Group Blog
 
All blogs
 
It’s Tea Time !

ตอนสมัยเป็นเด็กประถม (นานน่าดู!) เคยอ่านสารานุกรมชุด ที่เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นกันรึเปล่าคะ? เชื่อแน่ๆค่ะ ว่าแทบจะทุกบ้านจะต้องมีสารานุกรมปกแข็ง ที่เหล่าเซลส์แมนหอบมาเสนอขายแบบฮาร์ดเซลส์ถึงหน้าบ้านเป็นสิบๆเล่ม พร้อมกับบรรยายสรรพคุณอีกล้านแปดข้อ ที่ฟังแล้วมึน สติวูบไปอยู่กาแล๊กซี่อื่นชั่วคราว กว่าจะรู้สึกตัวอีกที สารานุกรมชุดนั้นก็อยู่ในมือคุณหนูๆที่บ้านเรียบร้อยแล้ว (แต่เงินในกระเป๋ากลับปลิวหายไป อิอิ)

คุณแม่ของปุ้ยเอง ก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้ไปท่องเที่ยวกาแล๊กซี่อื่นเช่นกันค่ะ แต่ทั้งนี้ ไม่ได้แปลว่าสารานุกรมฉบับการ์ตูนเหล่านี้ไม่มีประโยชน์นะคะ ในทางกลับกัน มันกลับสนุกและให้สาระเหลือเชื่อ ทั้งภาพประกอบ และความรู้ต่างๆที่อ่านได้เพลินตานั้น กลับติดอยู่ในความทรงจำของปุ้ยมาจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ (จริงๆนะ!) เค้าถึงว่ากันว่า หนังสือเนี่ยะมีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นบทความทางการเมือง หรือซุบซิบดารา เรามักได้ความรู้แฝงมาแบบไม่รู้ตัว (ไม่มากก็น้อย…เนอะ) กันทั้งนั้นแหล่ะค่ะ

โม้ไปถึงไหนแล้วนะเนี่ยะ? กลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ !
จากเหล่าบรรดาสารานุกรมฉบับการ์ตูนที่ปุ้ยอ่านมาทุกเล่มแล้วเนี่ยะ ที่จำได้ติดตาจนทุกวันนี้ คือ มีอยู่ตอนหนึ่ง ในชุดร่างกายของเรา เป็นตอนที่หนุ่มน้อยพระเอกของเราออกไปท้าสู้กับเหล่าอันธพาลที่มารังแก (สมัยนี้ คงเป็นแก๊งเด็กแว๊น) แต่ก็แพ้ยับเยินกลับมา เพราะว่าร่างกายขาดน้ำตาล ทำให้ไม่มีเรี่ยวแรง แต่หลังจากที่เค้าได้ดื่มน้ำหวานและลูกอมเข้าไปแล้ว ก็กลับไปควงสว่านจัดการเหล่าเด็กอันธพาลพวกนั้นซะเรียบ

มาเข้าเรื่องกันแบบดื้อๆเลยละกันนะคะ (ฮา) ที่จะบอกก็คือ เคยเป็นกันบ้างรึเปล่าคะ ยามบ่าย หลังจากลุยงานช่วงเช้ามาทั้งวันแล้ว เหนื่อยก็แสนจะเหนื่อย แถมเพลียซะจนตาปรือ (ก็เพราะเราใช้น้ำตาล ที่เปลี่ยนเป็นพลังงานไปในช่วงเช้าหมดแล้วไงล่ะคะ) จนอยากจะมุดหลบใต้โต๊ะทำงานไปเข้าเฝ้าเทวดาบนสวรรค์เอาแรงซักหน่อย เจ้านาย (ที่รัก) ก็มาเรียกไปเข้าประชุมซะนี่ !

