Group Blog
 
All blogs
 

บันทึกการเดินทาง Costa Rica Trip: Days 1-2 ออกเดินทาง-Atenas

ทั้งเรื่องและรูปเยอะเหลือเกิน ไม่รู้จะตั้งต้นเขียนยังไงดี จะค่อยๆเขียนค่อยๆหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ก็คงจะช้าไปหน่อย เอาเป็นว่าขอเริ่มด้วยบันทึกส่วนตัวแต่ละวันพร้อมรูปละกัน อาจมีไทยปนอังกฤษ สั้นบ้างยาวบ้างแล้วแต่อารมณ์เขียน ภาษาส่วนตัวนิดนึง ส่วนเรื่องแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอย่างละเอียดจะเขียนตามทีหลังค่ะ

ขอเริ่มด้วยสองวันแรกก่อน รูปเยอะหน่อยนะคะ งกรูป ไหนๆถ่ายมาแล้วก็อยากให้ได้ดูกันเยอะๆ

Day 1: June 20, 2007
-Left home @ 7:30 AM. Made it to Cleveland Airport in time with no problems
-First stop @ La Guardia, which is a total dump. It's stinky, dirty and crowded. Didn't even have time to get food, so no breakfast or lunch until Houston...starving.
-Got dizzy for a while on the plane- must be my stomach acting up on me...probably had something to do with the 3 lbs of cherries I devoured in 3 days before we left (didn't want to miss the season).
-Got to San Jose around 8:30 pm. 2 hrs. behind EST. The immigration officer had a bit of trouble with the visa stamp that I DIDN'T need.
-Jeff picked us up in his rental car. Took about half an hour to get to Atenas. Checked in at Ana's Place, a guesthouse in town. $45/night including breakfast.
Showered, had a few beers, finally felt more like a human again.

Day 2: June 21, 2007

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ตื่นแต่เช้า nice breakfast อาหารเช้าอร่อยมาก ไข่เจียวไส้แฮมกับซัลซ่า ทานเสร็จขับรถออกจาก Atenas ลงไปชายหาด ถนนที่นี่เล็กแคบ แต่วิวสวยมากๆ ทุกอย่างเขียวไปหมด เมารถนิดหน่อย เจฟฟ์เข้าโค้งได้โหดมาก

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
วิวจากร้านขายอาหารที่เป็นจุดชมวิวระหว่างทาง


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


แวะซื้อผลไม้ที่ Orotina ได้ชิมน้อยหน่า ไม่อร่อยเท่าเมืองไทย ไม่หวานเนื้อแทบไม่มี แต่ดีใจมากที่เห็นชมพู่กระเทย กินคำแรกน้ำตาแทบไหล Taste of home!

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


แวะทานน้ำกันที่ร้านข้างถนนด้วย สั่งน้ำมะขาม ชื่นใจจริงๆ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
น้ำมะขามกับน้ำ cas ผลไม้พื้นเมือง


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
ร้านขายน้ำ


ขับรถไปจนถึง Hermosa Beach ทานอาหารกลางวันที่นั่น อร่อยดี ปลาสด

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
ชายหาด Hermosa


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ปล. ผู้หญิงที่นี่นอโอะมอโตมากๆ แต่พุงก็โตตาม เจฟฟ์บอกว่าเป็นผลมาจาก beans and rice ที่กินกันทุกวัน พุงโตไม่ว่าแต่เขาใส่เสื้อกางเกงกันฟิตสุดๆจริงๆ




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2550 9:25:29 น.
Counter : 1203 Pageviews.  

เตรียมตัวไปเที่ยว

วู้ฮู้ หมู่นี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ เผลอแป๊บๆ อีกอาทิตย์กว่าก็จะไปคอสตาริก้าแล้ววววววววววววววว ชักตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ สองอาทิตย์ก่อนที่เจฟฟ์(พี่ชายคุณสามีที่จะไปเที่ยวด้วยกัน)มาที่บ้าน เอาแผนที่มากางนั่งคุยกันแล้วว่าจะไปที่ไหนบ้าง ก็คงขึ้นภูเขาทางตอนกลางของประเทศนิดหน่อย กับโฉบๆอยู่แต่ทางฝั่ง Pacific Coast ทางตะวันตก เพราะทางนั้นยังมีชายหาดที่ไม่พลุกพล่านมากและคุณสามีก็กะไป boogie board โต้คลื่นเต็มที่ ช่วงนี้เป็นหน้าฝนของทางนั้น คลื่นเข้าทางใต้ เหมือนฮาวายเปี๊ยบ

