การดูแลสุขอนามัยอวัยวะส่วนสำคัญของชายไทย ขริบดีไหมเนี่ย
 
ความเชื่อและความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการขริบที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้



น้ำเปล่าและสบู่ก็เพียงพอในการล้างอวัยวะเพศของเด็กผู้ชาย
เรื่องนี้เป็นความจริง แต่ในความเป็นจริงเด็กผู้ชายส่วนมากไม่ได้อาบน้ำอย่างสะดวกและทั่วถึง ถ้าไม่ได้คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เหมือนที่ผู้ปกครองต้องคอยเตือนเสมอเช่นแปรงฟันก่อนนอน เช็ดหูให้สะอาด ซึ่งส่วนที่มักจะถูกละเลยมากที่สุดก็คืออวัยวะส่วนสำคัญนี่เอง ซึ่งถ้าหากการดูแลสุขอนามัยของอวัยวะส่วนนี้ทำได้ไม่สะอาดดีมันก็จะก่อให้เกิดความหมักหมมและการอักเสบเกิดขึ้นมาได้ในภายหลัง ซึ่งการรักษานั้น ยุ่งยากมากกว่าการป้องกันเยอะ ดังนั้นการขลิบหนังหุ้มปลายจึงเป็นการช่วยให้การดูแลสุขอนามัยได้สะดวกขึ้น เนื่องจากสามารถทำความสะอาดได้เพียงแค่อาบน้ำแบบปกติเพราะไม่มีส่วนไหนให้มาหมักหมมอีกต่อไป

โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะสามารถหายได้ง่าย ๆ เพียงแค่กินยาแก้อักเสบ
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะนั้นหากเป็นจากแบคทีเรียสามารถหายได้ด้วยการกินยาฆ่าเชื้อ แต่ยานี้มันกลับไม่ได้ส่งผลใด ๆ ต่อพวกกลุ่มเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรค และในขณะเดียวกันการติดเชื้อที่ปล่อยไว้นาน ๆ มันก็สามารถลามขึ้นไปบริเวณด้านบนโดยการผ่านทางท่อปัสสาวะ ทำให้ไปถึงกระเพาะปัสสาวะ ท่อไต จนถึงกรวยไต ซี่งการรักษาก็ต้องยุ่งยากไปอีก บางครั้งต้องฉีดสี บางครั้งพบว่าการอักเสบมากถึงขั้นไตเป็นหนอง ต้องทำการผ่าตัดรักษา ดังนั้นสุขอนามัยของอวัยวะเพศซึ่งถือว่าเป็นด่านแรก จึงมีความสำคัญที่สุดในการดูแลและป้องกันภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

สมาคมทางการแพทย์ในอเมริกาต่อต้านการขลิบ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สื่อความหมายผิดไปไกลมาก จริง ๆ แล้วในรายละเอียดฉบับเต็ม ทางสมาคมทางการแพทย์อเมริกายืนยันถึงข้อดีในการขลิบมากมาย ทั้งเรื่องการป้องกันทารติดเชื้อต่าง ๆ และในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้ให้ข้อควรระวังในการตัดสินใจรวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในการขลิบ ซึ่งก็เหมือนการผ่าตัดทั่ว ๆ ไป ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องชั่งน้ำหนักว่าข้อดีหรือข้อเสียมีมากกว่ากัน และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของท่าน และปัจจุบัน (ธค.51) กำลังมีการประชุมในกลุ่มกุมารแพทย์ของอเมริกาเพื่อที่จะออกแถลงการณ์ฉบับใหม่ โดยจะได้มีการเอาข้อมูลล่าสุดของ WHO ที่ยืนยันว่าการขลิบสามารถลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีลงได้หกสิบเปอร์เซนต์ มาใช้ในการพิจารณาด้วย

ผู้ปกครองไม่มีสิทธิที่จะไปตัดสินใจแทนลูกในการที่จะขลิบ
:หลายงานวิจัยทางการแพทย์พบข้อดีและประโยชน์ของการขลิบมากมายในการป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ในเด็ก และการขลิบในเด็กพบว่าสะดวกและง่ายในการดูแลแผลมากกว่าการมาทำในตอนโต เนื่องจากกิจกรรมต่าง ๆ ของเด็กเอง
เด็กทารกอาจจะไม่สามารถที่จะเลือกว่าจะขลิบหรือไม่ แต่ก็เช่นเดียวกับการการสร้างภูมิคุ้มกันต่าง ๆ เช่นฉีดวัคซีน ,การเลือกนับถือศาสนา,การเลือกโรงเรียน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จึงเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่จะทำการตัดสินใจแทนลูก ๆ ของเรา โดยอยู่บนพื้นฐานที่ว่าเรากำลังเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก โดยชั่งน้ำหนักทั้งข้อดีและข้อเสียมาประกอบกัน เพื่อที่ลูกของเราเมื่อเติบโตขึ้นมาจะได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด



โรคต่าง ๆ ที่การขลิบสามารถลดโอกาสการเกิดได้ เป็นโรคที่พบได้น้อยมากในทางการแพทย์
พยายามมีการให้ข้อมูลจากกลุ่มที่ต่อต้านการขลิบว่า การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในผู้ชายพบได้น้อยมาก ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องทำการขลิบ ซึ่งข้อมูลตรงนี้เป็นเรื่องที่ฟังแล้วคุณพ่อคุณแม่หลายท่านจึงคิดว่าไม่จำเป็นที่จะให้ลูกของท่านขลิบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากที่ทำให้เด็กต้องมาโรงพยาบาล และการรักษาก็มีตั้งแต่ทานยา ทายา ผ่าตัด จนถึงต้องนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ ๆ ในแต่ละคน หรือมะเร็งองคชาติในผู้ชายที่โตขึ้น แม้จะเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยนัก แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว การรักษาส่วนใหญ่คือการตัดอวัยวะเพศทิ้งซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจของคนไข้เป็นอย่างมาก และเป็นโรคที่มีโอกาสเสียชีวิตได้สูง หรือการที่หนังหุ้มปลายไม่สามารถดูแลความสะอาดได้ดีทำให้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็ไปกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของผู้หญิงในแต่ละปี และมีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่าในบริเวณหนังหุ้มปลายของผู้ชายพบเชื้อ HPV virus ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคได้สูงกว่าคนที่ขลิบแล้วเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงเห็นการขลิบจึงมีประโยชน์ในการดูแลป้องกันสุขภาพในระยะยาวต่อทั้งผู้ชายและผู้หญิงเอง

การสอนให้ลูกทำความสะอาดอวัยวะเพศก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องขลิบ
การดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กทุกคน แต่ในเด็กผู้ชายที่มีหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศอยู่นั้น
การดูแลความสะอาดอาจทำได้อย่างไม่ทั่วถึง ซึ่งถ้าปล่อยให้เกิดการหมักหมมก็จะทำให้เกิดการอักเสบขึ้นไปตามท่อปัสสาวะ บางคนถึงขั้นต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการไตติดเชื้อ ยิ่งธรรมชาติของเด็กผู้ชายที่เล่นซนตามประสา การไม่อาบน้ำ การเล่นสกปรกมอมแมม เป็นเรื่องปกติ ยิ่งทำให้ง่ายต่อการเกิดเรื่อง และความเป็นจริงในสภาพสังคมของเรา ต้องยอมรับว่ามีไม่กี่ครอบครัวที่มีการพูดคุยถึงสุขอนามัยทางเพศ มีคุณพ่อคุณแม่กี่คนที่คอยถามลูกว่าวันนี้ล้างจู๋สะอาดหรือยัง หรือเมื่อลูกโตพอเข้าโรงเรียนแล้วยังมาคอยเช็คว่าลุกอาบน้ำสะอาดไหม มีการรุดหนังหุ้มปลายลงมาล้างไหม ดังนั้นยิ่งเมื่อเด็กโตขึ้น ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยิ่งทำให้ถูกละเลยไป ด้วยทั้งเด็กรู้สึกเขินที่จะปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ และกิจกรรมต่าง ๆ ของเด็กที่มากขึ้นตามอายุ ทั้งเล่นกีฬา เหงื่อจากการทำงานต่าง ๆ ดังนั้นการขลิบจึงมีข้อดีในการช่วยให้ดูแลสุขอนามัยได้ง่ายขึ้น เนื่องจากกำจัดจุดที่จะสามารถไปหมักหมมของพวกเชื้อโรคได้ ทำให้การอาบน้ำธรรมดาก็เพียงพอที่จะทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศได้

<


ใครมีปัญหาด่วน ให้คุยทางไลน์นะครับ id dr-sarika ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสี่ทุ่มครับ

อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen



Create Date : 31 ธันวาคม 2551
Last Update : 1 มิถุนายน 2559 19:01:25 น. 2 comments
Counter : 5119 Pageviews.  
 
