|
|
Rumor Management – MBA ไม่มีสอน
“เนี่ยะ ตัวนี้ เขาว่ากันว่า กลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง จะไป xx บาทเชียว”
“เนี่ยะ ตัวนี้ เจ๊จะถือไปเรื่อย ไม่ขายเด็ดขาด เดี๋ยวหมู”
อาจจะจริงก็ได้ หรือ ไม่จริงก็ได้ เราไม่ใช่ผู้กุมชะตา โลกนี้ไม่ได้มีแต่เรา อยู่เพียงลำพัง ……. เราจึงน่าจะมีกลยุทธ์ ในการจัดการข่าว มากกว่าที่จะเชื่อ และ บ้าจี้ไปตามข่าว แล้วมาโทษคนนั้นคนนี้ ในภายหลัง หากพลาดขึ้นมา
แต่ที่แน่ๆ ถ้าข่าวลือแพร่หลายในวงกว้าง แสดงว่า ผู้กุมชะตา มีความพยายาม ให้ข่าวกระจาย เพื่อหวังผลทางใดทางหนึ่ง เช่น ต้องการให้มวลชนเข้าซื้อ เพื่อตนจะขายได้ราคาดี หรือ ต้องการให้มวลชนขาย เพื่อจะได้เข้าเก็บของ เพราะถ้าเป็นความลับสุดยอดจริง ข่าวจะไม่มาถึงเราๆท่านๆ เนื่องจาก ผู้กุมข่าวและใช้ประโยชน์จากข่าวนั้น จะเป็นผู้ได้ผลประโยชน์มหาศาล หากสาธารณชน ยังไม่ทราบข่าว เหตุ ถ้าข้อมูลเสมอภาค เท่าเทียม ราคาจะวิ่ง เข้าสู่ ดุลยภาพ ในเวลาอันรวดเร็ว จนไม่เหลือส่วนต่าง ให้หาประโยชน์
ตอนประเทศไทยจะลอยตัวค่าเงินบาท สมัยรัฐบาล พลเอก ชวลิต ท่านได้ข่าวลือมาก่อนไหมคับ ….. ตอนมาตรการ 30% จะประกาศใช้ กับ ตอนมาตรการ 30% จะได้รับการยกเว้นกับตลาดหุ้น หลังประกาศใช้ ได้เพียงวันเดียว ท่านได้ข่าวลือมาก่อนไหมคับ
จะไม่ให้แคร์ข่าวลือเลยก็ไม่ได้ ถึงท่านจะลงทุน ในหุ้นพื้นฐานดี พีอีต่ำ ปันผลสูงก็เหอะ เพราะหากข่าวลือในทางร้าย มันเกิดขึ้นจริง ความเสียหายมากมาย มันก็สามารถเกิดขึ้นกับท่านได้ ในทางตรงข้าม หากมีข่าวลือในทางที่ดี แล้วท่านบอกว่า ไม่สนข่าวลือ มันก็สูญเสียโอกาส ในการทำกำไรได้เหมือนกัน
ข่าวลือที่ฮิตๆ เช่น ข่าวปฏิวัติซ้ำ ปฏิวัติซ้อน ปฏิวัติย้อน ข่าวลือเรื่องรัฐบาลถังแตก เรื่อง IMF คิดถึงไทย เรื่องต่างชาติจะทุบค่าเงิน ฯลฯ ข่าวรายใหญ่เข้าลุยซื้อหุ้นตัวนี้จำนวนมาก ข่าวรายใหญ่ขายหุ้นบริษัทอยู่ ข่าวบริษัทกำลังจะเพิ่มทุน บริษัทจะชนะประมูล บริษัทจะต้องทำ Tender Offer ในราคาหุ้นละ xx บาท บริษัทกำลังจะมีข่าวดี บริษัทมีงานใหญ่รออยู่ บริษัทกำลังจะได้พันธมิตรต่างชาติ บริษัทจะประกาศจ่ายปันผลสูงมาก บริษัทจะไปเทคโอเว่อร์กิจการอื่น หรือบริษัทกำลังจะถูกเทคโอเว่อร์ บริษัทจะชนะคดีหรือจะแพ้คดี และ อื่นๆอีกมากมาย
โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง การที่ข่าวลือมาถึงท่านได้ แสดงว่า ผู้กุมชะตา มีความพยายามให้ข่าวกระจาย เพื่อหวังผลทางใดทางหนึ่ง
Case ข่าวดี