สวรรค์กลั่นแกล้ง ! …คิดแบบนี้กันใช่ไหมล่ะ รู้ทันหรอก ฮิๆ
ประชุมทั้งที่สภาพร่างกาย และจิตใจไม่พร้อมแบบนี้ แย่แน่ๆ ถึงแม้จะมีกาแฟ หรือว่าบิสกิตให้ทานเล่นเติมพลังระหว่างประชุมก็เถอะค่ะ แต่เจอเมนูเดิมๆที่ไม่ให้คุณค่าทางอาหาร และไม่สร้างสรรค์ทางใจเข้าทุกวัน ก็พาลจะโวยไม่อยากประชุมไปได้ดื้อๆเนอะ


บิสกิต กับโอวัลตินหนึ่งแก้ว … น่าเศร้าจัง
ทีนี้ถ้าเราลองพลิกสถานการณ์นิดหน่อย สร้างสีสันให้กับวันประชุมกันซักนิด เปลี่ยนเมนูเดิมๆ แล้วเนรมิตบรรยากาศตึงเครียด ให้เป็นปาร์ตี้น้ำชายามบ่ายขนาดย่อมๆ จิบชาอุ่นๆ คลุ้งกลิ่นหอมอ่อนๆของใบชา พร้อมกับค่อยๆตักขนมหวานชิ้นเล็กๆขนาดพอดีคำเข้าปาก จะมีความสุขขนาดไหนกันน้า?


สู้ตาย เพื่อเซ็ทนี้ล่ะค่ะ !

อ่านถึงตรงนี้ ถ้าใครเห็นด้วยกับปุ้ย แล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศหนักๆของวัน เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของร่างกายและจิตใจแล้วล่ะก็ ตามมาดูวิธีการจัด afternoon tea party แบบง่ายๆกันดีกว่าค่ะ

ก่อนอื่น ก็ขอมีสาระกับเค้านิดนึงนะคะ ปุ้ยมีเกล็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมการจิบน้ำชายามบ่ายมาฝากกันค่ะ
พูดถึงคำว่า “จิบน้ำชายามบ่าย” แล้ว หลายๆคนมักจะเหมาเรียกรวมวัฒนธรรมการจิบชายามบ่ายนี้ว่า “high tea” ไป ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ อย่าไปเหมารวมล่ะ เพราะจริงๆแล้วคำว่า high tea นี้ แต่เดิมมันหมายถึงมื้ออาหารย่อย ก่อนจะเข้ามื้อเย็น ตั้งแต่ช่วงเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ของชนชั้นแรงงานในประเทศอังกฤษสมัยก่อนค่ะ เพราะว่ากว่าจะเลิกงานกลับมา ก็เหนื่อยแทบสลบแล้ว ถ้าให้รอถึงมื้อเย็นตอนสองทุ่มกว่าแล้วล่ะก็ ได้มีสงครามย่อยๆเกิดขึ้นเพราะความหิวแน่ๆ เพราะฉะนั้นเหล่าแม่บ้านผู้แสนดี ก็มักจะเตรียมมื้อของว่าง ที่เปี่ยมไปด้วยพลังงาน เช่น ขนมหวานชิ้นเล็กชิ้นน้อย แซนวิชไส้คาว-หวานต่างๆ หรือบางบ้านอาจมีขาหมูแฮม ไว้คอยต้อนรับสุดที่รักที่เพิ่งกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆด้วยนะ
ทีนี้ถ้าจะให้ถูกต้องตามแบบฉบับชาวเมืองผู้ดีนั้น การจิบน้ำชายามบ่ายแบบคุณนายๆ หรือที่เรียกว่า “afternoon tea” นั้น จะเริ่มต้นตอน 16.00-17.00 น. ค่ะ ซึ่งเมนูขนมน้ำชายามบ่ายนั้น ก็จะต่างไปจากมื้อเพิ่มพลังงานแบบ high tea อยู่บ้าง เพราะจะเน้นขนมนมเนย ที่ให้เราได้สวมมาดคุณนายค่อยๆละเลียด ลิ้มรสละมุนอย่างสบายอารมณ์ เช่น สคอน กับคล็อตเต็ดครีมและแยม (Scone and clotted cream & Jam) หรือทาร์ต และพายเล็กๆ ทานง่ายๆ แล้วก็มีแซนวิชชิ้นเล็กๆ ที่เค้าเรียกกันว่า Finger Sandwich เช่น แซนวิชไส้แตงกวา หรือไส้ปลาแซลมอนรมควัน ฯลฯ รวมกันเป็นเซ็ทขนมน้ำชา (แบบไฮโซ) หนึ่งเซ็ท