วันก่อนคุณสามีถามๆอยู่ว่าอยากได้อะไรบ้างก่อนเดินทาง เราก็คิดๆสักพัก ก็บอกไปว่า บิกินี่ใหม่อีกสักชุดก็ดีนะ อ่ะ ก็ได้มาหนึ่งชุด สีแดงลายดอก จาก Marshall's เอามาเสริมทัพกับตัวลายขวางที่ซื้อสำหรับตอนกลับเมืองไทยเมื่อต้นปี จากนั้นก็คิดอีก อืม ไปตั้งสามอาทิตย์ ไม่รู้จะได้ซักผ้ารึเปล่า เอาขาสั้นมาอีกซักตัวก็ดี ตัวที่มีอยู่มันค่อนข้างเป็นทางการ แบบต้องรีดก่อนใส่ อ่ะ ก็ได้มาอีกตัว ดูไปดูมาได้เสื้อแถมมาอีกสี่ตัว ฮ่าๆๆ

ต่อมา คิดไปคิดมา อืม ถ้าคุณสามีออก boogie board เราก็ต้องหาอะไรทำตอนที่รออยู่ที่ชายหาดใช่มั้ย จะนอนอืดเป้นปลาพะยูนปิ้งอยู่ที่หาดเฉยๆก็คงไม่ดี อ่ะ งั้นขอซื้อหนังสือด้วย ก็ไปดูพวกหนังสือที่ถือว่าเป็น modern classic ทั้งหลาย เป็นหนังสือปกอ่อน ราคาไม่แพง ตอนแรกก็หยิบแต่ละเล่มแบบเนื้อหาหนักทั้งนั้น เช่น Crime and Punishment ของ Dostoevsky กับ สิทธัตถะ ของ Hesse คุณสามีมาเห็นก็ถามจะเอาจริงเหรอ เราก็บอก ก็อยากได้อะไรที่มันเบาๆ (light) หน่อยอ่ะ คือหมายถึงหนังสือปกอ่อน น้ำหนักเบาๆ ขนง่ายๆ เขาก็บอก เฮ้ย ที่เลือกมานี่มัน"หนัก" (heavy) ทั้งนั้นนะ เราก็ขำ บอกไม่ใช่ หมายถึงน้ำหนักนะ คุณสามีก็เลยบอกว่าน่าจะมีหมดแล้วไอ้เล่มที่เราหยิบๆเนี่ย แต่อยู่ที่ห้องเก็บของใต้ดิน เราก็ อ้าวเหรอ คิดอีกห้าวิ เออ อยากให้อ่านอะไรเบาๆใช่มะ งั้นเอาเล่มนี้ละกัน Confessions of a Shopaholic อิอิ อ่านสบายๆแน่นอน คุณเธอก็เลยอึ้งไปหน่อย เลือกหนังสือไม่ให้แบ่งกันอ่านเล้ย อีกเล่มที่หยิบก็ Sophie's World ซึ่งเคยอ่านนานมากแล้ว ชอบมากๆ เล่มเก่า(ที่แฟนเก่าให้มา) หายไปไหนไม่รู้ ซื้อเล่มใหม่เก็บไว้เลยดีกว่า

ต่อมาอย่างสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เอาไว้ฆ่าเวลาเหมือนกัน ของเล่นของรักของหวงชิ้นใหม่ .... iPod Shuffle จ้า ว่าจะซื้อๆอยู่หลายรอบแล้ว คราวนี้คุณสามีบอกซื้อเหอะ ตอนแรกจะซื้อนาโนให้ด้วยซ้ำ แต่เราบอกว่าเอา shuffle ก็พอน่ะ ใช้ฟังเพลงอย่างเดียว เอาไว้ใส่ฟังเวลาทำสวนด้วย เล็กๆดีกว่า ไม่อยากใช้ของดีๆแพงๆเวลาไปเที่ยวด้วย ก็เลยได้น้องป๊อดสีเขียวมะนาวมาครอบครองสมใจ ตอนซื้อมีบัตรของขวัญลดไป $25 แต่ตาดีไปเห็น memory card ใส่กล้องลดราคาอยู่ด้วยก็เลยหยิบมาด้วย เท่ากับว่าได้ memory card ฟรีกับได้ลดราคาน้องป๊อดไปอีกหน่อย

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ส่วนคุณสามีเองก็สั่งหนังสือของตัวเองไปสองเล่มทางอินเตอร์เน็ต เตรียมๆกันอย่างนี้นะ ไม่เคยได้อ่านหรอกเวลาไปเที่ยวที่ไหน