ถ้าบริษัทกำลังจะมีข่าวดี ผู้เล่นหลักจะเข้าเก็บของ เมื่อเก็บจนพอแล้ว ผู้เล่นหลักจะบอกคนใกล้ตัว ให้เข้าเก็บ เมื่อคนใกล้ตัวเข้าเก็บ กราฟราคาหุ้นจะออกอาการ เป็นแนวโน้มขาขึ้น และเมื่อคนใกล้ตัวผู้เล่นหลัก กระจายข่าวต่อ ให้ญาติพี่น้องเพื่อนพ้องเขา เข้าเก็บด้วย ข่าวลือจะปูด ออกสู่สาธารณะ พร้อมๆกับ ราคาขยับขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างเร็ว และ เมื่อข่าวจริงปรากฏ เมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าว นักวิเคราะห์จะปรับ ราคาเป้าหมายใหม่ พร้อมแนะนำซื้อ บอกว่าดี อย่างงั้นอย่างโง้น อย่างงี้ ทำให้ รายย่อยส่วนใหญ่ในตลาด ที่เคยลังเล ตอนได้ยินข่าวลือมาใหม่ๆ เกิดมีความมั่นใจอย่างแรง ที่จะเข้าซื้อตาม อย่างเร่งรีบ ด้วยความกลัว ตกขบวนรถไฟสายด่วน จุดนี้เอง ที่ ผู้เล่นหลักและคนใกล้ตัว จะขายทำกำไรออกมา แล้วค่อยหาจังหวะซื้อคืนในภายหลัง …… ถึงจะมีข่าวดี แต่หากปริมาณหุ้นจำนวนมหาศาล ถูกเทขายลงมา ยังไงราคาก็รูดลง ตรงนี้เองที่ทำให้ กลุ่มที่ขาย ทำกำไรไปก่อน มีความมั่นใจว่าจะได้ซื้อคืน ในราคาที่ต่ำกว่าเดิม
Rumor management ในสไตลล์ ThaiDayTrade – เมื่อมีข่าวดีลือเข้ามา ซื้อ 1 ส่วน เพื่อทดสอบ สมมุติฐานของข่าว หากซื้อแล้วไม่ลง ค่อยซื้อตาม (ยิ่งขึ้นยิ่งซื้อ แสดงว่า หุ้นมันดี มี high-demand) แต่หาก มันลงมาให้เราซื้ออีกที่ราคาเดิม หรือ ถูกกว่าเดิมมาก น่า Cut Loss ออกไปก่อน (ไม่ใช่ยิ่งถูก ยิ่งซื้อนะคับ) แสดงว่า สมมุติฐานเราผิดแล้ว ใครจะมาใจดี ให้เราได้ซื้อได้ไม่อั้น ขนาดนั้น ถ้ามันมีข่าวดีจริงๆ รออยู่ ในระยะเวลาอันใกล้ …… กลยุทธ์นี้ ถ้าถูก ได้มากมาย แต่ถ้าผิด เสียนิดหน่อย เพราะเคร่งครัดในหลัก Limit Loss
ข้อสังเกต ไม่ว่าข่าวดีนั้น จะจริงหรือเท็จก็ตาม ส่วนใหญ่ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นก่อนเสมอ …… ถ้าข่าวลือนั้น มีมูลจริง ความต้องการซื้อ จะสูง มีแต่คนแย่งกันเก็บ ถึงแม้บางกรณี อาจมีการบล็อกหุ้น หรือ ตบไล่แขก บ้าง แต่ราคาก็จะไม่ลงไปลึก เพราะหากลงลึก หุ้นจะถูกเปลี่ยนมือไปอยู่ในมือของรายย่อยแทน …… ถ้าข่าวลือนั้นเป็นเท็จ ผู้เล่นหลักจะเคาะซื้อนำขึ้นไปก่อน (เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้กับสาธารณชน ว่าข่าวลือมีมูลนะ) แต่ขึ้นไปได้ไม่นาน มันจะลงมา ให้เราซื้ออีก ที่ราคาเดิม หรือ ถูกกว่า ….. แบบนี้ แสดงว่า เราพลาดท่าแล้วล่ะ ใครจะมาใจดี ให้เราได้ซื้อได้ไม่อั้น ขนาดนั้น และถ้าข่าวดีรออยู่จริง ในระยะเวลาอันใกล้ ทำไมแรงขาย aggressive มากกว่าแรงซื้อ
Case ข่าวร้าย
