瞳閉じれば広がってゆく . . .
Group Blog
 
All blogs
 

เชียงใหม่ 070128 : : Royal Flora - part II

*



ออกจากหอคำหลวง เดินไปดูสวนนานาชาติที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนัก
ตามถนนจะมีสีเขียนบอกไว้ว่า เป็นทางเดิน ให้เดินตรงนี้นะคะ เพราะบางทีกลางถนนจะมีรถพ่วง หรือรถไฟฟ้า หรือรถของเจ้าหน้าที่วิ่งไปมาเกือบตลอด

มาถึงแล้ว สวนสุดฮิต



ฮอลแลนด์




ทิวลิป

...

ต่อด้วยสวนตุรกี






กะพี่โจรสลัดในสวนตุรกี จริงๆแล้วคุณโจรเค้านั่งเล่น นั่งพักอยู่ อิชั้นไปจิกเค้ามาถ่ายรูปด้วย คุณโจรยิ้มได้ฮามั่ก



สวนอินโดนีเซีย


และที่นี่ ไม่มาไม่ได้ค่ะ... สวนญี่ปุ่น

คนแน่นมากๆอ่ะ เลยต้องเดินแบบเร็วๆ ไม่มีเวลามาเดินละเลียดนานๆ








คุณน้องอยากได้แก้วน้ำที่มี mascot ด้วย น่ารักดีเหมือนกันนะ จะมีขายตาม kios ที่ขายของว่าง แต่มันว่าแพง เลยไม่เอา




แวะซื้อน้ำกิน ที่ kios แถวๆนั้น
แล้วไปนั่งพักขากันในสวนของโครงการหลวง


ไฮเดรนเยียในโครงการหลวง


สวนสเปน


ให้ดู texture พื้นนะคะ หนูช๊อบชอบ


สวนเบลเยี่ยม อันนี้ก็ชอบมากๆ ตั้งใจจะมาดูให้ได้






มาถึงที่สุดฮิตอีกที่ค่ะ สวนภูฏาน


คนเยอะมั่กๆ แต่หนูชอบสีกระเบื้องนะเนี่ย เลยถ่ายมาแต่กระเบื้อง 55


ระหว่างทางเดินจะไปกินข้าว คนโล่งดี รีบวิ่งขึ้นไปถ่ายรูปหนึ่งชอต บ้าพลังมั่กๆ


สวนห้องน้ำ กั่กๆๆ


แม่ญิ๋ง "เด็ดดอกไม้"


มุมฮิตอีกที่สำหรับถ่ายรูป สระน้ำพุที่ข้างหลังเขียนว่าราชพฤกษ์

กินข้าวกันตรง noodle pavillion ตรงสระน้ำนี่แหละ
พักก่อนคับ เด๋วเดินต่อ...




 

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2550 14:45:07 น.
Counter : 682 Pageviews.  

เชียงใหม่ 070128 : : Royal Flora - part I

*

วันนี้ตื่นมาแล้วมึนๆ อาการปวดหัวจากเมื่อวานยังไม่หาย สงสัยว่าจะต้องกินยาแล้วสินะเนี่ย ไม่งั้นไม่รอดแน่
ตื่นเช้าพอสังเขป ลงมากินอาหารเช้า ก็มึนๆไปตัก ทุกทีจะสนุกสนานกะอาหารเช้าของโรงแรมที่เป็นบุฟเฟ่ต์นะ จะชอบเดินไปดูโน่นดูนี่ ว่าโรงแรมแต่ละที่เค้ามีไรให้กินมั่ง แต่คราวนี้มึนมาก ไม่ไหว มองไม่เห็นอะไรเลย กั่กๆๆ ยังดีที่ได้น้ำส้มมาช่วยชีวิต

ทีแรกว่าจะนั่งรถแดงไปกันอีก แต่ก็สรุปได้ว่า เค้าอุตส่าห์ให้รถมาใช้กันแล้ว ก็ควรจะใช้นะคะ เดี๋ยวสปอนเซอร์เค้าจะเสียใจ



