล้วก็สามารถหาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ จักรยาน หรือรถสามล้อเที่ยวไปทั่วเกาะได้

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           ท่าเรือเหมือนศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเกาะมุก เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านค้าตรงท่าเรือมีร้านเช่ามอเตอร์ไซค์

           เกาะมุกมีหาดทั้งหมด 3 หาด ที่มีหาดทรายขาวทอดยาวและเล่นน้ำได้ คือหาดตรงท่าเรือของศิวาไลซ์บีช เป็นหาดที่สวยงาม ขาวสะอาด จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว และยังมีหาดฝรั่ง เป็นหาดทรายขาวละเอียด มีขนาดกว้าง จะอยู่ในบริเวณพื้นที่ท้ายเกาะ เป็นหาดสวย เงียบสงบ และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นอกจากนี้ยังมีหาดเล็กอีกหาด อยู่ใกล้กับรีสอร์ทเกาะมุกเดอธาราบีช

           เกาะมุกยังมีความโดดเด่นของธรรมชาติที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์คือ “ถ้ำมรกต” เป็นถ้ำที่ลอดทะลุเข้าไปยังลากูนด้านใน มีหาดทรายนาดเล็กที่ถูกโอบล้อมด้วยปราการภูผาหินสูงชัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่ออีกแห่งหนึ่งของจังหวัดตรัง

การเดินทาง

           มีท่าเรือจากบ้านควนตุ้งกู ด้วยการเช่าเหมาเรือหางยาวและเรือโดยสารประจำทาง เรือโดยสารประจำทางออกจากท่าเรือควนตุ้งกู เวลา 12.00 น. ออกจากท่าเรือบ้านเกาะมุก เวลา 08.00 น.

           เรือโดยสารหางยาว ออกจากควนตุ้งกูวันละ 2 เที่ยว เวลา 11.00 น. และเวลา 16.00 น. ออกจากเกาะมุกเวลา 09.00 น. และ 14.00 น. โทรศัพท์ 08 1788 7609

           เรือโดยสารทั้งสองแบบสามารถซื้อตั๋วรวมรถตู้จากในเมืองตรังได้เลย การเดินทางทั้งสองแบบสามารถสอบถามได้ที่ร้านซีบรีซ สถานีรถไฟตรัง

ที่พัก

          มุกรับเบอร์ทรี โทรศัพท์ 0 7521 5972, 09 0482 1940 และ 08 7299 1327

          โคโค่ลอร์จ โทรศัพท์ 09 5075 5402

          เดอะซันเซต โทรศัพท์ 09 5084 7555


ธรรมชาติและวิถีชุมชนที่เกาะบุโหลน

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           เกาะบุโหลนตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือตรังและสูตล ประกอบไปด้วยเกาะเล็กใหญ่ จำนวน 5 เกาะ มีธรรมชาติที่สวยงามสมบูรณ์ และยังคงไว้ด้วย วิถีชีวิตของชาวบ้านอันเรียบง่าย ปัจจุบันเกาะบุโหลนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เล่นน้ำ ชมปะการัง พักผ่อน ท่องเที่ยวชมวิถีชาวประมงพื้นบ้านซึ่งเป็นชาวเลอูรักลาโว้ยดั้งเดิมที่มาตั้งบ้านเรือนอยู่ตามเกาะต่าง ๆ

           จุดท่องเที่ยวของหมู่เกาะบุโหลนที่น่าสนใจ ได้แก่ เกาะบุโหลนไม้ไผ่ เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลใสมาก หาดทรายขาว มีจุดชมวิวบนเนินเขาเล็ก ๆ มีบรรยากาศสงบ เป็นส่วนตัว มีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะเภตราตั้งอยู่บนเกาะ มีโค้งอ่าวหาดทรายขาวอยู่ทางด้านหน้าเกาะ สลับกับโขดหินบริเวณชายเชิงเขา และมีอ่าวด้านหลังที่มีหาดทรายขาวเนียนทอดยาวประมาณ 500 เมตร เกาะบุโหลนไม้ไผ่ไม่มีชุมชนชาวบ้าน มีเจ็บหน้าป่าไม้ดูแลพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปพักแรมกางเต็นท์ได้