 
 
 
ไอเว่นคลิบหลังจากคลอด1วันค่ะ ดีใจที่ตัดสินใจถูกถึงแม้จะรู้สึกแย่ตอนได้ยินเสียงลูกร้อง (ดังลั่นโรงพยาบาลเลยค่ะ) พอแผลหายดีแล้วหมอก็บอกให้ดึงหนังอยู่(เบาๆนะค่ะ) ไม่ใช่เพื่อทำความสะอาดนะค่ะ เพื่อไม่ให้หนังร่นกลับมาปิดอีก เพราะหมอบอกว่าปกติ chubby kid หนังจะกลับมาปิดถ้าไม่พยายามดึงกลับไป ก็ดึงมาตลอด แต่ตอนนี้ดึงบ้างไม่ดึงบ้างแล้วค่ะ ตอนอาบน้ำ ตอนเปลี่ยนผ้าอ้อม แต่ต้องตอนเผลอนะคะ เพราะเจ้าตัวเล็กจะเอ็ดแม่แล้วผลักมือออก
จากคุณ : tye@usa (tye@usa

ลูกชายของข้าพเจ้า เพิ่งขลิบไปเมื่อ 3-4 วันก่อนนี้เอง (อายุได้ 10 วัน)
เห็นแผลขลิบแล้วน่ากลัวจัง มันใหญ่มากในความรู้สึกเรา
แต่พยาบาลบอกว่าไม่ใหญ่หรอก เล็กนิดเดียว แต่เห็นแล้วสงสารลูกอ่ะ
พยาบาลเล่าให้เราฟังว่า ลูกชายเขาต้องขลิบตอน 2 ขวบเพราะฉี่ไม่ออก
เขาสงสารลูกมาก เพราะเจ็บและทรมานกว่าขลิบตอนแรกเกิด
เราเคยอ่านและรู้มาว่า ควรจะขลิบให้ลูกตั้งแต่เกิด เพราะเจ็บน้อยสุด
และทำความสะอาดง่าย ลดโอกาสติดเชื้อ และทำให้ฉี่สะดวก
แต่พออ่านในนี้แล้วเลยๆ งง ว่าทำไมหมอถึงแนะนำไม่ให้ไปยุ่งกับมันหว่า
จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman)

รพ.บำรุงราษฎร์ คุณหมอวิโรจน์ ชดช้อย ค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กอ่อน ถึงเด็กโต ประมาณ 1 หมื่น -หมื่นห้า เนื่องจากต้องดมยา ทำเป็นแบบ OPD
ข้อแนะนำ
1. หากเป็นเด็กหลังทำนั้น น้องจะปวดแผลมากจนบางครั้ง จะไม่อยากเดิน
2. หลังทำจะต้องทำแผลด้วย น้องจะเจ็บมาก และการดูแผลค่อนข้างลำบาก
3. แนะนำให้โตเป็นผู้ใหญ่สัก 15 ปี ขึ้นไปค่อยทำจะดีกว่า ตอนนี้ก็ดูแลเนื่องความสะอาดให้ดีๆ

เวลาเห็นคนไข้เด็ก ร้องเวลาปวดแผลหรือทำแผลนี้น่าสงสารมากค่ะ

ดิฉันมีลูกชาย ขลิบแล้วตอนอายุขวบครึ่ง (ตอนนี้ 3 ขวบครึ่ง) หมอแนะนำให้ขลิบเพราะปลายอวัยวะเพศมีหนังหุ้ม(ปลายไม่เปิด) เวลาฉี่อวัยวะเพศจะพองๆ ทำให้หลังจากฉี่จะมีที่ตกค้างตรงปลาย ทำให้สกปรกเป็นสาเหตุให้ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ สังเกตการติดเชื้อคือฉี่กระปริดกระปรอย บ่อยกว่าปกติ(เลี้ยงลูกเองสังเกตทุกอย่างจึงทราบความผิดปกติ) ฉี่มีเลือดปน บางรายไม่ทราบปล่อยไว้จนเป็นหนองฉี่ไม่ออกเด็กทรมานมาก(ลูกเพื่อนๆเล่าให้ฟัง) โชคดีรีบพบหมอ ทานยาแก้อักเสบ
เป็น 2ครั้ง หมอแนะนำให้แก้ที่ต้นเหตุคือต้อง "ขลิบ " ไม่งั้นอาจติดเชื้อบ่อยและทำให้เกิดอาการไตวายได้ ถ้าเด็กไม่มีปัญหาอย่างลูกชายดิฉันไม่ขลิบก็ได้ค่ะ เพราะตอนขลิบต้องวางยาสลบด้วย
ดิฉันพาลูกไปที่โรงพยาบาลสวนดอก(เชียงใหม่) เมื่อ 2 ปีที่แล้วค่าใช้จ่ายประมาณ หนึ่งหมื่นสามพัน หรือ ห้าพันนี่หล่ะค่ะไม่แน่ใจ….แม่น้องนน sanook

ตอนที่ลูกชายขลิบ ก็ยังแบเบาะเหมือนกันค่ะ
คุณหมอให้ครีมมาทา และแนะนำวิธีทำความสะอาด
ก็แข็งใจทำตามทำแนะนำ ทั้งๆที่ลูกร้องทุกครั้งที่ทำความสะอาด
แต่เจ็ดวันแผลก็หายค่ะ หลังจากนั้น ก็ไม่ต้องมีเรื่องกังวลอีก
จากคุณ : คุณนายดอกไม้

ลูกชายขลิบตั้งแต่แรกคลอดได้วันนึงค่ะ
ประมาณอาทิตย์เดียวก็หายค่ะ เหลืองๆที่ว่าคงเป็นไขมัน
ไม่แน่ใจว่าเราเองก็ทำความสะอาดออกไม่หมด หรือหมอเย็บไม่ดี
มันเหมือนมีร่องเหมือนเย็บไม่สนิท แล้วมีไขมันเหลืองๆ ไปอุดไว้
เด็กที่ขลิบจู่จะหุบเข้าไป บางทีมองไม่เห็นเลย ต้องคอยเอาออกมา
เวลาฉี่ก็เช็ดทำความสะอาดหน่อย เคยจู๋แดงเพราะมีไขมันไปอุด แต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก หมอให้ยามาทางไม่กี่วันก็หาย
พอซักขวบกว่าๆ จู๋เริ่มโผล่ออกมาดูโลก หลังจากนั้นก็ยังไม่เคยมีปัญหาอะไรค่ะ
จากคุณ : NoNoTan

ของลูกชายเราก็ตั้ง16ปีผ่านมาแล้วอ่ะค่ะ
เท่าที่จำได้..พยาบาลทำให้หมด..เราไม่ได้ทำอะไรให้ลูกเลย
กว่าจะออกจากโรงพยาบาลก็ 7 วัน(ผ่าคลอดค่ะ) แผลก็หายสนิทแล้ว
เคยมีปัญหาตอน2-3ขวบ เรื่องความสะอาด ก็โยนให้พ่อเค้าจัดการค่ะ
ก็มันไม่เหมือนของเรานี่นา..ทำไม่เป็นจ้า
ที่ตอบมาเนี่ยะ..ไม่รู้เป็นประโยชน์บ้างปะ..ง่ายๆส่งให้คุณพ่อจัดการค่ะ