ก็ขับกันมาเรื่อยๆ ออกมาจากโรงแรม แบบไม่มีอะไรซับซ้อน มาตามถนนเลียบคลองชลประทานเรื่อยๆ จนถึงทางแยกที่จะเลี้ยวเข้างานนั่นแหละ มองไปข้างทาง เจอที่รับฝากรถ มีป้ายเขียนไว้ประมาณว่า “ที่จอดรถ 29 บาท จุดสุดท้าย” เออ จริงของพี่เค้า เพราะพอขับรถเลยมาอีก มันกลายเป็น 30 บาท 40 บาท และ 50 บาท นัยว่า ยิ่งใกล้ ยิ่งแพง อ่ะนะ ก็ดูมาเรื่อยๆ จนถึงที่คาดว่าพอจะใกล้แล้ว ก็แวะเข้าไปจอด เค้าโฆษณาว่า “ปูพื้นอย่างดี ไม่มีฝุ่น” อ่ะ มีที่จอด แบบ VIP ด้วย เสีย 100 นึง แต่เราจอดกันแบบธรรมดาก็พอ เพราะดูๆแล้วก็ไม่เห็นมันจะต่างกับแบบธรรมดา 50 บาทตรงไหน ที่จอดรถเกือบทุกที่เค้าจะทำหลังคา มุงใบไม้ใบหญ้าไปตามแบบเพิงชั่วคราวอ่ะแหละ เออ พอเดินมาดูตรงที่เค้าเขียนป้าย VIP เนี่ย ถึงเพิ่งรู้ว่า มันพิเศษตรงที่มีฝ้าเพดานให้ด้วยนี่แหละ โอว บรรเจิดมั่กๆค่ะ
จอดรถที่นี่แล้วมีบริการรถส่งเข้างานฟรี อ่ะ ส่งเข้าฟรี แต่รับออกตอนขากลับไม่ฟรี 555 พี่เค้าเขียนไว้งี้จริงๆนะ “บริการส่งเข้างานฟรี” ส่วนขาออกไม่ได้บอกไว้ เพิ่งมารู้ตอนขากลับนี่แหละ (ฮา) ไม่ได้ซีเรียสคับ 5 บาท แต่แบบว่านะ ถ้ารู้ก่อนก็เดินกลับมาเองแล้ว ไม่ต้องไปยืนรอรถ (นานเชียว)

รถมาจอดเทียบส่ง ตรงทางเข้า เข้าไปตรงที่ที่จะเจอลานราชพฤกษ์นั่นเอง

ถึงแล้วค่า ...








ถือตั๋วไว้คนละใบ แล้วเดินเข้าประตูไปเลย
มีซุ้มให้หยิบแผนที่เป็นคู่มือชมงาน มาแบบแพค 3 ภาษาเลย ไทย อังกฤษ และจีน... เปลืองดีนะ น่าจะแจกแค่พอใช้ก็พอ แบบคนไทยก็แจกแต่ภาษาไทย ไรเงี้ย .. จะได้ไม่เปลืองกระดาษ


ให้แม่ไปยืนใกล้ๆซุ้ม สีสวยดี เขียว เหลือง ม่วง ส้ม



อ่ะ ผู้คนล้นหลามค่ะ วันนี้ ได้ข่าวว่า จากสถิติการเข้าชมงานแล้ว วันอาทิตย์ที่ 28 นี้ เป็นวันที่มีคนเข้าชมงานมากที่สุด ก็แหงเส่ะ วันอาทิตย์สุดท้าย จะปิดงานอยู่แล้วนิ
คนเยอะมากมาย ไปทยอยกันต่อแถวซื้อตั๋วขึ้นรถพ่วง คนละ 30 บาท อันนี้เค้าให้ขึ้นลงกี่รอบก็ได้ มีจุดขึ้นลงอยู่ 9 จุด ก็เก็บตั๋วไว้ อย่าไปลงจุดที่ 9 เป็นใช้ได้(เพราะเค้าจะเก็บตั๋วไปเลย) ก็ลงๆขึ้นๆ กันได้ตลอดเส้นทางตามจุดจอดรถอ่ะนะ



นั่งรถชมสวนไปเรื่อยๆ จนถึงหอคำหลวง แล้วลง





วันนี้อากาศดี เย็นสบาย ไม่มีแดด น่าเดินมากๆ แต่ถ่ายรูปจะไม่ค่อยสวยอ่ะ เพราะแดดไม่มี แถมต้องคอยหลบคนมหาศาลอีก อ่ะนะ แต่ใครๆเค้าก็อยากมาเที่ยวกัน ไม่ต้องหงุดหงิดเรื่องคนค่ะ เพราะถึงคนจะมากมาย มองไปทางไหนเห็นแต่หัวคนเต็มไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้แน่นเท่าไหร่ แต่อาจจะหากันยากนิดนึง อันนี้ข้าน้อยก็คิดมาเรียบร้อยแล้วค่ะ เอาหมวกที่ซื้อมาเมื่อคืนมาใส่ซะ เป็นแลนด์มาร์กให้กับชาวคณะได้ดี แม่บอก หาง่ายดี เห็นหมวกมาแต่ไกล อิ อิ



