...แต่ละคืนวันที่ผันผ่าน มีเรื่องราวหลากหลายให้ค้นหา ...วานนี้ พรุ่งนี้ มินำพา ...เพียงรู้ว่า ทำวันนี้ให้ดีก็เพียงพอ ...มีความสุขกับทุกจังหวะของชีวิต
Group Blog
 
All blogs
 
ของจริง-ของปลอม หลักคิดแก้วิกฤต! จอนิ โอโด่เชา



อ่านเจอในหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับ 14 ม.ค. 2552....โดยเชตวัน เตือประโคน ได้ข้อคิดในการนำมาใช้กับชีวิตประจำวันมากขึ้น ลองอ่านดูครับ

"มติชนฉบับพิเศษ" ฉลองครบ 31 ปี "นานาทรรศนะ 11 ภาคไทยติดหล่มหรือพ้นวิกฤต" ออกมาบรรณาการท่านผู้อ่าน เมื่อครบรอบวันเกิด 9 มกราคม 2551 นำเสนอเรื่องราว คม ลึก ตกผลึก รอบด้าน กับ "ผู้รู้" จากรากหญ้าถึงเจ้าของรางวัลโนเบล ด้วย 11 เรื่องน่าสนใจ คือ 1.ศาสนา 2.สาธารณสุข 3.ปราชญ์ชาวบ้าน 4.ประชาชน 5.วิชาการ 6.เศรษฐกิจ 7.ยุติธรรม 8. คนรุ่นใหม่ 9.บันเทิง 10.กีฬา และ 11.โลก

หนึ่งในทรรศนะน่าฟัง คือ เสียงสะท้อนจากท้องถิ่น

เป็นเสียงจากประชาชน ผู้มีบทบาทอย่างสูงในขบวนการเคลื่อนไหว เป็นต้นว่า วัฒนธรรมชุมชน ป่าชุมชน การศึกษาชุมชน ฯลฯ

ชายวัย 67 ปี ซึ่งคนจากพื้นราบทั้งใกล้และไกล ต่างดั้นด้นขึ้นดอยเพื่อไปเยี่ยมคาราวะขอความรู้ หลายครั้งกับสื่อมวลชน ทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ นิตยสาร หลายครั้งกับนิสิต นักศึกษา ผู้มีประเด็นทำรายงาน สารนิพนธ์ วิทยานิพนธ์ ทั้งปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก และ อีกหลายๆ ครั้งที่ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางไปหาเขา - "จอนิ โอโด่เชา"

ในยามบ้านเมืองกำลังเผชิญวิกฤตอย่างนี้ "จอนิ" ยังมีอีกหลายความเห็น เป็นเสียงจากประชาชนที่ภาครัฐต้องเงี่ยหูรับฟัง

"จอนิ" อาศัยอยู่ที่ บ.หนองเต่า ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เมื่อก่อน เขาก็ไม่ต่างจากชาวบ้านทั่วไป คือทำงานก็หวังเงิน โดยลืมคำนึงถึงคุณค่าสำคัญของชุมชนตน

ครั้งหนึ่ง ชาวปกาเกอะญอผู้นี้เคยได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานรัฐ ให้ปลูกพืชเศรษฐกิจอย่าง กาแฟ ทำให้พื้นที่รอบบ้านเขากลายเป็นไร่กาแฟ ปลูกพืชชนิดนี้อย่างเดียว เป็นระยะเวลาถึง 10 ปี...

กว่าจะรู้ว่าตัวเองเดินมาผิดทาง!!!

