1 วัน ว่างๆๆ จากท่าน้ำสาทร ถึงท่าพระอาทิตย์
วันอาทิตย์ที่ 14 กพ. ที่ผ่านมา ใครหลายคนคงได้ไปสังสรรกับครอบครัวหรือคนรัก แต่สำหรับเราวันนี้ ไม่มีทั้งครอบครัว(ก็เค้าอยู่ต่างจังหวัดหมดไม่กลับบ้านเองทำเศร้า ) และก็คนรัก เราก็เลยหาที่ไปเรื่อยๆ
งั้นมาเราเริ่มการท่องกรุงเทพฯ ครั้งนี้กันเลยนะค่ะ เริ่มด้วยการออกเดินทางแต่เช้าป้องกันแดดร้อน(ว่าแต่ออกจากบ้าน 10 โมงนี่เช้าตรงไหนมิทราบ) ด้วยทางเรือจากท่าน้ำสาทรกันค่ะ
ป้ายท่าน้ำสาทรค่ะ
ส่วนรูปนี้ก็เป็นตารางการเดินเรือ จากท่าน้ำนนทบุรี - ท่าน้ำวัดราชสิงขร
และเรือลำนี้ที่เราจะไปค่ะ
ลืมบอกไปค่ะ เรือธงส้มมี 2 ประเภทนะค่ะ 1.แบบราคา 13 บาท เรือลำแรกประมาณ 6 โมงเช้า ลำสุดท้ายหมดทุ่มครึ่ง ค่ะ ลำนี้ไปถึงท่าน้ำนนทบุรีเลย 2..แบบราคา 25 บาท แบบนี้ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติจะขึ้นกันค่ะ สุดสายที่ไหนจำไม่ได้ แต่ไปไม่ถึงท่าน้ำนนทบุรีนะค่ะ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ website ด้านล่างค่ะ //www.chaophrayaboat.co.th/index_t.htm
จากรูปรู้เลยค่ะว่า วันนี้คนเยอะมาก
วัดโพธิ์ จากมุมบนเรือค่ะ
และแล้วเราก็มาถึงวังหลังท่าพรานนกแล้วนะค่ะ
ตอนแรกกะว่าจะเข้าไปลงนามถวายพระพรให้ในหลวงของเราสักหน่อย แต่ว่าไม่ได้ใส่สีชมพูกับกางเกงขายาว(ที่ไม่สุภาพ)ไป เลยตัดใจไม่เข้าไปลงนาม มาเดินเล่นวังหลังแทนค่ะ ก่อนอื่นเลยเราแวะทานข้าวที่ร้านบะหมี่เกี้ยวกุ้ง กับซ่าหริ่ม (กองทัพเดินด้วยท้อง อิอิ) แต่เนื่อจากคนเยอะและร้านค้าบางร้านไม่ได้เปิดขายของ เลยไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ชมกันค่ะ
เมื่อเดินจนเหนื่อยแล้วเราก็ข้ามเรือไปฝั่งท่าพระจันทร์ เดินเล่นต่อ(ไปเอาแรง มาจากไหนเนี่ยะ) จากนั้นก็ทำการเดินต่อเพื่อไปยังพิพิธภัณฑ์แห่งชาติพระนครค่ะ แต่จากท่าพระจันทร์สามารถนั่งรอเมล์สาย 53 ไปได้นะค่ะ แต่สำหรับเราเดิน เท่านั้นค่ะ สาเหตุเพราะถามพ่อค้าว่ามายังไง เค้าให้เดินเอาค่ะ เค้าว่าใกล้ แต่พอเดินไปถึงหน้าม.ธรรมศาสตร์ ก็เห็นรถเมล์สาย 53 ผ่านไปค่ะ
นี่เป็นถ.ระหว่างทางเดินที่ขายพระเยอะมากกกก
และแล้วเราก็เดินมาถึงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติพระนคร เปิดให้บริการวันพุธ-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ อยากไปวันจันทร์กับอังคารนะค่ะ เดี๋ยวจะไม่ได้เข้าชมกัน ส่วนเวลาทำการเปิดตั้งอต่ 9.00-16.00 น. ค่ะ และอัตราเข้าชมสำหรับคนไทย 30 บาท และชาวต่างชาติ 200 บาท ลืมบอกไปค่ะว่านักเรียน-นักศึกษา, ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และพระภิกษุ-สามเณร นักบวชทุกศาสนาเข้าชมฟรีค่ะ
นี่เป็นบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ นะค่ะ
นี่ก็เป็นแผนที่ของพิพิธภัณฑ์ ที่เราจะเดินกันในวันนี้
หลังจากส่วนตรงนี้ทางพิพิธภัณฑ์ ไม่ให้ถ่ายรูปแล้วค่ะ (ถ่ายได้แต่ด้านนอก)
ส่วนนี้เป็นพระที่นั่งศิวโมกขพิมานและห้องประวัติศาสตร์ชาติไทย
จะมีการจัดแสดงความเป็นมาของชาติไทยตั้งแต่อดีตก่อนอาณาจักรสุโขทัย จนถึงรัชกาลที่ 9 ของคนไทยเรา เมื่อออกมาจากอาคารแล้วเราก็เราก็มาพักที่ศาลาลงสรง
ที่พักยามร้อนของเราค่ะ
เมื่อหายร้อนเราไปต่อกันที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์
มุมด้านหนึ่งของพระที่นั่งพุทไธสวรรย์
ไม่ทราบว่าเรียกว่า "ครุฑ" รึเปล่านะค่ะ เฝ้ายามอยู่ด้านหน้านพระที่นั่ง
มาต่อกันที่ตำหนักแดงค่ะ
มุมเล็กๆ ในส่วนของห้องจัดแสดง
เมื่อเดินจนเหนื่อยและเป็นเวลา 16.00 น. เป็นเวลาของของการปิดพิพิธภัณฑ์ เราก็ไปนั่งพักที่คาลาสำราญมุขมาตย์ แต่ไม่ได้ถ่ายนะค่ะ เพราะเหนื่อยกะมือสั่นค่ะ เมื่อนั่งพักสักครู่ก็ไปต่อกันเลยที่ถ.พระอาทิตย์ ครั้งนี้ได้นั่งรถเมล์ฟรีสาย 53
สะพานพระราม 8 ยามเย็น จากมุมสวนสันติชัยปราการ
สามคนพ่อแม่ลูก เห็นแล้วอิจฉา
รูปสุดท้ายขอจบที่ ป้อมพระสุเมรุ ของถ.พระอาทิตย์
วันนี้ขอจบทริปที่เดินเยอะที่สุดในการเที่ยวมาเลย จริงๆ แล้วไปเดินที่ถ.ข้าวสารต่อ แต่มันมืดแล้วรูปออกมาไม่ชัดเลยไม่เอาขึ้นค่ะ
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2553 | | |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2553 21:03:24 น. |
Counter : 1291 Pageviews. |
| |
|
|
|