Group Blog
thai martial arts
All Blogs
นาย ขนมต้ม เป็นนิทาน มิได้มีตัวต้นในประวัติศาสตร์
ยอดนักดาบ ยางิว มาตาจูโระ
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ "มวยไทยสากล" พ.ต.ท.สมพงษ์ แจ้งเร็ว ต้อน 2 การเปลี่ยนแปลงของมวยสากล
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ "มวยไทยสากล" พ.ต.ท.สมพงษ์ แจ้งเร็ว (ตอน1
ไทยผมไม่ขอเป็น .....
กว่าจะเป็นคนไทย
ประวัติศาตร์2ทางพระยาละแวกอาจไม่ได้ถูกพระนเรศวรปฐมกรรม(บันทึกของสเปน)
ภาคเหนือตอนล่าง ไม่ถูก ภาคกลางตอนบน ไม่ผิด
พลิกประวัติศาสตร์แคว้นสุโขทัย แล้วชำระประวัติศาสตร์ไทย ตามหลักฐานจริงๆ เสียทีเถอะ
เรือนบรรเลง" สำนักฝึกดนตรีไทย สู้สงครามวัฒนธรรม
คนไทย และความเป็นไทยใน SEA
คนไทยเป็นใคร มาจากไหน? ในแผนที่ประวัติศาสตร์ (สยาม) ประเทศไทย
ดัดสันดานใคร? ครูหรือนักเรียน
ผู้พิทักษ์ความเป็นไทย และผู้ทรงภูมิเพี้ยนๆ
เสียงค้าน "ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น" ไม่ถึง 120 ปี
ขุนนางกรมท่าขวา พ่อค้ามุสลิม ควบคุม"การค้า"ทะเลอันดามัน ให้ราชอาณาจักรสยาม
เลิกพิทักษ์วัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมคนไทยก็มีชีวิตงดงาม
คัมภีร์ห้าห่วง วิถีดาบ มิยาโมโต้ มุซาชิ : บทแห่งดิน
คัมภีร์ห้าห่วง วิถีแห่งดาบ มิยาโมโตะ มุซาชิ : บทแห่งความว่าง
คัมภีร์ห้าห่วง วิถีแห่งดาบ มิยาโมโตะ มุซาชิ : บทแห่งน้ำ
คัมภีร์ห้าห่วง วิถีแห่งดาบ มิยาโมโตะ มุซาชิ : บทแห่งลม
ัคัมภีร์ห้าห่วง วิถีแห่งดาบ มิยาโมโตะ มุซาชิ : บทแห่งไฟ
“คัมภีร์ห้าห่วง” โดย มิยาโมโตะ มุซาชิ
โล้ชิงช้า ประเพณีประดิษฐ์ใหม่ของพราหมณ์สยาม
ท้องถิ่นก้าวหน้าแข็งแรงไม่ได้ หากไม่รู้จักข้อดี-ด้อยของตัวเอง
พลงดนตรีประวัติศาสตร์ ของ หลวงวิจิตรวาทการ
ชนชาติไทย มาแย่งดินแดนละว้า, มลายู ฯลฯ
ดนตรีไทย ในสังคมอำนาจควบคุมของ"รัฐ"
ระนาดมาจากกระบอกไม้ไผ่ เป็นมรดกร่วมของชาติพันธุ์สุวรรณภูมิ
มวยไท มวยสยาม มีมาแต่ใด?
นิโคล
Thaitanium - just holla
Blaze Of Glory - - Jon Bon Jovi
MV ระหว่างเราคืออะไร - ลิเดีย
ก่อน
ฉันอยู่ตรงนี้
ทะเลใจ
Volvo's The Hunt 2007 เฉลย เกมตามล่าหาขุมทรัยพ์
ฉัตร มาจากร่ม ร่ม มาจากใบบัว, เห็ด
กับปู่ย่าตายาย
มรดกโลก 2 แห่งใหม่ ควรยินดี แต่มียินร้าย
ความรู้และความรัก คุ้มครองความเป็นคนธรรมดา
เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ไม่เคยมีคำสาปแช่ง มัสยิดกรือเซะ มรดกอารยธรรมแห่งมหานครปัตตานี
การเมือง"เครือญาติ" จากมรดกโลก 2 แห่งใหม่ในอีสาน
ฝังศพใต้ต้นไม้...ใส่ปุ๋ยให้ดวงดาว
เถาวัลย์พันต้นฝรั่ง "แค่เรื่องตัวเองก็ยังไม่รู้"
พุทธศาสนาและสยาม ในรัฐธรรมนูญ
ติช นัท ฮันห์"ให้ตระหนักรู้ ใช้"พลังสันติ"จัดการอารมณ์
คนไทยเอาทั้งนั้น ยกเว้น"ของจริง"ที่เป็นแก่นสาร
พุทธศาสนา หรือ สันติภาพ?
