ทานช็อคโกแลต 100 กรัมต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยง 2 โรคร้าย ได้แก่  โรคหัวใจ ได้ถึง 25% และ ลดโอกาสเสี่ยงจากการป่วยเป็นโรคหลอดเลือดในสมองแตก ได้ถึง 23%

ช็อคโกแลตไม่ใช่ขนมหวานไร้ประโยชน์ที่ทานตามใจปากกันอีกต่อไป เมื่อมีผลวิจัยใหม่ล่าสุด กล่าวว่า ทาน ช็อคโกแลตบาร์ 2 แท่ง ต่อวัน อาจจะช่วยลดความเสี่ยง เป็นโรคหัวใจ และ โรคหลอดเลือดในสมองแตก ได้

นักวิจัยเกี่ยวกับโรคหัวใจ จากมหาวิทยาลัย อาเบอร์ดีน พบว่า การทาน ช็อคโกแลต 100 กรัมต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดในสมองแตก ได้ถึง 23%
จากการเฝ้าดูพฤติกรรมการบริโภคของว่างของกลุ่มคนจำนวน 21,000 คน ในระยะเวลา 12 ปี การศึกษาพบว่า กลุ่มที่บริโภคช็อคโกแลตในปริมาณที่มากกว่า จะดูอ่อนวัยกว่า น้ำหนักน้อยกว่า และมีส่วนร่วมในกิจกรรมเคลื่อนไหวทางร่างกายมากกว่า กลุ่มที่ทาน ช็อคโกแลต น้อยกว่า นอกจากนี้ พวกเขายังมีเอวที่เล็กกว่า ความดันโลหิตทำงานได้ดี ระบบการเผาผลาญอาหารประเภทโปรตีนทำงานได้ดี และยังลดความเสี่ยงจากโรคเบาหวานอีกด้วย ซึ่งนั่นให้เห็นแสดงว่า จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจได้อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม การทานช็อคโกแลตมากขึ้น ย่อมส่งผลต่อแคลอรี่ และ พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นตาม ดังนั้น การไดเอท โดยการควบคุมไขมันและโปรตีน ก็สำคัญเช่นเดียวกันกับการจำกัดปริมาณ โปรตีนและ แอลกอฮอล์

ผลงานการศึกษาในครั้งนี้ระบุว่า มิลค์ช็อคโกแลต มีประโยชน์น้อยกว่า ดาร์คช็อคโกแลต ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์อย่างเดียวกัน และทานในความถี่เท่าๆ กันก็ตาม

ศาสตราจารย์ Phyo Myint ประธานกลุ่มยาเพื่อผู้สูงอายุ แห่งมหาวิทยาลัยอาเบอร์ดีน กล่าวว่า “จากหลักฐานที่เก็บสำรวจมา กล่าวได้ว่า กลุ่มที่ทานช็อคโกแลตในปริมาณที่บ่อยกว่า จะสัมพันธ์กับกลุ่มที่มีความเสี่ยงในโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจน้อยกว่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่แค่เพียงจะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากโรคหัวใจเท่านั้น แต่ยังจะได้รับ แคลเซียม และกรดไขมันต่างๆ จาก ส่วนผสมอย่างนมเข้ามาด้วย ซึ่งจะนำไปขยายผลทางการศึกษาต่อไป ทั้งนี้ยังไม่มีผลการศึกษาในกลุ่มบริโภคช็อคโกแลตในปริมาณกลางๆ ไม่มาก ไม่น้อย ว่าจะมีผลอย่างไรต่อสุขภาพ ”

ที่มาจาก independent.co.uk