ขนมน้ำชาแบบเต็มรูปแบบ


ทีนี้กลับมาที่ห้องประชุม ณ สยาม เมืองยิ้มของเรากันดีกว่าค่ะ ไอ้ครั้นจะให้เราไปปฎิบัติถูกเป๊ะตามขนบธรรมเนียมประเพณีของเมืองนอกเค้านั้น เห็นจะเป็นไปได้ยาก เอาเป็นว่าเราเอามาปรับใช้ ให้เหมาะกับกาลเทศะ และความสามารถของเรากันดีกว่านะคะ หยวนๆหน่อยละกัน ถ้าตึงเกินไปเดี๋ยวประชุมครั้งนี้จะมีการนองเลือดเกิดขึ้นก็เป็นได้ ฮิๆ
เรามาจัดปาร์ตี้ขนมน้ำชายามบ่ายในแบบฉบับง่ายๆของเรากันดีกว่าเนอะ !
เริ่มต้นด้วยการทำการสำรวจบรรยากาศโดยรอบของการประชุมก่อนเลยค่ะ ผู้เข้าร่วมประชุมเป็นใครบ้าง? จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม? และสิ่งแวดล้อมรอบตัวอื่นๆ ดูให้รอบคอบนะคะ เพราะบางครั้ง ถ้าหัวหน้างานของคุณไม่เข้าใจคอนเซปล่ะก็ งานนี้มีโฮแน่ๆค่ะ (กึ๋ย!)
ก่อนอื่นก็สร้างบรรยากาศให้ปลอดโปร่ง สบายตากันก่อน จัดการเก็บกวาดห้องประชุมให้สะอาดเรียบร้อย แล้วหาดอกไม้สีหวานๆซักช่อมาวางประดับ ก็ทำให้บรรยากาศดูสดชื่นน่ารักขึ้นเยอะแล้วค่ะ
จากนั้นก็จัดการเรื่องเครื่องดื่ม ตามชอบเลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำชาหรอก จะเป็นกาแฟ โอวัลติน ฯลฯ ตามสะดวกค่ะ แต่ถ้าให้เลือกชาที่เหมาะกับการจิบน้ำชายามบ่ายแล้วก็ ขอแนะนำดาร์จีลิ่งค่ะ



แล้วก็มาถึงส่วนของอาหารว่างกัน ถ้าเราเป็นคนชอบทำขนมอยู่แล้วล่ะก็ งานนี้ได้เกิดแน่ๆค่ะ ลองโชว์ฝีมือทำสคอนชิ้นเล็กๆ เสริ์ฟพร้อมคล็อตเต็ดครีม หรือเนย และแยม ก็เข้าท่าดีนะคะ ปุ้ยมีสูตรสคอนอร่อยๆ ทำง่ายๆมาฝากกันในตอนท้ายด้วยล่ะ


