All Blog
พุ่งไม่หยุด !! ยางพาราแตะ 72 บาทต่อกก.
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่า ราคายางยังแรงไม่หยุด วันเดียวพุ่ง 6 บาท/กก. หลังปิดตลาดวันแรกของสัปดาห์ราคายางแผ่นรมควันพุ่งแตะสูงสุด 72.50 บาท/กก. ที่ตลาดกลางยางพารา จ. สงขลา ส่วนตลาดกลางฯ จ.นครศรีธรรมราช และตลาดกลางฯ จ.สุราษฎร์ธานี ราคาอยู่ที่ 72.30 บาท/กก. และ 72.26 บาท/กก. ตามลำดับ จากราคาเปิดตลาด 66.22 บาท เพิ่มขึ้นกว่า 6 บาท คาดการณ์ราคายางสามารถพุ่งสูงต่อเนื่องแตะ 80 บาท/กก.

นายณกรณ์ กล่าวว่า ราคายางยังคงอยู่ในแนวบวกอย่างต่อเนื่อง และทะลุแนวต้านสูงสุดในรอบ 3 ปี 5 เดือน โดยปัจจัยที่ส่งผลด้านราคายางมาจากสภาพอากาศในกลุ่มประเทศผู้ผลิตยางที่มีฝนตกชุก และเกิดน้ำท่วม และยังมีพายุโซเดลซึ่งเป็นพายุลูกใหม่ที่กำลังก่อตัว ทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นอีกในช่วงสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ผลผลิตยางออกสู่ตลาดน้อยลง




 




 
ทั้งนี้ อ้างอิงจากการคาดการณ์ปริมาณผลผลิตยางธรรมชาติในเดือนตุลาคม 2563 อยู่ที่ 4.41 แสนตัน ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2562 ขณะเดียวกันในช่วงนี้ตรงกับกำหนดส่งมอบยางตามสัญญาซื้อขายที่ทำไว้ล่วงหน้า

ส่งผลให้ผลลิตยางที่ออกสู่ตลาดไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ยางที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เป็นที่น่าหวั่นใจว่าผลผลิตยางจะไม่เพียงพอสำหรับความต้องการใช้ของตลาดต่างประเทศ







 

 

 
 



 



Create Date : 26 ตุลาคม 2563
Last Update : 26 ตุลาคม 2563 18:01:09 น.
Counter : 779 Pageviews.

0 comment
ธ.ก.ส. ร่วมงาน Money Expo 2020 พร้อมแคมเปญพิเศษมากมาย
ธ.ก.ส. นำเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ผลิตภัณฑ์เงินฝาก สินเชื่อ New Gen Hug บ้านเกิด บริการทางการเงิน พร้อมแคมเปญพิเศษมากมาย ร่วมงานมหกรรมการเงิน Money Expo ครั้งที่ 20 Money Expo 2020  อิมแพค เมืองทองธานี 22 – 25 ตุลาคม 2563

นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในงาน Money Expo 2020 ครั้งที่ 20 ที่จัดขึ้น ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-2 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคม 2563 ธ.ก.ส. ได้นำผลิตภัณฑ์ทางการเงินและสินเชื่อต่าง ๆ เปิดให้บริการภายในงาน




 




 
ทั้งนี้เช่น เงินฝาก ออมทรัพย์ทวีโชค ซึ่งเป็นเงินฝากที่ได้รับดอกเบี้ยและรางวัลในระดับจังหวัดปีละ 2 ครั้ง โดยฝากทุก ๆ 2,000 บาท ติดต่อกันทุก ๆ 3 เดือน จะได้รับสิทธิ์จับรางวัล 1 สิทธิ์ และลุ้นรางวัลระดับประเทศ ปีละ 1 ครั้ง โดยฝากทุก ๆ 10,000 บาท ติดต่อกันทุก ๆ 7 เดือน จะได้รับ 1 สิทธิ์ เงินฝาก A-Savings ออมเงินในรูปแบบ Digital ดอกเบี้ยร้อยละ 0.45 ต่อปี เงินฝากผู้สูงอายุ Senior Savings สำหรับผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อปี หากยอดเงินฝากคงเหลือตั้งแต่ 20,000 บาท ขึ้นไป รับดอกเบี้ย ร้อยละ 0.45 ต่อปี

โดยฝากได้คนละ 1 บัญชี สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ เปิดบัญชี 10,000 บาท ครั้งต่อไป ฝากเงินขั้นต่ำ 1,000 บาท รับดอกเบี้ยร้อยละ 0.45 ต่อปี ไม่เสียภาษี เงินฝากประจำปลอดภาษี 24 เดือน ฝากตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน รับดอกเบี้ยร้อยละ 1.63 ต่อปี และเงินฝากสงเคราะห์ชีวิต ธ.ก.ส. เพิ่มรัก 2 12/10 กรมธรรม์การฝากเงินสงเคราะห์เพื่อคุ้มครองชีวิตและออมทรัพย์แบบมีระยะเวลาส่งชำระ 10 ปี คุ้มครอง 12 ปี สำหรับเกษตรกรหรือครอบครัว




 




 
นายกษาปณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับด้านสินเชื่อ ธ.ก.ส. มีบริการให้คำปรึกษาที่หลากหลาย เช่น สินเชื่อ New Gen Hug บ้านเกิด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายและหรือค่าลงทุนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจทำอาชีพเกษตรกรรมและทายาทเกษตรกร และสินเชื่อพอเพียงเพื่อเลี้ยงชีพ

เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการประกอบอาชีพการเกษตรหรือประกอบการเกษตรตามแนวพระราชดำริหรือตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปี ใน 3 ปีแรก นอกจากนี้ยังมีบริการผ่านแอปพลิเคชันธ.ก.ส. A-Mobile เพื่อให้การโอนเงินบนมือถือสะดวกรวดเร็วและง่ายเพียงปลายนิ้ว บริการ SMS Alert บริการทำ พ.ร.บ. และบริการต่าง ๆ อีกมากมาย




 




 
พิเศษ! พบกับแคมเปญ “สวัสดีทวีโชค” สำหรับลูกค้าใหม่ เพียงเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ฝากเงินตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป คงยอดไว้ 3 เดือน หรือเลือกแคมเปญ “New Gen Smart Life” ฝากและคงยอดเงิน 3 เดือน ในบัญชี A-Savings ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป พร้อมทำตามเงื่อนไขของแคมเปญ รับของที่ระลึก กระเป๋าเป้ เที่ยวเพลินหรือหมอนผ้าห่มพร้อมกระเป๋าผ้า

ธ.ก.ส. A-Mobile แคมเปญ “Senior 54 ปี ธ.ก.ส.” เปิดบัญชีหรือ ฝากเงินเพิ่มในบัญชี Senior Savings รับผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 1.54 ต่อปี หรือ แคมเปญ “สลากออมทรัพย์เกษตรยั่งยืน Double Bonus” ฝากสลากฯ 2 แสนบาท รับโบนัสสลากฯ 400 บาท และยังมีสิทธิ์รับของที่ระลึก อื่น ๆ เมื่อร่วมกิจกรรมและทำธุรกรรมที่บูธ ธ.ก.ส. ไม่ว่าจะเป็น ชุดช้อน-ตะเกียบ Go Green กล่องข้าว Go Green ถุงผ้าน้องหอมจัง เป็นต้น






 
 










 



Create Date : 22 ตุลาคม 2563
Last Update : 22 ตุลาคม 2563 17:26:55 น.
Counter : 672 Pageviews.

0 comment
ฉุดไม่อยู่พุ่งต่อเนื่อง ! ยางทะลุ 65 บาทต่อกก.
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่า ราคายางทะยานไม่หยุดทะลุกิโลกรัมละ 65 บาท และคาดการณ์ว่ายังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดกลางรับซื้อยาง ของ กยท. เฉลี่ยทั้ง 3 ตลาด สุราด สงขลาจ.นครศรีธรรมราช ราคายางยางแผ่นรมควันชั้น 3 ปิดตลาดที่กิโลกรัมละ 64.97 บาท  เฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 2 บาท/กก.



 




 
ราคายางใกล้เคียงราคาประกันที่รัฐบาลตั้งไว้ ขณะนี้ราคายางแผ่นดิบกิโลกรัมละ 59.59 บาท น้ำยางสด (DRC100%) กิโลกรัมละ 59 บาท และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) กิโลกรัมละ 43 บาท จึงนับได้ว่าเป็นราคายางที่สูงที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ที่ผ่านมา



 




 
จากที่คาดการณ์ไว้เชื่อว่าราคายางยังคงไปต่อได้อีก ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อราคายาง มาจากเศรษฐกิจที่จีนเติบโตขึ้น 4.9% และมีแนวโน้มการใช้ยางที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ในประเทศเพื่อนบ้านผู้ผลิตยางธรรมชาติ ประสบปัญหาพายุและปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นในเดือน ตุลาคมนี้ ทำให้ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดน้อยลงตามไปด้วย
 






 
 



Create Date : 21 ตุลาคม 2563
Last Update : 21 ตุลาคม 2563 17:50:26 น.
Counter : 679 Pageviews.

