|
เฉลย: การหายใจระดับเซลล์
เฉลยเรื่อง การหายใจระดับเซลล์
ตอนที่ 1 1. ถูก pantothenic acid หรือวิตามินบี 5 เป็นวิตามินบีอย่างหนึ่งที่อยู่ใน coenzyme A 2. ผิด niacin อยู่ใน NAD+, NADP+ และ riboflavin อยู่ใน FAD ก็จริง แต่การสังเคราะห์ด้วยแสงมันไม่ได้ใช้ FAD ส่วนการหายใจระดับเซลล์ก็ไม่ได้ใช้ NADPH เลยนะ 3. ผิด substrate-level phosphorylation พบได้ทั้งใน glycolysis ที่ cytosol และ Krebs cycle ที่ matrix 4. ผิด ออกซิเจนรับ e- แสดงว่าเกิด reduction ต้องเปลี่ยนคำว่าออกซิไดส์เป็นรีดิวส์ 5. ถูก อะตอมของออกซิเจนในน้ำตาลเมื่อหายใจระดับเซลล์จะถูกออกซิไดส์จนกลายเป็น CO2 หมด แล้วลำเลียงด้วยเลือดมาแลกเปลี่ยนกับถุงลม ออกไปกับลมหายใจออก 6. ถูก เพราะ O2 เป็นตัวกระตุ้นการเกิด Krebs cycle และการถ่ายทอดอิเล็กตรอน ถ้าเกิดอยู่ดีๆมันหายไป NADH และ FADH2 ที่สร้างขึ้นมาก็จะเปลี่ยนเป็น NAD+ และ FAD ไม่ได้ สารทั้งสองจึงลดลงเรื่อยๆ 7. ถูก เพราะ ATP ใน Krebs cycle เกิดจาก substrate-level phosphorylation จาก succinyl CoA (4C) เป็น succinate ปฏิกิริยาก่อนหน้าคือการออกซิไดส์ alpha-ketoglutarate (5C) เป็น succinyl CoA สรุปง่ายๆคือ 5C เป็น 4C เกิด ATP นั่นเอง 8. ถูก เพราะเมื่อไม่มีออกซิเจน ทำให้ NADH ไปต่อไม่ได้ การหมักแอลกอฮอล์จะนำ acetaldehyde มารับอิเล็กตรอน ส่วนการหมักกรดแลกติกจะนำ pyruvate มารับอิเล็กตรอนจาก NADH ทำหน้าที่แทนออกซิเจนที่หมดไป 9. ผิด กลีเซอรอลสามารถเปลี่ยนเป็น PGAL ซึ่งเป็นสารตัวกลางใน glycolysis ได้ก็จริง แต่กรดอะมิโนจะเปลี่ยนเป็น pyruvate ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ glycolysis และกรดไขมันจะเปลี่ยนเป็น acetyl CoA เข้า Krebs cycle 10. ถูก เพราะกลูโคส 6 C นั้น 1 ใน 3 จะถูกออกซิไดส์เป็น CO2 ที่การสร้าง acetyl CoA ส่วนอีก 2 ใน 3 จะถูกออกซิไดส์เป็น CO2 ที่ Krebs cycle 11. ผิด beta-oxidation จะได้ acetyl CoA และน้ำ แต่จะเสีย ATP ไปเทียบเท่า 2 โมเลกุล 12. ถูก แบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความหลากหลายของ metabolism โดยบางพวกอยู่ได้ดีในที่ที่มีออกซิเจน (aerobic bacteria - หายใจแบบใช้ออกซิเจน) บางพวกอยู่ในที่ที่ไม่มีออกซิเจน (anaerobic bacteria อาจจะหายใจโดยไม่ใช้ออกซิเจน หรือหมักทั้งแอลกอฮอล์ หรือกรดแลกติก) หรืออยู่ได้ดีทั้งที่มีออกซิเจนหรือไม่มีออกซิเจน (facultative bacteria) 13. ถูก เมื่อยีสต์ไม่มีออกซิเจน การหายใจ (glycolysis) และการหมัก (fermentation) จะเกิดที่ cytosol 14. ถูก เพราะจุลินทรีย์พวกนี้ต่างก็ต้องมี glycolysis, Krebs cycle และ ETC เหมือน eukaryote มีการสร้าง ATP แบบ oxidative และ substrate-level เหมือนกัน (แต่ตำแหน่งต่างกันนะ เพราะพวกนี้ไม่มี mitochondria จึงเกิดขึ้นที่ mesosome แถมยังไม่มี shuttle system และปริมาณ ATP ที่ได้ก็ไม่ใช่ 36-38 ATP เหมือนของเราด้วย) 