your enjoyable TENTarized knowledge :)
เข้าไปถามคำถามในเฟซบุคที่จะสะดวกตอบกว่านะ ^^

เฉลย: การย่อยอาหาร

เฉลยเรื่อง การย่อยอาหาร

ตอนที่ 1
1. ถูก amylase ย่อยได้ทั้ง glycogen และแป้ง ซึ่งมีสองโครงสร้างประกอบกันคือ amylose และ amylopectin
2. ผิด น้ำดีไม่ได้สร้างจากถุงน้ำดี แต่สร้างจากตับโดยเก็บที่ถุงน้ำดี
3. ถูก ทั้งสามเซลล์มีการสร้างเท้าเทียมไปเขมือบอาหารและย่อยในเซลล์โดยใช้ lysosome
4. ถูก ไฮดราย่อยนอกเซลล์โดย gland cell หลั่งน้ำย่อยออกมา ส่วน nutritive cell จะเขมือบอาหารชิ้นเล็กๆที่ย่อยแล้วนิดนึงไปย่อยต่อภายในเซลล์
5. ผิด พยาธิตัวตืดเป็นหนอนตัวแบนที่ไม่มีทางเดินอาหาร เป็นข้อยกเว้น
6. ถูก ลูกอ๊อดกินพืช ลำไส้ยาว แต่กบกินสัตว์ ลำไส้สั้น อัตราส่วนระหว่างลำไส้กับลำตัวจึงลดลง (เพราะตัวเศษลดลง)
7. ผิด peristalsis ไม่พบในช่องปากและคอหอย
8. ผิด hepatic portal vein รับสารอาหารที่ได้จากการย่อยประเภทโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต รวมทั้งวิตามินที่ละลายในน้ำและแร่ธาตุซึ่งไม่ต้องย่อย แต่ไขมันและวิตามินที่ละลายในไขมันจะถูกส่งเข้าระบบน้ำเหลือง
9. ผิด rugae ไม่ได้เพิ่มพื้นที่ผิวเหมือน villus ที่ลำไส้เล็ก แต่ช่วยรองรับการขยายขนาดของกระเพาะต่างหาก ถ้ามีย่นๆมันก็พองออกได้มากกว่าพื้นผิวเรียบๆจริงไหม และหน้าที่ของกระเพาะในการดูดซึมยาและแอลกอฮอล์นั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย
10. ผิด abomasum ก็เทียบได้กับ stomach ของคนนี่แหละ ย่อยโปรตีนเป็นหลัก วัวสร้าง cellulase เองไม่ได้แต่ย่อย cellulose ได้เพราะจุลินทรีย์บางชนิดในหลอดอาหารสร้าง cellulase ขึ้นมา
11. ผิด aminopeptidase แปลตามตัวคือย่อย peptide ด้านปลายอะมิโน (N-terminal) ดังนั้นผลิตภัณฑ์จะได้ 1 กรดอะมิโน + 1 peptide ที่สั้นลงหนึ่งหน่วยกรดอะมิโน
12. ถูก ตับสร้างน้ำดีมาช่วยย่อยไขมัน ผู้ป่วยโรคตับส่วนใหญ่จึงต้องระวังอาหารประเภทไขมันเป็นพิเศษ
13. ถูก สีเหลืองของอุจจาระและปัสสาวะ มีสารตั้งต้นคือ bilirubin หรือรงควัตถุน้ำดี ซึ่งเป็นสารที่ได้จากการแตกตัวของเม็ดเลือดแดง
14. ถูก กรดไขมันกับ glycerol ที่ย่อยได้ จะรวมตัวกับโปรตีนในเซลล์เยื่อบุลำไส้เล็กกลายเป็น lipoprotein ที่ชื่อว่า chylomicron ก่อนจะถูก lacteal ดูดซึมและลำเลียงโดยระบบน้ำเหลือง
15. ถูก คือนิยามของคอหอย (pharynx) ในมนุษย์