ของสุดท้ายที่อยากได้มานานและคุณสามีอนุมัติแล้วด้วยก็คือ กล้อง DSLR สองวันก่อนเขาบอกว่าจะซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด (นี่เขาไม่ได้มาอ่านโพสต์ที่แล้วที่รำพึงรำพันอยากได้กล้องใหม่เลยนะ เราไม่ได้บ่นดังๆด้วย ตอนแรกเขาอยากสั่งมาเซอร์ไพรส์แต่ตัวเองเก็บความลับไม่ไหว ขอบอกเอง ฮ่าๆ) แต่ไปดูแล้ว แพงจังเลย จริงๆก็แอบอยากซื้อก่อนไปเที่ยวเหมือนกัน เพราะคอสตาริก้าจะต้องสวยมีมุมให้ถ่ายรูปมากมายแน่ๆ แต่คุณสามีบอกว่าอย่าเลย ไม่อยากถือของมีค่าไปมาก เราว่ามันก็จริง แต่คอยดูนะ ไปถึงที่นั่น พอขึ้นเขาเห็นวิวสวยๆ ชายหาดงามๆ จะต้องเจ็บใจว่าทำไมไม่ซื้อกล้องใหม่ก่อนมาแน่นอน

ปล. เสื้อตัวแรกที่ชายเป็นลายดอกๆ นั่นซื้อเบอร์ใหญ่สุดของเด็ก

ปล. 2 เพิ่งทำแบนเนอร์ใหม่เสร็จ ติชมกันได้เลยค่า






 

Create Date : 10 มิถุนายน 2550    
Last Update : 10 มิถุนายน 2550 10:27:48 น.
Counter : 414 Pageviews.  

ว่ะ ฮ่ะฮ่า หัวเราะประชดชีวิตเรื่องวีซ่า

วันนี้ว่าจะเขียนเรื่องการขอวีซ่าท่องเที่ยวเข้า Costa Rica สำหรับคนที่ถือพาสปอร์ตไทยและมีกรีนการ์ดแบบเราว่าต้องใช้เอกสารอะไร ทำเรื่องอย่างไรบ้าง ก็เลยเข้าไปเช็คดูเว็บไซต์ของสถานทูตคอสตาริก้าอีกรอบ คลิกครั้งแรกหน้ามันไม่โหลดแฮะ ก็เลยกดรีเฟรช ที่เห็นก็คือมันว่าอย่างนี้ค่ะ

//www.costarica-embassy.org/consular/visa/consular_Visa.htm


New Visa Regulations

Effective May 23, 2007, nationals of countries that require a consular visa to enter Costa Rica are no longer required to apply for the visa, if the visitors are holders of:

  • A valid visa (multiple entries) to enter the United States of America (B1, F1, H1B, G4, etc.) and/or the European Union
  • A permanent residency (green card) in the United States of America and/or the European Union

The passport expiration date needs to be over 30 days from the day of arrival to the country.

Visitors are allowed to remain in the country for up to 30 days. All visa extensions should be requested at the Immigration Office in San José, Costa Rica.


สรุปก็คือ กฎใหม่เริ่มใช้วันที่ 23 พฤษภา ถ้ายูมีวีซ่าอยู่ในอเมริกาอย่างถูกต้องและมีกรีนการ์ด ยูก็เข้าคอสตาริก้าได้เล้ย ไม่ต้องขอวีซ่งวีซ่าอะไรทั้งน้านนนนนนนนนนนน

เห็นปุ๊บ แทบจะกระโดดสกายคิกจอคอมพิวเตอร์ (แต่ไม่กล้า กลัวไม่มีคอมพ์ใช้ ได้แต่หัวเราะประชดชีวิตกับกรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอยู่ในใจง่ะ) กรูจะบ้า อาทิตย์ที่แล้วอุตส่าห์ขับรถทั้งวันไปชิคาโกเพื่อให้ท่านกงศุลสแตมป์วีซ่าเซ็นชื่อในพาสปอร์ตแนุญาตให้เข้าเมืองได้อย่างให้สวยงาม เสียค่าน้ำมันค่าเดินทาง (toll บนไฮเวย์โคตรแพง) ไปเท่าไหร่กว่าจะได้ไอ้สแตมป์นี้มา ฮือ ที่สำคัญวันที่ไปที่กงศุลอ่ะ วันที่เท่าไหร่รู้มั้ยคะ May 23, 2007!!

ทำไม้ทำไมหนุ่มน้อยน่ารักใจดีที่สถานกงศุลไม่บอกกันเลยตอนโทรไปนัดว่าไม่ต้องมาก็ได้ เขาจะเปลี่ยนกฎแล้ว จะได้ไม่ต้องถ่อไปถึงโน่น มันเปลืองนะ รู้มั้ย!!




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 30 พฤษภาคม 2550 3:11:18 น.
Counter : 665 Pageviews.  