15. ผิด cellular respiration เป็นปฏิกิริยาคายพลังงานในรูป ATP แต่ phosphorylation เป็นปฏิกิริยาดูดพลังงาน (ซึ่งต้องใช้ 7.3 kcal/mol ในการสร้างพันธะพลังงานสูง 1 พันธะ) อย่าง oxidative phosphorylation ก็ดูดพลังงานที่สะสมในรูปพลังงานศักย์ไฟฟ้าของโปรตอนที่ intermembrane space 16. ผิด NAD+ และ NADH มีการรับส่ง H+ และ e- ก็จริง แต่ cytochrome เป็นโปรตีนถ่ายทอด e- ที่ innermembrane จึงไม่รับส่ง H+ 17. ถูก เอนไซม์ส่วนใหญ่ในวัฏจักรเครบส์จะละลายอยู่ใน matrix แต่ที่ฝังอยู่บน innermembrane ก็มีเหมือนกัน (มีตัวเดียว เปลี่ยน succinate เป็น fumarate ชื่อ succinate dehydrogenase)
ตอนที่ 2 1. ทั้งสี่เกิดขึ้นที่ cytosol (A) matrix (B) matrix (B) และ innermembrane (C) ตามลำดับ 2. ที่ที่สร้าง ATP คือ A (substrate-level ของ glycolysis), B (substrate-level ของ Krebs cycle) และ C (oxidative ของ ETC) // ที่ที่สร้าง NADH คือ A (จาก glycolysis) B (จากการสร้าง acetyl CoA และ Krebs cycle) // ที่ที่สร้าง CO2 คือ B (จากการสร้าง acetyl CoA และ Krebs cycle) 3. สมการที่ให้มาไม่ต้องไปสนใจ (ข้อสอบเอนท์ก็เคยให้มา) สนใจแต่สมการรวมธรรมด๊าธรรมดา C6H12O6 + 6O2 + 6H2O กลายเป็น 6CO2 + 12H2O เท่านั้น สรุปคือเกิดน้ำ 12 โมเลกุลต่อการสันดาปกลูโคส 1 โมเลกุล 4. NADH 2 โมเลกุลกลายเป็น ATP 2 x 3 = 6 โมเลกุล ส่วน FADH2 3 โมเลกุลกลายเป็น ATP 3 x 2 = 6 โมเลกุล ATP ทั้งหมด 6 + 6 = 12 โมเลกุลจะสร้างพลังงานได้ 12 x 7.3 = 87.6 kcal/mol 5. pyruvate 1 โมเลกุลจะผ่านการสร้าง acetyl CoA ได้ 1 NADH (= 3 ATP) และผ่าน Krebs cycle ได้ 3 NADH (= 9 ATP), 1 FADH2 (= 2 ATP) และ 1 ATP จาก substrate-level รวม ATP ทั้งหมดจะได้ 15 ATP ซึ่งต้องดูดพลังงานทั้งหมด 15 x 7.3 = 109.5 kcal/mol ** จริงๆจำไปใช้เลยก็ได้ว่า 1 pyruvate จะสร้างพลังงานได้ทั้งหมด 15 ATP ส่วนถ้าเป็น 1 acetyl CoA จะสร้างพลังงานได้ทั้งหมด 12 ATP นะครับ ใครเรียนชีวะระดับมหาลัยก็จะใช้ตัวเลขนี้ 6. อันนี้เป็นข้อสอบเอนท์เมื่อนานมาแล้ว ในกล้ามเนื้อลายจะสร้าง ATP ได้ 2 ATP จากการหมักกรดแลกติก และสร้างได้ 36 ATP จากการหายใจแบบใช้ออกซิเจน (เพราะมี shuttle system แบบ FADH2 มารับ) เลยได้พลังงานคิดเป็น 2 / 36 x 100 = 5.55% เท่านั้น 7. อันนี้ง่ายนะ ลองเปิดหนังสือดูเองละกัน ^^ เอ้อน้องครับ ข้อ 7.3 ที่บอกว่า 1 รอบให้ตัดทิ้งเป็น "เมื่อเข้า Krebs cycle" เฉยๆละกันนะ -*- 8. acetyl CoA 1 โมเลกุล เมื่อเข้า Krebs cycle จะได้ 3 NADH (= 9 ATP จาก ETC) และ 1 FADH2 (= 2 ATP จาก ETC) รวมทั้งหมดเป็น 11 ATP ถ้าเกิดมี acetyl CoA 3 โมเลกุล เลยสร้างได้ 33 ATP จาก ETC ถ้าเกิดข้อนี้ตอบ 36 แปลว่าถูกหลอกแล้วนะ โจทย์ถามว่า "จากการถ่ายทอดอิเล็กตรอน" ไงครับ (ไม่นับที่ได้จากการเปลี่ยน succinyl CoA เป็น succinate นะ) 9. อันนี้ก็เปิดหนังสือเรียนเองละกัน แต่ต้องจำให้ได้นะตรงไหนเกิดอะไรบ้าง