ตอนที่ 2
1. ก.
อันนี้เป็นข้อสอบเอนท์ได้ไงก็ไม่รู้ -*-
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเมือกมีสองอย่าง (ไม่ว่าจะหลั่งจากเยื่อเมือก – mucous membrane – ที่ไหนๆ) คือ
1) เป็นสาร glycoprotein 2) มีฤทธิ์เป็นเบสอ่อน
2. ข.
อันนี้ข้อสอบ anet ไม่ยากมาก ต้องรู้ว่า hepatic portal vein จะดูดซึม กรดอะมิโน น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว และวิตามินที่ละลายในน้ำ + เกลือแร่
a) ผิด linoleic, linolenic, arachidonic, palmitic, stearic ฯลฯ พวกนี้เป็นกรดไขมัน
b) ถูก ascorbic คือวิตามินซี, nicotinic คือ niacin
c) ถูก glutamic และ aspartic เป็นกรดอะมิโน
3. ค.
ก. ผิด เอนไซม์ชื่อ galactase ไม่มีในโลกนี้ มีแต่ lactase
ข. ผิด trypsin ย่อย peptide กลายเป็น 2 peptide ที่สั้นลง
ค. ถูก aminopeptidase ย่อยได้ peptide ที่สั้นลง 1 หน่วยกรดอะมิโน + 1 กรดอะมิโนที่ดูดซึมได้ ส่วน lactase ก็ย่อยได้ กลูโคส + galactose ที่ดูดซึมได้เช่นกัน
ง. ผิด pepsin ย่อย peptide กลายเป็น 2 peptide ที่สั้นลง
4. ง.
A = เม็ดบัวลอยซึ่งทำมาจากแป้ง ย่อยครั้งแรกด้วย amylase ที่ปากและย่อยจนดูดซึมได้ที่ลำไส้เล็ก
B = กะทิ ซึ่งเป็นไขมัน ย่อยครั้งแรกที่ลำไส้เล็กจนดูดซึม
C = ไข่ ซึ่งเป็นโปรตีน ย่อยครั้งแรกด้วย pepsin ในกระเพาะแล้วย่อยต่อจนดูดซึมได้ที่ลำไส้เล็ก
ปล. ข้อนี้ในรูปทำไมพี่วาดเป็น B C A เรียงกันเป็นคำตอบซะงั้นอะ -*-
5. ก.
กึ๋นเอาไว้บดเคี้ยว เป็นการย่อยเชิงกลเหมือนฟัน ในนกบางชนิดเลยกินก้อนกรวดลงไปให้อยู่ในกึ๋น ซึ่งจะช่วยบดเปลือกเมล็ดต่างๆได้เป็นอย่างดี (นกกระจอกเทศบางตัวก็ชอบกินรองเท้าบูทเข้าไปให้อยู่ในกึ๋นด้วยนะ -*-)
หนังสือสำหรับเด็กเลยชอบที่จะบอกว่า "ฟันของแมลงอยู่ในร่างกาย" ก็คือกึ๋นนั่นเอง
6. ง.
ถูกหมดเลย เพราะสัตว์กินสัตว์ (carnivore) จะมีฟันเขี้ยวมากกว่า ลำไส้สั้นกว่า ซีกัมเล็กกว่า และน้ำดีผลิตออกมามากกว่าสัตว์ที่กินพืช (herbivore)
7. ค.
A = น้ำย่อยที่ทำงานได้ดีใน pH กรดจัด คือที่กระเพาะ
B = น้ำย่อยที่ทำงานได้ดีใน pH เบสจัด คือที่ลำไส้เล็ก
ก. ผิด น้ำดีไม่ใช่เอนไซม์
ข. ผิด trypsinogen ยังทำงานไม่ได้
ค. ถูก pepsin ทำงานในกระเพาะ ส่วน enterkinase ทำงานที่ผนังลำไส้เล็ก (ถึงจะไม่ใช่น้ำย่อยแต่ก็เป็นเอนไซม์นะ)
ง. ผิด trypsin อยู่ที่ลำไส้เล็กไม่ใช่กระเพาะ
8. ค.
a) ถูก epiglottis จะปิด trachea เวลากลืนไม่งั้นสำลักแน่
b) ถูก soft palate จะยกตัวปิดทางเดินอากาศที่มาจากจมูก
c) ผิด กล่องเสียงไม่ได้หดตัว แต่จะยกตัวขึ้นมาหา epiglottis
9. ค.
A = enamel, B = dentine, C = pulp cavity, D = cementum
รู้สึกเจ็บแสดงว่าต้องเจาะไปหาชั้นที่มีหลอดเลือดและเส้นประสาท คือ C
10. ง.
ข้อ ก. ถึง ค. ถูกต้องอยู่แล้ว แต่ ง. ผิดเพราะน้ำย่อยและกรดเกลือจะหลั่งออกมาเป็นเวลา หรือเมื่อหิว หรือเมื่อมีรูป รส กลิ่น เสียงของอาหารมากระตุ้นก็หลั่งแล้ว ไม่ใช่เฉพาะเมื่อมีอาหารเท่านั้น
น้ำย่อยที่หลั่งออกมาเป็นเวลานี้อาจเป็นอันตรายกับเราได้ถ้าเกิดกินข้าวไม่เป็นมื้อๆ ทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ด้วยซ้ำไป ไม่ใช่กลไกป้องกันเลย
11. ข.