"ตอนนั้นผมทำงานหาเงินอย่างเดียว ยิ่งปลูกกาแฟนานเข้ายิ่งรู้สึกว่าไม่เข้าท่า เพราะเห็นชาวบ้านบางคน ยิ่งลงทุนเพิ่มก็ยิ่งเป็นการเพิ่มหนี้ จากไม่เคยรู้จัก ธ.ก.ส. ก็ได้รู้จัก มีใบแจ้งหนี้มาทวงถึงบ้าน ผมรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ถ้าตัวเองต้องเป็นอย่างนี้ ไม่เอาดีกว่า เพราะเราเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

"จึงหยุดทำไร่กาแฟ หาเงินทางอื่น เปลี่ยนไปทำทัวร์ ขี่ช้าง-ล่องแพ ตอนนั้นผมมีช้าง 1 เชือก แพ 1 ลำ รวมคนที่เข้าหุ้นด้วยกันแล้ว มี ช้าง 28 เชือก แพ 300 ลำ ผมทำงานหนักหาเงิน ชาวบ้านก็ทำงานหนักหาเงิน เรียกได้ว่าทำงานหาเงินกันอย่างเดียว

...ปรากฏว่า ทำได้แค่ 6 ปี รู้สึกไม่ไหว เพราะการทำทัวร์แบบนี้ เป็นอะไรที่ผูกพันกับอนาคต สมมุติมีเงินทุน 10,000 บาท ต้องยืมคนอื่น 10,000 บาท มาลงทุนเพิ่มต่อๆ ไป ต้องมีเงินหมุน เพิ่มเรื่อยๆ ถ้าวันไหน ปีไหนไม่ลงทุนต่อก็พัง เปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมการค้ารถยนต์ ต้องลงทุนต่อต้องหาเรื่องลงทุนจนได้ จึงเลิกทำ" จอนิกล่าว

หลังจากไม่ประสบความสำเร็จกับกิจการทัวร์ จอนิก็ได้มานั่งขบคิด เขาได้สติว่า "คนเราเดิน 2 ขา" เป็นคน ต้องกินข้าว กินปลา กินน้ำ กินผัก ไม่ใช่กินอย่างเดียวเพราะจะเบื่อ และที่สำคัญ คนต้องกิน "ของจริง" เหล่านี้ หาใช่ "ของปลอม" ที่โฆษณาสร้างสรรค์กระตุ้นเร้าให้เราบริโภค

หลักคิดของจอนิสอดคล้องกับที่หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤษดากร ว่า "เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง"

เขาเลิกปลูกพืชเชิงเดี่ยวอย่างกาแฟ หันมาปลูกพืชผสมผสาน ทำให้ตอนนี้ พื้นที่แห่งเดียวกันนั้น ปกคลุมด้วยพืชพื้นถิ่นหลากหลายกว่า 50 ชนิด ซึ่งแม้จะไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างทันทีทันใด แต่ในระยะยาวก็ยังพอช่วยบรรเทา เงินทองเรียกได้ว่าแทบไม่ต้องใช้ เพราะ "ของจริง" เหล่านี้ ช่วยให้จอนิอยู่ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักคำว่า "พ่อค้าคนกลาง" หรือน้อยครั้งนักที่ต้องควักเงินซื้อของเข้าบ้าน

ชายสูงวัยบอกว่า ชีวิตคนเกี่ยวข้องกับดิน น้ำ ลม ไฟ เกี่ยวกับข้าวปลา อาหาร นี่คือ ของจริง แต่เงิน- อำนาจ นั่นคือของปลอม

"ของจริงกับของปลอม ลองเปรียบเทียบกันดูได้ง่ายๆ ตั้งแต่ลุงเด็ก กล้วยหอมราคาไม่เคยเกิน 10 บาท ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ให้กันกินฟรีด้วยซ้ำ แต่เครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด ถูกการโฆษณา บอกว่า ซู่ซ่า กินแล้วมีพลัง ราคาก็ขยับสูงเรื่อยๆ จนกระทั่งเจ้าของรวยไปแล้ว ทั้งที่จริงๆ ค่าผลิตแค่ 50 สตางค์ กล้วยคือของจริง ส่วนการโฆษณาโหมให้เครื่องดื่มชูกำลังจนคนมองว่าจำเป็นต้องบริโภคนั้นคือของปลอม" จอนิกล่าว และบอกติดตลกว่า ของปลอมนั้นมันล่อใจกว่า