ตอนที่ 3 1. ก. ข้อสอบใหม่สุดๆ ง่ายด้วย a = acetyl CoA เพราะเกิดจากการออกซิไดส์ pyruvate และเป็นสารตั้งต้นของ Krebs cycle b กับ c = acetaldehyde (2C) กับ ethanol (2C) ตามลำดับขั้นของการหมักแอลกอฮอล์ d = lactic acid ตามลำดับขั้นของการหมักกรดแลกติก 2. ข. ยีสต์ไม่สังเคราะห์ด้วยแสง ดังนั้นการเอาไปตั้งไว้ในที่ๆแดดส่องถึงแปลว่าให้มันหายใจแบบใช้ออกซิเจน a) ถูก สร้างอยู่แล้วจากการออกซิไดส์น้ำตาลให้เป็น CO2 ในการหายใจระดับเซลล์ b) ถูก ถึงจะไม่สังเคราะห์ด้วยแสงได้น้ำตาล แต่มันก็ต้องย่อยซูโครสด้วย sucrase (หรือ invertase ในยีสต์) ให้กลายเป็นสารตั้งต้นของการหายใจระดับเซลล์เสียก่อน c) ผิด อยู่ในที่ที่มีออกซิเจนยีสต์จะไม่หมักแอลกอฮอล์ 3. ง. การหมักกรดแลกติก พบในเซลล์กล้ามเนื้อลายที่ทำงานหนัก แบคทีเรีย พยาธิตัวตืด การหมักแอลกอฮอล์ พบในเซลล์พืชที่ขาดออกซิเจน (อย่างรากพืชในที่น้ำท่วมขัง) แบคทีเรีย ยีสต์ 4. ก. หรือ ง. (โทษทีนะครับพี่คงจะพิมพ์ข้อ ง.ผิดไป) ในการถ่ายทอดอิเล็กตรอน โปรตอนจะถูกปั๊มจาก matrix (C) ไป intermembrane space (B) ที่ไหนมีโปรตอนมาก ยิ่งเป็นกรดมาก คือยิ่งมี pH น้อย โปรตอน ณ B > A > C ดังนั้น pH C > A > B 5. ข. เซลล์รากพืชในน้ำเน่าขัง จะหมักเอทานอล คือมี glycolysis ต่อด้วย fermentation ได้ 2 ATP สุทธิ ส่วน anaerobic bacteria จะหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจน คือมี glycolysis, Krebs cycle และ ETC โดยตัวรับอิเล็กตรอนตัวสุดท้ายเป็นสารอื่นๆ ได้ ATP สุทธิจำนวนต่างๆกันแล้วแต่ species ของแบคทีเรีย ก. ผิด มีนะ ข. ถูก เพราะแค่ glycolysis + fermentation ค. ผิด มี substrate-level phosphorylation ใน glycolysis ไง ง. ผิด ตัวรับอิเล็กตรอนตัวสุดท้ายของการหมักแอลกอฮอล์คือ acetaldehyde (สารอินทรีย์ ไม่ใช่ อนินทรีย์) รับอิเล็กตรอนจาก NADH 6. ข. ก. ถูก เกิดที่ cytoplasm โดยใช้เอนไซม์เป็นสิบ ข. ผิด เป็นการออกซิไดส์กลูโคส (hexose) เป็น pyruvate (กรด 3C) ค. ถูก พลังงานเคมีในพันธะโคเวเลนต์ถูกเก็บใน ATP และ NADH ง. ถูก ได้ 4 ATP แต่ใช้ไป 2 ATP จึงได้ ATP สุทธิ 2 ATP 7. ง. เม็ดเลือดแดงของคนที่เจริญเต็มที่แล้วไม่มี mitochondria จึงไม่เกิดอะไรขึ้น 8. ง. a), b) ถูก ออกซิเจนรับอิเล็กตรอนและโปรตอน กลายเป็นน้ำ c) ถูก ออกซิเจนไม่ได้กระตุ้นการเติมหมู่ฟอสเฟตโดยตรงแต่อย่าลืมว่า ออกซิเจนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด Krebs cycle และการถ่ายทอดอิเล็กตรอน ถ้าไม่มีออกซิเจนการเติมหมู่ฟอสเฟตให้ ADP ใน oxidative phosphorylation ก็ไม่เกิดขึ้น 9. ข. ก. ถูก C อินทรีย์ 2 อะตอมใน acetyl CoA จะถูกออกซิไดส์เป็น C อนินทรีย์ในรูป CO2 จนหมดใน Krebs cycle ข. ผิด การหายใจระดับเซลล์ไม่ได้ใช้ NADPH ซะหน่อย อันนั้นมันสำหรับสังเคราะห์ด้วยแสง ค. ถูก เป็น concept ธรรมดาๆ ง. ถูก