a) ผิด ต้องเป็นโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต หรืออีกชื่อคือโซเดียมไบคาร์บอเนต (โซเดียมคาร์บอเนตเฉยๆมัน baking soda นะ เอาไว้ทำกับข้าวไง)
b) ถูก น้ำดีเป็นเบสอ่อนช่วยปรับ pH
c) ผิด เป็นเอนไซม์ธรรมดาที่ผนังลำไส้
12. ค.
ข้อนี้ข้อสอบเอนท์สมัยโบราณเลยครับ
หลอดอาหารและกระเพาะวัวเรียงกันยังงี้คือ rumen reticulum omasum และ abomasum
การเคี้ยวเอื้องคือสำรอกอาหาร ในส่วน rumen และ reticulum ออกมาเคี้ยวไปเคี้ยวมา
ปาก rumen reticulum rumen ปาก rumen reticulum rumen ปาก rumen reticulum rumen …. reticulum omasum abomasum …
เห็นไหมว่า rumen อาหารผ่านเยอะสุด
13. ก.
จุลินทรีย์ในทางเดินอาหารวัวช่วยสร้างกรดไขมัน (ข้อ ข.) กรดอะมิโน และสารอาหารอื่นๆ ช่วยสร้างน้ำย่อย cellulase ออกมาย่อยกากอาหาร (cellulose) จึงทำให้อุจจาระวัวไม่มีกากอาหารมาก (ข้อ ง.) และสารอาหารต่างๆที่จุลินทรีย์สร้างขึ้นทำให้วัวเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี (ข้อ ค.) ด้วย
ส่วน ก. ไม่เกี่ยวกับจุลินทรีย์ คุณภาพของน้ำย่อยที่วัวหลั่งก็มีจลศาสตร์การทำงานเหมือนเดิม เป็นเอนไซม์ตัวเดิม ไม่เกี่ยวกันเลย
14. ค.
ก. ถูก gastrin กระตุ้นการหลั่งกรดเกลือและน้ำย่อยในกระเพาะ
ข. ถูก กรดเกลือเปลี่ยน pepsinogen เป็น pepsin
ค. ผิด aminopeptidase จากเซลล์เยื่อบุลำไส้เล็กเป็นเอนไซม์พร้อมใช้งาน ไม่ต้องถูกกระตุ้น อย่าสับสนกับ procarboxypeptidase จากตับอ่อนนะ
ง. ถูก secretin กระตุ้นกระบวนการย่อยต่างๆในลำไส้เล็กโดยเฉพาะการหลั่ง NaHCO3 จากตับอ่อน
15. ค.
ข้อสอบเอนท์นะ
กินอาหารที่มีกาก (fibers) มากทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มถ่ายง่าย เพราะกากอาหารเป็นเส้นใยที่อุ้มน้ำได้ดี
ถ้าไม่กินผักผลไม้ที่มีกากใยเยอะๆทำให้ถ่ายยาก (ข้อ c) และครูดผนังลำไส้ใหญ่บ่อยๆจึงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ (ข้อ b)
16. ง.
การดูดซึมในลำไส้ใช้ทั้ง osmosis, simple diffusion, facilitated diffusion, active transport และ pinocytosis
สารต่างๆก็มีวิธีดูดซึมแตกต่างกันไป สารตัวเดียวกันถ้าเกิดดูดซึมคนละตำแหน่ง (เช่นที่ duodenum กับ ileum) ก็อาจใช้วิธีต่างกันด้วย
17. ก.
a) ถูก ไม่สร้าง lipase ก็ย่อยไขมันเป็นกรดไขมันและกรีเซอรอลไม่ได้
b) ผิด bilirubin เป็นรงควัตถุน้ำดี ได้มาจากการแตกตัวของเม็ดเลือดแดง ออกมากับน้ำดีเพราะต้องการขับถ่ายออกทางอุจจาระ ไม่มีส่วนช่วยในการย่อยไขมันใดๆ อาจจะสับสนกับเกลือน้ำดีได้ ตัวนั้นต่างหากที่ทำหน้าที่เป็น emulsifier ให้ไขมันแตกตัวเป็นก้อนเล็กๆ
c) ผิด การที่อาหารจากกระเพาะมีฤทธิ์เป็นกรด ไม่ใช่ความผิดปกติ เพราะยังไงๆเดี๋ยวก็มีสารต่างๆมาช่วยปรับ pH อยู่ดี
ปล. แต่ความผิดปกติบางอย่างที่ทำให้อาหารเป็นกรดมากๆๆ เช่น ZE syndrome ก็อาจส่งผลต่อการทำงานของ lipase ได้นะ..ไม่ต้องรู้หรอก -*-
d) ผิด trypsin ไม่เกี่ยวกับการย่อยไขมันเลย
18. ข.
A มี glycogen สามารถย่อยได้ด้วย amylase จากตับอ่อน
B มี ไขมันที่แตกตัว สามารถย่อยได้ด้วย lipase จากตับอ่อน
C มี polypeptide ยังไม่สามารถย่อยได้เพราะเอนไซม์ที่ออกมาจากตับอ่อนโดยตรงยังทำงานไม่ได้ ต้องกระตุ้น trypsinogen เป็น trypsin โดย enterokinase ที่ผนังลำไส้เล็ก แล้วให้ trypsin กระตุ้นตัวอื่นๆเสียก่อน