เข้าเมืองใหญ่ไปทำวีซ่าที่ Chicago

มีเรื่องให้ต้องเดินทางก่อนที่จะเดินทางค่ะ เอ...งงมั้งเนี่ย คือมีแพลนจะไปเที่ยว Costa Rica กับเจฟฟ์เดือนหน้าซักสามอาทิตย์ (หุหุ ตอนนี้เริ่มตื่นเต้นล่ะ ยังไม่เคยไปแถวๆนั้นเลย) แต่ก่อนที่จะไปจริงๆเนี่ย เราก็ต้องขอวีซ่าก่อนตามสไตล์ผู้ถือพาสปอร์ตของประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทยแลนด์ แลนด์ออฟสไมล์บ้านเรา (เมื่อไหร่ขอสัญชาติอเมริกันได้นะ จะรีบขอเลย ไม่ได้อยากเป็นพลเมืองที่นี่หรอกแต่อยากถือพาสปอร์ตเมกัน ไปไหนสะดวกดียกเว้นไปทางตะวันออกกลาง อาจไม่ปลอดภัยได้ ฮ่าๆ) ก็ค้นคว้าหาข้อมูลด้วยกูเกิ้ลตามเคยไว้ก่อน ก็ได้ความว่าต้องไปยื่นเรื่องด้วยตนเอง ไม่สามารถทำทางไปรษณีย์ได้ และสถานกงศุลที่อยู่ในเขต jurisdiction นี่ก็คือที่ Chicago เฮ้อ ทำไมไม่อยู่ใกล้ๆกว่านี้หน่อยก็ไม่รู้ ชิคาโกห่างจากบ้านประมาณ 400 ไมล์ ขับรถ 7 ชม. พอดีๆ แต่ทำไงได้ ยังไงก็ต้องไปอยู่ดี ก็เลยโทรไปถามเรื่องเอกสารแล้วก็นัดวันเวลากับสถานกงศุลไว้เป็นวันพุธตอน 11 โมง

วันอังคารก็เลยออกเดินทางกันแต่เช้าค่ะ เจ็ดโมงครึ่งกว่าๆ แวะซื้ออาหารเช้าตามทางอีกเหมือนเดิม ขับไปเรื่อยๆก็ถึงชิคาโกประมาณบ่ายสามได้มั้ง เนื่องจากคนละ time zone กันก็เลยได้เวลาแถมมาหนึ่งชม.

ขับเข้าเมืองก็จะเห็น skyline ของเมืองใหญ่ ตึกเพียบ เด็กกรุงเต้บเก่าอย่างเราชักตื่นเต้นรู้สึกกระชุ่มกระชวย ส่วนคนขับรถอย่างคุณสามีชักเครียดเพราะไม่ชอบเมืองใหญ่

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ขับเลียบทะเลสาป Michigan ไปเรื่อยๆก็ถึงโรงแรม Super 8 เจ้าเก่า คราวนี้จองแบบใช้คะแนนสะสมพักฟรี ห้องใหญ่ใช้ได้เลย สะอาดสะอ้านดี neighborhood ก็ดี พักผ่อนยืดเส้นยืดสายกันนิดหน่อยก็เดินออกมาหาอะไรทานกัน ไปเจอะร้านขายอาหารกึ่งฟาสต์ฟู้ดทั่วๆไปนี่แหละ อยู่ใกล้สถานีรถไฟ เดินเข้าไปในร้าน ดูเมนูปุ๊บเห็น bulgogi ฮั่นแน่ อาเจ้เจ้าของหน้าตาเป็นเกาหลีมากๆ ลูกมือเป็นเม็กซิกัน เอาวะ ยังไงบุลโกกิต้องอร่อยชัวร์ ก็เลยสั่งมา

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ส่วนคุณสามีสั่ง Philly cheesesteak ตามเคย

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ก็อร่อยทั้งคู่เลยโดยเฉพาะบุลโกกิ ข้าวก็เป็นข้าวซ้อมมือด้วย จานใหญ่นั่นเราทานหมดเลยเพราะหิวด้วยแหละ ทานกันเสร็จก็เข้าสถานีรถไฟ ซื้อตั๋วรายวันเอาไว้คนละ $5 จุดหมายปลายทางของเย็นนั้นคือ สนามเบสบอล U.S. Cellular ของทีม Chicago White Sox ที่อยู่ทางใต้ของตัวเมือง ก็นั่งรถไฟหวานเย็นไปเรื่อยๆ เล่นจอดซะทุกสถานีเลย กว่าจะไปถึงบอลพาร์คก็ใช้เวลาไปชั่วโมงนึงเต็มๆ อย่าถามว่าทำไมต้องมาดูเบสบอลนะคะ งานนี้เราตามใจคุณสามีเต็มที่ ใจจริงเราอยากไปเดินเล่น Michigan Avenue เข้าร้านเข้าห้างดูของ หาอะไรทานอร่อยๆในเมืองมากกว่า แต่คุณสามีเขาอยากดูเบสบอลก็ต้องตามใจเขาสักนิด คือถ้าเป็นแฟนเบสบอล ไปเมืองไหนที่มีทีมเบสบอลก็ต้องขอไปที่บอลพาร์คของเขาหน่อย