มีการเติมอิเล็กตรอน (รีดิวซ์) FAD ให้เป็น FADH2 เมื่อเปลี่ยน succinate เป็น fumarate โดยเอนไซม์ succinate dehydrogenase ซึ่งเป็นเอนไซม์ตัวเดียวของวัฏจักรที่อยู่บน innermembrane 10. ค. การหมักใช้พลังงานในรูปอิเล็กตอนพลังงานสูงใน NADH ไปรีดิวซ์ acetaldehyde ในการหมักแอลกอฮอล์ หรือ pyruvate ในการหมักกรดแลกติก ส่วน ATP เป็นสารพลังงานสูงก็จริงแต่เป็นผลพลอยได้จาก glycolysis ไม่ได้เป็นส่วนที่ใช้ 11. ข. มีในหนังสือทุกเล่มชัดเจน ตัวร่วมคือ acetyl CoA 12. ค. ต้องจำว่ากรดอะมิโนเปลี่ยนแปลงได้ 3 อย่างคือ 1) pyruvate 2) acetyl CoA 3) สารตัวกลางในวัฏจักรเครบส์ ส่วน PGAL จะได้มาจากกลีเซอรอล 13. ก. ขอเปลี่ยนโจทย์ (พิมพ์ครั้งที่ 1-5) เป็น "ถ้าโปรตอนใน intermembrane space ลดลง จะมีผลต่อ" ถ้าโปรตอนไหลออกมา จะส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการที่ต้องใช้โปรตอน คือการสร้าง ATP จาก oxidative phosphorylatioin ส่วนกระบวนการก่อนหน้านั้น ทั้งการปั๊มโปรตอน การถ่ายทอดอิเล็กตรอน และการรีดิวซ์ออกซิเจนจนกลายเป็นน้ำ ยังคงปกติ คือถ่ายทอดไปเรื่อยๆสร้างน้ำไปเรื่อยๆไง แต่โปรตอนที่ปั๊มก็ถูกขังใน intermembrane space ไปเรื่อยๆเช่นกัน 14. ง. a) ผิด เซลล์ตัวและสมองเป็นเซลล์ที่มี metabolism สูงต้องการพลังงานเท่าๆกัน mitochondria มีมากไม่ต่างกัน b) ถูก ตับต้องใช้ SER กำจัดสารพิษและสร้าง steroid อย่าง cholesterol ส่วนเซลล์สมองไม่ต้องใช้เยอะขนาดนั้น c) ผิด glycolysis ของเซลล์ไหนๆก็ได้ 2 NADH เหมือนกัน d) ถูก หัวใจ ไต ตับ ได้ 38 ATP แต่สมอง กล้ามเนื้อลาย ได้ 36 ATP เพราะ shuttle system ที่ต่างกันทำให้มีปริมาณ NADH กับ FADH2 สำหรับสร้าง ATP จาก oxidative phosphorylation ต่างกัน 15. ก. ATP ใน mitochondria สร้างโดย oxidative phosphorylation โดยการแพร่ของโปรตอนใน intermembrane space เข้าไปใน matrix ถ้าการสร้าง ATP ถูกยับยั้ง โปรตอนก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆใน intermembrane space ทำให้ใน matrix มีโปรตอนลดลงๆ ท้ายที่สุดคือ pH ของ matrix (ที่สูงขึ้นๆ) ต่างจาก pH ของ cytosol (ที่อยู่ปกติ) มากขึ้นเรื่อยๆ ข้อ ก.ถูก ส่วนการเทอิเล็กตรอนของ NADH และ FADH2, การถ่ายทอดอิเล็กตรอน, การรีดิวซ์ O2 ยังคงเป็นปกติทุกอย่าง เพียงแต่ว่าโปรตอนที่ปั๊มเข้า intermembrane space นั้นก็จะสะสมมากขึ้นๆ 16. ข. ยีสต์ปกติก็หายใจด้วยออกซิเจน ได้ ATP ออกมาเยอะแยะ แต่ถ้าไม่มีออกซิเจนถึงจะหมักได้ 2 ATP ก. ผิด เมื่อมีออกซิเจนก็หายใจด้วยออกซิเจน ข. ถูก เมื่อหมัก จะได้ 2 CO2, 2 ATP และ 2 ethanol ค. ผิด เมื่อหมักจะมี NADH มาให้อิเล็กตรอนกับสารอินทรีย์ C 2 อะตอมที่ชื่อ acetaldehyde ง. ผิด เอทิลแอลกอฮอล์ (เหล้า กินได้) ไม่ใช่เมทิลแอลกอฮอล์ (เอาไว้เช็ดแผล) 17. ค. ก. ถูก เปลี่ยนกลับไปกลับมาระหว่าง ADP และ ATP ข. ถูก เปลี่ยนกลับไปกลับมาระหว่าง NAD+ และ NADH ค. ผิด ต้องถูกออกซิไดส์ไปเรื่อยๆ เปลี่ยนแปลงเป็น acetyl CoA และ CO2 โดยไม่เปลี่ยนกลับเป็นอะไรอีก ง. ถูก เปลี่ยนกลับไปกลับมาระหว่างสารตัวกลางในวัฏจักรเครบส์ต่างๆ 18. ง. มีสรุปให้ในหนังสือแล้ว a) ถูก อย่างเช่น cytochrome ช่วยรับ ส่งอิเล็กตรอน b) ถูก อย่างเช่น ATP synthase สร้าง ATP c) ถูก เป็นเอนไซม์ในวัฏจักรเครบส์ ได้แก่ succinate dehydrogenase d) ถูก เป็น channel, receptor, carrier ควบคุมการผ่านเข้าออกสารต่างๆ 19. ก. สมการที่ให้มาเป็นการหมักกรดแลกติก ก. ถูก เพราะ pyruvate ดูดพลังงานในรูปอิเล็กตรอนพลังงานสูงใน NADH ข. ผิด การหมักเกิดที่ cytosol ค. ผิด ไม่เกี่ยวเลย มั่วมาก lactase เป็นน้ำย่อย lactose ที่อยู่ในลำไส้เล็ก ง. ผิด NADH ไม่ใช่โปรตีน เป็น coenzyme ที่มีวิตามินบีเป็นส่วนประกอบ 20. ค. อย่าลืมว่าสารพลังงานสูงในเซลล์ที่สำคัญมี 2 อย่าง 1) ATP เก็บพลังงานในรูปพันธะพลังงานสูง และ 2) ตัวรับอิเล็กตรอน อย่าง NADH, NADPH และ FADH2 ที่เก็บพลังงานในรูปอิเล็กตรอนพลังงานสูง การสร้าง acetyl CoA เป็นปฏิกิริยาคายพลังงาน สังเกตจากได้สารพลังงานสูง (NADH) ออกมาทางด้านขวาของสมการที่ให้มา การสร้าง NADH เป็นปฏิกิริยาดูดพลังงาน จากสมการ NAD+ + 2e- + H+ กลายเป็น NADH สังเกตได้ว่ามีอิเล็กตรอนพลังงานสูงอยู่ทางด้านซ้ายของปฏิกิริยา
Create Date : 03 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 22 พฤษภาคม 2553 10:52:09 น. |
|
38 comments
|
Counter : 34111 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: foon IP: 119.31.126.141 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:11:45 น. |
|
|
|
โดย: foon IP: 119.31.126.141 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:14:34 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:48:00 น. |
|
|
|
โดย: foon IP: 110.49.123.249 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:15:41 น. |
|
|
|
โดย: ;) IP: 118.172.63.148 วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:14:31:20 น. |
|
|
|
โดย: ;) IP: 118.172.63.148 วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:14:38:04 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:16:21:54 น. |
|
|
|
โดย: ;) IP: 118.172.63.148 วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:21:59:14 น. |
|
|
|
โดย: KW IP: 118.172.90.160 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:23:00:56 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:10:59:35 น. |
|
|
|
โดย: KW IP: 118.172.59.129 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:11:04:17 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:11:53:26 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 117.47.20.35 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:20:30:47 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:20:57:50 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 222.123.158.98 วันที่: 31 ธันวาคม 2552 เวลา:22:20:11 น. |
