"คาร์เล็ตโต้" กับเหลี่ยมเพชรที่ยังรอการพิสูจน์
ระหว่างที่เมื่อคืนผมนั่งถ่างตาดูเชลซีทีมรักกะซวกไส้แมวดำคาถิ่นอีสานนั้น เพื่อนผมที่เป็นแฟนปืนผู้น่ารักน่า Thief ก็ส่งแมสเซจมากระเซ้าอยู่เป็นระยะๆ"กัลลาสใช้แค่หลังโหม่งยังเข้าเลยนิ เมพขิงๆ" "พระเจ้าช่วย! ยิงที่สกอตแลนด์ สกอร์ไปขึ้นที่ซันเดอร์แลนด์ได้ไงวะ 555+" ใช่ครับ ช่วงนาทีที่วิลเลี่ยม กัลลาสใช้หนอกหลังสะกิดบอลเปลี่ยนทางให้ไอ้ปืนโตนำเซลติค เป็นเวลาเดียวกันกับที่ดาร์เรน เบนท์ แมวโหดตัวดำ (ดำจริงๆนะ) กระหน่ำลูกหนังผ่านกำแพงหินอย่างเฮียเช็คเข้าไปจนภาคอีสานของฝรั่งหัวทองสั่นสะเทือนยิ่งกว่าอดีตนายกฯโฟนอินเข้ามาที่ขอนแก่นซะอีกนะครับ พร้อมๆกับเสียงทอดถอนใจของใครบางคนที่นั่งเซ็งเป็ดอยู่ที่เมืองไทยด้วย มันเหมือนเป็นการรับน้องใหม่แบบชิลๆ จากรุ่นพี่ผู้เชี่ยวกรากในเวทีพรีเมียร์ลีก อย่างสตีฟ บรูซ ที่มีให้กับน้องใหม่ไฮ-โปรไฟล์จากอิตาลีอย่างอันเชลอตติยังไงไม่รู้นะครับสี่นัดในแดนผู้ดี เฮียอันเช่ โดนรับน้องด้วยการโดนกระทำชำเราหลังบ้านไปแล้วเหนาะๆ 6 แผลเข้าไปแล้ว เริ่มจากการถูกเรดดิ้ง กับ แมนฯยูฯ สอยไปทีมละ 2 เม็ด ก่อนจะมาถูกกระตุกหนวดสิงห์โดยฝีมือของพี่เสือโทนี่ กับพี่แมวมีโอ อีกคนละหนึ่งเส้นหนำซ้ำ ทั้งสี่นัดที่ว่ามานั้น สิงห์บลูส์เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำไปก่อนอีกตะหาก หรือถ้าจะเอาให้ดูเลวร้ายปานตัวอิจฉาในละครหลังข่าว ก็ต้องนับทุกรายการตั้งแต่ปรีซีซั่น หลักฐานนั้นบอกว่าตั้งแต่ทีมเปลี่ยนมาเล่นระบบกองกลางไดมอนด์ มีเพียงแค่สองนัด จากการดวดกับสองยอดทีมจากอเมริกาเท่านั้น ที่เชลซีรักษาความบริสุทธิ์กลับออกมาจากสนามให้เฮียอันเช่ได้ยิ้มกับเขาบ้างซึ่งนับว่าไม่ควรค่าแก่การภาคภูมิใจเท่าไหร่นักนะครับ เพราะมาตรฐานนั้นแตกต่างกันค่อนข้างมากทีเดียว แต่หากเราลองมองโลกทั้งใบ มองเหรียญสองด้าน เราจะพบว่าบางทีอาจไม่มีอะไรร้ายแรงขนาดนั้นก็ได้การโดนดึงให้ลงมาขลุกขลัก และต่อสู้กับโลกแห่งความโหดร้ายของพรีเมียร์ลีกแต่หัววันอย่างนี้ มันอาจเป็นการเตือนเฮียอันเช่ให้ทำการบ้านกับบอลอังกฤษให้มากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้เพราะจากการที่ผมติดตามดูเชลซีในฤดูกาลนี้ตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นเป็นต้นมา ผมกลับพบว่า ระบบไดมอนด์เริ่มคุ้นเคยกับนักเตะในทีมบ้างแล้วนะครับ ส่วนพรหมจรรย์ที่รักษาไว้ไม่ได้ในเกมลีกทั้งสองนัดนั้น ผมมองว่ามันเกิดจากเหตุสุดวิสัยและจังหวะบอลมันเป็นใจให้กับคู่แข่งมากกว่าแต่พัฒนาการของแดนกลางที่เริ่มกระจายกองกำลังกันคุมเกมและเก็บบอลในจุดยุทธศาสตร์ได้เนียนตาขึ้นบ้างนี่ซิครับ ที่น่าจับตามองฐานเพชรที่สำคัญที่สุดในระบบไดมอนด์ ไม่ให้กลายเป็นไดมั่ว เฮียอันเช่ค้นพบแล้วครับว่าเอสเซียง น่าจะเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว หากคัดเลือกจากทรัพยากรที่มีอยู่ในมือตอนนี้ โดยมีมิเคล หรือคนอื่นๆคอยสแตนด์บาย ยามเจ้าไบซันขาดลามาสายขณะที่การยัดจอมทัพทั้งสามชาติลงไปพร้อมๆกัน กลับเวิร์คไม่ใช่น้อยเลยนะครับ สำหรับเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา มันดูเป็นระบบมากกว่าที่ผ่านมาเยอะทีเดียว การวิ่งทับไลน์หรือการทับตำแหน่งกันระหว่างทั้งสามหน่อ เกิดขึ้นให้เห็นน้อยครั้งลงกว่าปีที่ผ่านมามาก อีกทั้งการไม่ผูกติดว่าใครต้องประจำตรงไหนตายตัว หมุนจุดยืนในสนามกันไปมาได้ดีในระดับที่แฟนสิงห์บลูส์อย่างผมอยากเห็น ด้วยศักยภาพของมิดฟิลด์ทั้งหมด ผมว่าเชลซีสามารถขึงเกมอย่างที่ทำกับแมวดำเมื่อคืนกับทีมที่อยู่ในโซนล่างถึงกลางอย่างเบิร์นลี่ย์, วูล์ฟส, เบอร์มิงแฮม, สโต๊ค, ฟูแล่ม, วีแกนพวกนี้ได้อีกสบายๆเลยนะครับแต่ไม่ได้หมายความว่าดีพอจนไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มแล้ว ไอเดียในการออกอาวุธยังคงเป็นสิ่งที่ขาดหายไปอยู่เยอะทีเดียว จากกองกลางไดมอนด์ชุดนี้ บอลจากการเข้าทำตรงกลาง สลับดอกกับทางกราบจากวิงแบ็ค ยังมีจุดอ่อนให้อันเช่ต้องศึกษาอยู่อีก โดยเฉพาะการเจอกับทีมที่ตั้งหน้าตั้งตามารอรับแล้วสวนกลับ ทั้งสองนัดที่ผ่านมา มีบางช่วงเวลาเหมือนกันที่นักเตะเชลซีเหมือนจะเหนื่อยหน่ายกับการเข้าทำ ที่หาทางมุดเข้าไปไม่ได้เลยแต่ต้องถือว่าโชคดี ที่ยังมีกลเม็ดของเฮียอันเช่ในห้องแต่งตัวช่วยเบิกทางให้ลูกทีม อย่างเกมเมื่อคืนนี้นะครับหากเพื่อนๆสังเกตุที่แผงกองกลาง ครึ่งแรกกับครึ่งหลัง ศักยภาพต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว ครึ่งแรกสามจอมทัพยังดูงุกๆงักๆ มันเป็นจึ๊กๆจั๊กๆ มันเป็นขลุ๊กขลั๊กๆ กันอยู่เลยแต่พอกลับออกมาจากห้องแต่งตัว เฮียอันเช่แกก็ชี้โพรงให้สิงห์เก๋าทั้งหลายมองเห็นช่องการเข้าทำอีกเพียบ เริ่มจากการตั้งโซนเพรสให้เหนียวแน่น เก็บบอลจังหวะสองให้ได้ เอสเซียงคอยสกรีนบอล สามก๊กของเชลซีอย่างแลมพส์, มิช่า และเดโก้ ช่วยกันยึดพื้นที่ 30-40 หน้าประตูแมวดำด้วยการเพรสซิ่งเร็ว จนทำให้แมวเก้าชีวิตกลายเป็นแมวเหมียวเชื่องๆ ออกอาการตื่นจนเสียบอลง่ายทุกครั้งที่เจอสามจอมทัพแยกเขี้ยวเข้าใส่ เมื่อจุดยุทธศาสตร์ถูกยึด เบนท์กับโจนส์ จึงเหมือนถูกตัดแขนตัดขาไปโดยปริยายจากนั้นก็เหมือนรอเวลาว่า แมวดำจะโดนปิดประตูตีซักกี่ดอกเท่านั้นเอง จากแนวทางช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกมขนาดเฮียนพนันท์ที่คุ้นเคยกับบอลอิตาลี ยังออกปากเลยว่านี่มันแนวทางของอันเชลอตติชัดๆ แข็งโป๊ก แน่นปั้ก ถ้าตั้งใจจะปิดเกมแล้วล่ะก้อ กองแช่งปิดทีวีนอนได้เลย