19. ข.
ก. ถูก จะได้ A = tripeptide, B = dipeptide + กรดอะมิโน, C = กรดอะมิโน ดูดซึมได้ทันที
ข. ผิด จะได้ A = แป้งหรือ glycogen, B = คาร์โบไฮเดรตที่มี glucose เป็น monomer แต่ y เป็น sucrase ซึ่งเอาไว้ย่อยน้ำตาลซูโครสที่เกิดจาก glucose + fructose
ค. ถูก จะได้ A = polypeptide, B = polypeptide สั้นลง, C = polypeptide สั้นลงอีกหนึ่งหน่วยกรดอะมิโน + กรดอะมิโนที่ดูดซึมได้
ง. ถูก จะได้ A = polypeptide, B = polypeptide สั้นลง, C = polypeptide สั้นลงอีกหนึ่งหน่วยกรดอะมิโน + กรดอะมิโนที่ดูดซึมได้
20. ค.
glycosidic bond ซึ่งเป็น covalent bond ระหว่างกลูโคสใน glycogen และแป้งเป็นแบบแอลฟา สามารถย่อยได้ด้วย amylase แต่พันธะของกลูโคสใน cellulose เป็นแบบบีต้า ต้องใช้ cellulase ในการย่อยเท่านั้น ข้อนี้เห็นออกข้อสอบหลายทีแล้วนะ (ทั้งๆที่เป็นกรอบเล็กๆในหนังสือเรียนเล่มมดเท่านั้นเอง)
ส่วนข้อ ก.นั้น พันธะไฮโดรเจนไม่เกี่ยวกับการย่อย แต่การที่ cellulose มีพันธะไฮโดรเจนทำให้โมเลกุลของมันมีความแข็งแรง เหมาะสำหรับหน้าที่ของมันในผนังเซลล์พืช
21. ค.
ก. ถูก cholesterol และเกลือน้ำดีเป็น steroid ที่สร้างจากตับโดยอาศัย SER
ข. ถูก ตับเป็นแหล่งกำจัดยาและแอลกอฮอล์ให้มีคุณสมบัติทางเคมีเปลี่ยนไป กินยาเยอะๆตับพังได้นะ
ค. ผิด ตับไม่สร้างเอนไซม์มาย่อยไขมัน แต่สร้างน้ำดีมา emulsify ไขมันให้ไขมันแตกตัว
ง. ถูก ตับเป็นแหล่งสะสมเหล็ก glycogen วิตามินเอ และดี อย่างที่โจทย์บอกน่ะแหละ (ข้อสอบก็เคยถามนะ) นอกจากนี้ยังสะสมสารอื่นๆให้ร่างกายอีกเยอะมากๆๆ
22. ง.
ทั้งหมดเป็นบทบาทของฮอร์โมนต่อระบบทางเดินอาหาร
อย่าง secretin และ cholecystokinin นั้นมีหลายหน้าที่มากๆ ไม่ใช่แค่กระตุ้นตับอ่อนและกระตุ้นถุงน้ำดีอย่างที่หลายหนังสือเขียนไว้
23. ก.
a) ถูก secretin และ cholecystokinin เป็นฮอร์โมนสำคัญของการย่อยในลำไส้เล็ก กระตุ้นกระบวนการย่อยสารทุกอย่าง สำคัญมากจนถ้าเกิดไม่สร้างแล้วก็ย่อยโปรตีนไม่ได้ไปด้วย
b) ถูก เพราะ trypsinogen เป็นเอนไซม์สำคัญที่จะเปลี่ยนเป็น trypsin และกระตุ้น protease ตัวอื่นๆจากตับอ่อนให้ทำงานได้ (นั่นคือ trypsin, chymotrypsin, carboxypeptidase ใช้การไม่ได้หมด) เหลือเพียง protease จากลำไส้เล็ก เช่น dipeptidase, tripeptidase, aminopeptidase ซึ่งบทบาทในการย่อยไม่สำคัญเท่าตัวที่กล่าวมา
c) ผิด กระเพาะไม่สร้างกรดเกลือไม่เกี่ยวอะไรกับการย่อยโปรตีนในลำไส้เล็กโดยตรง
d) ผิด ถึงโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนตจะช่วยปรับ pH ให้เหมาะสมกับการทำงานของน้ำย่อยในลำไส้ แต่ก็ยังเหลือน้ำดีมาช่วยปรับ pH อยู่ และสารคัดหลั่งจากลำไส้เล็กอื่นๆอีก เพราะในหนึ่งมื้อลำไส้หลั่งสารคัดหลั่งออกมา"เป็นลิตรๆ" ในขณะที่โซเดียมไบคาร์บอเนตนั้นมีนิดเดียว
(จะว่าไปนี่เป็นข้อสอบ A-NET ที่ค่อนข้างแย่ พี่ว่า)
24. ก.
ก. ถูก เซลล์เยื่อบุลำไส้ที่เห็น (มี microvilli บนเซลล์ทรงสูง) อยู่บนผนังลำไส้ที่เรียก villus
ข. ผิด หลักฐานใหม่ๆแสดงหน้าตัดของเนื้อเยื่อลำไส้เล็กสามส่วน พบว่าที่ duodenum ย่อยมากที่สุดและดูดซึมมากที่สุดด้วยนะ หนังสือเล่มไหนบอกว่า duodenum ย่อยมากสุด jejunum ดูดซึมมากสุดเนี่ย ตกยุคแล้วนะครับ^^"