ประวัติศาสตร์มีชีวิตและอารมณ์ ยุคล่าอาณานิคม และพระอภัยมณี
ห้องหนังสือกับมิวเซียม สร้างความรู้ด้วยความรัก
ศาสนาประจำชาติ ในคำปรารภรัฐธรรมนูญ
ความเป็นมาทางสังคมวัฒนธรรม ของ ที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา ภาคกลาง เริ่มแรกเรียกตัวเองว่า"คนไทย
เริ่มเรียกตัวเองว่า "คนไทย"
.ศ.1700 หรือ 800(+) ปีมาแล้ว ศาสนามวลชน พุทธ,อิสลาม ภาษากลาง ไทย, มลายู สำเภาจีน
รากฐาน-รากเหง้า รากแก้ว-รากหญ้า
ในทัศนะของข้าพเจ้า ครูที่แท้จริง
ความขัดแย้งเรื่องคนไทยมาจากไหน 2
ความขัดแย้งเรื่องคนไทยมาจากไหน
"กุลสตรี" พรหมจรรย์ สุจิตต์ วงษ์เทศ
ในทัศนะของข้าพเจ้า ทัศนะคติ และจิตใจที่กว้างขว้าง
อ. โอยาม่า ตำนาน คาราเต้ เคียวคุชิน ไค
ประวัติศาสตร์ไทย "ซ่อม"ฉบับเก่าหรือ"สร้าง"ฉบับใหม่
ความมั่นคงยงยืน ด้วยประวัติศาสตร์แห่งชาติฉบับใหม่
ในทัศนะของข้าพเจ้า ความคิดสร้างสรรณ์ และการอนุรักษ
ใน ทัศนะของข้าพ การศึกษาทีแท้จริง
ปีศาจคาบคัมภีร์มีสำนึกบกพร่อง ทางวัฒนธรรมสาธารณะ
ไพร่กระฎุมพี ลีลากลอนแบบสุนทรภู่ และพระอภัยมณี พิมพ์แจกงานพระเมรุ รัชกาลที่ 4
ลุยโลกคอดแคบเมืองไทย ชายฝั่งคลองวาฬถึงด่านสิงขร
ในทัศนะของ ข้าพเจ้า มวยไทย ต้องคนไทยดูแล?
