นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
Group Blog
 
All blogs
 
สัมผัปปลาปะ

๔. สัมผัปปลาปะ

(ความจาก ปรมัตถโชติกะ มหาอภิธัมมัตถสังคหฎีกา
ปริเฉทที่ ๕: วีถิมุตตสังคหะ เล่ม ๒ )
__________________________________


คำว่า สัมผัปปลาปะนี้ แยกได้ ๒ บท คือ สมฺผ + ปลาป สมฺผ แปลว่าการทำลายประโยชน์และความสุข ปลาป แปลว่าการกล่าว เมื่อรวมกันแล้วเป็น สมฺผปฺปลาป แปลว่าการกล่าววาจาที่ทำลายประโยชน์และความสุข แสดงวจนัตถะว่า “สํหิตสุขํ ผลติ วินาเสตีติ สมฺผํ” วาจาอันใดย่อมทำลายประโยชน์และความสุขต่างๆเสีย ฉะนั้น วาจานั้น ชื่อว่า สัมผะ

สมฺผํ มาจากรากสัพย์เดิมคือ “สํ อุปลัคค ผล ธาตุ กฺวิ ปัจจัย ลบ ล และ กฺวี เสียจึงเป็น สมฺผํ”

“สมฺผํ ปลปติ เอเตนาติ = สมฺผปฺปลาโป” การกล่าวาจาที่ทำลายประโยชน์และความสุขต่างๆ เสียด้วยเจตนานั้น ฉะนั้นเจตนาที่เป็นเหตุในการกล่าววาจาที่ทำลายประโยชน์และความสุขต่างๆ นั้นจึงชื่อว่าสัมผัปปลาปะ

การกล่าววาจาที่เป็นสัมผัปปลาปะนั้น หมายถึงการกล่าวเรื่องราวเหลวไหลไม่เป็นสาระ ดังเช่นเล่าเรื่องหนัง เรื่องโขน ละคร หรือพูดจาตลกขบขันต่างๆ หรือผู้แสดงหนัง โขน ละคร นักประพันธิ์ที่เขียนเรื่องอ่านเล่นต่างๆ เหล่านี้ จัดเป็นสัมผัปปลาปะทั้งสิ้น เพราะทำให้ผู้ฟัง ผู้อ่าน ไม่ได้รับประโยชน์ต่อย่างใด เพียงแต่ทำให้เพลิดเพลินไปชั่วคราวเท่านั้น กับทั้งทำให้เสียประโยชน์ ที่ควรจะได้ก็ไม่ได้ ที่ได้แล้วก็เสียไป องค์ธรรมของสัมผัปปลาปะนี้ ได้แก่ อกุศลเจตนาที่เป็นเหตุแห่งการกล่าวสัมผัปปลาปะ สำหรับถ้อยคำที่กล่าวขึ้นนั้นเป็นผล แต่ที่ยกเอาคำว่าสัมผัปปลาปะที่เป็นชื่อของเจตนามาใช้เรียกเป็นชื่อนั้นเป็นการเรียกชื่อโดยการณูปจารนัย คือเรียกชื่อที่ใกล้เคียงกับเหตุ

__________________________________

องค์แห่งสัมผัปปลาปะมี ๒

๑. นิรตฺถกถาปุรกฺขาโร ตั้งกล่าววาจาที่ไม่มีประโยชน์
๒. กถนํ กล่าววาจาที่ไม่มีประโยชน์

ดังมีคาถาแสดงว่า
สมฺผสฺส นิรตฺถกถา- ปุรตา กถนํ ทุเว
ปเรน คหิเตเยว โหติ กมฺมปโถ น โน ฯ

“องค์ทั้ง ๒ ของสัมผัปปลาปะนั้น คือตั้งใจกล่าววาจาที่ไม่มีประโยชน์อย่างหนึ่ง กล่าววาจานั้นขึ้นอย่างหนึ่ง เมื่อผู้ฟังหรือผู้อ่านเชื่อคำกล่าวนั้นแล้วก็ย่อมสำเร็จเป็นกรรมบถ ถ้าผู้ฟังหรือผู้กล่าวนั้นไม่เชื่อตามคำกล่าวนั้นก็ไม่สำเร็จเป็นกรรมบถ เพียงแต่เป็นสัมผัปปลาปะเท่านั้น”