อ่า ไปเรื่อยๆละกันนะ ทีแรกว่าจะเขียนรวดเดียวจบ แต่ท่าจะยาว นี่ก็ดองมานานแระ 555

อาจจะเป็น photo essay ไปเลยแระกัน

เริ่มกันที่ .. หอคำหลวง





















ปล. อัพวันละนิด จิตแจ่มใส 555 ^___^ V




 

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2550 13:04:51 น.
Counter : 813 Pageviews.  

เชียงใหม่ 070127 : : Walking Street

*

ไปเชียงใหม่ เป้าหมายคืองานพืชสวนโลกฮ่ะ อยู่ดีๆก็ได้โอกาสไป แบบว่า ตั้งท่าจะไปตั้งแต่ปลายปี แต่มาได้ไปเอาตอนเค้าใกล้จะปิดงานแล้ว
เตรียมตัวล่วงหน้าสองอาทิตย์..ลางาน หาตั๋ว หาที่พัก ที่โชคดีมากๆได้อภินันทนาการจากสปอนเซอร์ใจดี เลยแค่หาตั๋วเครื่องบินไปเท่านั้น เหอ เหอ ทีแรกว่าจะไปสามคนแม่ลูก แต่หลังจากเฟิร์มทุกอย่างเรียบร้อย จะมีน้ามาอีกคน ชาวคณะเลยเพิ่มมา รวมเป็นสี่ อุ อุ ชิลๆฮ่ะ สปอนเซอร์ยังใจดีเพิ่มห้องให้อีกห้องนึง

เที่ยวบินมันบ่ายๆ เลยตื่นมาจัดกระเป๋าเอาตอนเช้า อ่ะ เรียกว่าจัดกระเป๋าก็ไม่ถูก เพราะขี้เกียจใช้เป้ ขี้เกียจจัดกระเป๋า เลยเอากระเป๋าใบใหญ่(ขนาดย่อมๆ)ลากได้ไป .. ใช้เป้มันต้องจัดการพื้นที่ในกระเป๋าไง พอใช้กระเป๋าลากมันเลยเป็นการ "โยน" ทุกอย่างลงไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า ที่เหลือมากมาย ไว้ใส่ของขากลับที่คาดว่าจะเพิ่มมาได้อีก สบายๆ

ตื่นตัวกันนิดหน่อย เพราะแบบว่า สบายมานาน ไปสนามบินแต่ละทีใกล้บ้านมั่กๆ 10 นาทีถึง.. แต่คราวนี้สุวรรณภูมิค่ะ

ทีแรกวางแผนว่าจะนั่ง taxi ไปกัน แต่ไปๆมาๆ ก็ให้พ่อขับรถไปส่ง ไม่ยากค่ะไม่ยาก ขับตามป้ายไปเรื่อยๆ มันแทบจะมีป้ายบอกทางไปสุวรรณภูมิตั้งแต่ออกจากบ้านกันเลยทีเดียว 55555555

เป็นครั้งแรกที่ไปสุวรรณภูมิในตอนที่มันสร้างเสร็จ เปิดใช้งาน และมีคนมากมายแล้ว ตอนไปตอนที่ยังสร้างไม่เสร็จ ก็ว่าใหญ่ดี กว้างดี โล่งดี (ตรงชั้น 4 ขาออกอ่ะนะ) แต่พอเจอ mass คนขนาดมหาศาลเข้าไปแล้ว เราว่ามันดูแคบง่ะ .. แต่พอเข้าไปแล้ว ทางเดินจะไป gate มันไกลลิบเลยค่ะ ชนบทสุดๆ กั่กๆๆ .. ดีเลย์นิดหน่อย .. ขึ้นรถไปลานจอดที่ไกลลิบกว่า แล้วเครื่อง taxi ไป runway ที่ไกลลิบๆเข้าไปอีก ..ที่เด็ดมากคือ ต้องไปจอดต่อหางกันเพื่อจะ take off ง่ะ ก๊ากก พี่เข้าคิวกันงี้เลยนะคะ เข้าคิวนานแบบว่า อ่านหนังสือจบเล่มได้อ่ะ ใช้เวลาในการต่อแถวขึ้น runway นานกว่าเวลาบินอีก เอิ๊กกกก..


