ปรุงก่อนชิม
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปรุงก่อนชิม's blog to your web]
Links
 

 
วิทยายุทธ





ตอนเด็กๆ เคยดูหนังจีนกำลังภายใน ตอนที่พระเอกจากเดิมที่ไม่มีวิทยายุทธอะไรเลย และมักถูกทำร้าย วันหนึ่งถูกทำร้ายแล้วพลัดตกไปในหุบเขาลึกจนสลบ พอรู้สึกตัวฝืนขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าจะกลับขึ้นมาจากหุบเหวลึกนั้นได้อย่างไร จึงเดินอยู่ในหุบเหวลึกนั้น ทันใดนั้นก็พบกับผู้เฒ่าอาวุโส 4 คนแต่งตัวมอมแมม แต่ช่างกระปี่กระเป่าไม่เหมือนคนเฒ่าคนแก่ ทำให้เข้าใจว่าผู้เฒ่าทั้ง 4 เป็นผู้ที่มีวรยุทธสูงส่ง เมื่อผู้เฒ่าทั้ง 4 กับพระเอกได้พบกัน ผู้เฒ่าเห็นหน่วยก้านของพระเอกก็อยากจะถ่ายทอดวิชาให้ และเกิดเหตุการณ์แย่งลูกสิทธิ์กันขึ้น เป็นสีสันให้หนังดูสนุก มีการแย่งกันถ่ายทอดวิทยายุทธ จนในที่สุดพระเอกของเรื่องก็ได้วิชาของผู้เฒ่าทั้ง 4 มีความเก่งกล้า ไม่กลัวใคร พร้อมที่จะตะลุ่ยท่องภิภพ พอนึกถึงตัวเองก็อดที่จะเปรียบเทียมกับเรื่องที่กล่าวมาไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าทำเรื่องต่างๆรอบตัวได้เอง โดยไม่ต้องจ้างหรือว่ายวานใคร หากไม่ใช่เรื่องสุดวิสัยจริงๆ โดยเฉพาะงานช่างๆ สมัยที่ผมเรียนอยู่โครงการพระดาบส ช่วงปี พ.ศ.2525-2534 ผมได้รับการสอนวิชาช่างหลายแขนง เช่น ช่างไฟฟ้า, ช่างอิเล็กทรอนิกส์,ช่างเชื่อม,ช่างเครื่องทำความเย็น,ช่างเครื่องยนต์ ช่างพันมอร์เตอร์ เป็นตน แม้ว่าเวลาผ่านไผหลายปี นิสัยความเป็นช่างยังติดตัวผมอยู่ และภูมิใจในความเป็นช่างมาก แม้ว่าปัจจุบันจะเป็นวิศวกร หัวหน้าหน่วยงาน เป็นโปรแกรมเมอร์ไม่ได้เป็นช่างแล้วก็ตามนิสัยพื้นฐานทางช่างยังใช้เป็นประโยชน์ในหน้าที่การงานปัจจุบัน ในแง่ของการมีเหตุมีผล การวางแผนงาน ความรอบคอบรุดกุมเป็นต้น

ความภูมิใจดังกล่าว จึงอยากจะขอพื้นที่น้อยๆตรงนี้เขียนถึงตัวเองสักหน่อย เพื่อให้ผู้ที่ไม่รู้จักหรือรู้จักแต่เพียงบางแง่มุมได้ทราบ หรืออย่างน้อยเมื่อลูกๆโต จะได้รู้ว่าพ่อเข้าเป็นคนเช่นไร ด้วยเริ่มต้นที่คำถามว่า จะทำอย่างไรจึงจะสะท้อนความเป็นตัวตนออกมาให้คนอื่นได้รู้ ว่าเราเป็นคนอย่างไร คิดอย่างไร และทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แม้เมื่อจากโลกนี้ไปแล้ว หากบทความนี้ยังอยู่ก็ถือว่า ช่วงชีวิตที่เกิดมาแล้วจากไป ยังได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้บ้าง มิได้สาบสูญไปทั้งหมด อีกทั้งยังหวังว่าจะเป็นกรอบให้ลูกหลานได้ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตสืบต่อไปหรือเป็นข้อมูลประกอบส่วนหนึ่งที่ต้องใช้ปัญญาในการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และช่วงเวลา