ถ้าบริษัทมีข่าวร้ายซ่อนอยู่ ผู้เล่นหลักจะแอบขายของ เมื่อขายจนมากพอแล้ว ผู้เล่นหลักจะเริ่มบอก คนใกล้ตัว ให้ขาย ช่วงนี้ กราฟราคาหุ้น จะออกอาการ เป็นแนวโน้มขาลง และเมื่อ ช้างตายทั้งตัว ไม่สามารถเอาใบบัวปิดได้ ข่าวลือจะปูด ออกสู่สาธารณะ พร้อมๆกับ ราคาไหลลงไปเรื่อยๆ และ เมื่อข่าวร้ายปรากฏ เมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าว นักวิเคราะห์จะปรับราคาเป้าหมายลง พร้อมแนะนำขาย ด้วยเหตุผล อย่างงั้นอย่างโง้น อย่างงี้ ทำให้ รายย่อยส่วนใหญ่ในตลาด ที่เคยลังเล ตอนได้ยินข่าวลือมา เกิดความกลัว และรีบขายล้างพอร์ต หนีตาย จุดนี้เอง ที่ ผู้เล่นหลักและคนใกล้ตัวจะเริ่มหาจังหวะซื้อคืน (เว้นแต่บริษัทนั้น จะเน่าจริงๆ ที่แม้แต่ ผู้บริหารและเจ้าของ ก็ไม่คิดที่จะซื้อคืน)
Rumor management ในสไตลล์ ThaiDayTrade – เมื่อมีข่าวร้ายลือเข้ามา และหุ้นยังลงไม่เยอะ น่าจะทดสอบสมมุติฐาน ด้วยการขายไปก่อน เพื่อซื้อคืนในภายหลัง (short against port) เพราะธรรมชาติของหุ้น ลงได้รวดเร็ว และ รุนแรง กว่าการขึ้นเสมอ หากขายแล้วลง ควรเปลี่ยนตัวเล่นไปเลย (ขายแล้วลง แสดงว่า หุ้นน่าจะมีข่าวร้ายรออยู่จริง เพราะ ณ ราคานี้ หุ้นไม่มี demand เลย) แต่หาก ขายแล้วไม่ลง อาจต้องหาจังหวะซื้อคืน แม้จะซื้อ ในราคาที่แพงกว่าที่ขายไป ก็ตาม แสดงว่า สมมุติฐานเราผิดแล้ว ใครจะมากล้าซื้อท่ามกลางข่าวร้าย ที่รออยู่ ในระยะเวลาอันใกล้ …… กลยุทธ์นี้ ถ้าถูก เซฟเงินได้มากมาย แต่ถ้าผิด เสียนิดหน่อย เป็นค่าประกันความเสี่ยง
ข้อสังเกต ไม่ว่าข่าวร้ายนั้น จะจริงหรือเท็จก็ตาม ส่วนใหญ่ราคาหุ้นจะวิ่งลงก่อนเสมอ …… ถ้าข่าวลือนั้น มีมูลจริง ความต้องการขาย จะสูง มีแต่คนแย่งกันขาย ผู้เล่นหลักจะไม่รีบซื้อหุ้น ถึงแม้บางกรณี อาจมีการพยุงราคา บ้าง แต่ราคาก็จะไม่ขึ้นไปมาก เพราะยิ่งขึ้น ก็จะยิ่งจูงใจ ให้ผู้เล่นหลัก อยากขายหุ้นออกไปก่อน ก่อนที่ข่าวร้ายจะปรากฏ …… ถ้าข่าวลือนั้นเป็นเท็จ ผู้เล่นหลักจะเคาะขายนำลงไปก่อน (เพื่อสร้างความตกใจให้กับสาธารณชนขายหุ้นออกมา) แต่ลงไปได้ไม่นาน มันจะขึ้นมายืน เหนือราคาที่เราขายไป หรือ ขึ้นไปสูงกว่านั้น แบบนี้ แสดงว่า เราพลาดท่าแล้วล่ะ ใครจะมาบ้าซื้อได้ขนาดนั้น ถ้ามีข่าวร้าย รออยู่จริง
| Create Date : 06 พฤษภาคม 2550 |
| Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:48:36 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 547 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: MUI ^^ (tsubai  ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:05:37 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [