"ข้าพเจ้าไม่ขอพบเจอกับคนพาล เพราะคนพาลย่อมแนะนำในสิ่งที่ไม่ควรแนะนำ ย่อมชักชวนในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ การแนะนำคนพาลถึงจะแนะนำดีเขาก็โกรธ" (กฤษฏ์ ธรรมกฤตกรณ์)

รู้จักพอ



ความคิดอย่างหนึ่งที่สมควรฝึกให้เกิดขึ้นเป็นประจำ คือ ความคิดว่า “พอ” คิดให้รู้จัก “พอ”

ผู้รู้จักพอจะเป็นผู้ที่มีความสบายใจ ส่วนผู้ไม่รู้จักพอจะเป็นผู้เร่าร้อน แสวงหาไม่รู้จักหยุดยั้ง

คนรวยที่ไม่รู้จักพอ ก็เป็นคนจนอยู่ตลอดเวลา คนจนที่รู้จักพอ ก็เป็นคนมั่งมีตลอดเวลา.




 

Create Date : 15 มกราคม 2553   
Last Update : 15 มกราคม 2553 9:13:14 น.   
Counter : 623 Pageviews.  

ผู้วางเฉย

ผู้วางเฉย มีอุเบกขา ไม่ยินดียินร้าย เป็นผู้พอ...
พอใจในสภาพของตน ไม่ดิ้นรนเพื่อให้ตนสูงขึ้นด้วยประการทั้งปวง
ไม่เห่อเหิม ว่าตนสูงแล้ว
เมื่อความไม่ยินดียินร้ายมีอยู่
ท่านจึงกล่าวว่า ผู้วางเฉยดังกล่าว เป็นผู้ไม่มีกิเลสเครื่องฟูขึ้น

ความพอใจในสภาพของตนเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง
ความพอใจนั้น เรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความพอ
ผู้ที่มีความพอแล้ว ย่อมมีความพอใจในภาวะและฐานะของตน
จนกระทั่งไม่เห็นความสำคัญที่ต้องนำตนไปเปรียบกับผู้อื่น

ผู้อื่นจะสูงจะต่ำจะดีจะไม่ดีอย่างไร ผู้ที่มีความพอแล้ว ย่อมไม่นำตนไปเปรียบ
ย่อมไม่เกิดความรู้สึกเห่อเหิมว่าคนอื่นต่ำกว่า ตนสูงกว่า
ไม่ดิ้นรนทะเยอทะยานที่จะยกฐานะของตนให้สูงขึ้น เพราะเห็นว่าผู้อื่นสูงกว่า ตนต่ำกว่า

ผู้ที่ดูถูกผู้อื่นก็ตาม ผู้ที่ตื่นเต้นในความใหญ่โตของผู้อื่นก็ตาม
ล้วนเป็นผู้ไม่อยู่ในความหมายของคำว่า “ผู้วางเฉย”
แต่เป็นผู้ขาดสติ เพราะผู้วางเฉยเป็นผู้มีสติทุกเมื่อ

ผู้วางเฉยเป็นผู้ไม่ดูถูกผู้อื่น
เพราะไม่เห็นว่าผู้อื่นต่ำต้อยกว่าตน ไม่เห็นว่าตนสูงกว่าผู้อื่น

ผู้วางเฉยมีสติทุกเมื่อ ย่อมไม่ตื่นเต้นในความใหญ่โตของผู้อื่น
เพราะไม่เห็นว่าผู้อื่นสูงกว่าตน ไม่เห็นว่าตนต่ำกว่าผู้อื่น

ความสำคัญตนว่าเสมอเขานั้น มีได้เป็นสองนัย คือ

สำคัญตนว่าเสมอกับผู้ที่ต่ำต้อย
เมื่อมีความสำคัญตนเช่นนี้เกิดขึ้น ก็ต้องมีความน้อยเนื้อต่ำใจ มีความแฟบลงของใจ
เพราะย่อมสำคัญตนเลยไปถึงว่า ตนต่ำกว่าผู้มีภาวะฐานะสูง
นี้เป็นนัยหนึ่งของความสำคัญตนว่าเสมอเขา