|
|
|
โดย: :)) IP: 58.11.64.161 วันที่: 2 มกราคม 2553 เวลา:16:24:08 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 2 มกราคม 2553 เวลา:21:43:11 น. |
|
|
|
โดย: :)) IP: 58.8.187.202 วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:18:38:49 น. |
|
|
|
โดย: Cen IP: 202.149.25.241 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:11:02 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:47:03 น. |
|
|
|
โดย: ดิน IP: 112.142.111.94 วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:40:57 น. |
|
|
|
โดย: ดิน IP: 222.123.54.215 วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:58:56 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 17 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:08:48 น. |
|
|
|
โดย: T IP: 58.11.83.6 วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:38:54 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:46:10 น. |
|
|
|
โดย: พลอย IP: 180.180.221.249 วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:25:10 น. |
|
|
|
โดย: :P IP: 58.8.126.22 วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:02:46 น. |
|
|
|
โดย: ปัน IP: 113.53.3.197 วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:21:12:55 น. |
|
|
|
โดย: ตอบแทนค่ะ IP: 58.10.85.15 วันที่: 10 ธันวาคม 2553 เวลา:0:06:00 น. |
|
|
|
โดย: swkt (tewtor ) วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:0:19:05 น. |
|
|
|
โดย: pp IP: 223.206.198.142 วันที่: 28 เมษายน 2554 เวลา:18:16:59 น. |
|
|
|
โดย: zk. IP: 58.8.54.59 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:08:38 น. |
|
|
|
โดย: bb IP: 125.27.204.175 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:22:00:32 น. |
|
|
|
โดย: กิ๊ฟ IP: 125.24.38.16 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:18:08:13 น. |
|
|
|
โดย: หมู IP: 182.53.53.228 วันที่: 22 มีนาคม 2555 เวลา:10:00:01 น. |
|
|
|
โดย: bewt IP: 1.4.167.65 วันที่: 23 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:51:15 น. |
|
|
|
โดย: wongsathorn IP: 124.122.198.232 วันที่: 25 ธันวาคม 2556 เวลา:22:05:10 น. |
|
|
|
โดย: เจ IP: 1.20.181.213 วันที่: 16 มีนาคม 2557 เวลา:18:46:38 น. |
|
|
|
| |
|
|
มิสเตอร์คัสตาร์ด |
|
|
|
|
ปฏิกิริยาริดักชัน ก็เป็นการออกซิไดส์ก้ถูกแล้วนี้
แล้วปฏิกิริยาออกซิเดชั่นก็เป็นการริดิวส์
หรือผมเข้าใจอะไรผิด ฮาๆ