** ทางที่ดีที่สุดเมื่อมีคนถามว่า การดูดซึมเกิดขึ้นมากสุดที่ไหน
ตอบว่า duodenum และ jejunum นะครับ เพราะหนังสือ textbook ส่วนใหญ่จะเขียนไว้แบบนี้

เรื่อง duodenum กับ jejunum มีน้องถามมาบ้าง คือยังงี้นะ
ข้อสอบเอนท์สมัยเก่าเนี่ย มีข้อนึงก็ถามว่า "ส่วนไหนของลำไส้ดูดซึมมากที่สุด" แบบนี้แหละ
ซึ่งคนออกข้อสอบเป็นอ.ที่วิทยามหิดลที่เก่งเรื่องสรีรวิทยาของสัตว์มาก
และอ.ท่านนี้แหละที่บอกพี่เองว่าเฉลยในสมัยนั้นคือ jejunum
แต่บอกว่า ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ จะเฉลยว่า duodenum เพราะ


- คนสมัยก่อนผ่านอาจารย์ใหญ่มาและพบว่าที่ jejunum ค่อนข้างว่างเปล่า เลยคิดว่าดูดซึมได้ดี และ
- jejunum ยาวกว่า duodenum
แต่ความเป็นจริงที่อ.ได้อ่านงานวิจัยใหม่ๆมาคือ
- jujenum ค่อนข้างว่างเปล่าเพราะเป็นส่วนที่อาหารเคลื่อนผ่านไปได้เร็วมากต่างหาก
- duodenum สั้นกว่าแต่มีพื้นที่หน้าตัดมากกว่า มีความหนาแน่นของ microvilli และ villi มากกว่า
- สรุปคือ dudenum สั้นกว่าก็จริงแต่ประสิทธิภาพการดูดซึมมากกว่า jejunum