ผมให้ขลิบก่อนออกจาก รพ.เลยครับ สองวันหลังคลอดมั้งถ้าจะไม่ผิด
ก็ขึ้นกับประสบการณ์แต่ละคน ถ้าไม่เคยมีก็ไม่อยากไปยุ่ง
แต่คนที่เคยทำก็อยากจะทำให้มันหมดปัญหาไป
ตอนเด็กๆยังไม่มีปัญหาหรอก แต่ตอนโตต้องออกศึกนี่สิ
หากมันร่นไปกลับได้สะดวกก็ดีไป
แต่บางคนรูมันแคบ เวลาร่นมาก้ยังพอทำเนา
แต่พอจะร่นกลับ มันกลับไมได้ มันติดล็อคตรงคอหยัก
ตอนนี้ล่ะมันจะเจ็บจนหมดอารมณ์ก็มี ต้อรอมันยุบตัวก่อน จึงจะร่นคืนได้
ภาพพวกนี้ไม่ค่อยนำมาเผยแพร่ คนเลยไม่ค่อยได้เห็นกัน
จากคุณ : samr

ให้ลูกชายขลิบเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่2 วันแรกที่เขาเกิดเลย คุณหมอศัลยกรรมที่เป็นคนขลิบให้ไม่ยอมให้พ่อแม่ดูค่ะ เลยแอบดูข้างกระจก เห็นเจ้าลูกชายตอนโดยขลิบขาแขนชี้กางหมดเสียงร้องดังออกมานอกห้องกระจกเลย แต่ก็ดีเพราะพยาบาลทำแผลให้สะอาดเลย แล้วทุกวันนี้ 3 ขวบแล้ว ก็ทำความสะอาดง่าย คุณหมอก็บอกขลิบก็ดีเพราะก็จะสะอาดด้วย
จากคุณ : pookja1 -

สามีมีปัญหาต้องไปขริบตอนที่เป็นวัยรุ่น เลยบอกว่าของลูกให้ขริบเลยตั้งแต่แรกเกิด มีลูกชายสามคนก็ให้ขริบหมด ตอนนี้โตเป็นหนุ่มหมดแล้ว เคยคุยกันเค้าบอกว่า เพื่อน ๆ หลายคนอิจฉา เพราะตัวเพื่อน ๆ มักมีปํญหาเรื่องการทำความสะอาด แล้วก็อักเสบกันเป็นประจำ พวกเด็ก ๆ เค้าเล่นกีฬากันเป็นประจำ แล้วมันก็หมักหมม เป็นทั้งสังคัง ทั้งอักเสบบริเวณนั้น พวกเขาก็เลยรู้สึกดีที่ได้ขริบ
จากคุณ : hang around

ถ้าเป็นลูกเรา เราจะให้ขลิบค่ะ
เพราะตัวเราเองก็ไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านนี้เท่าไหร่ กลัวเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาจะต้องมากังวล

อีกอย่างคือเราก็ไม่อยากให้ลูกมาเจ็บตอนโตๆ แล้วน่ะค่ะ ตัดใจขลิบตอนแบเบาะเลยดีกว่า
จากคุณ : CutieAngel

แฟนเราไปขลิบตอนโตค่ะ เค้าว่าไม่เห็นรู้สึกแตกต่างอะไรเลยในเรื่องความรู้สึกทางเพศ แต่ที่รู้สึกได้เลยคือ สะอาดค่ะ แล้วเค้าก็ให้ลูกขริบตั้งแต่แรกเกิดเลยค่ะ ถ้าเค้ารู้สึกว่ามันไม่ดี เค้าคงไม่ยอมให้ลูกขริบหรอกค่ะ
ส่วนตัวเราเอง ไม่อยากให้ขริบเลย สงสารลูกค่ะ ไม่อยากให้เจ็บ แต่ยอมแพ้เหตุผลแฟนค่ะ T T
ขริบก็ดี ไม่ขริบก็ดีค่ะ
จากคุณ : rhythm of the rain

ทำตั้งแต่แรกเกิดค่ะ ของน้องปุ้ง เกิดตอนกลางคืน เช้ามา หกโมง พยาบาลมาเข็นไปขลิบเลยค่ะ
จากคุณ : Second impact

ยิ่งขลิบไวเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ แต่ว่าอย่าให้เกิน 2 สัปดาห์นะค๊ะ เพราะถ้าเด็กอายุเกินกว่านี้
คุณหมออาจจะไม่ขลิบให้ มีประสบการณ์ตรงค่ะ ลูกชายเกือบไม่ได้ขลิบเพราะ กว่าจะเจอ
คุณหมอที่ใช่ ลูกชายอายุปาเข้าไป 2 เดือนแล้วค่ะ ดีที่น้ำหนักแรกเกิดเขาไม่มากคุณหมอเลย
ขอดูตัวลูกชาย แล้วขลิบให้วันนั้นเลย (ปล โดนปฎิเสธจากคุณหมอมาสามคน)
จากคุณ : Roland mom (Benim) - [ 25 มิ.ย. 51 18:53:15 ]

จุ้ยจุ้ยเคยไม่สบายตอน 6 เดือนทางเดินปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากจำปีไม่เปิดแล้วมันทำให้หมักหมมน่ะค่ะ(กว่าจะรู้เล่นเอาเหนื่อยต้องอัลตราซาวน์ดูความผิดปกติภายในด้วย) สุดท้ายคุณหมอทางด้านทางเดินปัสสาวะโดยตรงดูให้เค้าบอกว่ากรณีของจุ้ยจุ้ยคือเค้ามีผังผืดไปยึด อาจเป็นมาแต่กำเนิดหรืออาจเกิดจากติดเชื้อหลังคลอดออกมาแล้วก็ได้ ทางออกคือขลิบสถานเดียว เลือกว่าจะขลิบตอนเล็กหรือตอนโตเท่านั้น สุดท้ายเลยตัดสินใจแทนลูกว่าขลิบเลย และก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง(ทั้งน้ำตา) จุ้ยจุ้ยแผลหายสนิทเลยประมาณ 1เดือน จนตอนนี้ 2.4 แล้วก็ไม่เคยเป็นทางเดินปัสสาวะอักเสบอีกเลยนะ เคาะๆ แล้วก็ทำความสะอาดง่ายด้วย กรณีของน้องอาจลองค่อยๆ เปิดเค้าดูทีละนิดตอนอาบน้ำ ปกติที่บ้านเราหลานทุกคนจะใช้วิธีค่อยๆ เปิดให้เหมือนกันแต่จุ้ยจุ้ยเปิดไม่ขึ้นเลยค่ะ ถ้าเปิดแล้วไม่ขึ้นลองปรึกษาคุณหมอดูก่อนว่าควรใช้วิธีไหน ที่เล่ามาอยากบอกว่าการขลิบไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ต้องสะอาดไม่ให้ติดเชื้อค่ะ…จุ้ย จุ้ย ..rakluke

ของเราให้ขลิบตั้งแต่คลอดเลยค่ะ พอทำเสร็จหมอเค้าก็ใส่ยา พันผ้ามาให้ บอกให้เราไม่ต้องไปทำอะไรมาก ให้ยามาใส่ สองสามวันก็หายแล้วค่ะ

หมอบอกว่าถ้าจะทำก็ให้ตอนคลอดเลย เพราะแผลจะหายไวและดูแลรักษาง่าย เด็กจะไม่รู้สึกเจ็บมากเหมือนตอนโตแล้วค่ะ…jitrapa..pantip

ของเราหมอให้ขลิบค่ะ เพราะมีปัญหาหนังหุ้มปลายเปิดได้น้อย ทำให้เกิดการติดเชื้อค่ะ ก็ดีค่ะทำความสะอาดได้ง่าย…momtog..pantip

ตอนเล็กๆ พี่ชายเอมก็ไม่ได้ขลิบค่ะ
พอขึ้นป.3 ตรงนั้นก็อักเสบหรือว่ามีปัญหาอะไรสักอย่างนี่ล่ะ พ่อเลยพาไปหาหมอ ปรากฎว่าโดนขลิบ ต้องนุ่งผ้าถุงอยู่บ้านเป็นอาทิตย์เลย นึกแล้วยังขำ เลยคิดว่าถ้ามีลูกชาย ต้องขลิบตั้งแต่แรกเกิดค่ะ เพราะแผลน่าจะหายไวกว่านะคะ…เอม…pantip

ขลิบทั้ง 2 คนเลยค่ะ แนะนำว่าถ้าทำทำตั้งแต่แรกเกิดดีที่สุด(ถ้าทำนะคะ)…Monrovia..pantip

ขลิบค่ะ เกิดได้วันนึงก็ให้หมอขลิบเลยค่ะ…hell is here..pantip

บ้านดิฉัน ทั้งพี่ชาย น้องชาย หลานชายทั้ง 2 โดนหมดตั้งแต่แรกเกิด
เพราะ
1. แม่คิดว่าขริบตอนนี้เลย โตมาจะได้ไม่ต้องมาทำ (เข้าใจว่าจะเอาเมียแล้วต้องทำ จะได้สะอาด ผู้ ญ ไม่เป็นโรค ไม่รู้ว่าแม่เอามาจากไหน)
2. เด็กมันไม่รู้เรื่อง ร้องนิดเดียว หมอก็เก่งด้วย
3. หลานแม่ (ลูกน้า)ไม่ขริบตอนเกิด แต่มาขริบตอนโตหน่อย เพราะเหตุใดอันนี้ไม่ทราบนะคะ คิดว่าคงทำความสะอาดไม่เป็นเลยมีปัญหา

ที่บ้านสามีไม่อนุญาตให้หลานโดนขริบ (ลูกเราเองจะเกิดแล้วเหมือนกันคะ)
เพราะ
1. เด็กเจ็บนะ ใครบอกว่าเค้าไม่รู้เรื่อง
2. บ้านเค้าไม่ขริบ ไม่เห็นมีใครมีปัญหาอะไรเลย
3. ตอนเป็นเบบี๋ก็อาบน้ำรูดปลายเปิดให้ เปลี่ยนโกะบ่อย พอโตก็สอนล้างไม่มีปัญหา
คุณ จขกท ลองเปรียบเทียบสองบ้านดูนะคะ
จากคุณ : tempus fugit

เราขลิบหลังจากที่เค้าเกิดมา 1 วันเลยค่ะ เรารู้แหละว่าเค้าเจ็บ ทำไงได้ เพราะ ถ้า เค้าโต ถึงขนาดรับรู้ได้ แล้วกลับมาขลิบ แผลจะยิ่งหายช้า และเค้าจะยิ่งงอแง ถ้า ยิ่งเอามือไปปัดแผล ด้วยยิ่งไปกันใหญ่ ขลิบซะตั้งแต่แรกเกิดแผลหายเร็ว อาทิตย์เดียวหลังขลิบก็ดีขึ้นแล้วค่ะแผลหายสนิท
จากคุณ : แสงเงาแห่งรัก

ลูกชายเราก็ขลิบที่บำรุงราษฏร์ กับคุณหมออารยาค่ะ ขลิบสวยมาก
แต่ขลิบ 1 วันหลังจากคลอดง่ะ ทำแป๊ปเดียว ลูกเราไม่ร้องเลยง่ะ ><''
ถ้า 1 เดือน น้องจะเจ็บมากมั๊ยยย TT
ดูแลก็ทั่วไปค่ะ ถ้าแผลหายก็คอยรูดๆทำความสะอาด
ไม่งั้น อาจจะติดได้
คชจ ไม่ทราบเลยค่ะ เพราะตอนออกจาก รพ เป็น คชจ รวม ไม่ได้ขอรายละเอียดมา
ยังงัย ลองโทรสอบถามที่รพ ก่อนก็ได้ค่ะ
จากคุณ : ปอมปาดัวร์

ลูกเราก็ให้ขลิบหลังคลอด 1 วันค่ะ ถ้านานกว่านั้นก็ไม่รู้ว่าน้องจะเจ็บไหมนะคะ
ส่วนค่าใช้จ่ายก็ 9,000 บาทค่ะ เมื่อปลายปี 2007 นะคะ
จากคุณ : Close To Heaven

ลูกดิฉันคลอดกลางคืนค่ะ ตอนเช้าก็เอาไปขลิบเลย
ไม่ร้องเลยค่ะ แต่คงตกใจมากกว่า น้ำลายฟูมปากเลย แล้วก็ดูดนมใหญ่เลย
คงเจ็บแผลหลังขลิบค่ะ แต่รวมๆ จะดีกว่าคลอดมาหลายๆ วันแล้วขลิบนะคะ

หมอของลูกแนะนำว่า ให้ขลิบทันทีหลังคลอด เพราะปลายประสาททำงาน
ยังไม่เต็มร้อยค่ะ
พอขลิบเสร็จ ไม่ต้องใส่ยาที่แผลทั้งสิ้น ใช้วาสลีนทาที่แผล และไดเปอร์ค่ะ
เพราะถ้าแผลมีเลือดออก แผลแห้ง ช้างน้อยจะไม่เจ็บเพราะเกิดการแห้งกรังของแผล

จากคุณ : Second impact

ลูกเราขลิบหลังคลอด 1 วันค่ะ
แผลหลังขลิบ หมอเค้าพันผ้าก๊อตไว้
ไม่กี่วันก็เอาออกได้ค่ะ ไม่ต้องทายา ใดๆเลยค่ะ
ของเราทำเพราะ ง่ายต่อการทำความสะอาดค่ะ ไม่เกี่ยวกับศาสนาจ้ะ
จากคุณ : ปอมปาดัวร์

คุณหมอ เคยแนะนำว่าหากจะขลิบ ถ้าภาวะทารกปกติ แล้วคุณแม่แจ้งความจำนงว่า สามารถขลิบได้ แพทย์จะทำการขลิบให้เลย ในวันที่สอง หลังจากลืมตา อุแว้ออกมา

การขลิบ พึงกระทำ สำหรับเด็กที่ไม่สามารถรูดหนังหุ้มปลายได้ ซึ่ง โดยมาก 4-5 ขวบ ควรจะรูดได้แล้ว อันนี้ตามที่แพทย์บอกนะคะ

ตั้งใจว่า จะพาตาโตไปขลิบเหมือนกัน จริงๆ ตั้งใจจะขลิบให้ลูกตั้งแต่ตอนลูกคลอด แต่ เผอิญ น้องมีภาวะหายใจเร็ว หลังคลอด ก็เลยขลิบไม่ได้ในเวลานั้น จนถึงตอนนี้ หนังหุ้มปลายไม่เปิดเลย มีปัญหา ปัสสาวะคั่งค้างบริเวณหัวช้างน้อย โดยรอย เพราะไม่เปิดเลย ก็คิดว่า เร็วๆนี้คงต้องพาไปขลิบเหมือนกัน
จากคุณ : eyewitness