ผมเป็นคนพูดน้อย ไม่ค่อยถนัดที่จะคุย แต่ทางด้านความคิดผมมีความละเอียดรอบครอบ คิดกว้าง ลึก ละเอียด ฉะนั้นด้านเหตุและผล การวางแผนงาน การตัดสินใจ มักจะทำได้ดี การทำอะไรก็ทำได้ดี สำเร็จ ไม่มีปัญหาตามมาให้ต้องแก้ไขในภายหลัง เรียกว่าคิดดี ทำดี คิดก่อนทำ ทำหนึ่งได้ผลสองอย่าง (ยิงนกครั้งเดียวได้สองตัว) มีความโอบอ้อมอารี มักจะเห็นใจผู้ที่ด้อยโอกาส มากกว่าผู้ที่มั่งมี แต่ทำตัวไม่ดี โอ้อวด เพราะว่าผมก็เคยเป็นผู้ด้อยโอกาสมาก่อน ไม่ชอบความไม่ถูกต้องความไม่เป็นธรรม โดยการแสดงออกด้วยการไม่ยอม(ถ้าอยู่ในวิสัยที่ทำได้ ช่วยได้) แต่บางครั้งอยากจะช่วยและไม่ยอมให้ความไม่ถูกต้องไม่เป็นธรรมดำเนินต่อไปได้ แต่ก็สุดวิสัย เพราะเรื่องพวกนี้มีอยู่ทั่วไป ต้องใช้คำสอนทางพระพุทธศาสนาช่วย ผมชอบอ่านหนังสือชอบเรียนรู้ ประโยชน์ที่ได้จากการอ่านนั้นทำให้แนวคิดเราเปลี่ยนไป หลักปรัชญา จิตวิทยา คำสอนพุทธศาสนา ทำให้เรามีทิศทางของชีวิตที่ถูกต้อง เป็นบุญของผมที่ได้พบหนังสือกลุ่มนี้

ผมมีความละเอียดรอบคอบ ความสามารถทางช่างหลายสาขา ทั้งนี้ผมคิดว่ามาจากการศึกษาในอดีต ผมจำได้สมัยเรียนมัธยมต้นที่ ร.ร. บางเสด็จวิทยาคม จ.อ่างทอง มีวิชาเขียนแบบ ตอนเรียนครูให้เขียนแบบ ดินสอที่ใช้ต้องแหลม เวลาลากเส้นไปกับไม้บรรทัดต้องหมุนดินสอไปด้วย และต้องฝนดินสอกับกระดาษทรายอยู่บ่อยๆ เพื่อให้เส้นคมสม่ำเสมอ นี่กระมั่งที่เป็นเหตุให้ผมสามารถเขียน Process diagram ออกมาได้อย่างสวยงาม แต่ปัจจุบันจะมีโปรแกรม MICROSOFT VISIO แล้ว สะดวกสบายกว่าแต่ก่อนมาก หรือการที่ขณะซ่อมโทรทัศน์ ต้องไล่วงจรที่มีความยุ่งยาก วิเคราะห์อาการ หาต้นเหตุของปัญหา นี่กระมั่งที่เป็นเหตุให้ผมมีความรอบครอบทางการวางแผน ความสามารถในการคิดวิเคราะห์

ด้วยที่ชีวิตในเด็กและวัยศึกษา ได้อาศัยวัดสระแก้ว[1]และโครงการพระดาบส[2] เพื่ออยู่อาศัยและเรียนหนังสือ และมีโอกาสดีกว่าคนอื่น ที่ได้ศึกษาต่อจนจบเป็นวิศวกร (สาขาไฟฟ้า-สื่อสาร) ด้วยเหตุที่กล่าวมาข้างต้น เรียกได้ว่า ชีวิตของเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งได้รับการอนุเคราะห์จากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง หรือกล่าวอีกได้ว่าเป็นผู้ที่ถูกสร้าง จากองค์กรทางสังคม ครั้นเมื่อได้ผ่านช่วงนั้นมาแล้ว มักจะถูกกล่าวถึงในเวลาต่อมาอีกหลายครั้ง เพื่อเป็นตัวอย่างแต่น้องๆรุ่นหลัง แม้แต่การได้รับความชมเชยในความเป็นคนดี อดทน ต่อสู้ ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ จนประสบความสำเร็จ และที่สำคัญที่สุดคือการที่ได้เข้าเฝ้ากราบพระบาทต่อพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิดเพียงลำพังคนเดียว ในโอกาสที่สำเร็จการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2536

เมื่อจบการศึกษา ก็มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานในหน้าที่ ที่ได้รับผิดชอบให้เป็นอย่างดี เพราะคิดเสมอว่าสิ่งที่เคยได้รับมาในอดีตไม่ว่าจะบุญคุณของวัดสระแก้ว หรือ โครงการพระดาบส จะต้องไม่ลืมและหาโอกาสตอบแทน แต่ด้วยการที่ต้องทำงาน จนไม่มีเวลาจะตอบแทน หรือ เงินทองก็ยังขัดสนอยู่ หนทางที่จะตอบแทนได้คือ การเป็นคนดีต่อสังคม ต่อองค์กร หรือหน่วยงานที่ทำงานอยู่ ผมตั้งใจทำงาน คิด และทำ หลายๆอย่าง ที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรหรือหน่วยงาน โดยใช้ความรู้ความสามารถที่ทั้งหมดที่มีอยู่ ทุ่มเทตลอดเวลา