0 comment
"เกษตร"แสดงจุดยืนนโยบาย 3sเวทีรมต.เกษตรอาเซียน
นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นตัวแทนเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเกษตรอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ 42 การประชุมรัฐมนตรีเกษตรอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 20 และการประชุมรัฐมนตรีเกษตรอาเซียน-อินเดีย ด้านการเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ 6 ร่วมกับรัฐมนตรีเกษตรอาเซียนอีก 10 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี และอินเดีย เป็นต้น

โดยได้เน้นย้ำนโยบาย 3 ด้าน หรือ 3S ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน คือ Safety ความปลอดภัยของอาหาร Security ความมั่นคงของภาคการเกษตรและอาหาร และ Sustainability ความยั่งยืนของภาคการเกษตร รวมทั้งการให้ความร่วมมือกับอาเซียนและนานาประเทศ เพื่อฝ่าวิกฤตโควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยตั้งเป้าหมายสู่ความก้าวหน้าไปด้วยกันอย่างเข้มแข็งและมั่นคง

ได้เน้นย้ำการสร้างและผนึกกำลังการทำการเกษตรวิถีใหม่ (Agricultural New Normal) เพื่อตอบสนองต่อปฏิญญาของการประชุมสุดยอดอาเซียน สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยประเทศไทยได้เสนอโครงการ ASEAN New Normal Plant-based Food Hub เนื่องจากเห็นว่าอาหารที่ทำมาจากพืช (Plant-based Food) เป็นสินค้าใหม่ที่มีความต้องการสูงในตลาดโลก




 




 
ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรมต่าง ๆ มาช่วยในการกำกับดูแลความมั่นคงอาหารและความปลอดภัยอาหาร สามารถตอบสนองชีวิตวิถีใหม่ และเป็นโอกาสใหม่ในการสร้างรายได้ให้แก่ภาคการเกษตรของไทยและของอาเซียนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ร่วมกับการบริหารทรัพยากรการเกษตรและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน สามารถเพิ่มความมั่นคงด้านอาหาร แก้ไขปัญหาการอดอยากหิวโหย การขาดสารอาหาร และช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ

ส่วนความคืบหน้าของไทยและอาเซียนในการแก้ไขปัญหา IUU โดยประเทศไทยได้พัฒนาระบบ Interactive Platform ของเครือข่ายอาเซียนเพื่อการต่อต้านการประมงไอยูยู (ASEAN Network IUU : AN-IUU) เป็นช่องทางในการสื่อสารออนไลน์แบบโต้ตอบได้ทันท่วงที ซึ่งสามารถใช้งานได้เรียบร้อยแล้ว และประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่ประสานงานของ AN-IUU ครั้งที่ 1 ในเดือนธันวาคมนี้

ทั้งนี้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีไทย และของผู้นำอาเซียนที่เน้นย้ำและสนับสนุนให้ทำการประมงอย่างยั่งยืนซึ่งประเด็นทั้งหมดได้เสนอผ่านที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ที่มีนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย







 



Create Date : 21 ตุลาคม 2563
Last Update : 21 ตุลาคม 2563 16:23:23 น.
Counter : 435 Pageviews.

0 comment
ญี่ปุ่นเลือก 7 โครงการในไทย มอบทุนพัฒนาดิจิทัลภาคอุตสาหกรรม
ญี่ปุนคัดเลือก 7 บริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ให้ทุนสนับสนุนการพัฒนาโครงการนำร่องด้านเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกับพาร์ทเนอร์ในประเทศไทย ภายใต้โครงการ “Asia Digital Transformation” หวังร่วมยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในภูมิภาค

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้รับแจ้งจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) ว่า รัฐบาลญี่ปุ่น โดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนญี่ปุ่น (METI) ได้คัดเลือกให้เงินสนับสนุนแก่บริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย เพื่อดำเนินโครงการสนับสนุนการนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการนี้รวม 7 บริษัท จากทั้งหมด 23 โครงการ มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

โครงการที่ได้รับอนุมัติดังกล่าว ครอบคลุมในหลากหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ การเกษตร การประมง การแพทย์ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และพลังงาน ซึ่งทุกสาขาล้วนมีความสำคัญต่อประเทศไทย การอนุมัติของรัฐบาลญี่ปุ่นในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมทางเศรษฐกิจที่เหมาะสม    ทำให้บริษัทของประเทศญี่ปุ่นสนใจร่วมพัฒนาธุรกิจอย่างมีนัยยะสำคัญ

สำหรับโครงการสนับสนุนการลงทุนด้านอุตสาหกรรมดิจิทัลในเอเชีย หรือ Asia Digital Transformation (ADX) มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้บริษัทญี่ปุ่นร่วมงานกับบริษัทหรือหน่วยงานในอาเซียน ลงทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว

นอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมีโครงการนำร่องที่ได้รับคัดเลือกในอีกหลายประเทศ โดยมีโครงการในเมียนมา  4 โครงการ มาเลเซีย 3 โครงการ เวียดนาม 2 โครงการ อินโดนีเซีย 2 โครงการ กัมพูชา 2 โครงการ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และ สปป.ลาว ประเทศละ 1 โครงการ






 

 



Create Date : 21 ตุลาคม 2563
Last Update : 21 ตุลาคม 2563 16:15:22 น.
Counter : 393 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



contact >> parwnation@gmail.com
hello welcome
contact =>>parwnation@gmail.com
New Comments