We don't care Bear or Bull! ... ThaiDayTrade.com
Group Blog
 
All Blogs
 

กองทุนยุโรป กับ กลยุทธ์ Contrarian Investing

ในที่สุด ศุกร์ที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา ตลาดก็สามารถ breakout ผ่าน 661 จุดไปได้ โดยมี ปริมาณการซื้อขาย มากกว่า 2 หมื่นล้านบาท เป็นตัวยืนยัน การขึ้นรอบใหม่ ด้วยแรงซื้อหลัก จากค่ายสวิส หลังจากเคลื่อนตัว ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 650-660 มาตลอดทั้ง เดือน ม.ค. โดยมีกองทุนไทย นั่ง งงๆ ทำอะไรไม่ถูก ทั้งในตลาดหุ้น และ ตลาด Futures

วันนี้ เราจะตามไปดู พฤติกรรมเจ้ามือ เอ้ย ไม่ใช่ …. เราจะตามไปดู พฤติกรรม การลงทุน ของ 2 ยักษ์ใหญ่ ผู้ควบคุมตลาดหุ้นไทย แบบเบ็ดเสร็จ และ วิเคราะห์ถึงเบื้องหลัง ของพฤติกรรมการลงทุน เหล่านั้น และลงเอยด้วย แผนการลงทุน ที่จะต้องปรับให้เข้ากับตลาด

“Beating the Market - by Going Against the Crowd” เป็นหลักการสำคัญของ Contrarian Investing พูดให้ง่าย เล่นสวนชาวบ้านซะงั้น ….. ข่าวดี ขาย ข่าวร้าย ซื้อ ….. เราจะซื้อ เมื่อ ส่วนใหญ่ขาย เราจะขาย เมื่อ ส่วนใหญ่ซื้อ

ข่าวดีเขาจะขาย ข่าวร้ายเขาจะซื้อ .... เวลาซื้อจะตั้ง bid ซื้อที่แนวต้าน ……เมื่อกลุ่มอื่น ขายหุ้นจนเกลี้ยงแล้ว เมื่อตนได้หุ้นครบ ตามจำนวนที่วางแผนแล้ว ก็จะกระชาก ลากให้ผ่านแนวต้าน อย่างรวดเร็ว จนเกิด Buy Signal ... ในทำนองเดียวกัน เวลาขาย จะเทขาย โครมลงมา ที่ฝั่ง bid ให้หลุดแนวรับ จนเกิด Sell Signal

สำหรับตลาดหุ้นไทย ดูเหมือนว่า CLSA สัญชาติฝรั่งเศส จะเป็นผู้นำ ด้าน Contrarian Investing ใน Downtrend และ ค่าย สวิส อย่าง UBS และ CS (Credit Suisse First Boston) จะเป็นผู้นำ ด้าน Contrarian Investing ใน Uptrend ….. ซึ่งกองทุนที่จะใช้ กลยุทธ์ เช่นนี้ได้ จำเป็นที่จะต้องใจเย็น มีสายป่านยาวมาก มีเม็ดเงินลงทุนมหาศาล เมื่อเปรียบเทียบ กับ Major Players อื่นในตลาด และ ต้องเป็น Active Funds ในตลาดนั้นๆ (CS ขึ้นแท่น Market Share อันดับ 1 ในเดือน ม.ค. 2550 ….. ที่มา: รายงานอันดับโบรกเกอร์ที่มีมาร์เก็ตแชร์สูงสุด 5 อันดับ, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)

เมื่อข่าวร้ายท่วมตลาด ทุก Research House มอง “ลง”, Contrarian Player จะขายหุ้นโครมลงมา เพื่อให้หลุดแนวรับ พร้อมๆกับ “Long” Futures ไว้ เผื่อพลาด และเมื่อตลาดหุ้นหลุดแนวรับ พร้อมๆกับ ข่าวร้ายท่วมตลาด การร่วงลง ของดัชนี อย่างรวดเร็ว จะตามมา คราวนี้ เขาก็จะเริ่มหาจังหวะ เข้าซื้อ ด้วยการทยอยซื้อ อย่างใจเย็น .... เมื่อ Contrarian Player ทยอยซื้อ ระดับดัชนี ก็จะหยุดไหล เกิด Technical Rebound ไปสู่แนวต้าน และเมื่อถึงแนวต้าน เขาก็จะ block ราคาหุ้นไว้ ด้วยการขนหุ้นจำนวนมหาศาล มาวางขายที่ฝั่ง Offer พร้อมๆกับ ตั้งซื้อหุ้นที่ฝั่ง Bid