ใช้เวลาบินประมาณ 50 นาที บนเครื่องแจกของว่างเป็นถั่วถุงจิ๋วหลิ๋ว ที่รสชาติเหมือนมารุโจ้ (แต่พลิกดูด้านหลังเค้าเขียนว่าเป็นโก๋แก่ล่ะ)

กินถั่วหมดถุงก็ landing พอดี.. ขาลง ปวดหูมั่กๆ ไม่เคยปวดถึงขนาดนี้ ปวดขนาดไมเกรนขึ้นเลยง่ะ พี่นักบินเป็นคนญี่ปุ่น พี่ลดระดับเร็วเกินไปแร้ว .. งี๊ดด หนูปวดหู T_T

ออกจากสนามบินเชียงใหม่ โบกรถแดงไปโรงแรม ทีแรกพี่คนขับบอกคนละ 30 บาท ก็ขึ้นไปนั่งเบียดกันข้างหน้าทั้งคนทั้งของ เพราะข้างหลังเต็มแล้ว รถออกไปได้ซักพัก พี่คนขับหันมาบอก ขอคิดเพิ่มเป็นคนละ 40 ละกันนะ ไอ่โรงแรมที่เราจะไปกันเนี่ย มันต้องอ้อมไกล พี่เค้าว่างี้ .. -"- อ่ะนะ รู้สึกตัวเหมือนเป็นอ้อย (เข้าปากช้าง ไปซะแระ) จะลงรถไปแล้วเรียกรถใหม่ดูจะลำบาก ก็เลยต่อ เหลือ 150 สี่คน อ่ะค่ะ ลดไป 10 บาท (ก็ยังดี)
ดูแผนที่.. มันอ้อมตรงไหนเนี่ย..


ถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ เข้าไปเช็คอิน ..ได้กุญแจห้อง กุญแจรถ และบัตรเข้างานราชพฤกษ์ .. ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นของอภินันทนาการทั้งหมด เค้าให้มาฟรีๆเลย .. ให้รถมาใช้ด้วยหนึ่งคัน พร้อมน้ำมันเต็มถัง เหอ เหอ จะใจดีเกินไปแล้ววววว >_<


โรงแรมนี้ตกแต่งด้วย theme 12 นักษัตร ..มองไปทั่วโรงแรม ตั้งแต่ลานจอดรถ, ลอบบี้,... ไปเรื่อย.. จะเจอรูปปั้น, โคมไฟ, ภาพดุนโลหะ, กระเบื้อง, ฯลฯ เป็นรูปหมู หมา กา ไก่ 12 ราศี ไปหมด




ที่ห้องมองออกไปจะเห็นวิวดอยสุเทพล่ะ


ฟ้ามืดแล้ว.. ออกไปหาที่เดินเล่นกันในเมือง ไป "ถนนคนเดิน"กัน
ก่อนอื่นลงไปเดินหารถที่ลานจอดกันก่อนว่าคันไหนที่เค้าให้มาใช้ ทีแรกว่าจะขับรถไปกัน แต่มันมืดแล้วแถมไม่คุ้นทาง เลยเรียกรถแดงไปกันดีกว่า จากโรงแรมเข้าเมือง คนละ 25 บาท



พี่รถแดงไปส่งลงตรงหน้าวัดสิงห์ แล้วพี่เค้าบอกเดินเข้าไปเลย มีให้เดินเล่นได้ 2 กิโล(เมตร) แล้วก็ รถหมดห้าทุ่มนะคับ


มีของขายเยอะดี ผู้คนก็เยอะดีเช่นกัน เดินซื้อของกินไปตลอดทาง เดินไปเรื่อยจนถึงร้านขายก๋วยจั๊บ เค้าเขียนป้ายว่าก๊วยจั๊บโบราณ ดูแล้วน่ากินดี ก็เลยเป็นอาหารจานแรกในเชียงใหม่ในทริปนี้ หน้าตาก็ดูธรรมดาไม่ต่างจากก๋วยจั๊บทั่วไปเท่าไหร่ เพียงแต่มีแปลก คือเค้าใส่ผักกาดแก้วด้วยอ่ะ เอ๊ะ ประหลาดไหม หรือไม่ประหลาด? แต่ข้าเจ้าไม่เคยกินแบบใส่ผักกาดแก้วนะ