อธิบายว่า ในคาถาที่กล่าวว่า นิรตฺถกถาปุรกฺขาโร นั้นหมายความว่าเรื่องราวที่ไม่มีความจริง แต่ผู้กล่าวหรือผู้ประพันธ์นั้นได้ตั้งใจแต่งเรื่องราวนั้นขึ้น เพื่อให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านนั้นหลงเชื่อติดใจในคำพูดของตน เป็นการทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเสียประโยชน์แก่ผู้ฟังหรือผู้อ่าน เช่นนี้แล้วคำกล่าวของผู้นั้นก็จัดเป็นสัมผัปปลาปะ แต่แม้ว่าเรื่องนั้นจะไม่จริงก็ตาม ผู้กล่าวหรือผู้ประพันธ์มุ่งหมายยกขึ้นเป็นข้ออุปมาประกอบการสอนการแสดง หรือการประพันธ์เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจง่าย เช่นนี้แล้วถ้อยคำของผู้นั้นก็ไม่จัดเป็น สัมผัปปลาปะ ถ้าเรื่องที่กล่าวนั้นเป็นความจริง แต่ผู้ฟังหรือผู้อ่านไม่ได้รับประโยชน์แต่ย่างใด เช่นนี้ก็เท่ากับว่าผู้กล่าวนั้นเล่าข่าวหรือเขียนข่าวให้ฟัง และคำกล่าวของผู้นั้นก็ไม่จัดเป็นสัมผัปปลาปะ

ผู้ที่พูดสนุกสนานเฮฮากล่าวเรื่องเหลวไหลไม่เป็นความจริง ที่ป็นสัมผัปปลาปะนี้ จะจัดว่าเป็นมุสาวาทด้วยหรือไม่ ? ข้อนี้แก้ว่าไม่จัดเป็นมุสาวาท เพราะผู้พูดไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมุสา เป็นพูดเพ้อเจ้อไปเท่านั้น แต่ถ้ามีความตั้งใจจะมุสาประกอบอย่แล้ว และผู้ฟังก็หลงเชื่อด้วยจึงจัดว่าเป็นมุสาวาท

คำพูดที่จัดเข้าใน นิรตฺถกถา คือคำพูดที่ไม่มีประโยชน์หาสาระมิได้นี้มีอยู่ ๓๒ ที่เรียกว่าดิรัจฉานกถา ๓๒ นั้นเอง ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ในสามัญญผลสูตรแห่งศีลขันธวรรคพระบาลี

๑. ราชกถา พูดเรื่องต่างที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ตลอดจนถึง
พระญาติพระวงค์
๒. โจรกถา พูดเรื่องโจรต่างๆ
๓. มหามตฺตกถา พูดเรื่องอำมาตย์ราชมาตรีที่เป็นคณะรัฐบาล
๔. เสนากถา พูดเรื่องทหาร ตำรวจ
๕. ภยกถา พูดเรื่องภัยต่างๆ
๖. ยุทฺธกถา พูดเรื่องยุทธศาสตร์
๗. อนฺนกถา พูดเรื่องอาหารต่างๆ มีข้าวและกับ เป็นต้น
๘. ปานกถา พูดเรื่องเครื่องดื่มต่างๆ
๙. วตฺถกถา พูดเรื่องเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มต่างๆ
๑๐. สยนกถา พูดเรื่องที่นอน
๑๑. มาลากถา พูดเรื่องดอกไม้ต่างๆ
๑๒. คนฺธภถา พูดเรื่องกลิ่นหอมต่าง
๑๓. ญาติกถา พูดเรื่องวงค์ญาติ
๑๔. ยานกถา พูดเรื่องยานพาหนะต่างๆ
๑๕. คามกถา พูดเรื่องหมู่บ้านต่างๆ
๑๖. นิคมกถา พูดเรื่องนิคมต่างๆ
๑๗. นครกถา พูดเรื่องจังหวัดต่างๆ
๑๘. ชนปทกถา พูดเรื่องขนบทต่างๆ
๑๙. อิตฺถิกถา พูดเรื่องหญิง
๒๐. ปุริสกถา พูดเรื่องชาย
๒๑. กุมารกถา พูดเรื่องชายหนุ่ม
๒๒. กุมารีกถา พูดเรื่องหญิงสาว
๒๓. สุรกถา พูดเรื่องความกล้า
๒๔. วิสิขากถา พูดเรื่องถนนหนทางต่างๆ
๒๕. กุมฺภฏฺฐานกถา พูดเรื่องท่าน้ำต่างๆ
๒๖. ปุพฺพเปตกถา พูดเรื่องญาติที่ล่วงลับไปแล้ว
๒๗. นานตฺตกถา พูดเรื่องราวร้อยแปด
๒๘. โลกกฺขายิกา พูดเรื่องโลกและผู้สร้าง
๒๙. สมุทฺทกฺขายิกา พูดเรื่องมหาสมุทรและผู้สร้างมหาสมุทร
๓๐. อิติวภาภวกถา พูดเรื่องความจริงและความเสื่อมต่างๆ
๓๑. อรญฺญกถา พูดเรื่องป่าต่างๆ
๓๒. ปพฺพตกถา พูดเรื่องภูเขาต่างๆ