ก่อนจะยกตัวอย่างของปลอมอีกอย่าง เช่น เกมส์ฟุตบอล

"ยิงเข้าประตูที ลูกละหลายสิบล้าน จนใครก็อยากเป็นเจ้าของสโมสรทีมฟุตบอล" ชายสูงวัยกล่าวเสร็จก็หัวเราะเสียงดัง

กับวิถีชีวิตของชาวชนเผ่า ชาวปกาเกอะญอผูกพันอยู่กับป่า จอนิ ได้หวนกลับสู่องค์ความรู้นี้ จนปัจจุบันสามารถเรียกได้ว่า เขาเป็นปราชญ์ที่รู้วิธีจัดการให้คนอยู่กับป่าได้ดีที่สุดผู้หนึ่ง

ผืนป่าบ้านหนองเต่า มีพื้นที่ราว 8,000 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ทำกิน 500 ไร่ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 4,000 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 3,500 ไร่ ไว้สำหรับเป็นพื้นที่ใช้งานอื่นๆ สำหรับรายละเอียดนั้น จอนิได้ถ่ายทอดไว้ในหนังสือ "ป่าเจ็ดชั้นปัญญาปราชญ์" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชุมชนไหน ท้องถิ่นไหน จะนำไปปรับใช้ เจ้าของภูมิปัญญาบอกว่า ไม่สงวนลิขสิทธิ์

สิ่งหนึ่งที่อดขอความรู้ไม่ได้ เมื่อมีโอกาสมาเยี่ยม จอนิ ถึงบ้าน คือ องค์ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ อย่างป่าเขาลำเนาไพร ด้วยชาวปกาเกอะญอนั้น เรียกได้ว่า เป็นชนเผ่าที่ผูกพันมากที่สุดกันป่ามากที่สุด ชาติพันธุ์หนึ่ง

กับบางคำถาม "คิดอย่างไรกับเรื่องโลกร้อน น้ำจะท่วมโลก ธรรมชาติถูกทำลาย โลกถูกทำร้าย?"

"มีคนบอกว่าน้ำจะท่วมโลก จริงๆ แล้ว น้ำท่วมโลกมาก่อนนี้แล้วตั้งหลายครั้ง แต่จะท่วมมาก ท่วมน้อย ท่วมที่ไหนนั่นไม่รู้ โลกเคยเกิดวิบัติภัย มีหลักฐานยืนยันว่าขนาดไดโนเสาร์ยังตาย คือ ถ้าเหตุการณ์ตอนนั้นดีและราบรื่นมาตลอด วันนี้ไดโนเสาร์ก็ยังคงต้องมีอยู่ มนุษย์พันธุ์ใหญ่ก็คงต้องมีอยู่ ไม่น่าจะสูญพันธุ์ไปพร้อมกับไดโนเสาร์"

ชาวปกาเกอะญอบอกว่า เมื่อก่อนมนุษย์มีอยู่ 3 พันธุ์ คือ 1.มนุษย์พันธุ์ใหญ่ รอยเท้ากว้างขนาด 1 ศอก 2.มนุษย์พันธุ์กลาง 3.มนุษย์พันธุ์เล็กคือมนุษย์ทุกวันนี้แหละ และมนุษย์นี่เองที่ทำให้โลกสูญสลายเร็ว ขึ้นอยู่ที่ว่าใช้ทรัพยากรเท่าไหร่ ยิ่งใช้อายุของโลกก็จะยิ่งสั้น เช่น ตอนนี้มนุษย์รู้จักเจาะน้ำมันมาใช้ แต่แทนที่จะค่อยเป็นค่อยไป กลับใช้เกินจนธรรมชาติผลิตไม่ทัน นั่นเป็นเพราะความเห็นแก่ตัว

วิธีการแก้ปัญหาระยะยาว ต้องแก้ที่มนุษย์ ให้คิดเอาบุญกุศลและชีวิตจริงเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เอาผลประโยชน์ อำนาจ เงินตรา มาก่อน



แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าจะเปลี่ยนแปลงได้ยาก พระพุทธเจ้าบอกว่า "ความเห็นแก่ตัวนั้น ติดตัวกับมนุษย์มานานแล้ว" เป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดซ้ำซาก อันมาจาก สุรา นารี การพนัน โดยความเห็นแก่ตัวก็อยู่ในส่วนของการพนัน นั่นเอง จอนิบอกว่า ถ้าจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ช่วยยืดอายุโลกให้ยืนยาวต่อไปได้ต้อง "ชะลออุตสาหกรรม"

"เราต้องระลึกเสมอว่า "คนเราเดิน 2 ขา" เทคโนโลยีมีใช้เกินความจำเป็นมนุษย์ที่เดิน 2 ขาแล้ว ต้องชะลอลง หันมาสนับสนุนเกษตรยั่งยืน เกษตรผสมผสาน ซึ่งเป็นของจริงสำหรับมนุษย์ พระพุทธเจ้าเห็นเรื่องนี้มานานแล้ว ว่าต้องเอาปัจจัย 4 อย่าง อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค มาก่อน แต่ตอนนี้ กลายเป็นว่าเราเอาปัจจัย 5 ปัจจัย 6 เข้ามาเร็วกว่าปกติ มาเต็มไปหมด การจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ จะช่วยยืดอายุโลกไว้ได้ คือ ชะลออุตสาหกรรมแล้วหันไปสนับสนุนภาคเกษตรให้มากขึ้น"

วันนี้ บนเทือกภูสูง จอนิ ยังคงอาศัยอยู่ในชุมชนเล็กๆที่เขาเกิด พยายามเปลี่ยนแปลงชุมชนแห่งนี้มาตลอด โดยการทำให้คนระถึงถึงคุณค่าที่แท้จริงของตน ไม่เห่อเหิมกับของปลอมล่อใจ ที่มาพร้อมกับกระแสโลกาภิวัฒน์เชี่ยวกราก ชายสูงวัยรวบรวมคน ตั้งเป็นกลุ่มเป็นก้อน ช่วยกันดูแลกันและกัน ตลอดจนพยายามสร้างความภาคภูมิใจให้กับลูกหลาน

ก่อนผู้มาเยือนจะกลับ ชายชาวปกาเกอะญอนำแผนที่มากางให้ดู

"นี่คือประเทศหนองเต่า" เขาบอกทีเล่นที่จริง "ผมได้ทำการสำรวจ พื้นที่ 8,000 ไร่ แบ่งเป็น ป่าอนุรักษ์ ป่าใช้สอย ที่ไร่ ที่นา ที่สูง หนอง ป่าช้า ไม้แต่ละชนิด 170 กว่าชนิด ภูเขาแต่ละลูกอยู่ตรงไหนบ้าง การทำอย่างนี้จะช่วยทำให้เราภูมิใจในบ้านเกิดตัวเอง เราต้องทำอย่างนี้ ต้องสร้างความภูมิใจตัวเองให้ได้ก่อน

"ถ้าทำไม่ได้ เราก็จะไม่ดูแล ในที่สุดก็จะต้องสูญเสียไป เราก็ต้องกลายเป็นคนรับจ้าง เป็นคนนอนใต้สะพานในที่สุด"

จากมติชนออนไลน์ 14 มค. 2552




Create Date : 15 มกราคม 2552
Last Update : 15 มกราคม 2552 11:14:45 น. 2 comments
Counter : 542 Pageviews.

 
แม้จะรู้สึกชื่นชมกับแนวคิดเรื่องของจริงกับของปลอม
แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า ของปลอมยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่


โดย: bondsp วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:11:44:07 น.  

 
ของปลอมคือของจริง ของจริงคือของปลอม
ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดาแต่ดูเหมือนธรรมดา


โดย: คนหนองเต่า IP: 124.176.138.158 วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:15:23:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

JazzLover
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




หนุ่มราศีมังกร เลือดกรุ๊ปโอ ตัวโต ขี้ใจน้อย เหงาบ้างเป็นบางอารมณ์ และชอบหาเพลงมาฟังแก้เหงาประจำ...ฟังเพลงทุกประเภท
New Comments
Friends' blogs
[Add JazzLover's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.