เมื่อถึงแนวต้าน แล้วมันไม่สามารถผ่านไปได้ คนส่วนใหญ่ ในตลาด ก็จะเริ่มขาย ขายลงมาเท่าไหร่ เขาก็รับซื้อ พร้อมๆกับ “Short” Futures ไว้ เผื่อพลาด ซึ่งการรับซื้อตรงนี้ อาจจะยาวนาน เป็นเดือนเลยก็ได้ นะครับ และเมื่อซื้อได้ครบ หรือ คนส่วนใหญ่ ไม่มีหุ้นติดมือแล้ว คราวนี้ Contrarian Player จะเริ่มบุกจู่โจม ทะลวงด่านแนวต้าน ให้ผ่านพ้นขึ้นไปได้ อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเกิด Buy Signal ซึ่งกองทุนต่างๆ ที่ขายไปก่อนหน้านั้นแล้ว จำเป็น จะต้อง “Follow Buy” ไม่งั้น ผู้ถือหน่วยลงทุน จะสูญเสียโอกาส อย่างมาก

ไม่แน่ใจว่า “Contrarian Investing” จะสามารถนำมาอุปมา ว่าเป็น กลยุทธ์ “สงครามกองโจร” ได้หรือไม่ หากเทียบกับกลยุทธ์ทางกรทหารแล้ว ไม่ต่างอะไรไปจาก การใช้เครื่องบินรบ ไล่ยิงภาคพื้นดิน แบบปูพรม แล้วแอบนำ นาวิกโยธิน ยกพลขึ้นบก อย่างเงียบๆ ตามด้วย เหล่าทหารกล้า บุกประชิด ศูนย์บัญชาการ ก่อนจะปักธง ประกาศชัย เหนือข้าศึก

อ่านเพิ่มเติม: วิเคราะห์ Fund Flow ต่างชาติ ในตลาดหุ้นไทย
//www.thaidaytrade.com/readspecialreport.php?id=1170493360

ภาพตลาดรายวันและหุ้นเด่นประจำวัน มี update ทุกวันที่
www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:41:56 น.
Counter : 773 Pageviews.  

วัฏจักรในตลาดฯ - กระทิงบุก

เมื่อเจ้าของเร่งซื้อ เมื่อกองทุน Buy Step Two ความคึกคักก็กลับมาเยือนตลาดอีกหน ทั้งตลาดทั้งหุ้น ปรากฏ higher low, higher high โดยมีปริมาณการซื้อขายคับคั่งมายืนยัน ระดับราคาตามสัญญา Futures ก็ไม่น้อยหน้า กระดี้กระด้าเฮฮา พร้อมปริมาณการเทรดสัญญา และ Open Interest ที่ทะลักเข้า แบบโครมคราม สื่อและนักวิเคราะห์โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ เชียร์ซื้อหุ้นสุดลิ่มทิ่มประตู “เราแนะนำซื้อ มาอย่างต่อเนื่อง ให้เป้าหมายเท่าโน้นเท่านี้” โดยในตอนท้ายของปลายตลาดรอบพีค ก็จะยังคงเป็นภาพเดิมๆ คือ หุ้นกลุ่มหลักทรัพย์คึกคัก จากปริมาณการซื้อขายล้นทะลัก สายโทรศัพท์ของมาร์เก็ตติ้งไม่เคยว่าง ผู้คนหน้าใหม่เวียนเข้ามา คึกคัก ยิ้มแย้ม เต็มห้องค้าฯ ในช่วงนี้ Players แต่ละกลุ่มทำอะไรกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เราตามไปดูกันครับ