ในทัศนะของข้าพเจ้า 2 มวยเด็ก
ในทัศนะของข้าพเจ้า
ลิเก มีกำเนิดในกรุงเทพฯ และประชาธิปัตย์
ยกย่อง"แม่-นาง" สร้างสมานฉันท์สุวรรณภูมิ
"ดนตรีมีคุณทุกอย่างไป"พระอภัยมณี "เป่าปี่" ด้วยปัญญาและความรักในสันติภาพ
เครือญาติชาติภาษา และลายเส้น ก่อนมีลายไทยในสุวรรณภูมิ
ศาสนาผี ศาสนาพุทธ และพื้นที่แคบสุดของประเทศไทย อยู่ตำบลห้วยทราย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สายเพ็ชร ยนตรกิจ มังกรร้ายเมืองโผวเล้ง
ประวัติศาสตร์ กีฬามวยไทย
ปลายทางของนักมวย
ยูยิตสู้ปะทะมวยไทย
ย้อนเวลากับบทสัมภาษแรกของฮิทสัน เกรซี่ ทอล์ค แบทเทิ้ล นาเบตะ
เปิด Blog กับบทสัมภาษนักสู้ทีแข้งแกร่งทีสุดในปฐพี
พลิกประวัติศาสตร์แคว้นสุโขทัย แล้วชำระประวัติศาสตร์ไทย ตามหลักฐานจริงๆ เสียทีเถอะ
วันที่ 04 มกราคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10891
คอลัมน์ สุวรรณภูมิ สังคมวัฒนธรรม
วัดมหาธาตุ ศูนย์กลางของรัฐสุโขทัย
ปรับปรุงจากบทนำหนังสือพลิกประวัติศาสตร์แคว้นสุโขทัย รวมบทความทางวิชาการของ นักวิชาการหลายท่าน เช่น รศ. ดร.ธิดา สาระยา, รศ. ศรีศักร วัลลิโภดม, ศ.ดร. นิธิ เอียวศรีวงศ์, ฯลฯ, สุจิตต์ วงษ์เทศ บรรณาธิการ สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2540
จนถึงทุกวันนี้ ประวัติศาสตร์ไทยของทางราชการยังยึดถืออย่างมั่นคงว่า ถิ่นกำเนิดของคนไทยอยู่ทางทิศเหนือขึ้นไปตั้งแต่เทือกเขาอัลไตถึงอาณาจักรน่านเจ้า เหตุที่ต้องอพยพหนีลงมาจากน่านเจ้าเพราะถูกกองทัพจีนรุกราน เมื่อเข้ามาถึงดินแดนประเทศไทยทุกวันนี้คนไทยต้องตกเป็นทาสเขมรกับมอญก่อน ภายหลังจึง "ปลดแอก" จากเขมร แล้วสถาปนากรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรกของไทยเมื่อราว พ.ศ.1800 ประวัติศาสตร์ไทยอย่างนี้ยังเผยแพร่ทั่วไปทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียนแล้วบังคับให้เชื่อถืออย่างศิโรราบ
แต่น่าเสียดายที่หลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีไม่สนับสนุนให้เชื่อถือตามที่ทางราชการของประเทศไทยเผยแพร่ได้เพราะ
ประการแรก อาณาจักรน่านเจ้าไม่ใช่ของคนพูดภาษาตระกูลไทย แต่เป็นของกลุ่มชนพื้นเมืองที่พูดภาษาตระกูลอื่นๆ เช่น จีน-ทิเบต หรือพม่า-ทิเบต ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณนั้นมาแต่ดั้งเดิม ถ้าจะมีคนพูดภาษาตระกูลไทยอยู่บ้างก็เป็นพวกที่อยู่ตามพรมแดนแล้วถูกต้อนไปเป็นข้าทาสใช้แรงงานซึ่งมีอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประการที่สอง กองทัพจีนยึดอาณาจักรน่านเจ้าได้เมื่อราว พ.ศ.1797 มีจารึกที่น่านเจ้าระบุว่า ฝ่ายจีนตั้งเชื้อสายเดิมให้เป็นเจ้าปกครองบ้านเมืองต่อไปในชื่ออาณาจักรต้าหลี่สืบเนื่องต่อมาอีกนาน ถ้าหากคนไทยหนีจากอาณาจักรน่านเจ้าลงมาจริงก็ไม่น่าจะผ่านดินแดนอาณาจักร
คุนหมิงที่เมืองคุนหมิงลงมาได้ และไม่น่าจะผ่านดินแดนโยนกบริเวณเชียงราย-พะเยา สมัยโบราณที่กลุ่มชนใหญ่ปกครองตนเป็นอิสระมาได้อีก และถึงจะผ่านมาได้ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะสร้างแคว้นสุโขทัยได้ในปี พ.ศ.1800 ซึ่งหลังจากอาณาจักรน่านเจ้าแตกเพียง 3 ปีเท่านั้น ฟังแล้วเป็นเรื่องตลกมากกว่า
ประการที่สาม ถ้าคนไทยที่อพยพลงมาจากน่านเจ้าแล้วมาสร้างกรุงสุโขทัยจริงๆ ทำไมศิลาจารึกสมัยสุโขทัยซึ่งมีหลายหลักไม่เคยเอ่ยถึงอาณาจักรน่านเจ้าเลย ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงที่น่าสงสัยก็ยังไม่พูดถึงบ้านเมืองเดิมที่ยิ่งใหญ่อย่างอาณาจักรน่านเจ้า
กล่าวโดยสรุปแล้ว เรื่องเทือกเขาอัลไตกับเรื่องน่านเจ้า เป็น "นิยายอิงประวัติศาสตร์" ที่สังคมไทยยุคที่ถูกปกครองโดย "เผด็จการคลั่งชาติ" ใช้เป็นเครื่องมือในการปกครองเท่านั้น ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อ แต่เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าคิด ว่าทำไมพวกเผด็จการต้องเขียนประวัติศาสตร์ไทยอย่างนั้น? ประวัติศาสตร์อย่างนั้นช่วยให้ปกครองประชาชนได้มากน้อยขนาดไหน? แล้วส่งผลร้ายต่อสังคมไทยอย่างไรบ้างทั้งในยุคนั้นและยุคนี้?