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
หน้าทางเข้า


สรุปว่าไปถึงตั้งแต่ไก่โห่เลย ห้าโมงเย็น เกมเริ่มตอนหนึ่งทุ่ม ก็ซื้อตั๋วที่ box office กัน ได้ที่นั่งใน club box ซะด้วย เรียกว่าทุ่มทุนมาก เราแอบเสียดายตังค์นิดหน่อย จริงๆตอนแรกว่าจะซื้อตั๋วผีสองใบยี่สิบแล้วเชียวแต่คุณสามีว่ามันไกลไป ก็เลยมาเสียตังค์ค่าตั๋วใบละ $46 เข้าไปแล้วลองดูไอ้ที่นั่งตั๋วผีที่จะซื้อนั่นมันอยู่เหนือหัวเราเองนี่หว่า -_-" แต่ก็ไม่เป็นไร เพิ่งเคยได้นั่งใน club box แบบนี้ ดีทีเดียวแหละ ห้องน้ำก็ไม่ไกล คนไม่เยอะ มีอาหารดีๆขาย มีคนเสิร์ฟที่ที่นั่งด้วย เสียดายมากๆที่ทานกันมาจนจุก ไม่รู้ว่าอาหารที่บอลพาร์คจะดูน่าทานและไม่แพงมากแบบนี้

ดูรูปสนาม คนยังไม่เยอะเลย

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


พอใกล้ๆทุ่ม คนก็เริ่มเยอะแล้วค่ะ รู้สีกวันนั้น attendance จะประมาณสามหมื่นสี่พันกว่าคน นี่ขนาดวันธรรมดานะ คนดูมากกว่าที่คลีฟแลนด์เยอะ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ก็ดูเบสบอลไป กินเบียร์ไปเรื่อย เชียร์ไม่มันเลยเพราะ White Sox คือคู่แข่งของอินเดียนส์ นั่งไปนั่งมาคุณสามีหิวก็เลยสั่ง Nachos มาทาน อร่อยดี

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


จนสามทุ่มกว่าก็กลับกันก่อนเกมจะเลิกเพราะไม่อยากถึงโรงแรมดึกมาก แล้วตอนนั้น White Sox ก็นำ Oakland A's อยู่หลายรัน ยังไงก็ชนะอยู่แล้ว

เดินกลับมาขึ้นรถไฟที่สถานี

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ดูรูปสนามเบสบอลอีกที

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ปิดท้ายด้วยรูปพานอรามา

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


วันรุ่งขึ้นตื่นมาก็ไปหาข้าวเช้าทานกันที่ coffee shop ใกล้ๆสถานีรถไฟ ชื่อร้าน Charmer's ก็ charming สมชื่อใช้ได้ ยกเว้นแต่ว่าเปิดเพลงอะไรก็ไม่รู้ร้องเหมือนแมวครวญครางใกล้สิ้นชีวิต น่ารำคาญไปหน่อย

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


สั่งเบเกิ้ลแซนด์วิชมาทานคนละอัน มากับชิกเคล็ตส์กล่องจิ๋วด้วย

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


จากนั้นก็ขึ้นรถไฟไปดาวน์ทาวน์

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
ทางขึ้นสถานีรถไฟ


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
ชานชาลา รีบถ่ายไปหน่อยได้มาแค่นี้แหละค่ะ


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
บนรถไฟ เก่าๆเหม็นๆหน่อย แต่ก็สะดวกดี


นั่งไปอีกครึ่งชม.ก็ลง เดินหาตึกสถานทูตอีกห้านาทีก็เจอ เข้าไปยื่นเอกสารแล้วก็รอเจอท่านกงศุลอีกครึ่งชม.ก็ได้สแตมป์วีซ่าในพาสปอร์ตมาครอบครอง เดี๋ยวเรื่องขอวีซ่าแยกเขียนอีกโพสต์ดีกว่านะ

ขากลับก็ถ่ายรูปบนรถไฟเพิ่มอีกหน่อย คุณสามีขอให้ถ่ายสนามเบสบอลอีกแห่ง Wrigley Field ของทีม Chicago Cubs เป็นสนามเก่าดูมีสเน่ห์มากๆอยู่ในเมืองเลย จริงๆอยากไปที่นี่มากกว่าที่ White Sox อีก แต่วันนั้นทีม Chicago Cubs ไม่ได้แข่งที่นั่น ตอนนัดทำวีซ่าไม่ได้คิด ไม่งั้นคงหาวันที่ไปดู Cubs แข่งที่ Wrigley field ดีกว่า

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


หลังจากนั้นก็ขับรถกลับบ้านค่ะ ตอนออกจากชิคาโกแอบบ่นๆไปว่าคิดถึงเมืองใหญ่ คิดถึง neighborhood เล็กๆที่เดินไปหน่อยก็หาของกินได้ ไม่ต้องขับรถตลอดเวลา ส่วนคุณสามีบอกว่าไม่เลย Just get me the hell out of here. เขาไม่ชอบเมืองใหญ่ ทนไม่ได้ด้วยซ้ำ เราสองคนต่างกันมากที่สุดก็คงตรงนี้แหละ






 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2550 2:43:27 น.
Counter : 1014 Pageviews.  