คุณน้องสาวชอปปิ้งไปเยอะสุด ส่วนข้าเจ้าได้กระโปรงแม้วมาตัวนึง กะหมวกประหลาดๆหนึ่งใบ
แล้วก็สิ่งที่ดูจะฮิตในที่นี้ดูจะเป็นสตอเบอรี่คลุก(?ไม่รู้เรียกงี้ป่ะ) คือมันเป็นสตอเบอรี่ลูกเล็กๆนี่แหละคลุกกะน้ำเชื่อมมั๊ง แต่คงมีใส่เกลือด้วย เพราะกินแล้วรสมันออก หวานๆเปรี้ยวๆเค็มปะแล่มๆ ก็หร่อยดี ใส่แก้ว แก้วละ 10 บาท มีขายตลอดทางเลย


เออ มีอยู่ตอนนึง เรากำลังถ่ายรูปอยู่ ตรงสี่แยกถนนราชดำเนิน ก็ได้ยินเสียงแม่ทักทายใครซักคน อ่ะนะ ในใจอิชั้นนี่คิดว่าเจอคนรู้จักอีกแล้วเรอะ(ไปไหนมาไหนจะมีการเจอคนรู้จักเข้ามาทักอยู่ตลอดล่ะค่ะ ทั่นแม่ข้าเจ้าเนี่ย แบบว่า pop อ่ะค่ะ 555)
พอหันมาก็ถึงได้เห็นว่าเป็นอาจารย์เฉลิมชัยเจ้าค่ะ โอว เวลาปกติอาจารย์แกก็พูดเสียงธรรมดาๆนิ (อันนี้แม่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวอะไรนะคะ แค่เจอแล้วทักทายกันเจ๋ยๆ)
อ่ะ บรรยากาศๆ







วัดพันเตา สวยมากกกกกกก


มีรถตู้ขายกาแฟด้วย น่ารักมั่กๆ




 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2550 13:08:46 น.
Counter : 1576 Pageviews.  

devil's walk in the sunflower field

2006.12.24














































2005.12.31




































 

Create Date : 25 ธันวาคม 2549    
Last Update : 27 ธันวาคม 2549 11:27:37 น.
Counter : 1024 Pageviews.  

ทะเลปราณ : : หัวหิน. . .


post date : 29/03/2006 19:29:21

*

กว่าจะเช็คเอาท์ได้ รออยู่นาน เพราะเกิดการเข้าใจผิดเล็กน้อย
จากเดิมที่แปลนไว้ว่าจะออกก่อนเที่ยง ก็เลยเลทไปเป็นชั่วโมง

อ่ะค่ะ ใครมู๊ดดี้ ก็มู๊ดดี้ไป หนูไม่เครียดอยู่แร้น ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ออกจากปราณฯ ขับมาเรื่อยๆ แวะดูบ้านอีกที่นึงที่หัวหิน ชื่อ "บ้านหัวหิน" แต่เนื่องจาก ไม่ได้มีการขอมาก่อนล่วงหน้า แบบว่า ท่านเพิ่งจะคิดได้ว่าน่าจะดู

ก็เลยเป็นอาการไปด้อมๆมองๆบ้านเค้า กั่กๆๆ

แล้วก็เลยพยายามจะลงไปดูบ้านให้ใกล้กว่านั้นให้ได้ .. ก็เลย หาทางลงหาดกัน (จนได้)

หัวหินต้องมีม้าค่ะ



ดูบ้านเสร็จ ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอกันแล้ว ก็ได้เวลาหาของกินกลางวัน ซึ่งก็เลยมื้อมานานแล้ว อ่ะ โชคดีที่เชื่ออาจารย์ กินออมเลตเพิ่ม เลยยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่

อ๊ะ อยู่ดีๆ รถก็เลี้ยวเข้าโซฟิเทล อ๊ายยย อิชั้นกรี๊ดอยู่ในใจคนเดียว
ไม่ใช่ไร มันเป็นโรงแรมที่หนูอยากมานอนมากเลยอ่ะค่ะ โซฟิเทล หัวหิน

