瞳閉じれば広がってゆく . . .
Group Blog
 
All blogs
 
Japan Winter 080103 :: Ninnaji

*
นั่งรถไฟสาย Keifuku จาก Arashiyama ซักพัก พอได้ยินเสียงประกาศสถานี ...Ninnaji เท่านั้น เพื่อนก็กระโดดลง อ่า เซ็งนิดหน่อยที่คงไม่ได้แวะ Ryoanji อย่างที่ตั้งใจกันไว้แต่แรกแล้ว.. เพื่อนบอกว่า เวลาไม่ทัน -"- (จริงๆแอบคิดว่า เพื่อนไม่ได้อยากไป Ryoanji ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว .. เพราะเพื่อนกรอกหูให้ได้ยินตลอดตั้งแต่วางแผนแล้ว .. "ก็เหมือนรูปถ่ายแหละ" "เสียค่าเข้าตั้ง 500 เยน" "ไม่เห็นมีอะไรให้ดูเลย" ... ฯลฯ)
แบบว่าตัดสินใจแบบเร่งด่วนกระทันหันมากๆ ขนาดหาตั๋วรถไฟออกมาไม่ทันเลยทีเดียว (รถสายนี้เค้าเก็บตั๋วกันตอนจะออกจากรถแฮะ เลยเตรียมตัวไม่ทัน.. ไม่ได้เอาตั๋วไปสอดที่ทางออกเหมือนที่เคยๆขึ้นมา)
เซ็ง.. แต่ก็คิดว่า อย่างน้อยพรุ่งนี้คงได้ไป Kiyomizu ตามแผนนะ (อย่างน้อยทริปนี้ยังเหลือ point ของเราอยู่อีกที่นึง)
คิดได้ดังนั้นแล้วก็เดินตามเพื่อนไป..

ออกมาจากสถานีก็เจอกับถนนที่มุ่งเข้าวัดเลย วัดอยู่ตรงหน้านี่เอง ไม่ไกลๆ เดินกันชิลๆ



ถึงแล้ว





เข้าไปกันเลย



ซื้อตั๋วก่อน



เข้าไปจะเจอต้นสนทรงแปลกดีอยู่ปากประตู



เวลาไม่คอยท่า รีบเดินเข้าไปกันดีกว่า



ถอดรองเท้าวางไว้ก่อน ทางขวามือ



เข้าไปในตัวอาคารแล้วก็เจอหลุมดักกินคนอีกแล้ว กั่กๆๆ เสียทรัพย์กันไปพอสมควรกับเครื่องราง

ในบริเวณโถงเดียวกันนี้ มีที่สักการะพระโพธิสัตว์ด้วย



เดินเข้าไปเป็นระเบียง



ทางเข้านี่เหมือนทำให้ค่อยๆเพิ่มความตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆได้เลยนะ ^^ แค่เข้ามาหน่อยนึง ถัดมาเพียงอีกไม่กี่ก้าว บรรยากาศของสวนก็ค่อยๆเปิดเผยขึ้น



แค่หันหน้าไปอีกทาง ก็จะเจอสวนที่ต่างกันไป





แวะดูในห้องหน่อยนึง อย่าเพิ่งรีบเดินไป





พอเดินลับระเบียงตรงนี้ไป



ก็จะเจอ...







เห็นระเบียงเชื่อมอาคารแต่ละหลังที่นี่แล้วอยากลองลากกิโมโน 12 ชั้น เดินไปตามระเบียงมั่ง ดูท่าจะสนุก เพลินดี



สวนแต่ละมุมให้ความรู้สึกต่างกัน



อาคารนี้ก็มีรูปเขียน



รูปเขียนส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นภาพธรรมชาติ แบบว่า ได้สัมผัสธรรมชาติทั้งภายในภายนอกเลยทีเดียว