สามีพาเสียวเที่ยว Cedar Point (ตอนจบ)

มาเขียนต่อแล้วจ้า ต้องรีบเขียนให้เสร็จเพราะมีเรื่องใหม่มารอต่อให้เขียนแล้ว ใครที่ว่าตอนที่แล้วเสียวมากๆ ตอนนี้เสียวกว่าเดิม ฮ่าๆ

หลังจากเล่น Gemini เสร็จก็พักทานข้าวกลางวันกันแป๊บนึง คนอื่นก็ทานคอร์นด็อกกันแต่เราทานแค่เฟรนช์ฟรายอ่ะ
ทานมากไม่ไหว กลัวไปเล่นรถไฟเหาะอื่นๆแล้วออกหมด เสียดายอาหาร(ห่วยๆ)ราคาแพงขูดเลือดขูดเนื้อ จริงๆที่ Cedar Point นี่เขาให้เข้าออกได้กี่ครั้งก็ได้ คือถ้าออกแล้วอยากกลับเข้ามาใหม่ก็จะมีสแตมป์มือให้ (เหมือนเวลาไปเที่ยวเธคเนอะ) เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากประหยัด ไม่อยากเสียตังค์เยอะสำหรับอาหารห่วยๆ น้ำแพงๆ ก็เตรียมมาทานเองก็ได้ ไม่อยากแบกก็ทิ้งไว้ในรถ แล้วก็ออกไปทาน แต่ไหนๆก็ไหนๆนะ มาทั้งทีมันต้องได้ประสบการณ์ครบทุกด้าน ยอมหยวนๆเสียตังค์ไปเถอะ ทานกันเสร็จก็ไปต่อที่ ride นี้เลย

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
Magnum XL-200


สูง 205 ฟุต ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 72 ไมล์ต่อชม.ค่ะ ปีที่แล้วได้รับการจัดอันดับให้เป็นโรเลอร์โคสเตอร์รางเหล็กที่ดีที่สุดอันดับสามของโลก ก่อนขึ้นเราก็ปอดแหกอีกตามเคย คุณสามีหลอกล่อบอกว่านี่ขึ้นแม็กนัมเป็นอันสุดท้ายก็ได้ เดี๋ยวไม่บังคับล่ะ คือในใจเราก็คิดแหละว่ามันไม่เป็นไรและมันก็สนุกดี แต่ไอ้ความกลัวก่อนขึ้นเนี่ยมันห้ามกันไม่ได้ ยิ่งเห็นความสูงเนินแรกขนาดนั้น มันเสียวนะ แอบกลัวความสูงนิดๆด้วย แต่พอขึ้นนั่งแล้วรถมันไต่ขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ก็อดมองวิวข้างล่างไม่ได้ เออ มันสวยดีแฮะ มองลองไปเห็นชายหาดของทะเลสาปข้างล่างด้วย เห็นเกาะอีกต่างหากก็สวยดีนะ เสียวก็เสียวแหละเพราะนั่งบนรถไฟเหาะ มันโล่ง ไม่เหมือนอยู่บนตึกหรือในลิฟท์ แต่ยังไม่ทันได้ชื่นชมกับความงามของวิวมากนัก รถไฟมันก็ไต่ถึงจุดสูงสุด หลังจากนั้นก็ได้แต่คิดในใจล่ะค่ะ อารมณ์ประมาณว่า ...หายแล้วววววววว holy .....itttttttttttttttttt!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด กระจายตอนมันลงเนินแรกนั้นมาค่ะ แล้วมันไม่ได้มีแค่ที่เห็นแค่นั้น มันอีกหลายเนิน มีลอดอุโมงค์ด้วยอีกต่างหาก บางตอนก็เฉียดพื้นมากกกกก เหมือนกับจะชนพื้นเลย แต่สรุปว่ามันส์ดีแฮะ รถวิ่งแบบ smooth มากๆ

จากตรงนี้ก็เบรคกันสักนิด คุณสามีกับชัคไปเล่น Skyhawk คั่นเวลา เราไม่เอาเด็ดขาด ไอ้พวกแกว่งๆเป็นชิงช้าแบบนี้ ทำมึนแน่ๆ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
Skyhawk


แกว่งยังไงลองดูคลิปค่ะ


ถึงจะดูเดะๆ แต่ก็เล่นเอาคุณสามีเสียวไปเหมือนกัน เพราะมันเล่นแกว่งสูงซะเกิน 90 องศาอีกนะ