ผมเป็นผู้ชาย100% ครับ คุณแม่ขริบให้ตั้งแต่เกิดครับ ตอนนี้ก็กำลังหาที่ขลิบให้ลูกชายอยู่ที่ขอนแก่นมีที่ไหนรับขลิบ บ้างไหมครับ
โดยส่วนตัวผมว่าการขลิบทำให้รู้สึกสะอาดดีครับไต้องมีอะไรมาปิด ปลายให้เกิดการอับชื้น ขนาดขลิบแล้วเวลาทำงานหรือเดินทางยังรู้สึกอับเลยครับแล้วถ้ามี หนังมาหุ้มไว้อีกยิ่งสรกปรกแย่เลยครับ ส่วนที่ว่าต้องมีประโยชน์อะไรซักอย่างธรรมชาติถึงสร้างหนังหุ้ม มาอันนี้เห็นด้วยครับแต่ตอบโจทย์นี้ให้กับตัวเองว่าสมัยที่มีมนุษย์เกิดขึ้นมาพร้อมหนังหุ้มปลายนั้น สมัยนั้นยังไม่มีกางเกงนุ่งน่ะครับ ต้องปล่อยลอยอยู่อย่างนั้นแล้วยิ่งสมัยนั้นต้องล่าสัตว์ ต้องสู้รบถ้าไม่มีอะไรปิดคงแย่ และที่สำคัญเวลาลูกร้องไห้ผมก็แทบจะร้องไปกับลูกแล้วครับ แทบไม่ได้นอนเลยช่วงสัปดาห์แรก ยังไงความกังวลเรื่องลูกเจ็บกับผลดีในระยะยาวคุณแม่ลองนึกดูนะค รับ เหมือนกับพาลูกไปฉีดวัคซีนน่ะครับลูกก็เจ็บร้องเหมือนกัน แต่คุณแม่เห็นถึงประโยชน์ที่ได้และโทษเมื่อเจ็บป่วยที่อาจถึงชี วิตจึงยอมให้ลูกเจ็บตัวร้องไห้เวลาถูกฉีดวัคซีน ตอนนี้ลูกชายผมอายุ 14วันแล้วครับยังหาที่ขลิบไม่ได้เลยสงสัยต้องกลับบ้านที่กทมพา ลูกไปขลิบที่กทมแล้วล่ะครับ
เฉพาะผู้ใหญ่นะครับ เวลาคุณแม่มีกุ๊กกิ๊กกับคุณพ่อน่าจะมีเรื่องความสะอาดที่ดีอยู่ แล้ว แต่ลองมองมุมกลับสิครับเวลากุ๊กกิ๊กกันผู้ชายบางคนนอกจากจะไม่ท ำความสะอาดก่อนแล้ว เวลาปรกติก็ไม่ได้สนใจ หรือบางครั้งภารกิจเร่งด่วนก็น่าจะเคยมีกันมาบ้างแล้วคุณแม่ที่ เป็นผู้หญิงไม่รู้สึกว่ามันสกปรกหรือครับ ขนาดผมเป็นผู้ชายยังห่วงเรื่องความสะอาดและกลิ่นแทนเลยครับ ลองพิจารณาดูนะครับอย่าให้กระแสพาไปครับ ขลิบหรือไม่คุณพ่อ คุณแม่เป็นผู้เลือกครับไม่ใช่สังคมหรือความเห็นคนอื่นแต่เอามาใ ช้เป็นเหตุผลประกอบน่าจะเพียงพอที่จะได้คำตอบครับ
ปล.ผมก็รักลูกผม คุณก็รักลูกคุณ ทุกคนที่เข้ามาที่นี่น่าจะมาด้วยความรักลูกเป็นที่สุด
chayut_nung babyfancy

หรอคะ ลูกชายเราได้สิบเดือนแล้วคะ และก็ไม่ได้ขลิบด้วย แต่ใจจริงอยากขลิบเพราะเราเจอปัญหาคะ ลูกเรามีหนังหุ้มปลายเยอะมาก คุณหมอบอกคะ มีปัญหาตอนแรกๆเค้าฉี่ไม่ค่อยออกเพราะยังเล็กมากแรงเบ่งไม่ค่อยมี และเค้ายังไม่รู้ว่านี่เป็นการปวดฉี่ จะฉี่แต่ละทีร้องไห้ กลางดึกก็ร้องฉี่ไม่ออกเราก็ต้องคอยจับล่นปลายให้ ทางที่ดีนะคะถ้าขลิบแต่แรกเกิดได้ก็อยากแนะนำคะ เพราะแผลเด็กจะหายเร็วคะ เราไม่ได้คิดไว้แต่แรกไม่งั้นเราจัดการให้ลูกเราไปแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังเป็นบ้างบางครั้งที่เค้าง่วงๆแล้วฉี่ไม่ออกก็มีบ้างคะร้องให้รู้เลยว่าเค้าปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก nuree_ja

จุดยุทธศาสตร์เชียวนะครับ ถ้าดูแลป้องกันรักษาไม่ดีก็อาจเป็นปัญหาผูกพันผู้ชาย
ไปจนเป็นหนุ่มเลยเพราะสมัยก่อนที่โรคติดต่อเพศสัมพันธ์ก็ติดกันมาจากปัญหาชายแดนแถว ๆ นี้ล่ะครับ ที่สำคัญอาจมีส่วนทำให้ผู้หญิงเป็นมะเร็งมดลูกเลยนะเนี่ย

ไม่ได้เห็น แต่คิดว่าไม่น่าผิดปกตินะครับ ...เอาเท่าที่ทราบอะครับ
คิดว่าเค้าเรียกว่าหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศน่ะครับ
ถ้ามีหนังนี้ไม่มากไม่น้อยเกินไปก็ไม่น่าเป็นห่วง
ถ้ามีมากมันจะย้วย ๆ ห้อยคล้าย ๆ ถุง ลงมาคลุมปิดบริเวณปลายปิกัจจูครับ
หรือมีน้อยจนรั้งเจ็บเวลาชี้ ๆ กรณีนี้ต้องหาคุณหมอให้ตัดปิกัจจูทิ้งครับ
เอ๊ย ...ให้คุณหมอจัดการกับหนังนี้ซะน่ะครับ

ถ้าเจ้าอินทรียังฉี่ได้เป็นปกติ หรือตอนที่ชี้ ๆ แล้วคุณแม่อ้อมทำความสะอาดให้
พอจะรูดลง-ขึ้นได้ไม่ยากมากจนเจ็บ ก็ไม่น่ามีปัญหา ...
เพราะถ้าทำแล้วเจ็บบ่อย ๆ ก็จะอักเสบบวมแดงหรือเป็นแผลครับ
(ท่าทางจะเจ้าชู้นะเนี่ย ...อีกหน่อยหัวกระไดบ้านไม่แห้งแน่เยย )
เจ้าหนังนี้ควรจะรูดง่ายขึ้นตอนอายุ 3+ ถึงประมาณ 5+ ขวบ
และทำได้สบายขึ้นตอนเป็นหนุ่ม ครับ

ตอนนี้ถ้าทำความสะอาดไม่ดีก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับการอับชื้นแน่ ๆ เพราะ
การหมักหมมของคราบฉี่ เหงื่อไคล และยิ่งใส่กางเกงหลายชั้นทั้งนอก-ใน
ก็ยิ่งอบทำนองนี้ นาน ๆ เข้าก็จะติดเชื้ออักเสบเป็นแผลได้ครับ

พอเจ้าอินทรีโตพอที่จะอาบน้ำเอง ต้องสอนให้เค้าทำด้วยนะครับ
ไม่งั๊นอาจไม่สะอาด ปิกัสจูจะอักเสบ บวม เป็นแผลต้องตัดทิ้ง ... 555 ล้อเล่น

ถ้าดูท่าแล้วเจ้าอินทรีทำความสะอาดไม่ดีแน่ ๆ พออายุประมาณ 6+
แนะนำให้ขลิบซะเถอะครับ ที่มุสลิม เรียกว่า สุนัต
คาดว่าเมื่อก่อนมุสลิมอยู่กลางทะเลทรายไม่มีน้ำอาบ เหงื่อเยอะ
จะตัดทิ้งก็เสียดายของ ก็เลยขลิบซะเพื่อรักษาความสะอาด
(คล้าย ๆ ที่มีผ้าคลุมหน้า เพื่อกันฝุ่นทราย
หรือห้ามกินหมูเพราะในทะเลทรายเลี้ยงหมูยาก...เกี่ยวกันมั๊ยเนี่ย )