ผมทำงานครั้งแรกที่บริษัทโทเทิ่ลเอคเซทคอมมูนิเคชั่น[3] ในตำแหน่ง ช่างเทคนิค เงินเดือนเริ่มต้น 7,000 บาท ระหว่างนั้นเรียนปริญญารีควบคู่ไปด้วย จำได้ว่างานแรกที่ได้ทำคือได้รับมอบหมายให้ซ่อม แพงวงจรของตู้ชุมสายโทรศัพท์ ถือเป็นการทดสอบงานจากหัวหน้า ผลปรากฏว่าทำได้ดี วิเคราะห์หาจุดเสียได้ หัวหน้างานพอใจมาก และ ได้พัฒนาวงจร อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมา 1 ชิ้น จำไม่ได้ว่าเป็นวงจรอะไร จนสำเร็จ เป็นที่ชื่นชมของหัวหน้างาน และทาง พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ [4]ก็ทราบและแสดงความยินดีด้วย เหตุที่ต้องกล่าวถึง ก็ต้องการชี้ให้เห็นว่า ความรู้ที่ได้จาก การศึกษา ในโครงการพระดาบสนั้นได้ติดตัวผมมาอยากมาก แม้แต่ทุกวันนี้ผมก็มีความสามารถ ในงานช่างต่างๆมากมาย ซึ่งหาได้ยากในคนที่เป็นวิศวกรด้วยๆกัน

ตอนเรียนที่โครงการพระดาบส นอกจากจะเรียนด้านไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังเรียนด้านช่าง วิทยุ-โทรทัศน์ ช่างซ่อมพัดลม ช่างเครื่องปรับอากาศ ช่างพันมอเตอร์ ช่างซ่อมเครื่องไฟฟ้าทุกชนิด เช่นหม้อหุงข้าว เตารีด เป็นต้น ผมจำได้ว่าตอนเรียนวิชาวิทยุ อาจารย์สอนวงจรวิทยุ ทั้งทฤษฏีและปฏิบัติ วันหนึ่งอาจารย์ให้เขียนวงจรวิทยุหลอด พอเขียนเสร็จก็ให้นำอุปกรณ์ มาสร้างตามวงจร ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ผมก็ทำเสร็จ พอเปิดวิทยุที่ต่อเสร็จนั้นขึ้นมา สิ่งที่ได้ยินครั้งแรกคือเพลง “หนุ่มนาข้าว-สาวนาเกลือ” ผมจำเพลงและภาพ ณ วันนั้นได้ดี เป็นวันแรกที่สนุกและภาคภูมิใจที่สามารถเรียนรู้วิชานี้ได้ และเป็นพื้นฐาน สำหรับการศึกษาเครื่องรับ เครื่องส่งทั้งที่พบในตอนเรียนมาหาวิทยาลัย หรือ เมื่อทำงานกับบริษัท แทค ในเวลาต่อมาอย่างดี อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการปรับจูนวิทยุสื่อสารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการควบคุมดูแลของพล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ รวมทั้งการสร้างสายอากาศ และเครื่องมือลดทอนสัญญาณ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องรับส่งวิทยุสื่อสารอีกมากมาย

นอกจากนั้นด้านชีวิตความเป็นอยู่ เมื่อมีบ้านมีครอบครัว มีลูก งานบ้านทั้งหมดตั้งแต่งานสนามรอบๆบ้าน ดูแลสวน ต้นไม้ ในบ้านก็ทุกอย่าง ทั้งที่นอน ห้องน้ำ งานครัว ผมทำได้ทุกอย่าง เนื่องจากที่บ้านไม่ได้จ้างผู้ช่วยงานบ้าน ฉะนั้นผมต้องทำเอง นี้ก็มีพื้นฐานมาจากวัดสระแก้วและโครงการพระดาบส ตอนอยู่โครงการพระดาบส ต้องอยู่กินร่วมกัน ฉะนั้นเด็กต้องออกไปจ่ายตลาดและทำอาหารกินกันเอง ดูแลตนเอง ฉะนั้นเวลามีครอบครัว มีบ้าน มีลูก จึงทำเองได้หมด แต่เหนื่อยเหมือนกัน



[1];วัดสระแก้ว .บางเสด็จ .บ่าโมก .อ่างทอง (..2519- ..2525)

[2] โครงการพระดาบส โครงการตามกระแสพระราชดำริ ตรงข้ามหอสมุดแห่งชาติ .สามเสน .ดุสิต กรุงเทพฯ

[3] xxx




Create Date : 11 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 17 ตุลาคม 2559 11:00:54 น. 0 comments
Counter : 765 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.