พี่ติดต่ออ.ไม่ได้ แต่ค้นหนังสือที่อ.ใช้สอนทั้ง สอวน. สสวท. ศิริราช รามา วิทยามหิดลมา เค้าบอกว่า

Most absorption occurs in the duodenum and jejunum; very little occurs in the ileum, not because the ileum does not have absorptive capacity but because most absorption has already been accomplished before the intestinal contents reach the ileum. The small intestine has an abundant reserve absorptive capacity. About 50% of the small intestine can be removed with little interference to absorption-with one exception. If the terminal ileum is removed, vitaminB12 and bile salts are not properly absorbed, because the specialized transport mechanisms for these two substances are located only in this region. All other substances can be absorbed throughout the small intestine's length.


สรุป: โรงเรียนสอนยังไง ก็ตอบยังงั้นละกันนะน้อง แค่รู้ในใจไว้เฉยๆก็พอว่าเป็นข้อสอบที่ไม่ดี และจริงๆมันมีแนวโน้มจะตอบ duodenum มากกว่านะ


ค. ผิด ถึงจะมี mitochondria มากแต่ยังไงเซลล์บุลำไส้ก็ดูดซึมได้ทั้งแบบ osmosis, simple diffusion, facilitated transport, active transport และ pinocytosis
ง. เซลล์เยื่อบุลำไส้เล็ก ดูดซึมทุกสารที่ดูดซึมได้นะ เพียงแต่ว่าสารไหนจะแยกเข้าเส้นเลือด สารไหนเข้า lacteal เท่านั้นเอง
25. ง.
ถ้าดูดน้ำคืนที่ลำไส้ใหญ่ไม่ได้ อุจจาระก็จะออกมามีแต่น้ำคือท้องเสีย พร้อมกับมีแร่ธาตุออกมาด้วยเยอะแยะ จึงต้องให้เกลือแร่ทดแทน ถ้าหากท้องเสียอย่างรุนแรง (อหิวาต์) แล้วไม่ได้รับเกลือแร่ จะทำให้สมดุลไอออนในร่างกายเสียจนช็อคได้


Create Date : 03 ตุลาคม 2552
Last Update : 23 พฤษภาคม 2553 16:06:18 น. 18 comments
Counter : 27009 Pageviews.  

 
ขอบคุณครับพี่เต็นท์

^ ^


โดย: คิว IP: 192.168.100.194, 202.143.160.230 วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:10:01:45 น.  

 
พี่คะ
งงข้อ19 ข. อ่ะค่ะ
A = แป้งหรือ glycogen, B = คาร์โบไฮเดรตที่มี glucose เป็น monomer แต่ y เป็น sucrase ซึ่งเอาไว้ย่อยน้ำตาลซูโครสที่เกิดจาก glucose + fructose

ถ้าอย่างงั้น พอ amylase ย่อยแป้งไกลโคเจนเสร็จ ได้
คาร์โบไฮเดรตที่มี glucose เป็น monomer แล้วขั้นต่อไปต้องใช้อะไรย่อยต่อถึงจะถูกอะคะ ?

ขอบคุณค่ะ


โดย: MA IP: 118.172.92.218 วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:8:10:04 น.  

 
เอนไซม์หลักในการย่อยแป้งคือ amylase ครับ
ย่อยกันไปเรื่อยๆจนกลายเป็น glucose เลยครับ ในลำไส้ก็มี amylase ใช่ไหม
บางโรงเรียนอาจจะมี lab ที่เอาน้ำลายมาผสมที่มีไอโอดีนซึ่งเป็นสีน้ำเงิน
ปล่อยไว้ สีน้ำเงินก็หายไป ทดสอบด้วยเบเนดิกต์ก็ได้ เพราะมันกลายเป็นน้ำตาลหมดเลย
นอกจากนี้แป้งที่เหลืออาจเป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ (maltose) ก็ยังมี maltase ที่ผนังลำไส้ช่วยย่อยด้วยนะ

ส่วน sucrase เอาไว้ย่อยซูโครส ซึ่งอาหารหลักของคนเนี่ยไม่มี polymer ของ sucrose ครับ

โจทย์ที่ให้มาควรจะเปลี่ยน y เป็น maltase หรือเกิดแค่ปฏิกิริยาเดียวก็ได้ครับ
แป้ง -->(ใช้ amylase) glucose


โดย: ตัวตุ่นตามัว วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:9:24:25 น.  