ความสำคัญตนว่าเสมอเขาอีกนัยหนึ่ง คือ
สำคัญตนว่าเสมอกับผู้ที่สูงด้วยภาวะและฐานะ
เมื่อความสำคัญตนเช่นนี้เกิดขึ้น ก็ต้องมีความลำพองใจ ยกตนข่มท่าน มีความฟูขึ้นของจิตใจ
เพราะย่อมสำคัญตนเลยไปถึงว่า ตนสูงกว่าผู้ที่มีภาวะฐานะต่ำต้อย

ความไม่วางเฉย ไม่มีสติทุกเมื่อ เป็นเหตุให้เกิดกิเลสเครื่องฟูขึ้นและแฟบลงของจิตใจ
เพราะความไม่วางเฉยเป็นทางให้เกิดความสำคัญตนสามประการคือ

สำคัญตนว่า เสมอกับเขา - ดีกว่าเขา - ต่ำกว่าเขา

ความสำคัญตนทั้งสามประการมีแต่โทษสถานเดียว ไม่มีคุณอย่างใด
จึงควรอบรมความวางเฉยให้มาก
พยายามตัดความรู้สึกสำคัญตนดังกล่าวให้สิ้น จะได้รับความสงบสุขยิ่งนัก.




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2552   
Last Update : 15 มกราคม 2553 9:11:18 น.   
Counter : 714 Pageviews.  

กิเลสมีมากเพียงใด ทุกข์มีมากเพียงนั้น

ความทุกข์จะต้องมีอยู่ ตราบที่กิเลสทั้งสามกองคือ โลภ โกรธ หลง ยังมีอยู่
กิเลสมีมากเพียงใด ทุกข์มีมากเพียงนั้น
เมื่อใดกิเลสสามกองหมดไปจากจิตใจอย่างสิ้นเชิงแล้วนั่นแหละ ความทุกข์จึงจะหมดไปจากจิตใจอย่างสิ้นเชิงได้

จึงควรพยายามทำกิเลสให้หมดสิ้นให้จงได้
มีมานะพากเพียรใช้สติใช้ปัญญาให้รอบคอบเต็มความสามารถ ให้ทุกเวลานาทีที่ทำได้
แล้วจะเป็นผู้ชนะได้มีความสุขอย่างยิ่ง.




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2552   
Last Update : 30 กรกฎาคม 2552 16:22:43 น.   
Counter : 279 Pageviews.  

การฆ่าตัวตาย

การฆ่าตัวตายเป็นการแสดงความมีใจไร้เมตตาอย่างยิ่ง คิดว่าไม่อยากให้ตัวเองรับความทุกข์แสนสาหัสในชีวิตต่อไป ลองหนีไปชีวิตอื่น อาจจะสบายกว่า คิดว่าจะช่วยให้พ้นทุกข์ แต่ที่แท้กำลังพาไปสู่ความทุกข์ที่มากมาย และยาวนานกว่า เป็นหลายภพหลายชาติแน่นอน

หนักหนาแน่นอนเป็นการทำบาปหลายต่อ ทำตัวเองให้จบสิ้นชีวิตอย่างผิดธรรมดา อย่างโหดร้ายทารุณ และทำผู้อยู่หลังให้ทุกข์โศก มากน้อย หนักเบา ตามใจที่ผูกพันของผู้นั้นที่มีต่อเรา

ถ้าเป็นมารดาบิดา การตายจากของลูกหลานคือความทุกข์แสนสาหัส เช่นนี้ก็เท่ากับการฆ่าตัวตายของผู้เป็นลูกหลานเป็นการทำบาปหนักต่อผู้มีพระคุณที่รักใคร่ มีใจผูกพันต่อเรา เป็นการก่อทุกข์ให้จิตใจท่านเหล่านั้น นั่นคือบาปแน่นอน! เป็นบาปที่เกิดพร้อมกับบาปที่ทำร้ายตนเอง ที่ประหัตประหารผลาญชีวิตตนเอง เป็นบาปหนักแน่!!