จะทานสคอนให้อร่อย ต้องครบเซทด้วยคล็อตเต็ดครีม และแยมค่ะ


หรือถ้าคำนึงถึงความปลอดภัยในหน้าที่การงานของตัวเองแล้วล่ะก็ จะหาซื้อเข้ามาก็ได้ค่ะ ไม่ว่ากัน (ฮิๆ) ลองเลือกเบเกอรี่อร่อยๆเจ้าประจำ หรือ search หาดูตามอินเตอร์เน็ท เดี๋ยวนี้ก็มีบริการ delivery ขนมแบบ homemade ให้เลือกกันหลากหลายค่ะ อันนี้ก็ตามแต่รสนิยมเลย ไม่ว่ากัน จะเป็นคัพเค้ก พาย หรือ ทาร์ต ชิ้นจิ๋วหยิบทานง่าย หรือจะลองเปลี่ยนเป็นขนมไทยๆ อย่างขนมลืมกลืน ขนมชั้น ฯลฯ ก็เข้าท่าดีนะ


แบบนี้ก็เท่ดีนะคะ


ขอหลุดออกมานอกเรื่องอีกนิดนึงนะคะ (อีกแล้ว!) อ่านถึงตรงนี้ สงสัยกันบ้างหรือเปล่าคะ ว่าทำไมขนมและอาหารสไตล์ตะวันตกถึงเป็นที่ถูกปาก และถูกใจของหนุ่มสาวยุคนี้มากกว่าขนมไทย? ในความคิดส่วนตัวของคนเขียนนะคะ ปุ้ยว่านั่นก็เพราะทุกวันนี้โลกของเรามันก็มีขนาดเล็กลงๆทุกที จากสมัยก่อน จะส่งจดหมายหากิ๊กที่อยู่ต่างประเทศซะที กว่าจดหมายจะถึงมือผู้รับ คาดว่าคนเขียน(จดหมายนะคะ อย่าเข้าใจผิด) มีลูกไปแล้วสาม!
และด้วยเทคโนโลยีทุกวันนี้ เราก็ย่นระยะทางการรับข้อมูลข่าวสารเข้ามาได้อีกหลาย ดังนั้นจึงไม่แปลก ถ้าเราจะรับเอาความคิดความอ่าน รวมถึงวัฒนธรรมในด้านต่างๆ ซึ่ง ณ จุดนี้ ก็คือเรื่องของอาหาร เข้ามาได้อย่างง่ายด่ายและรวดเร็ว และยิ่งเมื่อมีโอกาสได้เห็นขนมฝรั่งรูปร่างแปลกตา ได้ลองลิ้มชิมรสชาติ หวาน หอม มัน ของ นม เนย ที่แตกต่างไปจากขนมไทย แล้ว ก็เลยยิ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้คนส่วนมากติดใจกับรสชาติใหม่นี้นั่นเอง


ช่อม่วง ขนมไทยที่ต้องอาศัยความประณีตอย่างสูง !


แต่ทั้งนี้ ขนมสไตล์ตะวันตกจะเข้ามาแทนที่ขนมไทยหรือไม่? โดยส่วนตัวปุ้ยมั่นใจแน่นอนค่ะว่าไม่มีทาง เพราะขนมไทยนั้นก็มีรสชาติอร่อยเฉพาะตัวให้เลือกทานหลากหลายชนิด มีขั้นตอนการทำที่ละเอียดประณีต รวมถึงเทคนิคแต่โบราณที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือต่างๆเข้ามาช่วย ซึ่งก็เป็นสเหน่ห์ที่เทียบค่าไม่ได้ของขนมไทย
เพราะฉะนั้นขนมแบบตะวันตก ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เป็นความหลากหลายให้กับของผู้ที่รักในศาสตร์และศิลป์ของอาหาร ได้เลือกพิจารณามากกว่า

กลับเข้าเรื่องกันดีกว่าเนอะ อิ่มกันรึยังคะ? ถ้ายังไม่อิ่ม แต่เอียนของหวานแล้ววว อยากได้ของคาวหรอคะ? อันนี้ก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่เลย ก็เหล่ากองทัพแซนวิชหลายร้อยไส้ เตรียมพร้อมให้เลือกกันอยู่แล้ว (งานนี้ของดของที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์นะคะ หมูทอด ไส้อั่ว เอาเก็บไว้ก่อนละกันเนอะ) ถ้าโดยธรรมเนียมขนมน้ำชาแล้ว ก็ต้องมีแซนวิชแตงกวา ที่แตงกวาสด แช่เย็นๆ กรุบกรอบ แล้วพรม Vinegar นิดหน่อย เพิ่มรสเปรี้ยวให้สดชื่น หรือถ้าไม่ชอบแตงกวา จะลองเป็นคานาเป้กุ้งกับซอสซัลซ่า ก็เติมเต็มมื้อนี้แล้วล่ะค่ะ



ท้องร้องแล้ว !

งานนี้นอกจากจะสนุกสนานเฮฮา ได้ทานของอร่อยๆในบรรยากาศใหม่ๆ ช่วยปลุกความคิดให้โลดแล่นแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดของปาร์ตี้ขนมน้ำชายามบ่ายนี้ก็คือ ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนค่ะ การผ่อนคลายจิตใจ และเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ รวมทั้งยอมรับฟังความคิดเห็นของกันและกันนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้มื้อขนมน้ำชามื้อนี้เป็นมื้อที่สนุกสนานและมีความสุขกันถ้วนหน้า
คราวนี้ การประชุม ก็จะกลายเป็นสวรรค์น้อยๆ ของพวกเราได้ในพริบตาค่ะ



สูตร Scone ลูกเกด ทำง่ายๆ ตามแบบฉบับของปุ้ยค่ะ

Raisin scones
15 pieces per recipes




ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
ผงฟู 15 กรัม
เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
นมผง 25 กรัม
นมข้นจืด 100 กรัม
น้ำ 50 กรัม
เนยสดเค็มหั่นเป็นลูกเต๋าแช่เย็น 125 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ลูกเกด 100 กรัม


วิธีทำ
1. ร่อนส่วนผสมของแห้งทั้งหมดเข้าด้วยกัน
2. นำเนยเค็มแช่เย็นจัดที่หั่นเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ มาใส่ลงไปในส่วนของแห้ง แล้วใช้ปลายมีด 2 ด้าม ตัดสลับไปมา สังเกตได้ค่ะ ว่าเนยจะผสมกับแป้งจนร่วนเป็นเม็ดทราย
3. จากนั้นค่อยๆเติมนมสดลงไป แล้วใช้มือขยำให้เข้ากันเป็นก้อนเดียว
4. ตามด้วยไข่ไก่ค่ะ
5. ถึงขั้นตอนนี้ ให้สังเกตที่เนื้อแป้งดีๆนะคะ แป้งควรจะเหนียวเป็นเนื้อเดียว แต่ไม่เปียกจนแป้งเลอะติดมือ แต่ถ้ารู้สึกว่าแป้งแห้งเกินไป ให้ค่อยๆเติมน้ำเปล่าลงไปทีละนิด จนรู้สึกว่าแป้งเข้ากัน ก็หยุดได้เลยค่ะ
6. ใส่ลูกเกดลงไป แล้วนวดเข้ากันอีกครั้ง
7. แป้งที่พื้นเล็กน้อย กันแป้งสคอนติด แล้วก็ใช้ไม้คลึงออกมาให้หนาประมาณ 2 เซนติเมตร นะคะ แล้วก็ใช้พิมพ์กลมกดลงไปตรงๆ แล้วดึงขึ้นค่ะ (อย่าหมุนพิมพ์ไปมานะคะ ขนมจะขึ้นฟูไม่สวยนะ !)
8. ทาหน้าขนมด้วยไข่ไก่ตีแตกหนึ่งฟอง ผสมกับน้ำเปล่าหนึ่งช้อนชา และเกลือหยิบนิ้วค่ะ
9. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 200C เป็นเวลา 18-20 นาที จนสีสคอนออกสีเหลืองทอง ก็สุกแล้วค่ะ
หั่นครึ่งสคอนตอนอุ่นๆ แล้วก็ทาคล็อตเต็ดครีม หรือเนยลงไป แล้วตามด้วยแยมรสที่ชอบ หรือจะทานคู่กับน้ำผึ้ง ก็อร่อยสุดๆแล้วค่ะ



Bon appetit นะคะ!