ระเบียงทางเดินซ้อนสลับ ให้ space ที่เป็นลักษณะเฉพาะดี











ระเบียงตรงนี้ มีที่นั่งอยู่ตรงราวระเบียงด้วยนะ (แต่เค้าห้ามนั่ง เพราะมันคงทานน้ำหนักไม่ไหวแล้ว)



หน้าหนาวก็ยังเขียว





สวนด้านนี้มีบ่อน้ำ มีระเบียงให้นั่งชม



แดดเริ่มจะหมดแล้ว

แต่ยังเดินต่อไป



ตามระเบียงไปเรื่อยๆ



ไต่ระดับขึ้นมา



แล้วมองย้อนกลับไป



สระน้ำ



เดินกลับลงมาทางเดิม



มาที่อาคารนี้



ภายใน





นั่งกับพื้นไม้ ชมสวน



ลายไม้สนุกดี



แม้แต่พื้นปูเข้ามุมยังคิดถึงรายละเอียดของลายไม้



นั่งดูเรื่องราวบนแผ่นไม้ไปเรื่อยๆ



นั่งไปเรื่อยๆ



ไม่อยากลุกเลย

แต่ก็ต้องกลับออกไปแล้ว เพราะเวลาไม่มีจริงๆ เค้ากำลังใกล้จะปิดวัดแล้ว

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกทีนึง



ค่อยๆเดินออก











เหมือนภาพซ้ำๆ แต่ตอนนั้นนี่อารมณ์นี้เลย คือ เดินๆไปแล้วก็หันมากดชัตเตอร์ ไปเรื่อยๆ รู้ว่ามุมมันซ้ำๆ แต่ก็ยังถ่ายไปเรื่อยๆ 555 เราว่ามันไม่เหมือนกันซักรูปนะ จริงๆนะเนี่ย



ออกจริงๆแล้ว กำลังจะมืดแล้ว



เดินออกประตูมา .. ยังมีอะไรให้ดูอีกเยอะเลย เดินต่อปายย



ขึ้นบันได ฮึบๆ



เจอซากุระที่มีแต่กิ่ง



กับตัวอาคารไม้ที่อาบไล้ด้วยแดดสีทอง



สวยยยยยย ><

ดูไม่เบื่อเลย



เดินอ้อมมา ยังมีทางให้เดินต่อไปได้อีก





เจอดอกไม้ .. เข้าไปมาโครกันหย่ายย



แต่แสงไม่มีแล้ว



ดอกไม้เหงาๆ

ตอนนี้ ทางวัดเริ่มประกาศมาเป็นระยะๆแล้ว ว่าจะปิดแล้วค่า ขอบคุณค่า.. เชิญออกกันไปได้แล้วค่า เราจะปิดประตูแล้วค่า 555 แต่พวกเราก็ยังทำตัวเดินต่อกันไปอีกนะ แหม ไหนๆมาแล้ว ขออยู่ให้คุ้มอีกนิ๊ดดดนึงนะคะ



เดินมาเจอหอระฆังยามเย็น
ตรงนี้ยืนรอถ่ายรูปกันอยู่นานมั่กๆ เพราะมีพี่ฝรั่งแบกขาตั้งกล้องมายืนเกะกะอยู่ในมุมที่แบบว่า เสียความงามกันเลยทีเดียว รอพี่เค้าถ่ายรูปของเค้าเสร็จ ก็ยังยืนอยู่นั่น ไม่ยอมไปไหน .. เครียดนะเนี่ย กั่กๆๆ วัดก็ใกล้จะปิดอยู่แล้ว ยังต้องมาเสียเวลากันตรงนี้อีก (จริงๆแล้ว เวลาตรงนั้นมันอาจจะไม่นานก็ได้ แต่พอมันเกิดจำกัดขึ้นมา ก็เลยรู้สึกว่า เมื่อไหร่พี่แกจะเดินไปที่อื่นซะทีฟระ 55)
ยังไม่พอ.. พอพี่ฝรั่งไปแล้วก็มีป้ากะลุงมาหยุดยืนค้นกระเป๋าอะไรกันอีก .. เออ เอาเข้าปายยย จะไปดูกระเป๋ากันที่อื่นก็ไม่ได้เลยนะ ต้องเดินมาหยุดดูกันตรงที่พวกหนูจะถ่ายรูปกันเนี่ย .. เออ แล้วพวกเราก็แปลก ขนาดเจ๊ที่ไม่คิดไรมากเวลามีคนอยู่ในภาพถ่ายยังหงุดหงิดเลย กั่กๆๆ