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: MA IP: 118.172.95.4 วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:16:55:44 น.  

 
ครับต่อไปผมจะใช้สัญลักษณ์ตัวเลขเป็น แบบฝึกหัด ตอนที่/ครั้งที่ นะครับ มีคำถามจะถามครับ
1. 1/1 Amylase ต้องเป็น Amylose สิครับ พี่พิมพ์ผิดครับ แก้ด้วย
2.Ttipeptidase ย่อยได้กรดอะมิโน 3 ตัวเลยเปล่าครับ หรือได้ 1 อะมิโน กับ ไดเพปไทด์
3. 2/8 ผมว่าการที่เพดานอ่อนยกตัวมันไม่เกี่ยวกับการพูดเลยไม่ใช่หรอครับ หรือผมคิดผิด
4.Carboxypeptidase ย่อยได้ 1 อะมิโนกับสายเพปไทด์ที่สั้นลง 1 อะมิโน เหมือน Aminopeptidase ไหมครับ
5. 2/17 แล้วข้อ c ถ้าเป็น ZE Syndrome มันก็ต้องตอบข้อนี้ด้วยสิครับ
6.ตับสะสมเหล็กเอาไว้ทำไมหรอครับพี่ใช่ซากเม็ดเลือดแดงที่ถูกทำลายเปล่า แล้ว Bilirubin เอามา Recycle ไม่ได้หรอครับ ทำไมต้องขับิ้งอ่าครับ
7. 2/23 แล้วถ้ากระเพาะไม่ย่อยให้เป็นพอลิเพปไทด์ที่สั้นลงแล้ว ลำไส้เล็กจะย่อยได้หรือครับ หรือว่าได้แต่ว่าย่อยได้น้อยกว่าเดิม
8.นอกจาก NaHCO3 และ น้ำดี แล้วมีสารใดที่ช่วยลดกรดในลำไส้ล็กได้อีกบ้างไหมครับ
9.มีอาหารไหนที่มี Polymer ของ Sucrose บ้างไหมครับ


โดย: แตงโม IP: 58.9.115.176 วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:2:25:35 น.  

 
1. ครับ
2. อย่างหลังครับ
3. แค่อยากให้รู้ว่าเวลากลืนเกิดอะไรบ้าง และโดยภาพรวมทั้งหมดการกลืนทำให้พูดไปพร้อมๆกันไม่ได้ครับ
พี่ว่าถ้าเพดานอ่อนยกตัวตลอดเวลาเวลาพูดคงไม่เหมือนปกติหรอก
4. ใช่ครับ
5. คงงั้นมั้งครับ พี่ลอกโจทย์ anet มา ซึ่งบางอย่างเด็กม.ปลายก็ไม่ต้องรู้หรอก อย่างที่พี่บอกครับ
6. เหล็กเป็นสารอาหาร ตับสะสมสารอาหารเอาไว้ แค่นี้แหละครับ
bilirubin บางส่วนรีไซเคิลได้ บางส่วนออกมากับอึ/ฉี่
//en.wikipedia.org/wiki/Bilirubin#Metabolism
7. ลำไส้เล็กมีน้ำย่อยอีกหลายตัวที่ทำหน้าที่คล้าย pepsin ได้ครับ (อย่างน้อย 2 ตัว ที่หน้า 85)
8. เมือกและน้ำคัดหลั่งจากลำไส้/ตับอ่อนครับ
9. ไม่รู้ครับ คงมีแต่ไม่ใช่อาหารหรือไม่สำคัญกับคน ค้นเองนะ


โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:12:46:21 น.  

 
พี่เต๊น แพรวเข้าใจถูกรึเปล่าว่าพวกน้ำย่อยที่หลังมาจากตับอ่อนส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของ proenzyme เช่นพวกน้ำย่อยโปรตีน แต่น้ำย่อยที่หลั่งออกมาจากลำไส้เล็กอยู่อยู่ในรูปของ enz ที่พร้อมใช้งานได้เลย??


โดย: frozen IP: 172.16.3.44, 202.129.12.194 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:11:12:00 น.  