เพื่อนๆช่วยคอมเมนท์ด้วยนะคะ



Puppadoowab
puppadoowab.bloggang.com







Create Date : 26 กันยายน 2550
Last Update : 24 ตุลาคม 2550 11:24:17 น. 8 comments
Counter : 1909 Pageviews.

 
เอื้อก เอื้อก ได้ยินป่าว เสียงกลืนน้ำลายน่ะ?

แวะมาทักทายกันจ้า


โดย: ปีศาจรองเท้าเจ้าเสน่ห์ (ShoesMonster ) วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:2:27:16 น.  

 
ชอบทานsoneเหมือนกันคะ..blogนี้อิ่มด้วยได้ความรู้ด้วยน๊ะคะ
ปกติมีแต่สูตรขนมกัน ถ้าทราบที่มาขนมด้วยก็ดีเลืศยังงี้แหละน๋า.............................
มีอะไรมาแนะนำอีกมั๊ยค๊ะ????จะรออ่านและทำกินด้วยจ๋า


โดย: aumuจัง IP: 125.27.137.242 วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:11:52:04 น.  

 
สวัสดีครับ ผมแวะเข้าชวนทำของเล่นที่ blog ครับ


โดย: veerar วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:23:08:05 น.  

 
หวัดดีจร้า ! แวะมาทักทาย
โห ! อ่าน blog นี้แล้ว มีหลากหลายบันเทิงจริงๆ เหมือนกะเปิดอ่านแมกกาซีนเลยจริงๆ ...
ขออนุญาติ ป้ากิโล add blog นะคะ


โดย: ป้ากิโล (Geerorogunso ) วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:10:37:31 น.  

 
กำลังหาสูตร Scone อยู่พอดีเลยค่ะ
ขอบคุณมาก


โดย: babynoke IP: 124.121.92.215 วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:22:07:42 น.  

 
ช่วงบ่ายๆเวลาเพลีย ก้จะชงโอวัลตินทานประจำ
สดชื่นดีค่ะ แล้วก็แอบอ้วนด้วยเนี่ยสิ >_<


โดย: chu IP: 210.246.80.136 วันที่: 28 ตุลาคม 2550 เวลา:16:10:19 น.  

 
เค้กน่าทานจังค่ะ

สโคน น่าทำตาม บีขออนุญาต add blog ไว้นะคะ อยากทำสโคน ตามจัง


โดย: bee_kks วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:08:13 น.  

 
ตามมาอ่านครับปุ้ย

นั่นสิ ช่วงบ่าย สมควรจะมีชุดน้ำชาอย่างนี้ไว้ในที่ทำงานเนอะ ฮ่าๆๆ

เพิ่งเคยอ่านที่ปุ้ยเขียนบทความอย่างนี้
อ่านสนุกดี


โดย: pAk IP: 124.120.185.11 วันที่: 1 มิถุนายน 2551 เวลา:18:51:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

The Cool Council
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เราเป็น Webblog อย่างไม่เป็นทางการของ McCann Pulse ประเทศไทย ที่มีจุดประสงค์เพื่อรวบรวมทัศนคติและความคิดเห็นของกูรูในโต๊ะต่างๆของ Pantip ในหมวด

1.อาหาร และ เครื่องดื่ม
2.สุขภาพ และ ความงาม
3.สื่อต่างๆ และ ความบันเทิง
4.ไลฟ์สไตล์ และ เทรนด์
5.เทคโนโลยี และ อุปกรณ์สื่อสาร
6.การเงิน และ การลงทุน


Copyright ©2007 http://thecoolcouncil.bloggang.com
All rights reserved.
   
   
   

    
Friends' blogs
[Add The Cool Council's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.