แต่ก็ยังมีคำถามว่าถ้าเช่นนั้น คนไทยมาจากไหน
คำอธิบายเรื่องนี้ต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจผู้คนชนเผ่าในภูมิภาคอุษาคเนย์สมัยโบราณ
แผนที่ประเทศไทยแสดงพื้นที่ภาคกลาง ที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา
คนไทยอยู่ที่นี่ ที่อุษาคเนย์
บริเวณที่เป็นภาคใต้ของประเทศจีนทุกวันนี้ สมัยโบราณไม่ใช่ดินแดนจีน เพราะเอกสารจีนโบราณหลายฉบับระบุตรงกันว่า เป็นถิ่นฐานของพวก "ป่าเถื่อน" มากมายหลายเผ่าพันธุ์ รวมทั้งพวกพูดตระกูลภาษไทยด้วย
จดหมายเหตุ "หมานซู" ของฝันฉัว แต่งเป็นภาษาจีน เมื่อ พ.ศ.1410 มีความโดยสรุปว่า ตั้งแต่บริเวณมณฑลยูนนานลงมาถึงภูมิภาคอุษาคเนย์ปัจจุบัน ถือเป็นดินแดนเดียวกันของพวกหมาน ไม่ใช่ของพวกจีนหรือฮั่นที่เพิ่งขยายอำนาจลงมาครอบงำปราบปราม แล้วผนวกเอาผู้คนและดินแดนไปเป็นของจีนในสมัยหลังๆ
หมาน-เป็นชื่อโบราณที่จีนใช้เรียกมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว หมายถึงชนชาติต่างๆ ทั้งหลายที่ไม่ใช่จีนหรือฮั่น และล้วนอยู่ทางถิ่นใต้ คือตั้งแต่มณฑลยูนนาน ทุกวันนี้จนถึงฝั่งทะเลของอุษาคเนย์โดยไม่ระบุเผ่าพันธุ์ และมักมีความหมายดูถูกว่าเป็นพวก "ป่าเถื่อน"
บริเวณภาคใต้ของจีนตั้งแต่มณฑลยูนนานและดินแดนใกล้เคียงกับบริเวณที่เป็นอุษาคเนย์ มีรูปแบบทางวัฒนธรรมเกี่ยวข้องกันมาช้านานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์โดยเฉพาะยุคโลหะตอนปลายที่พบโบราณวัตถุทำด้วยสำริดมีรูปแบบคล้ายคลึงกัน เช่น กลองทองหรือมโหระทึก แสดงให้เห็นว่ามีการติดต่อไปมาหาสู่กันทั้งทางบกและทางทะเล
สรุปว่า บริเวณภาคใต้ของจีนนับตั้งแต่มณฑลยูนนาน รวมทั้งดินแดนใกล้เคียง เช่น มณฑลกวางสีกับมณฑลกวางตุ้ง ต้องนับเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาค "อุษาคเนย์สมัยโบราณ" ที่มีดินแดนประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านรวมอยู่ด้วย
และเป็นที่รู้ว่า "ชนชาติไทย" ก็คือพวกพูดตระกูลภาษาไทยที่ถูกจัดเป็นพวก "ป่าเถื่อน" พวกหนึ่งอยู่ในภูมิภาคนี้มาแต่โบราณด้วย ฉะนั้น "ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย" จึงไม่ได้มีขอบเขตจำกัดอยู่ใน "กรอบ" ทางประวัติศาสตร์ของประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ แต่มีอาณาบริเวณกว้างขวางแผ่ไพศาลจนเป็นส่วนหนึ่งของ "ประวัติศาสตร์ภูมิภาคอุษาคเนย์สมัยโบราณ"