 
- น้ำย่อยจากตับอ่อนถ้าเกิดเป็น protease จะอยู่ในรูป proenzymme ถูกแล้ว
อย่าง trypsinogen, procarboxypeptidase
- น้ำย่อยที่ลำไส้เล็กไม่ได้ถูกหลั่งออกมานะ (ตอนเด็กๆพี่ก็คิดว่างั้น)
แต่เป็นเอนไซม์ที่แปะอยู่บน microvilli อะ (enterokinase ก็ด้วย) ถ้าเป็น protease จะไม่ใช่ proenzyme
อย่าง dipeptidase, tripeptidase ^^"


โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:13:10:11 น.  

 
เพ่เต๊นนนนค๊าบบบบ

ข้อ 17 ทำไมถึงเฉลย a ล่ะครับ ถ้าตับอ่อนไม่สร้าง แต่ก็มีลำไส้เล็กสร้าง lipase ที่ผนัง duodenum อยู่แล้วนินา

- -"


โดย: ทีมคุง IP: 183.89.117.158 วันที่: 12 มิถุนายน 2553 เวลา:14:47:54 น.  

 
พี่ครับอันนี้อ่านจากหนังสือเล่มอื่นแล้วเจอโจทย์ข้อนี้

ข้อใดที่เกี่ยวข้องกับการย่อยอาหารของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กินพืช
ก. ลำไส้เล็กยาว
ข. มีไส้ติ่งช่วยในการดูดซึมและย่อย
ค. มีจุลินซี ช่วยย่อยในทางเดินอาหาร
ข้อใดถูกบ้าง
เค้าเฉลย ข ค

เค้าเฉลยผิดหรือป่าวครับผมคิดว่ามันต้องตอบ ก ข ค


โดย: kraiwasad IP: 125.24.229.253 วันที่: 1 สิงหาคม 2553 เวลา:13:48:26 น.  

 
พี่เต๊น คือหนูสงสัยว่า digestive cellในไฮดราอ่ะค่ะ มันทำหน้าที่อะไร คือหนูอ่าเจอหลายเล่มบอกว่าจับอาหารเหมือน nutritive cell บางเล่มก้บอกว่าหลั่งเอนไซม์เหมือน gland cell หนูเลยงงว่ะ ตกลงมันอะไรกันแน่ค่ะพี่


โดย: Pat IP: 222.123.184.45 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:51:30 น.  

 
ขอบคุณมากๆค่ะพี่เต๊น


โดย: mm IP: 125.24.178.53 วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:1:01:32 น.  

 
Glycogen ย่อยที่ปากหรอครับ ทำไมผมอ่านหนังสือเล่มอื่นในส่วนที่เป็นแบบฝึกหัด ในส่วนที่ย่อยที่ปากนั้นไม่มี Glycogen


โดย: asdq IP: 183.89.216.93 วันที่: 16 ตุลาคม 2554 เวลา:14:05:17 น.  

 
พี่คับ ผมคิดว่าข้อ5น่าจะตอบว่า ถูก นะคับ เพราะว่า มันยกเว้นแค่ตัวเดียวอะคับ ซึ่งถ้าพูดถึง plathyhel กับ cnidaria ก็ต้องบอกว่าทางเดินอาหารไม่สมบูรณ์อะคับ ... ที่ผมคิดใช่ป่าวคับพี่


โดย: kumwong IP: 27.145.128.26 วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:10:34:37 น.  

 
พี่คับ ที่พี่บอกว่า enterokines ไม่ได้เป็นน้ำย่อยแต่เ็ป็น enz เลยงงว่า น้ำย่อยกับ enz ต่างกันยังไงอะคับ


โดย: kumwong IP: 27.145.128.26 วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:10:58:19 น.  

 
ช่วงนี้พี่ไม่คอยตอบเลย ไม่ว่างคะ ตาคิดถึงพี่จังเลย


โดย: ตาาา IP: 115.67.131.227 วันที่: 1 มกราคม 2556 เวลา:17:41:39 น.  

 
พี่ครับแต่ทำไมเห็นหนังสือบางเล่มบอกว่าดูดซึมอาหาร มี ileum ด้วยละพี่


โดย: ... IP: 171.4.251.56 วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:0:26:16 น.  

 
.


โดย: . IP: 171.4.251.26 วันที่: 6 เมษายน 2557 เวลา:13:22:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิสเตอร์คัสตาร์ด
Location :
Igloo house Antarctica

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 240 คน [?]




เมลล์มาคุยกันได้นะครับ
tentaroro@yahoo.com :)

[Add มิสเตอร์คัสตาร์ด's blog to your web]