ได้ยินว่าสมัยนี้คุณหมอมักจะแนะนำให้ขลิบ เพื่อรักษาความสะอาดได้ง่าย
บางคนทำตั้งแต่เกิดด้วยซ้ำ แต่ก็อีกล่ะ บางคนที่ไม่ใช่มุสลิม ก็จะรู้สึกแปลก ๆ
ผมมีเพื่อนที่ไม่ใช่มุสลิมที่ขลิบตั้งแต่เด็ก มันก็ว่าปกติ ทำแล้วไม่เสียรูปทรง
แต่บางคนที่พ่อแม่ขลิบให้ตั้งแต่เด็ก ก็ไม่ชอบ มีอาการเขินอาย ๆ

อันนี้พอโตเป็นหนุ่ม ถ้าขลิบแล้วเจ้าอินทรีอาย กลัวโดนล้อ (บางคนเป็นเสียความมั่นใจ)
ก็ต้องอธิบายให้เข้าใจน่ะครับ

โอย เป็นครั้งแรกที่ พิมพ์ไปอ่านวนไปวนมาหลายรอบกว่าจะส่งได้นะเนี่ย

น้องธีร์ขลิบไปตั้งแต่อายุได้ 1 วันค่ะ ตอนแรกหมอก็ไม่อยากทำให้ค่ะ แต่คุณพ่อ + คุณน้า เขาย้ำมาว่าต้องทำ แบบว่า ทั้ง 2 คนจำความรู้สึกเจ็บตอนขลิบประมาณอายุ 3 ขวบได้ แล้วก็บอกว่าควรทำตั้งแต่แรกเกิด

พาลูกชายไปขลิบตั้งแต่ยังแบเบาะค่ะ
เพราะสามีขลิบ และเราค่อนข้างมั่นใจในความสะอาด
แล้วก็เลยเห็นดีด้วย อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องไปคอยบังคับจับล้างให้ลูก
จากคุณ : คุณนายดอกไม้

 
 

โดย: สาลิกาโบยบิน วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:23:16:43 น.  

 
 
 
เราคลอดลูกที่แคนาดาค่ะ ตั้งใจไว้ตั้งแต่ท้องว่าจะขลิบ เพราะกลัวปัญหาว่าจะต้องมาขลิบตอนโตแล้วเค้าจะเจ็บมาก แต่พอคุยกับคุณหมอ คุณหมอที่นี่ไม่แนะนำให้ขลิบ มีเอกสารมาให้อ่านด้วยถึงข้อดีข้อเสีย (แต่จะเน้นไปทางไม่ให้ขลิบซะมากกว่าน่ะค่ะ) แถมบอกว่าที่นี่มีเคสเด็กเลือดออกจนตายจากการขลิบด้วย
เรายังอยากขลิบอยู่ดี สามีก็ขลิบแต่เด็ก เค้าบอกมันสะอาดแล้วก็สะดวกดี เราสองคนก็เลยยืนยันกับคุณหมอขอขลิบ คุณหมอเลยให้รายชื่อหมอที่ขลิบให้ (ทั้งจังหวัดมีอยู่ไม่กี่คนเองอ่ะ) เราศึกษาข้อมูลคุณหมอแต่ละท่าน และก็เลือกหมอแล้วด้วย ปรากฏว่าก่อนคลอดไม่กี่วัน ดั้นไปเสิร์ชข้อมูลในเน็ตแล้วเจอคลิปการขลิบ โหย ดูแล้วน้ำตาร่วงเลยค่ะ เพราะดูแล้วน่ากลัวมาก (เราไม่เคยรู้มาก่อนน่ะค่ะ ว่าเค้าขลิบกันยังไง คิดว่าเอากรรไกรตัดจิ๊ดเดียว แต่นี่เค้าเอาเครื่องมือเข้าไปแยกหนังออกจากจุ๊ดจู๋ ซึ่งมันยังติดเป็นเนื้อเดียวกันอยู่ คว้านๆๆๆ พอหนังมันแยกแล้วเค้าค่อยถลกหนังมาตัดออก แล้วถึงเย็บ) เด็กในคลิปร้องโหยหวนน่าสงสารมากเลยค่ะ
ยอมรับเลยว่าจิตตกไปหลายวันเลย ตกลงตัดสินใจไม่ขลิบเพราะเหตุผลเดียว คือกลัวลูกเจ็บค่ะ ความสะองสะอาดอะไรเดี๋ยวแม่จัดการให้จ้ะลูก สามีเค้าเถียงว่าเด็กจำไม่ได้หรอก ใช่ค่ะจำไม่ได้ตอนโต แต่ตอนนั้นเค้าเจ็บมากนี่นา ใจก็ยังกลัวว่าจะต้องมาขลิบตอนโตหากเกิดอักเสบอะไรขึ้นมา แต่ก็พยายามหาเหตุผลมาหักล้างเพื่อให้ลูกไม่ต้องขลิบอยู่ดี เราพยายามคิดว่า ถ้ายังไม่เกิดปัญหาอะไร จะไปขลิบทำไมให้เจ็บตัวฟรีๆ เพราะลูกพี่ชายสองคนก็ไม่ขลิบ เค้าก็ไม่เคยอักเสบ หรือสกปรกอะไร ( พยายามหาเหตุผลไม่ขลิบเต็มที่เลยค่ะ แหะๆๆ) เอาไว้ถ้ามันจำเป็นต้องขลิบ ค่อยขลิบนะลูก ตอนนั้นคงทำใจได้ เพราะมันจำเป็น อันนี้แล้วแต่คุณแม่แต่ละท่านเลยค่ะ เรามีเพื่อนที่ทั้งขลิบลูกชาย และทั้งไม่ขลิบ บางคนเค้าใจแข็งกว่าเรา เค้าก็ว่า ให้มันเจ็บตอนนี้แหละดี แค่อาทิตย์เดียวก็หายแล้ว บางคนก็บอกว่าจะไม่ไปตัดอะไรของลูกที่ไม่จำเป็น ให้ลูกมันตัดสินใจเองดีกว่า
เราใจไม่ถึงเพราะไม่อยากให้ลูกเจ็บแม้แต่นิดเดียว วัคซีนยังไม่อยากให้ฉีดเลย แต่ว่ามันจำเป็นต้องฉีด ต่างจากขลิบซึ่งไม่จำเป็นถ้าขยันทำความสะอาด พอดีเราเคยเสียลูกไปคนแล้ว ตอนเค้าเจ็บ หัวใจเราเกือบสลาย กับคนนี้เลยอินมากๆ ไม่อยากให้เจ็บเลย
คุณแม่หาข้อมูลเยอะๆ ตัดสินใจดีๆนะคะ จะขลิบหรือไม่ขลิบก็แล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละครอบครัว ไม่มีผิดถูกหรอกค่ะ
จากคุณ : ปลาคังผัดคึ่นไช่ - [ 11 เม.ย. 52 22:28:51 ]

ถ้ามีลูกชายตั้งใจจะให้ขลิบแต่แรกเกิดค่ะ สามีก็ขลิบแต่ตอนเป็นเด็กโต เค้าก็บอกเจ็บนิดหน่อย เค้าก็สนับสนุนให้ขลิบค่ะ บอกว่าสะอาดดี และช่วยป้องกันฝ่ายหญิงจากโรคเพศสัมพันธ์บางโรคด้วย แล้ววันแรกๆ ก็มีพยาบาลดูแลให้ที่รพ.
จากคุณ : Mucki_girl - [ 11 เม.ย. 52 21:28:01 ]