ภูมิภาคอุษาคเนย์สมัยโบราณ นับตั้งแต่มณฑลยูนนานและดินแดนใกล้เคียงลงมาถึงชายทะเลเป็นถิ่นฐานของชนเผ่า "ร้อยจำพวก" หรือ "ร้อยพ่อพันแม่" หมายถึงมีจำนวนมากเป็นร้อยๆ เผ่าพันธุ์จนนับไม่ถ้วน มีทั้งพวกมอญ-เขมร พูดพม่า-ทิเบต หรือจีน-ทิเบต พูดม้ง-เย้า พูดไทย-ลาว หรือจ้วง-ต้ง และ ฯลฯ
เอกสารจีนโบราณเมื่อประมาณ 3,000 ปีมาแล้ว เรียกรวมๆ พวกนี้ว่า "ไป่เยะ" แปลว่า "เยะร้อยเผ่า" หรือ "เยะร้อยจำพวก" หรือ "เยะร้อยพ่อพันแม่" นั่นเอง
จะเห็นว่าถิ่นฐานของชนชาติไทยกระจายอยู่ตามลุ่มน้ำสำคัญทางตอนใต้ของจีน หรือทางตอนเหนือของภูมิภาคอุษาคเนย์ แล้วเคลื่อนย้ายไปมาผสมกลมกลืนกับกลุ่มชนพื้นเมือง
แต่การ "เคลื่อนย้าย" ไม่ใช่ "อพยพ" แบบถอนรากถอนโคนจากที่เดิมสู่ที่ใหม่ หากเป็นเพียงการเคลื่อนย้ายของผู้คนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ผู้คนส่วนใหญ่ยังกระจัดกระจายอยู่ที่เดิม
ถิ่นฐานของชนชาติไทยกระจายอยู่ใกล้แหล่งอารยธรรมดั้งเดิมของภูมิภาคอุษาคเนย์สำริด-เหล็ก ทางภาคใต้ของจีนปัจจุบัน และเป็นอารยธรรมร่วมกับคนอีกหลายชนชาติที่มีหลักแหล่งในที่ราบลุ่มเดียวกัน
ฉะนั้น ร่องรอยทางวัฒนธรรมที่พบตามแหล่งต่างๆ จึงไม่ใช่ของชนชาติไทยเท่านั้น หากเป็นของคนหลายชนชาติ แต่มีชนชาติไทยเป็นกลุ่มใหญ่เพราะตั้งถิ่นฐานกระจายอยู่กว้างขวางรวมอยู่ด้วย ทำให้มีการยอมรับ "ภาษาไทย" ของชนชาติไทย ที่ไม่ซับซ้อนและอ่อนไหวต่อความเปลี่ยนแปลง จึงมีศักยภาพเป็นภาษาในการสื่อสาร
คนหลายชนชาติที่ใช้ภาษาในการสื่อสารเหล่านี้ ต่อมาถูกเรียกจากคนกลุ่มอื่นว่า "สยาม" เมื่อเคลื่อนย้ายมาประสมกลมกลืนกับคนพื้นเมืองแถบลุ่มแม่น้ำโขงและลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา คนทั้งหมดที่สื่อสารกันด้วยภาษาไทยจึงถูกเหมารวมเรียกว่า "สยาม" ไปด้วย และในทางกลับกันพวกสยามที่ประกอบด้วยคนหลายเผ่าพันธุ์ก็ถูกเรียกว่า "ไทย" เพราะพูดจาสื่อสารด้วยภาษาไทย