มือใหม่ 1) กลุ่มที่นั่งรอจุดคุ้มทุน ยังมีบางส่วนที่จำต้องรอเก้อต่อไป (ตลาดพีคไปทำ high แล้ว จนตลาดปรับตัวลง อีกรอบแล้ว ก็ยังไม่คุ้มทุน) 2) กลุ่มที่ซื้อถัวเฉลี่ย แล้วตั้งใจจะขายหุ้น เพื่อเอาเงินลงทุนกลับมา เมื่อคุ้มทุน ยังมีบางส่วน ที่กลับมาขาดทุนต่อจนได้ (ก็ตลาด เป็นขาขึ้นนี่ จะขายไปทำไม แค่คุ้มทุน ขอกำไรสัก 20% ก่อนแล้วกัน) 3) กลุ่มมีเงินแต่ “ขอดูก่อน” ในตอนเริ่มขาขึ้น ในที่สุด ก็ซื้อที่พีค แล้วถูกเจ้าของหุ้น ฝากหุ้นให้ดูแลไปพลางๆก่อน ณ ยอดดอย (ที่ผ่านมามัวแต่รอให้หุ้นราคาถูกก่อนแล้วจึงจะซื้อ พอเขา Buy Step 1 ก็ไม่มั่นใจ “ขอดูก่อน”พอเขา Buy Step 2 ก็กลัวเสียเปรียบพวกที่ซื้อ at Low “เดี๋ยวรอให้ได้ราคา low ก่อนแล้วค่อยซื้อ” พอเขา Buy Step 3 ก็กลัวแพงเกิน “โห มันขึ้นไปมากแล้ว” พอปลาย Buy Step 3 อดรนทนไม่ไหว กระโดดเข้าซื้อแบบไม่คิดชีวิต โดยมีนักวิเคราะห์มาย้ำข้างๆหู ว่าปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็นเท่าโน้นเท่านี้แล้ว จึงตัดสินใจเคาะซื้อ)

เจ้าของบริษัท เพิ่ม aggressive ในการเคาะซื้อ ผลักให้ราคา กระชากขึ้น ไปได้อย่างรวดเร็ว และ รุนแรง จนสามารถสร้างกำไร ให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ 10-30% ในชั่วข้ามคืน บางท่าน เรียกช่วงนี้ว่า ช่วงกอบโกย หรือ ช่วงเตรียมออกของ

กองทุนไทยและกองทุนต่างชาติ เพิ่ม Aggressive ในการเคาะซื้อในลักษณะของ Buy Step Three ผลักให้ราคาหุ้นบลูชิพ Big Cap. กระชากขึ้นไปได้ อย่างรวดเร็วและรุนแรง จนสามารถดันดัชนี ไปได้มากถึง 20-30 จุดในแต่ละวัน ซึ่งส่งผลให้ ปริมาณการซื้อขาย ล้นทะลัก และ ราคาหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ วิ่งแรงแซงโค้งอีกรอบหนึ่ง

Speculator เพิ่ม aggressive ในการเคาะซื้อหุ้น และ/หรือ เปิด Long Position เพิ่ม พร้อมรับกำไร เป็นเท่าตัว ตลอดช่วง Buy Step 3

Long-Term Investor ถือหุ้นพื้นฐานดี พีอีต่ำ ปันผลสูง เพื่อรอรับเงินปันผล

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่

//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 28 มกราคม 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:41:40 น.
Counter : 833 Pageviews.  

วัฏจักรในตลาดฯ - เร่งเก็บของ

เมื่อตลาดไม่มี new low ทั้งยังโชว์ Double Bottom หรือ Inverted Head & Shoulder ให้เห็น ราคาและดัชนีก็กระเตื้องขึ้น ทีละเล็กละน้อย เจ้าของบริษัท และ บรรดากองทุน ต้องรีบซื้อคืน ให้ครบแล้วล่ะครับ ไม่งั้น ได้ของไม่ครบ หรือ ครบแต่ต้นทุน จะสูงเกินงาม …. ช่วงนี้ ทั้งตลาดหุ้นและตัวหุ้น เริ่มฟอร์มตัวเป็น Reversal Pattern โดยมีปริมาณการซื้อขาย การันตี เช่นเดียวกับในตลาด Futures จะสังเกตเห็นว่า ระดับราคา ตามสัญญา Futures มีราคาสูงขึ้น โดยมีปริมาณการซื้อขายและ Open Interest ที่เพิ่มมากขึ้น เป็นการยืนยันการกลับตัว ช่วงนี้ กลุ่มหลักทรัพย์เริ่มฟื้น แต่ลูกค้าโบรกเกอร์และนักวิเคราะห์หายไปไหน ไม่มีใครทราบ ช่วงนี้ Players แต่ละกลุ่มทำอะไรกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เราตามไปดูกันครับ