ถ้าคุณแม่มั่นใจเรื่องความขยัน
ขยันทำความสะอาดปิกาจู้ทุกครั้งหลังอาบน้ำ
ขยันค่อยๆ รูดหนังหุ้มปลายเพื่อช่วยเปิดทีละนิด อย่างเบามือ
ก็ไม่ต้องขลิบค่ะ

ขลิบให้ลูกชายตอนอายุ 12 ค่ะ เค้าปัสสาวะติดขัด ทำให้อักเสบคุณหมอที่คลีนิคแนะนำให้ไปขลิบที่ โรงพยาบาล เบิกได้ ราคา 2,000.-บาท แต่ต้องบอกว่าเป็นการรักษาทางเดินปัสสาวะอักเสบ ถ้าบอกว่าไปขลิบจะเบิกไม่ได้
โพสเมื่อ 3/3/2552 14:24:39
พึ่งพาลูกชายไปขริบมาเมื่อเดือนที่แล้วเองค่ะ ลูกจะงอแงแค่ 2-3 วันเท่านั้น พออาทิตย์หนึ่งก็เป็นปกติค่ะ ง่ายต่อการทำความสะอาด เมื่อก่อนพาลูกไปหาหมอ หมอจะบอกตลอดว่า สกปรก ไม่ล้างให้ลูกเหรอ

โดย : ปุ้ย เมื่อ : 18/09/2008 09:15:14

วันที่ พฤหัสบดี เมษายน 2552 การขลิบหนังหุ้มปลายองคชาติ น่าจะดีกว่า สวยงามกว่า (ไม่น่าอายหรอกค่ะ) เพราะทำให้การดูแลเรื่องความสะอาดสามารถทำได้ง่ายและลดการติดเชื้อ
คุณหมอบางท่าน อาจจะขลิบหนังหุ้มปลายออกให้เพียงเฉพาะส่วนปลายเท่านั้น (ซึ่งยังทำให้สามารถรูดขึ้นลงเพื่อทำความสะอาดได้ กรณีนี้อาจทำให้มีปัญหาเรื่องความตึงตัว หากองคชาติแข็งตัว อาจทำให้ลูกเจ็บได้) แต่คุณหมอบางท่านก็จะขลิบออกให้ทั้งหมดเลย (โดยที่ต่อไป ไม่ต้องกังวลเรื่องการรูดขึ้นลงของหนังหุ้มปลายอีก เพราะไม่มีแล้ว) แบบที่สองนี้ จะดูน่ารักกว่าค่ะ
ก่อนการขลิบ สิ่งที่ผู้ปกครองและคุณหมอหลายๆท่านมักกังวลใจ และทำให้คิดว่าควรจะตัดสินใจขลิบดีหรือไม่ ก็คือ สภาวะจิตใจของลูกหลังการขลิบ แต่ถ้าหากว่า หลังการขลิบแล้ว ลูกยังคงร่าเริงสดใสเหมือนเดิม แบบนี้แล้ว ถือว่าลูกได้เรียนรู้ที่จะต่อสู้ และเรียนรู้ถึงความเจ็บปวดได้อย่างเข้มแข็ง
การดูแลลูกน้อยหลังการขลิบ ถ้าไม่จำเป็นอย่าให้แผลโดนน้ำ เพื่อให้แผลแห้งตัวได้เร็ว แต่ถ้าลูกปัสสาวะและอุจจาระ หรือสัมผัสกับสิ่งสกปรก เปรอะเปื้อน ให้ล้างด้วยน้ำต้มสุกอุ่นให้สะอาดเบาๆ แล้วเช็ดให้แห้งเบาๆ (หากเป็นการขลิบแบบที่ยังมีหนังหุ้มปลายอยู่ คุณแม่อย่าเพิ่งรูดขึ้นลงนะคะ และระวังไม่ให้ไหมละลายหลุด) อาจทายาหรือพันผ้าก๊อตตามที่คุณหมอบอก แต่บางกรณีไม่พัน อาจจะดีกว่า ขึ้นอยู่กับแผลค่ะ
จากคุณ: ก่อนจะถึงมือหมอ วัน /

ลูกๆขลิบค่ะ
เกิดมาสองวันก็ขลิบแล้ว คือหมอทาหรือฉีดยาชานี่แหละค่ะ
การรักษาก็ไม่ยากนะคะ มันจะมีครีมทาที่แผล มีผ้ากอตปิด คือครีมป้องกันแผลไม่ให้ติดกับไดเปอร์น่ะค่ะ ไม่เกินสองวีคก็หายค่ะ
^^ ขลิบดีกว่าค่ะ ข้อมูลที่เพื่อนๆให้มาถูกต้องนะคร๊าบบบบ
ปล ลูกของเพื่อนโตแล้วประมาณสี่ขวบได้ อยากจะให้ลูกขลิบค่ะ แต่ยังทำไม่สำเร็จเพราะต้องให้เด็กอดอาหารหลาย ชม เด็กทนไม่ไหวสิคะ ต้องทาน ทำตอนเพิ่งเกิดนี่แหละค่ะ ยังไม่รู้เรื่อง ^^
จากคุณ : Baby I love you - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 07:45:27 ]

แอบไปอ่านกระทู้อันก่อนมาค่ะ
แม่บางท่านกลัวลูกเจ็บ ก็คือหมอทายาชาให้ค่ะ
หลังจากนั้นก็มียาทาให้ ซึ่งยาทำให้เชื้อโรคตายและรักษาแผล ไม่นานก็หายค่ะ
การขลิบดีทำให้รักษาควาสะอาดได้ ไม่ติดเชื้อ ไม่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เพราะเพื่อนคนที่บอกว่าจะให้ลูกเค้าที่สี่ขวบไปขลิบน่ะค่ะ เป็นเพราะคงรักษาไม่ได้ทำให้ติดเชื้อ
ทีนี้พอจะขลิบก็ทำยากเพราะแกยังเด็ก อดอาหารนานๆไม่ได้
น้องชายอายุสามสิบกว่าๆก็ขลิบค่ะ พอดีคุณลุงหมอเป็นหมอเด็กอยู่ที่อเมริกามาเยี่ยมพอดี เค้าเลยขลิบให้ โชคดีจริงๆ น้องชายบอกค่ะ ^^ จากคุณ : Baby I love you [ วันมหาสงกรานต์ (13) 07:46:34 ]

ส่วนเราก้อว่าจะให้ลูกชายขริบแน่นอน เพราะเรื่องความสะอาด
เห็นด้วยกะสามี พวกเราไม่ได้นับถืออิสลามหรอกค่ะ และตัวเค้าก้อขริบ
มาตั้งแต่เกิด สะอาดและลดการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ
จากคุณ : เด็กหัวโต - [ วันมหาสงกรานต์

ข้อมูลตามคุณสาลิกาโบยบินเลยค่ะ
และสามีก็สนับสนุนให้ขริบให้ลูกชายค่ะ เค้าเองทำตอนโต บอกแทบตายเลยค่ะ เค้าว่าป้องกันเชื้อโรคไปสู่ผู้หญิงได้ค่ะ และสะอาดด้วยค่ะ
ก็ทำตอนน้องได้สองวันค่ะ ไม่กี่วันก็หายค่ะ เจ็บน่ะเจ็บแน่ แต่ไม่กี่วันค่ะ
จากคุณ : keenkirakorn

ทำไมเพิ่งขลิปล่ะคะ ลูกปูนขลิบตั้งแต่คลอดมา 3 วันค่ะ ไม่เห็นตอนคุณหมอทำเหมือนกัน ที่ขลิปเพราะคุณพ่อเค้าบอกว่าจะได้สะอาด แล้วสมัยนี้เด็กชายชอบเจ็บจู๋เพราะฉี่ไม่ออกกันเยอะค่ะ ถ้าทำตอนโตต้องเข้าห้องผ่าตัด + คิดราคาผ่าตัดด้วย เลยให้ขลิปเลยเหมือนพ่อเค้าน่ะค่ะ (อุ๊ย แอบเอาความรับสมีมาเปิดเผย เอาน่าเป็นวิทยาทานเนอะ)