ด้วยเหตุดังกล่าวจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "ไทยสยาม" เพื่อให้แตกต่างจาก "ไทยน้อย" และ "ไทยใหญ่" เพราะในระยะเริ่มแรกพวก "ไทยสยาม" คงเป็นชนชาติไทยพวกเดียวกับ "ไทยน้อย" และ "ไทยใหญ่" แต่เมื่อประสมกลมกลืนกับบรรดาชนเผ่าและชนชาติพื้นเมืองดั้งเดิมกับพวกอื่นๆ ที่เคลื่อนย้ายเข้ามาใหม่แล้ว พวก "ไทยสยาม" จึงแตกต่างจาก "ไทยน้อย" และ "ไทยใหญ่"
แม้คนบางกลุ่มโดยเฉพาะชนชั้นสูงและชนชั้นปกครองจะเรียกตนเองว่า "คนไทย" โดยมี "ภาษาไทย" เป็นภาษาสำคัญเพื่อการสื่อสารภายในประเทศ แต่คนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้ทึกทักว่าคนทั้งหมดของประเทศเป็น "คนไทย" และบ้านเมืองเป็น "ประเทศไทย" หากยังคงเรียกกันว่า "ชาวสยาม" และ "กรุงสยาม" หรือ "ประเทศสยาม" เรื่อยมา
ต่อมาในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เปลี่ยนชื่อ "ประเทศสยาม" เป็น "ประเทศไทย" พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์ของประเทศขึ้นมาใหม่ คือให้ความสำคัญเฉพาะ "ชนชาติไทย" เป็นหลัก แต่ไม่ให้ความสำคัญเรื่อง ดินแดนและผู้คนซึ่งประกอบด้วยชาวพื้นเมืองดั้งเดิมและกลุ่มชนชาติพันธุ์อื่นๆ ที่เข้ามาประสมกลมกลืนจนกลายเป็นชาวสยามหรือ "คนไทย" สืบมาถึงปัจจุบัน
ฉะนั้น บรรพชนของ "คนไทย" ทุกวันนี้คือ "ชาวสยาม" ที่มีทั้งเม็ง-มอญ ขอม-เขมร ลัวะ-ละว้า ข่า-ช้อย ลาวและ "แขก" อย่างมาเลย์ จาม รวมทั้งเจ๊ก-จีน ฯลฯ คนพวกนี้เกือบทั้งหมดมีถิ่นฐานเป็นคนพื้นเมืองอยู่ในดินแดนประเทศไทยนี้มาแต่ดั้งเดิม ส่วนน้อยมาจากที่อื่น แต่ก็อยู่ที่นี่มาช้านาน แล้วต่างก็มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง และดูเหมือนจะมีจำนวนมากกว่าพวกที่เป็นชนชาติไทยเสียอีก
เพราะฉะนั้น บรรพชนคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากที่ไหน เพราะอยู่ที่นี่ แม้จะมีชนชาติไทยอยู่ที่โน่นด้วย คือกระจายอยู่นอกประเทศไทย แต่พวกนั้นก็ไม่ได้อพยพหลบหนีการรุกรานมาจากไหน ล้วนมีถิ่นฐานอยู่ที่โน่นบ้างอยู่ที่นี่บ้าง คืออยู่ในภูมิภาคอุษาคเนย์มาแต่ครั้งดั้งเดิมดึกดำบรรพ์อย่างน้อยก็ 3,000 ปีมาแล้ว
แล้วก็มีคำถามตามมาอีกว่า ถ้าอย่างนั้นแคว้นสุโขทัยมาจากไหน? กรุงศรีอยุธยาล่ะมาจากไหน?