มือใหม่ กลุ่มนึงยังนั่งรอจุดคุ้มทุน อีกกลุ่มนึง เงินหมดแล้ว เพราะซื้อของถูกมาตลอดทาง แต่ก็ยังเจอถูกกว่า แบบไม่รู้จบ ส่วนอีกกลุ่ม มีเงิน แต่ “ขอดูก่อน”

เจ้าของบริษัท เริ่มทยอยซื้อคืน หุ้นของตน ต่อเนื่อง โดยเพิ่มความ aggressive เคาะซื้อทีละ 3 ช่อง 4 ช่อง ของแต่ละช่วงราคา เพื่อให้ได้หุ้นคืนให้ครบ ก่อนที่ราคาจะไปไหนไกล

กองทุนไทยและกองทุนต่างชาติ เริ่มเร่งซื้อคืนหุ้นต่อเนื่อง โดยการเคาะซื้อ ทีละ 1-3 ช่อง ของแต่ละช่วงราคา เพื่อให้ได้หุ้นคืนให้ครบ ก่อนที่ราคาจะไปไหนไกล คำสั่งซื้อที่ออกมา ในช่วงนี้ ภาษากองทุนต่างชาติ จะเรียกว่า Buy Step Two คือ การซื้อเพื่อให้ได้ปริมาณครบ ตามที่ต้องการ ในต้นทุนที่เหมาะสม ในระหว่างนี้ อาจมีการล็อคราคาที่จะซื้อไว้ด้วย โดยการ Long Call ใน SET50 Index Options หรือ Long ใน SET50 Index Futures เพราะหาก ซื้อหุ้นไม่ทัน อย่างน้อยก็มี ตราสารอนุพันธ์ เหล่านี้ที่จะ cover SET50 ในช่วงตลาดขาขึ้นได้

Speculator เคาะซื้อหุ้น และ/หรือ เปิด Long Position ใน Options หรือ Futures อย่างรวดเร็ว โดยมาก ถ้าเก็งว่า ตลาดจะขึ้นแน่ๆ นักเก็งกำไร จะเน้นไปที่ Options หรือ Futures มากกว่า เพราะใช้เงินน้อยกว่าการซื้อหุ้นมาก และ เพื่อป้องกัน การซื้อหุ้นผิดตัว (ประเภทที่ว่า หุ้นขึ้น ตลาดขึ้น แต่หุ้นตัวที่เราเลือกซื้อ ไม่ยักกะขึ้นด้วย)

Long-Term Investor ทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานดี พีอีต่ำ ปันผลสูง อย่างใจเย็น ด้วยเล็งเห็นว่า ราคาตอนนี้ยัง undervalued

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 28 มกราคม 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:41:27 น.
Counter : 545 Pageviews.  

วัฏจักรในตลาดฯ - สะสมซื้อคืน

เมื่ออาการวังเวงเกิดขึ้นพักใหญ่ในตลาด พร้อมการซื้อขาย หยุดชะงัก แสดงว่า ณ ราคานี้ ไม่มีใครอยากขายแล้ว ณ ตรงนี้แรงขายหมดแล้ว ณ ระดับราคานี้ มีใครบางคน แอบซื้ออยู่ อย่างต่อเนื่อง ราคาและดัชนี จึงหยุดอาการไหลลงได้ …. ตลาดและหุ้นโชว์ลีลา Double Bottom หรือ Inverted Head & Shoulder ให้เห็น เป็นสัญญาณการหยุดไหล ก็ถึงคราวที่ มูลค่ากิจการ และ มูลค่าสินทรัพย์ ที่ต่ำเตี้ยติดดิน ควรจะฟื้น คืนสู่มูลค่าที่แท้จริง ของมันได้แล้ว จะสังเกตได้ว่า หลังจากที่ระดับราคา และ ดัชนีไม่มี New low ความเงียบสนิทยังปกคลุม แต่ราคาหุ้น และ ดัชนี จะเริ่มปรับขึ้น ทีละเล็กละน้อย แบบค่อยเป็นค่อยไป ช่วงนี้ สื่อฯและนักวิเคราะห์ หายไปไหน ไม่รู้ ผู้คนในห้องค้า หายไปไหน ก็ไม่รู้ ในช่วงนี้ Players แต่ละกลุ่ม ทำอะไรกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เราตามไปดูกันครับ