แม่ๆคนไหนคิดว่าจะให้ลูกขลิปต้องตัดสินใจเลยนะคะ ยิ่งเล็กนี่แหละดี ไม่เจ็บมาก ถ้าโตแล้วจะลำบาก meaw

อันดับแรก เพื่อความสะอาด อันดับสอง ขลิบตามปาป๊า (เชื้อสายอิตาเลียน คาทอลิก)เหมี่ยว ช่ายๆคิดแพงมากเยย อิน เอาท์ 15 นาที คิดตั้ง 550 เหรียญ และที่นี่ไม่รับขลิบที่โรงบาลที่คลอดอ่ะจ้า ต้องติดต่อคลินิคหมอเฉพาะที่รับขลิบเยย
Benny

เหมี่ยวถามคุณหมอก่อนทำเค้าบอกว่าถ้าทำตอนโต ประมาณ 30,000 บาท น่ะ แล้วก็ต้องเข้าองผ่าตัดเลย เราเลยตัดสินใจทำไปเลย 3,600 เอง สบายใจเฉิบ

ถ้าอ้อมีลูกปู้ชายก็จะให้ขลิบเหมือนกาน ขู่ตั้งกะอยู่ในท้อง จู๋เลยหดกลายเป็นจิ๋มปายอ่ะ
เหมี่ยว.. คิดแบบเหมี่ยวก็ดีนะ ทำตอนในห้องคลอดเลย หมอจะคิดราคาถูกกว่ามากๆ ได้ยินว่าที่บำรุงราษฎร์คิดค่าขลิบหลายหมื่นเลยอ่ะ
ที่ส่วนมากขลิบก็เพราะบอกว่าทำความสะอาดง่าย ไม่หมักหมม อาจเป็นสาเหตุให้ปู้หญิงที่มีอะไรด้วยเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ตามตำราเป๊ะเลย) Pesandee

ถามว่าดูแลยากมั้ย ไม่ยากค่ะเพราะแกกินกับนอน หมอพันผ้าก้อซไว้ ดมยาสลบมั้ย อันนี้ไม่ได้ถามหมอแฮะ ดีมั้ย ดีแน่ค่ะ ดีกว่ามาขริบตอนโตนะ หลานชายมาขริบตอนโตเพราะมีปัญหาอักเสบ เป็นหนองเพราะหนังหุ้มปลายไม่สามารถรูดเปิด ขึ้นลงได้ พี่สาวบอกว่ารู้งี้ให้ขริบตอนแรกเกิดดีกว่า (เออแล้วใครจะรู้เนอะ)

ไม่ทราบว่าโมเข้าใจถูกมั้ยว่าเรากำลังคุยถึงเรื่องขริบ ใช่ป่ะ เอางี้ค่ะ ของลูกโมนะคะ ขริบตอนอายุครบหนึ่งวัน ค่าใช้จ่ายพิเศษในการขริบแค่สามพันบาทเท่านั้นเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว โรงพยาบาลแมคคอร์มิค จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ เอกชนด้วยนะ อะไรกัน แค่เจ็ดปีจะขึ้นราคามหาโหดแบบนั้นเชียวหรือคะ แล้วถ้าจะขริบตอนนั้นน่ะ โมว่าขริบตอนแรกเกิดเหอะ หายไวกว่า และน้องเขาก้อกินกะนอน ไม่เห็นจะโยเยนะ สามวันแผลก้อแห้งแล้วค่ะ ดูแลง่ายกว่านะ จำได้ว่าตอนนั้นจ่ายค่าคลอด ค่าห้อง ค่าน้องขริบ ผ่าคลอดด้วยนะคะ จ่ายไปแค่สองหมื่นกว่าเองนะ ห้องเดี่ยวแอร์ด้วย ทำไมสมัยนี้แพงจังคะ เพิ่มตามน้ำมันเหรอเนี่ย เอ้า ไหนๆก้อเผลอบอกไปแล้ว ขอบอกอีกอย่างก้อแล้วกันว่า คุณหมอวัลภา ผ่าแผลรอยบิกินี่ให้โมสวยมากค่ะ เอาไส้เดือนที่ได้มาจากผ่าท้องนอกมดลูกออกให้ จากนั้นลูกสองคนผ่ารอยเดิม หมอก้อคนเดิม (เชื่อใจค่ะ) มีรอยแผลเหมือนรอยปากกาขีด ไม่ปูด ไม่นูน ไม่แดงด้วย

มีเพิ่มเติมให้อีกนิดนึงนะคะ จริงเท็จประการใดไม่ยืนยัน จากพี่สาวคนเดิมที่โมบอกว่าลูกเขามีอาการอักเสบแล้วมาขริบตอนโตนะ คือพี่สาวคนนี้เขาคลอดที่แม่และเด็กค่ะ ไม่ได้คลอดเอกชนนะ แล้วตอนคลอดเนี่ยเขาก้อจะขริบแหละ แต่รู้สึกว่าคุณหมอก้อจะบอกให้พาไปขริบที่เอกชน หรืออย่างไรประมาณนี้แหละค่ะ แกก้อเลยไม่ได้ขริบให้ลูก เอ้ะ ใครขริบให้ลูกที่โรงพยาบาลรัฐ (หลังคลอด)บ้างคะ หรือว่าโรงพยาบาลรัฐเขาไม่มีนโยบายขริบ ใครรู้บอกหน่อยนะคะ อันนี้โมไม่แน่ใจ หรือถ้าเขาไม่ทำให้จริงๆ ก้อเข้าไปคลอดเอกชนทีเดียวเลยไม่ดีเหรอคะ เพราะขริบตอนแกสองเดือน ห้าเดือนเนี่ย โมว่าทรมานใจทั้งแม่และลูกเลยนะ ของโมตอนนั้นก้อใจหวิวๆแหละ แต่แม่ของโมแหละ บอกว่าให้ขริบ จบ ขนาดตอนคลอด หมอบอกว่าโมคลอดธรรมชาติได้นะ เพราะลูกตัวเล็ก แม่ของโมสั่งคำเดียวเลย ผ่า จบอีกเช่นกัน ซูสีไทเฮามาเอง

ขอบคุณ สำหรับทุกความคิดเห็นคะ พาลูกไปหาหมอมาแล้ว หมอบอกว่า ปลายช้างน้อย เป็นแผล ทางแนะนำที่ดีสำหรับคนที่กำลังจะลูกผู้ชาย ให้คุณหมอ ขลิบ ตอนคลอดเลย จะได้ไม่เจอปัญหาแบบนี้
 
 

โดย: สาลิกาโบยบิน วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:4:11:23 น.  


สาลิกาโบยบิน
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 297 คน [?]




สวัสดีครับทุกท่านที่ได้มีโอกาสเข้ามาในชุมชนนี้นะครับ ก้อบอกเลยละกันนะครับว่าห้องนี้สร้างขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุยและให้ข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับการขริบปลายอวัยวะเพศและปัญหาสุขภาพเพศชาย ซึ่งหลายท่านอาจสนใจแต่ไม่ทราบจะหาข้อมูลจากที่ไหน และบางท่านอาจต้องการร่วมพูดคุยและหาเพื่อนที่มีอะไร ๆ เหมือนๆกัน ยังไงก้อเข้ามาทักกันบ้างนะครับ
ปล.ในนี้อาจมีภาพบางภาพไม่เหมาะสมกับเยาวชนนะครับแต่เพื่อจุดประสงค์ทางวิชาการ โปรดใช้วิจารณญาณในการชมด้วยครับ

อ้อ ใครมีปัญหาด่วน เชิญทาง https://t.me/Dr_sarika นะครับ ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสามทุ่มครับ

อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen
New Comments
[Add สาลิกาโบยบิน's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com