6 อาการนี้เสี่ยงป่วยแน่ ถ้านั่งแช่เล่นมือถือในห้องน้ำนาน ๆ
ทุกวันนี้ใครพกโทรศัพท์ไปนั่งส้วมเป็นเพื่อนด้วย นี่คงไม่รู้สินะว่าการนั่งเล่นมือถือในห้องน้ำนาน ๆ ส่งผลเสียได้มากมาย ไม่ต่างจากการพาตัวเองไปคลุกคลีกับโรคภัย !
ความเสี่ยงต่อโรคภัยอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิดนะคะ โดยเฉพาะคนที่ชอบนั่งเล่นมือถือขณะเข้าส้วม หรือต้องพกสมาร์ทโฟนเข้าห้องน้ำด้วยทุกครั้ง โดยเฉพาะห้องน้ำสาธารณะ ที่มีคนเข้า-ออกนับไม่ถ้วน บอกเลยว่าพฤติกรรมนี้อันตรายไม่ใช่ย่อย ไม่เชื่อมาลองดูกันสิว่า นั่งเล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำนาน ๆ ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้มากขนาดไหน
1. เสี่ยงท้องผูก
Gregory Thorkelson หัวหน้าทีมจิตแพทย์จาก University of Pittsburgh เผยว่า การเล่นโทรศัพท์หรืออ่านหนังสือในขณะที่นั่งส้วม จะทำให้เราโฟกัสอยู่ที่หน้า Feed หรือเกมบนมือถือมากกว่าโฟกัสเรื่องการขับถ่าย ซึ่งอาจจะทำให้จังหวะเคลื่อนตัวของของเสียในลำไส้หยุดชะงักแล้วไหลกลับไปคั่งอยู่ในร่างกายเราเหมือนเดิม ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกได้ โดยหากสังเกตจริง ๆ เราก็จะเห็นได้ว่า ถ้าเล่นมือถือหรืออ่านหนังสือไปด้วย เรามักจะต้องใช้เวลาในการขับถ่ายของเสียนานกว่าปกติใช่ไหมคะ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะในความเป็นจริงเราไม่ควรใช้เวลานั่งส้วมนานเกิน 15 นาทีด้วยซ้ำ เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคริดสีดวงทวารเพิ่มขึ้นนั่นเอง
ดังนั้นจิตแพทย์จึงแนะนำว่า เราควรเข้าห้องน้ำเมื่อรู้สึกปวดถ่ายจริง ๆ แทนการนั่งเล่นมือถือหรืออ่านหนังสือ เพื่อรอจังหวะที่ร่างกายอยากขับถ่าย ซึ่งก็จะให้ขับถ่ายได้อย่างเต็มที่ แถมลดเวลาในการเข้าห้องน้ำของเราด้วย
2. เสี่ยงเป็นริดสีดวงทวาร
ถ้าเมื่อไรที่เกิดอาการท้องผูกแล้ว สิ่งที่มักจะตามมาก็คือโรคริดสีดวงทวารที่ใครก็ไม่อยากพบเจอนี่แหละค่ะ ยิ่งหากยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ยังคงดื้อจะเล่นโทรศัพท์ขณะนั่งส้วมกันอยู่ เพราะการที่เราพยายามจะเบ่ง พยายามจะนั่งจนกว่าจะถ่าย อาจส่งผลให้เกิดแรงดันในช่องท้องมาก เส้นเลือดดำถ่ายเทไม่สะดวกและเกิดอาการโป่งพองขึ้น กลายเป็นริดสีดวงทวารในที่สุด ซึ่งหากไม่อยากเป็นริดซี่ ก็พยายามกินผัก ผลไม้ อาหารที่มีกากใยเยอะ ๆ พร้อมทั้งเลี่ยงการนั่งส้วมนาน ๆ ด้วยก็จะดีมาก
3. เสี่ยงต่อการถ่ายไม่สุด
การโฟกัสกับสิ่งที่ถืออยู่ตรงหน้ามากกว่าโฟกัสเรื่องการขับถ่าย ไม่เพียงแต่ทำให้ถ่ายยากขึ้นเท่านั้น แต่บางคนถ่ายออกมาแบบกะปริดกะปรอยมาก ทำให้เกิดความรู้สึกว่าถ่ายไม่สุด ซึ่งมันจะมวน ๆ ท้องรบกวนเราไปทั้งวัน หรือถ้าถ่ายไม่สุดบ่อย ๆ อาจกลายเป็นโรคลำไส้แปรปรวนขึ้นมาอีก
4. เสี่ยงท้องร่วง