มือใหม่ เลิกดูหุ้น เลิกตามตลาดไปแล้ว หวังว่า มาถึงทุนอีกที จะขายให้เกลี้ยงเลย เลิกๆๆ

เจ้าของบริษัท เริ่มทยอยซื้อคืนหุ้นของตนต่อเนื่อง โดยอาจเคาะซื้อเลย ทีละช่อง 2 ช่อง ของแต่ละช่วงราคา เพราะเท่าที่เก็บหุ้นของตนในรอบวังเวง ยังเก็บคืนได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับ ช่วงก่อนหน้านี้ ที่ตนขายลงมา

กองทุนไทยและกองทุนต่างชาติ เริ่มทยอยซื้อคืนหุ้นต่อเนื่อง โดยการตั้งซื้อ ที่ฝั่ง bid อย่างใจเย็น คำสั่งซื้อที่ออกมา ในช่วงนี้ ภาษากองทุนต่างชาติจะเรียกว่า Buy Step One คือ การทยอยเก็บ เพื่อให้ได้ปริมาณครบตามที่ต้องการ

Speculator “Wait & See”

Long-Term Investor เริ่มทยอยตั้งซื้อหุ้นพื้นฐานดี พีอีต่ำ ปันผลสูง อย่างใจเย็น ด้วยเล็งเห็นว่า ราคาตอนนี้ มัน undervalued

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 28 มกราคม 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:41:14 น.
Counter : 622 Pageviews.  

วัฏจักรในตลาดฯ - วังเวง

หลังจากที่ตลาดร่วงรุนแรง มีเด้งขึ้นสลับประปราย แต่แล้วก็ตามมาด้วยแรงขาย จนหุ้นเดี้ยงอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า ความเงียบเหงา ก็เข้ามาเยือน มีเสียงหมี นอนกรน ให้ได้ยินเป็นระยะๆ ราคาหุ้นเตี้ยติดดิน สื่อฯและนักวิเคราะห์แนะขาย เพราะมันไม่ดี อย่างงี้อย่างงั้น “เราปรับประมาณการใหม่แล้ว ลดราคาเป้าหมาย ลงเหลือเท่านั้นเท่านี้ บาท” หุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ ตายเรียบ มาร์เก็ตติ้งนั่งหาว ผู้คนในห้องค้าหดหาย ปริมาณการซื้อขายบางเฉียบ ราคาหุ้น new low แล้ว new low อีก จากนั้น ก็เข้าสู่ช่วงซึมสนิท รอบตัวมีแต่ความวังเวง ในช่วงนี้ Players แต่ละกลุ่มทำอะไรกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เราตามไปดูกันครับ

มือใหม่ เงินหมดแล้ว เพราะซื้อถัว เพื่อให้ได้ราคาถูกมาตลอดทาง และสอนตัวเองว่า จะไม่ยอมซื้อราคาแพงอีกแล้ว พร้อมกับนั่งเฝ้าหุ้นของตัว อย่างเซ็งๆ ว่าเมื่อไหร่น๊อ จะกลับมาถึงต้นทุนซักที

เจ้าของบริษัท เริ่มเอารายการขายของตนมาดู ว่าที่ผ่านมาขายหุ้นไป จำนวนเท่าไหร่ แล้วทยอยซื้อเก็บหุ้นของตนคืน ให้ครบกับที่ขายไป โดยทยอยตั้งซื้ออย่างใจเย็น

กองทุนไทยและกองทุนต่างชาติ เริ่มทยอยปิดสถานะ (Offset) ที่เคย Long Put หรือ Short Index Futures ไว้ เริ่มซื้อคืนหุ้นของตน ที่เคย Short against Port ไว้ และ เริ่มซื้อคืนหุ้น ส่งคืนให้เจ้าของ (Cover Short) ตามที่ตน เคยทำ Short Sell ไว้

Speculator เริ่มทยอยปิด “Short Position” ของตน

Long-Term Investor เริ่มทยอยตั้งซื้อหุ้นพื้นฐานดี พีอีต่ำ ปันผลสูง อย่างใจเย็น ด้วยเล็งเห็นว่า ราคาตอนนี้ มัน undervalued

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 28 มกราคม 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:41:01 น.
Counter : 1078 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

thanapononline
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Friends' blogs
[Add thanapononline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.