ชิงช้าสวรรค์ทั่วๆไปที่นี่ก็มีค่ะ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


แต่มันแกว่งซะขนานกับพื้นเลย เราบายอีกเหมือนกัน เล่นอย่างนี้ไม่ได้ มึนแน่ๆ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


หลังจากพักไปเล่นอันจิ๊บจ๊อยแล้วก็ได้เวลาเล่นของแรง Millenium Force

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


รูปอาจจะดูไม่ชัดว่ามันสูง แต่ Millenium Force นี่เรียกกันว่าเป็น giga-coaster ด้วยความสูง 310 ฟุต กับความเร็วสูงสุด 96 ไมล์ต่อชม. มีอีกสองเนินที่สูง 169 และ 182 ฟุต (ตึกหนึ่งชั้นก็ประมาณ 10 ฟุต) ลอดอุโมงค์สองที่ และเลี้ยวแบบทำมุม 122 องศาอีกสองโค้ง ว่ะฮ่ะๆ โหดมากๆ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ตอนที่ต่อแถวรอก็มีรถไฟวิ่งผ่านอย่างเร็วให้เสียวเล่น

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ตอนที่ใกล้ๆจะถึงคิวตัวเองเนี่ย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วค่ะ ทั้งสี่คนมองหน้ากันแบบว่า "What the heck are we doing here?" เราเองถึงกับต้องทำสมาธินับลมหายใจเข้าออกเพราะมันตื่นเต้นมากๆ กลัวว่าถ้าขึ้นไปแบบตื่นเต้นขนาดนั้นจะหัวใจวายซะก่อน ก็ได้ผลนะ สงบไปหน่อย พอก้าวลงไปนั่งก็ต้องทำใจสบายๆ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แถมที่นั่งของขบวนนี้ก็ดีเชียวนะ คือที่นั่งข้างหลังจะยกสูงขึ้นหน่อยเพื่อไม่ให้คนข้างหลังพลาดวิวเสียวเวลาลงเนิน จะได้เสียวทั่วถึงกันทั้งหมด ฮ่าๆ ตอนไต่ขี้นเนินนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย มันชันมากๆ คุณสามีบอกว่าถ้าแค่ตอนไต่ขึ้นเนินมันยังชันกว่าไอ้ตอนลงเนินของที่เล่นๆมาทั้งหมด แล้วมันจะเหลือเหรอ คราวนี้เราไม่ทำซ่าส์กล้าดูวิวข้างล่างแล้วอ่ะ เพราะมันขึ้นแบบชันมากๆ เหมือนนอนเลย เสียวๆๆ แต่ชัคยังอุตส่าห์พูดคอมเม้นท์อะไรเกี่ยวกับวิวอีกก็ไม่รู้ เรากับคุณสามีซึ่งก็ตื่นเต้นกันกันจนจุกแล้วเนี่ยตะโกนบอกชัคไปว่า "Shut uppppppp" ยังไม่ทันขาดคำรถมันก็ถึงจุดสูงสุด คราวนี้พูดอะไรไม่ออกแล้วค่ะ กลั้นหายใจ กรูเตรียมตัวกรี๊ดอย่างเดียว ตอนรถมันกำลังจะลงเนินนะ มันจะค้างอยู่จุดสูงสุดแป๊บนึง ก็จะเห็นเป็นภาพสโลว์โมชั่น มองลงไปเห็นรางยาวววววววววววข้างหน้า แล้วก็จะรู้สึกถึงแรงดึงของรถทั้งขบวน พุ่งปรื๊ดลงไป เร็วเอี้ยๆ (ขอโทษที่หยาบ แต่มันเร็วเอี้ยๆจริงๆ) เนินแรกก็เสียวสุดแหละ แต่หลังจากนั้นก็เสียวๆๆกรี๊ดๆๆต่อไปเรื่อยๆจนโค้งสุดท้าย เราแอบก้มหน้าเกือบตลอดทางเลยนะ แต่ก็ยังได้เห็นเวลามุดอุโมงค์กับเทโค้งแรงๆ เฮ่อ ลงมาจากรถขาแอบสั่นนิดๆด้วย แว่นตาที่สอดไว้ในกระเป๋าแจ็คเก็ตก็หล่นหายไปเรียบร้อย คาดว่าคงเป็นตอนเทโค้งแรงๆ แหม ตอนเล่นอันอื่นมันก็รอดมาได้เจอ Millenium Force เข้าเลยตกหายไปเลย

เดินลงมาแข้งขาสั่นกันพอประมาณ แต่ก็สะใจดี คุณสามีมาบอกที่หลังว่าไม่นึกว่าเราจะบ้าเล่นกับเขาด้วยเพราะขนาดเขาเองยังกลัวเลย หลังจากนี้ก็ไปเล่น Iron Dragon เดะเดะมาก ฮ่ะๆ เป็นรถกระเช้า ไม่มีตีลังกาแต่มีเลี้ยวโค้งเร็วๆสองสามที่ อ้อมเริ่มชิน ไม่มีกรี๊ดแล้ว อิอิ