คำอธิบายเรื่องนี้ ไม่ยาก แต่ไม่ง่ายที่จะทำความเข้าใจ
พลิกประวัติศาสตร์แคว้นสุโขทัย
กรมศิลปากรเคยจัดสัมมนาทางวิชาการเรื่องสุโขทัยครั้งใหญ่ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 มีนักปราชญ์ราชบัณฑิตไปร่วมมากมายหลายท่าน
หลังจากนั้น ความก้าวหน้าทางวิชาการเรื่องสุโขทัยเงียบไป เงียบจนน่ากลัว แต่มีเรื่อง "อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย" โด่งดังขึ้นมาแทน ควบคู่ไปกับอำนาจและอิทธิพลของ "วัฒนธรรมท่องเที่ยว" โด่งดังจนนักวิชาการต้องหวาดผวา เพราะหลักฐานทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ที่ค้นพบใหม่หมดความสำคัญ ไม่ได้รับการเหลียวแล และไม่มีใครใส่ใจ ราวกับว่าทุกคนพอใจให้แคว้นสุโขทัยเป็น รัฐในอุดมคติ" อยู่แค่นั้น คือหล่นลงมาจากฟากฟ้าสรวงสวรรค์เมื่อราว พ.ศ.1800 ด้วยผลของการอพยพของชนชาติไทยแท้ๆ จากอาณาจักรน่านเจ้าโน่น ต่อจากนั้นก็มีประเพณีลอยกระทง โดยนางนพมาศ "สนมพระร่วง" และอื่นๆ ฯลฯ เพื่อให้ความเป็น "รัฐในอุดมคติ" มีอยู่จริง
แต่หลักฐานไม่มี ที่มีอยู่คือความเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ สุดแต่ใครจะมีอำนาจฝันขึ้นมา
การศึกษาเกี่ยวกับกำเนิดของแค้วนสุโขทัยวนเวียนอยู่แต่เรื่องการอพยพ วัด วัง และความเป็นไทยแท้ที่ไม่มีอยู่จริงในโลก แต่อธิบายไม่ได้ว่าทำไมแคว้นสุโขทัยเป็นรัฐที่มั่งคั่งเพราะมีการสร้างวัดมากมายเหลือเกิน แล้วสร้างซ้ำซ้อนกันมากี่ครั้ง กี่หน ประเด็นสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือทำไมชาวแคว้นสุโขทัยถึงมีความรู้และความสามารถถลุงโลหะสำริดได้สวยงามและยิ่งใหญ่ เขาเอาความรู้เรื่องโลหะมาจากไหน อนึ่ง ทำไมเมืองสุโขทัยถึงมีการจัดผังเมืองได้อย่างวิเศษ ฯลฯ
ประวัติศาสตร์ไทยมักบอกว่า กรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรกของคนไทย เมื่อแคว้นสุโขทัยล่มสลายลงแล้วก็เกิดกรุงศรีอยุธยาขึ้นมาแทนที่ นี่เลอะเทอะ เพราะกรุงสุโขทัยไม่ใช่ราชธานีแห่งแรกของคนไทย ในยุคกรุงสุโขทัยมีขึ้นมายังมีบ้านเมืองแว่นแคว้นของตระกูลไทย-ลาวอีกหลายแห่ง อย่างน้อยก็มีแคว้นละโว้-อโยธยาที่มีพัฒนาการเป็นกรุงศรีอยุธยาอยู่ด้วย
ราชวงศ์ที่ปกครองสุโขทัยกับละโว้-อโยธาหรืออยุธยา มีความขัดแย้งกันมาตั้งแต่สมัยแรกๆ ต่อมาราชวงศ์ในกรุงศรีอยุธยาที่มาจากสุพรรณภูมิเป็นใหญ่เหนือสุโขทัย ราชวงศ์สุโขทัยถูกลดอำนาจกลายเป็นขุนนางอยู่ในพระนครศรีอยุธยา แต่ด้วยความขัดแย้งทางการเมืองภายในกรุงศรีอยุธยาเองทำให้ราชวงศ์สุโขทัยยึดอำนาจกรุงศรีอยุธยาได้ แล้วสถาปนาราชวงศ์สุโขทัยขึ้นปกครองกรุงศรีอยุธยา พร้อมทั้งอพยพไพร่พลครอบครัวจากเมืองสุโขทัยลงมาเป็นประชากรอยู่ในกรุงศรีอยุธยา แคว้นสุโขทัยก็ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์ แต่ไม่ได้หมดราชวงศ์สุโขทัย หากได้ขึ้นเป็นใหญ่ปกครองกรุงศรีอยุธยาต่างหาก
ก็เรื่องสมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดาสมเด็จพระนเรศวรนั่นยังไง อย่าแกล้งทำเป็นลืม
หน้า 34
Create Date : 04 มกราคม 2551
Last Update : 17 ตุลาคม 2554 22:05:14 น.
0 comments
Counter : 3408 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
win_mma
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
win_mma
win_mma
Webmaster - BlogGang
[Add win_mma's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.