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           ต่อจากเกาะบุโหลนไม้ไผ่ ไปยังเกาะบุโหลนเลจะผ่านเกาะหินขาว เป็นแท่งหินใหญ่ตั้งอยู่กลางทะเลรอบ ๆ เกาะเป็นจุดชมปะการังอ่อนเจ็ดสี ซึ่งเป็นแหล่งปะการังอ่อนที่อยู่ในแนวน้ำตื้น นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาชมปะการังกันที่จุดแห่งนี้

           ถัดมาก็เป็นเกาะบุโหลนเล หรือเกาะบุโหลนใหญ่ เป็นเกาะขนาดใหญ่ เป็นที่ตั้งของชุมชนอูรักลาโว้ย ด้านหน้าเกาะมีชุมชนชาวประมงเรียงรายตามชายหาด หากจะไปยังหมู่บ้านใหญ่ที่อยู่ด้านหลังเกาะต้องเดินไปตามเส้นทางปูน ผ่านสวนยาง เรือกสวน ชาวบ้าน จนมาถึงชุมชนใหญ่ มีโรงเรียน มัสยิด มีอ่าวพังกาน้อย อ่าวพังกาใหญ่ อ่าวสบายใจ อ่าวม่วง และหาดแพนแซนด์ ซึ่งเป็นหาดทรายยาว พื้นทรายละเอียด ชาวต่างชาติจึงนิยมมาอาบแดด เล่นน้ำ และชมปะการังน้ำตื้นด้วย

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           การดำเนินชีวิตของชาวบ้านส่วนใหญ่จะทำอาชีพชาวประมง ทำสวนยาง สวนผลไม้ในครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีรีสอร์ทเล็ก ๆ ไว้บริการอยู่หลายแห่งตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่น ไม่ว่าจะเป็นป่าชายเลน ป่าชายหาด และป่าดิบชื้น

           ถัดมาอีกเกาะหนึ่งคือเกาะบุโหลนดอน มีหาดทรายสวย มีชุมชนชาวอูรักลาโว้ย เป็นชาวมุสลิมที่ดำรงวิถีอยู่กันอย่างเรียบง่าย ยึดอาชีพประมงเป็นหลัก มีความงดงามทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตผู้คน จึงเป็นหมู่เกาะแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด

การเดินทาง

           สามารถเดินทางเที่ยวหมู่เกาะบุโหลนแบบเช้าไป-เย็นกลับได้ ติดต่อ Jolly Travel โทรศัพท์ 08 9296 8866, 08 6946 5779 และ 08 1599 3553

ชาวอูรักลาโว้ย ที่เกาะหลีเป๊ะ


ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           หลีเป๊ะเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามเลื่องชื่อของไทย ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล มีเสน่ห์ความงดงาม มีทั้งน้ำทะเลใส หาดทรายขาว ปะการังสวยงาม พร้อมด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่เกิดและดำรงอยู่บนผืนทะเลแห่งนี้อย่างชาวเล “อูรักลาโว้ย”

           คำว่า “หลีเป๊ะ” เป็นภาษาชาวอูรักลาโว้ย แปลว่า “แผ่นกระดาษ” สืบเนื่องมาจากสภาพภูมิประเทศของเกาะเป็นพื้นที่ราบเรียบ ไม่มีภูเขาสูง เกาะหลีเป๊ะมีความยาวจากหัวถึงท้ายเกาะ 3 กิโลเมตร กว้างที่สุด เพียงแค่ 1.75 กิโลเมตร

           มีชายหาดขาวทอดยาวด้านหน้าเกาะคือหาดชาวเล เป็นที่ตั้งของชุมชนชาวอูรักลาโว้ย กับหาดด้านหลังเกาะ หาดบันดาหยา ปัจจุบันเป็นชุมชนแหล่งท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ

ท่องเที่ยว 9 ชุมชน

           ชาวอูรักลาโว้ยบนเกาะหลีเป๊ะตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เกาะมายาวนานกว่าร้อยปี มีอาชีพประมงพื้นบ้าน เมื่อคราวที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จพระราชดำเนินมายังเกาะหลีเป๊ะ พระองค์ได้พระราชทานนามสกุลให้แก่ชาวบ้านที่ทำมาหากินอยู่ในละแวกเกาะหลีเป๊ะว่า “หาญทะเล”

           ปัจจุบันชาวอูรักลาโว้ยตั้งอยู่ชุมชนทางด้านหาดชาวเล มีโรงเรียน สถานีอนามัย ร้านค้า ถัดมาด้านหน้ามีที่พักรีสอร์ทเกิดขึ้นมากมาย เพื่อตอบรับการท่องเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ ที่พักมีอยู่ทั่วเกาะ ทั้งหาดบันดาหยาและหาดชาวเล ถัดมาด้านในจะมีถนนคนเดิน มีสิ่งบริการท่องเที่ยวอย่างครบถ้วน วิถีชีวิตชาวบ้านจึงต้องปรับเปลี่ยนไปตามด้วย ส่วนใหญ่จะมีเรือหางยาวไว้บริการนักท่องเที่ยวไปท่องทะเล เล่นน้ำ ชมปะการัง เช่น เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหินซ้อน เกาะหินงาม เป็นต้น

           ส่วนภายในชุมชนเต็มไปด้วยเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ที่มีอาชีพประมงเป็นหลัก มีบ้านเรือนแบบง่าย ๆ บางหลังมีการสร้างสรรค์ศิลปะวาดภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอยู่ได้อย่างงดงาม

           สำหรับประเพณีวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวเลอูรักลาโว้ย ได้แก่ ประเพณีลอยเรือ “เปอลาจั๊ก” เป็นประเพณีที่จัดขึ้นทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ระหว่างวันขึ้น 13-15 ค่ำ ของเดือนพฤษภาคมและเดือนตุลาคม คนในหมู่บ้านจะมาช่วยกันต่อเรือ ประดับประดาด้วยดอกไม้และธง ตกแต่งที่หัวเรือด้วยเต่า มีข้าวตอกหมากพลู ตัดเล็บตัดผมใส่ลงในลำเรือ โดยยึดหลักความเชื่อว่าจะเป็นการลอยทุกข์โศก โรคภัย เคราะห์ร้ายต่าง ๆ ให้ออกไปจากชุมชน บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งท้องทะเล และในงานจะมีการจัดละเล่นพื้นบ้านร้องรำทำเพลง

           ถึงวันนี้วิถีชาวอูรักลาโว้ยบนเกาะหลีเป๊ะยังยึดมั่นถิ่นฐานเพื่อการดำรงชีพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นผืนดินบนเกาะหลีเป๊ะหรือจะเป็นผืนน้ำท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์

เดินทาง


           จากท่าเรือปากบารา มีตารางเที่ยวเรือโดยสารของบริษัทเรือที่ให้บริการ ควรสอบถามเที่ยวเรือเพิ่มเติมจากบริษัทเหล่านี้

           - เรือบารมี โทรศัพท์ 08 9296 8866 และ 08 6946 5779

           - เรือพลอยสยาม โทรศัพท์ 0 7478 3338, 08 1609 2604, 08 3191 2873 และ 09 7321 4545

           - เรือบันดาหยาสปีดโบ๊ท เว็บไซต์ //www.bundhayaspeedboat.com โทรศัพท์ 08 1678 2826, 08 9656 2781 และ 08 3653 8797

           หรือติดต่อ Jolly Travel โทรศัพท์ 08 9296 8866 และ 08 6946 5779 เว็บไซต์ jollytravel.in.th ที่บริการครบวงจรทั้งรถไฟ รถตู้โดยสาร เรือ และที่พัก

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

อนุสาร อ.ส.ท. (เล่มเล็ก) มีนาคม 2560




 

Create Date : 07 เมษายน 2560    
Last Update : 7 เมษายน 2560 14:47:08 น.
Counter : 1758 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.