สุดท้ายที่คุณสามีเล่นก็คือ Mantis

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


อันนี้เป็นแบบยืนนะ มีตีลังกากลับหัวหลายรอบอยู่ เราเห็นแล้วขอบายเลย เหนื่อยแล้ว คุณสามี ลอรี่กับชัคก็เลยเล่นกันสามคน เราคอยเก็บภาพอยู่ข้างล่าง

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
หน่วยกล้าตายทั้งสาม


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
ขึ้นไปแล้ว


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
กำลังจะลง


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
ลงมาแล้ววววววววว


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
ตีลังการอบที่หนึ่ง


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
รอบที่สอง


พอลงมาคุณสามีบอกว่าดีแล้วที่เราไม่เล่น เราคงตัวเล็กเกินไปด้วย เขาเห็นคนนึงตัวเล็กกว่าเราอีกไปเล่น แบบว่าที่ล็อกตัวยังหลวมๆอยู่เลย อึ๋ย ไม่เอาหล่ะ หลวมแบบนั้นแล้วโดนเหวี่ยงกลับหัว เสียวร่วงลงมาตายเลย

จากนี้เรากับคุณสามีก็พอแล้วค่ะ เมื่อยขา (คงเพราะเกร็งจัดเวลาอยู่บนรถไฟเหาะ ฮ่าๆ) ส่วนลอรี่กับชัคยังอุตส่าห์ไปเล่นอีกสองสามอย่างรวมถึง Power Tower ด้วย ตอนแรกคุณสามีกับชัคอยากเล่น Top Thrill Dragster ไอ้ที่สูงๆมากๆนั่นแหละ แต่เขาปิดซ่อมแซมไปช่วงบ่าย กว่าจะเปิดก็เย็นแล้ว เลยอดเลย

แถมรูปอื่นๆที่ถ่ายมาอีกหน่อย ในสวนสนุกก็มีเกมปาเป้า ยิงปืน ชิงรางวัลด้วยนะ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
ตุ๊กตายักษ์ ไม่รู้คนที่ได้ขนกลับบ้านกันยังไง


กับครอบครัวห่าน น่ารักเชียว
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
หลงมาตัวนึง


ออกจากปาร์คก็ไปทานอาหารเม็กซิกันที่ร้านใกล้ๆปาร์คกัน อร่อยใช้ได้เลยล่ะ วันนั้นกลับบ้านแบบเหนื่อยๆ วันรุ่งขึ้นตื่นมา เราปวดคอปวดไหล่ไปหมด Corkscrew ทำเอาปวดไปสองวันเลย แก่แล้วก็งี้แหละ แต่คราวนี้ภูมิใจในตัวเองมากที่เอาชนะความกลัว เล่นไปตั้งหกอย่าง คราวหน้าไปอีกรอบจะเล่นมากกว่านี้อีก อิอิ





 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 0:47:57 น.
Counter : 696 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

Thai Wahine
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




*สาว(ไม่)น้อยพลัดถิ่นมาอยู่เมืองเล็กๆในอเมริกา --> ตอนนี้หลงมาอยู่ตะวันออกกลาง เมือง Riyadh, KSA ค่ะ
*ชอบแฟชั่นแต่ไม่กล้าแต่งตัวตามแฟชั่นจ๋า --> ตอนนี้ต้องมาใส่ abaya คลุมหมดค่ะ
*ชอบเครื่องสำอางแต่ไม่กล้าแต่งหน้าตัวเองอีกแหละ -->ตอนนี้ก็ยังไม่แต่งหน้ามากค่ะ โดยเฉพาะถ้าเทียบกับสาวซาอุที่ปิดหน้ามิดชิด
*ชอบท่องเที่ยวแต่ยังไม่ได้เที่ยวที่ไหนเท่าไหร่เล้ย --> ตอนนี้ก็ยังฝันจะไปเที่ยวหลายๆที่ค่ะ ทั้งแอฟริกาทั้งยุโรป
*ชอบกินแต่มาอยู่ไกลอาหารที่อยากกินเหลือเกิน --> ตอนนี้ยิ่งหาอาหารที่อยากทานยากเข้าไปใหญ่เลย

ปล. wahine = woman ในภาษา Hawaiian ค่ะ



หลังไมค์ถึง Thai Wahine กดที่นี่




ขอขอบคุณ
Color Codes ของป้ามด
codes ง่ายๆสำหรับบล็อกจากป้ามด
codes แต่งบล็อกของคุณรำเพย





Friends' blogs
[Add Thai Wahine's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.