ทุกวันนี้มีการฆ่าตัวตายกันมาก ฆ่ากันด้วยวิธีต่าง ๆ ล้วนน่าประหวั่นพรั่นพรึง ล้วนไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าทำกันได้กับชีวิตตน เหมือนผู้ฆ่าและผู้ถูกฆ่าเป็นคนละคนกัน เป็นศัตรูที่ร้ายแรงของกันและกัน

ความจริงมีอยู่ อย่าลืมเสีย จำไว้ให้มั่น อาจจะช่วยให้ไม่เป็นผู้ร้ายใจอำมหิตโหดเหี้ยมถึงขนาดฆ่าชีวิตหนึ่งได้ และชีวิตนั้นคือชีวิตของตนเอง

ถ้าเรารู้ว่าใครคนหนึ่งเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตาย และใครคนนั้นเข้ามาใกล้กับเรา เราจะรังเกียจหวาดกลัวใครคนนั้นสักเพียงไหน

เมื่อใดจิตเศร้าหมองทุกข์ร้อนแสนสาหัส หมดอาลัยตายอยากในชีวิต ขอให้คิดถึงความจริง ผู้ที่ฆ่าคนได้เป็นผู้ที่น่ารังเกียจ น่าเกลียดกลัวที่สุดของคนทั้งหลาย ไม่ยกเว้นแม้แต่ตัวเราเอง แล้วควรหรือที่เราจะมาเป็นคนผู้นั้นเสียเอง

แก้ไขด้วยวิธีอื่นเถิด มีมากมายหลายวิธีนัก แก้แล้วให้เกิดความสุขให้จริง ไม่ใช่แก้แล้วกลับต้องพบทุกข์ที่หนักยิ่งไปกว่าทุกข์ที่ตั้งใจหนี เพื่อหนีให้ได้ ถึงกับยอมเป็นผู้ร้ายใจอำมหิตประหัตประหารผลาญชีวิตอันเป็นที่รักที่สุด คือชีวิตตนเอง

วิธีรุนแรงร้ายกาจขนาดยอมเป็นฆาตกรร้ายนอกจากไม่อาจช่วยให้พ้นทุกข์ดังมุ่งมั่น ยังจะพาไปพบทุกข์ที่หนักหนายิ่งกว่าหลายเท่าพันทวี

ท่านแสดงไว้ว่า ผู้ที่ฆ่าตัวตายจะต้องฆ่าตัวตายไปอีก ๕๐๐ ชาติ นั่นก็คือจะต้องพบความทุกข์แสนสาหัสจนทนไม่ได้ ถึงต้องฆ่าตัวตายเช่นในชาติที่ทำแล้วนี้อีก ๕๐๐ ชาติ เป็นอย่างน้อยกระมัง

ไม่ควรจะไม่เชื่อ ไม่ควรจะไม่กลัว เพราะแม้ต้องพบเข้าจริง ความทุกข์จะใหญ่ยิ่งจนทนไม่ได้แน่นอน

จะต้องทนทุกข์ทรมานจิตใจในการที่จะต้องหยิบอาวุธร้ายขึ้นเชือดเฉือนทำลายชีวิตตนเอง น่ากลัวนัก น่าตกใจนัก และเชื่อว่าทุกคนที่ฆ่าตัวตายมาแล้ว ก่อนจะทำกรรมอำมหิตโหดเหี้ยมนั้นจะกลัวแสนกลัว จิตใจจะทรมานเกินกว่าจะพรรณนาได้แน่นอน

แล้วจะยอมให้พบชีวิตเช่นนั้นอีกถึง ๕๐๐ ครั้ง ทีเดียวหรือ

ข้อสำคัญพอชีวิตหลุดจากร่างก็มิใช่ว่าจะสิ้นทุกข์ที่คิดหนี ไม่ใช่แน่นอน ทันทีที่ชีวิตหลุดออกจากร่างด้วยการกระทำจากจิตใจที่โหดเหี้ยมและเศร้าหมองแสนสาหัส จะต้องไปมีชีวิตใหม่ที่แสนทุกข์

อาจจะยิ่งไปกว่าที่หนีในชาตินี้ด้วยวิธีฆ่าตัวตาย!!.




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2552   
Last Update : 30 กรกฎาคม 2552 16:21:40 น.   
Counter : 268 Pageviews.  


thammakittakon
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




[Add thammakittakon's blog to your web]