คำพูดที่ไม่มีประโยชน์หาสาระมิได้ เรียกว่าสัมผัปปลาปะเหล่านี้ โดยมากปรากฏแก่พวกที่เล่นมหรสพต่างๆ มีหนัง ละคร เป็นต้น และผู้ที่เป็นนักประพันธ์เรื่องอ่านเล่นต่างๆ ที่ไม่มีคติธรรมแต่อย่างใดเลย และถ้ากล่าวตามพุทธภาษิตในสฬายตนสังยุตตพระบาลีแล้ว บุคคลจำพวกนี้เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ย่อมไปบังเกิดในปหาสนิระที่เป็นส่วนหนึ่งของอวีจิมหานรก ดังนั้น พระผู้มีพระภาคจึงได้ทรงอบรมแก่สาวกทั้งหลายอยู่เสมอว่า

“ทฺวินฺนํ โว ภิกฺขเว สนฺนิปติตานํ ทฺวยํ กรณียํ ธมฺมี วา
กถา ตุณฺหีภาโว วา”

“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายเมื่อได้มีการพบ
ระหว่าง ๒ องค์แล้วการงานที่ควรประพฤตินั้นมี ๒ อย่าง คือ
กล่าวถ้อยคำที่เกี่ยวกับธรรมมะ หรือมิฉะนั้นก็นิ่งเฉยเสีย”

ในองค์ที่ ๒ ที่กล่าวว่า “กถนํ” นั้นแสดงถึงปโยคะ ซึ่งหมายถึงวจีปโยคะอย่างเดียว แต่ถ้าใช้เขียนถ้อยคำเหล่านั้นก็เป็นกายปโยคะก็ได้ แต่การกล่าวสัมผัปปลาปะนี้ย่อมเกิดทางวจีทวารเป็นส่วนมาก ฉะนั้น ท่านอรรถกถาจารย์จึงแสดงองค์ที่ ๒ ว่า “กถนํ” คือ กล่าววาจาขึ้น และถ้าจะสรุปปโยคะ ในสัมผัปปลาปะนี้แล้วก็ได้ปโยคะ ๒ คือวจีปโยคะ และกายปโยคะ

__________________________________

สัมผัปปลาปะที่เป็นอัปปสาวัชชะและมหาสาวัชชะ

ผู้ที่กล่าวสัมผัปปลาปะอยู่เสมอๆ ย่อมจัดเป็นมหาสาวัชชะ ส่วนผู้ที่กล่าวสัมผัปปลาปะเป็นครั้งเป็นคราวนั้นจัดเป็นอัปปสาวัชชะ



Create Date : 07 มีนาคม 2555
Last Update : 7 มีนาคม 2555 6:44:11 น. 1 comments
Counter : 2961 Pageviews.

 
อนุโมทนาสาธุท่านชาวมหาวิหาร เนื่องในวันมาฆบูชาครับ


โดย: shadee829 วันที่: 7 มีนาคม 2555 เวลา:8:31:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาวมหาวิหาร
Location :
Germany

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Thepathofpurity.com
Friends' blogs
[Add ชาวมหาวิหาร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.