แต่รู้สึก 'จารย์เค้าจะเค้ามาดูไรซักอย่าง แล้วไม่เจอไรมั๊ง ก็เลยขึ้นรถกันกลับออกมา
//พนักงานโรงแรมคงงงๆกันน่าดู ว่าพวกนี้มาทำอาราย ลงมาก็เดินๆๆๆๆ แล้วก็ขึ้นรถ ไม่พูดไม่จากันซักคำ


*
สรุปแล้ว ก็มาหาร้านอะไรที่พอจะมีอะไรกินได้ในตลาดหัวหิน
(หลายร้านที่ลองแวะจอดแล้วสู้พายุคนไม่ไหว คนมาจากไหนกัน แน่นทุกร้าน)

เลยได้กินก๋วยเตี๋ยว

หนูสั่งเย็นตาโฟทะเล อ่ะ แน่นอน ว่าต้องเป็นเส้นใหญ่

เค้าเสิร์ฟมาแบบประทับใจหนูมากค่ะ แบบนี้เลย



อ่ะ ไม่แปลกหรอกค่ะไม่แปลก แต่หนูประทับใจ การ design วิธีการเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวมาก

นั่งกินกันจากร้านเค้าคนแน่นๆ จนไม่มีคนอ่ะ

ไม่ใช่ว่านั่งกินกันนานหรอกนะ แต่เพราะของเค้าหมดแล้ว เลยไม่มีลูกค้าเข้ามาเพิ่มอีก

เลยถ่ายรูประหว่างนั่งรอใบเสร็จ
(กินก๋วยเตี๋ยวสามร้อยกว่าบาท ต้องขอใบเสร็จ ก๊ากๆๆ)



ตอนถ่ายไม่รู้สึกไร
แต่พอมาดูรูปทีหลังแล้ว รู้สึกขัดใจกะไอ่กระดาษสีขาวบนพื้นแผ่นนั้นมาก

นึกถึงที่เพื่อนๆตากล้องของอิชั้นบอกเลย
มันบอกว่า
แกยังถ่ายรูปได้ไม่ใจเย็นพอ

เออ ก็จริงของมัน

แบบว่า บางรูปอ่ะ ถ้ารออีกซักนิด แสงจะดีมากๆ
รออีกซักนิด องค์ประกอบจะดีมากๆ (เช่น คนเดินมาอยู่ในตำแหน่งที่พอดี๊ พอดีให้ภาพสวย ไรทำนองนั้น)

รออีกนิดก่อนกดชัตเตอร์ เช็คอะไรเล็กๆภาพซักหน่อย ถ้าเจอ "ขยะ" จะได้ "กำจัด" มันได้
(ขยะ ไม่ได้แปลว่า ขยะจริงๆนะ แต่มันคือ ขยะในภาพอ่ะ .. อ่ะ อ่ะ รู้สึกยิ่งพูดยิ่งงงเข้าไปใหญ่)

สรุปแล้ว หนูเป็นคนใจร้อนค่ะ ..
รู้ .. แต่ก็ยังจะถ่ายรูปแบบนี้ต่อปายยยยย











*

แระก้อ

อันนี้เอามาแปะไว้
เห็นว่าอาจเป็นประโยชน์
เห็นว่าเพื่อนอยากรู้ว่าไอ่ที่หนูไปนอนเนี่ย ว่ามันเท่าไหร่

อุ อุ อุ เผื่อจะไปเที่ยวกัน
//เผื่อไว้ๆ

evason hideaways

veranda resort and spa

huaplee lazy beach








บ๊าย บายนะทะเล้ ...ทะเล...







*




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2549    
Last Update : 13 ตุลาคม 2549 12:49:57 น.
Counter : 799 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

perfect blue
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




A r e . . y o u . . f e e l i n g . . f i n e ?






流れてゆく 星の涙を 数えながら

揺れる時をわたって

唇の傍で 僕の眼の前に 晒されだした

全ての愛で lost yourself in happiness

.

Changing, nothing gonna changing

彷徨い巡る 季節に 惑わされて

縋る この血が今縋るものに 身を委ねてみよう

.

BGM :

twinkle, twinkle : L'Arc-en-Ciel










© สงวนลิขสิทธิ์ .. นะจ๊ะ ..
เหอ เหอ เหอ


littledevilxxx © 1999 - 2022 All Rights Reserved.


งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

*
New Comments
Friends' blogs
[Add perfect blue's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.