เดินเลยมาอีกหน่อย



เดินออกกันได้แล้ว



เจอดอกไม้ริมทาง



เจดีย์ที่เห็นจากในวัดเมื่อกี้



ประตูกำลังจะปิดแล้วค่า..



ประตูทางที่เราเข้ามาจากถนนปิดแล้ว เค้าให้ไปออกอีกประตูนึงด้านข้าง



แต่ก็ยังสาละวนถ่ายรูปกันต่อปายย แม้จะหมดแสงแล้วก็ตาม





แผนผังของวัด



site plan



เดินออกกันจริงๆแล้วค่ะ ^^



ออกมาเจอลานจอดรถ และท้องฟ้า กับเมฆสีชมพู



เดินย้อนกลับมาหน้าวัด



รอรถเมล์ (หนาววววววมากกกกกกกกก) หยุดเดินแล้วหนาวกันเลยทีเดียว



ขึ้นรถเมล์จากหน้าวัดมาลงสถานีเกียวโต แล้วลงไป Porta หาอะไรกินกัน




ร้านนี้เลย หนาวๆ อยากกินราเม็งร้อนๆ



น้ำชามาก่อน ชาอร่อย ชื่นจายยย



ดูเมนูแล้วสั่งเลยค่ะ



มาแว้ววว ทันตัมเมน อร่อย



ร้านนี้มีขิงดองให้หยิบกันเองตามสบาย กินเสร็จแล้วไปจ่ายเงินหน้าร้าน โอว คนรอคิวเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ตอนเข้ามาไม่ค่อยมีคนเลย โชคดี ไม่งั้นโมโหหิวกันเป็นแถบๆแน่ 55

อิ่มหนำแล้วก็เดินกลับโรงแรม

ถึงห้อง ยังมีขนมที่ซื้อมาจาก Arashiyama ให้จัดการ



โดนเบียดมาในกระเป๋า เละไปนิด แต่ยังอร่อยอยู่ ><



อิ่มขนมแล้วก็ไปอาบน้ำ ตอนอาบน้ำอยู่ได้ยินเสียงสัญญาณเพลิงไหม้ดังด้วย แถมมีประกาศอะไรด้วย แน่นอนว่าเป็นภาษาญี่ปุ่น และฟังไม่ออกซักคำ 5555 ตอนออกมา เจ๊แมวบอกว่าโทรลงไปถาม front แล้ว เค้าบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว

นวดขา นวดไหล่ ที่เล็งจุดปวดไว้ตั้งแต่เช้า แฮ่ ตั้งนาฬิกาปลุก แล้วล้มตัวลงบนฟูก.. หลับสนิท..




Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2551 16:05:49 น. 1 comments
Counter : 1661 Pageviews.

 

ขอให้มีความสุขในเย็นวันนี้นะคะ...



โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:01:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

perfect blue
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




A r e . . y o u . . f e e l i n g . . f i n e ?






流れてゆく 星の涙を 数えながら

揺れる時をわたって

唇の傍で 僕の眼の前に 晒されだした

全ての愛で lost yourself in happiness

.

Changing, nothing gonna changing

彷徨い巡る 季節に 惑わされて

縋る この血が今縋るものに 身を委ねてみよう

.

BGM :

twinkle, twinkle : L'Arc-en-Ciel










© สงวนลิขสิทธิ์ .. นะจ๊ะ ..
เหอ เหอ เหอ


littledevilxxx © 1999 - 2022 All Rights Reserved.


งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

*
New Comments
Friends' blogs
[Add perfect blue's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.