ในห้องน้ำเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อซีดิฟฟิไคล์ (C.difficile) เชื้ออีโคไล (E. coli) เชื้อแซลโมเนลล่า (salmonella) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคในระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคท้องร่วง ท้องเสีย อาเจียน และความผิดปกติอื่น ๆ ของลำไส้
โดยนักวิทยาศาสตร์จาก Leeds University ก็เผยว่า เชื้อโรคร้ายดังกล่าวพบได้เกือบทุกตารางนิ้วในห้องน้ำเลยก็ว่าได้ ยิ่งหากตอนกดชักโครกแล้วเราไม่ได้ปิดฝาชักโครกไว้ เชื้อร้ายก็มีโอกาสฟุ้งกระจายไปได้ไกลจนโทรศัพท์มือถือของเราก็ไม่รอดพ้น โดนละอองอากาศที่เปี่ยมไปด้วยเชื้อโรคเกาะติดอย่างแน่นหนา คราวนี้เมื่อเราจับโทรศัพท์มาเล่นอีกครั้ง เราก็รับเชื้อโรคไปอีกที แล้วคิดดูนะคะว่าเล่นมือถือไป กินข้าวเช้า กินขนมไป ก็ย่อมได้รับเชื้อโรคอย่างเอร็ดอร่อยไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหากกดชักโครกแล้วไม่ล้างมือ หรือทำธุระเสร็จแล้วล้างมือไม่สะอาด เอามือมาหยิบโทรศัพท์ เชื้อโรคก็คงติดมือถือไปอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่ ๆ ค่ะ
5. ยิ่งนั่งนาน ยิ่งสูดเชื้อโรคเข้าร่างกาย
อย่างที่บอกไปค่ะว่าในห้องน้ำเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค นี่ยังไม่รวมพวกเชื้อราที่แฝงอยู่ในผ้าเช็ดตัวที่ผึ่งไว้ ฟองน้ำสำหรับเช็ดล้าง หรือม่านกั้นห้องน้ำที่เต็มไปด้วยคราบไคล ซึ่งเชื้อร้ายเหล่านี้แหละที่วนเวียนภายในห้องน้ำของเรา ผสมกับอากาศที่เราสูดดมเข้าปอดไป ฉะนั้นยิ่งเราใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานเท่าไร โอกาสที่จะสูดดมเอาละอองเชื้อโรค เชื้อราเข้าไปก็จะยิ่งยาวนานขึ้น เสี่ยงเกิดการอักเสบหรือหากร่างกายอ่อนแออยู่ก็จะป่วยได้ง่ายขึ้นด้วยนะคะ
6. เป็นเหน็บชา เวียนหัว
อาการนี้คนเล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำน่าจะเจอกันบ่อย ๆ ยิ่งคนที่ติดเกม ถ่ายเสร็จก็ยังนั่งเล่นเกมต่อ บอกเลยว่าลุกจากชักโครกทีนี่แทบเดินไม่ไหว ยืนก็เซ ซึ่งขอเตือนเลยนะคะว่าระวังจะล้มในห้องน้ำกันด้วย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าพฤติกรรมเคยชินของเราอาจนำอันตรายเข้าตัวได้มากถึงเพียงนี้ ดังนั้นใครไม่อยากบั่นทอนสุขภาพของตัวเอง ต่อไปก็อย่าเล่นหรือพกโทรศัพท์มือถือเข้าห้องน้ำด้วยเลยดีกว่า หรือถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นไปอีก หมั่นทำความสะอาดมือถือบ่อย ๆ ด้วยการใช้แอลกอฮอล์เช็ดมือถือให้ทั่ว และอย่าลืมล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ รวมทั้งก่อนรับประทานอาหารด้วยนะคะ เพราะโทรศัพท์มือถือของเราเนี่ย เชื้อโรคมากกว่าบนฝาชักโครกซะอีกแหละ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก huffingtonpost metro lorecentral menshealth cbsnews dailyedge
Create Date : 24 มีนาคม 2560 |
Last Update : 24 มีนาคม 2560 17:00:14 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1539 Pageviews. |
|
|
|
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