|
เฉลย: ระบบประสาท
เฉลยเรื่อง ระบบประสาท
ตอนที่ 1 1. ถูก myelin ใน PNS สร้างจาก Schwann cell ใน CNS สร้างจาก oligodendrocyte 2. ถูก neurofilament เป็น cytoskeleton หลักของเซลล์ประสาท เป็น intermediate filament อย่างหนึ่ง เห็นแบบนี้ก็เคยออกข้อสอบเอนท์นะ 3. ถูก bipolar neuron เป็น sensory neuron 3 ตำแหน่งที่ต้องรู้คือ 1) ตา 2) หู 3) จมูก แต่ sensory neuron บางตำแหน่งอาจจะเป็น unipolar neuron ได้ เช่นที่ dorsal root ganglion 4. ถูก ที่ dorsal root ganglion รูปร่าง unipolar หน้าที่ sensory แต่ที่ sympathetic ganglion รูปร่าง multipolar หน้าที่ motor แบบ autonomic 5. ผิด เกือบถูกกกแล้ว ผิดตรง ผนังเซลล์ ต้องเปลี่ยนเป็น เยื่อหุ้มเซลล์ 6. ผิด ความแรงของกระแสประสาท (amplitude ของ action potential) มีค่าเท่ากัน ต่างกันที่ความถี่ของ action potential ที่เกิดขึ้น เจ็บมากก็ถี่มาก 7. ถูก เป็นคำจำกัดความที่ต้องรู้ให้ได้นะ 8. ผิด อัตราส่วนโซเดียมต่อโพแทสเซียมเป็น 3 : 2 ไม่ใช่ 2 : 3 9. ถูก 10. ถูก สำคัญมากๆๆๆๆๆๆ 11. ผิด ยาฆ่าแมลงส่วนใหญ่จะไปทำลาย acetylcholinesterase ทำให้ parasympathetic ถูกกระตุ้นมากเกินไป น้ำไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด น้ำลายฟูมปาก ฉี่ราด สารคัดหลั่งทั่วร่างกายไหลออกมา เหงื่อออก หัวใจเต้นช้า ฯลฯ 12. ถูก ขณะที่ผิวนอกเซลล์มีศักย์เป็นลบ แสดงว่าขณะนั้นกำลังเกิด action potential อยู่ จะกระตุ้นซ้ำไม่ได้หรอกนะไม่งั้นจะถี่เกินไป 13. ถูก CSF พบได้ 3 ที่ตามนั้นแหละ 14. ถูก spinal nerve ทั้ง 31 เส้นเป็น PNS ทั้งหมด, เป็น ANS ทั้ง parasympathetic (ส่วนกระเบนเหน็บ) และ sympathetic (ส่วนอก เอว) และเป็น SNS (ส่วนที่เหลือ) 15. ถูก spinal nerve ทุกเส้นรับ sensory ทางรากบนและส่ง motor ทางรากล่าง จึงเป็น mixed nerve เหมือน CN คู่ที่ 5 7 9 10 16. ถูก sensory ทั้ง รูป รส เสียง สัมผัส จะต้องผ่าน thalamus ก่อนที่จะขึ้นไปรับรู้ที่ cerebrum 17. ผิด cerebrum จะขาวในเทานอก ส่วนไขสันหลังจะขาวนอกเทาใน 18. ผิด ไม่ใช่ hypothalamus เท่านั้น อารมณ์ต่างๆยังถูกควบคุมโดย cerebrum ได้อีกด้วย 19. ผิด ก้านสมอง คือ มิด เม็ด พอนส์ = midbrain medulla pons แต่ถ้าเป็น pons medulla cerebellum รวมเรียกว่าสมองส่วนหลัง (hindbrain) 20. ถูก เพราะ cerebrum ควบคุมการใช้ภาษาและการรับรู้ภาษา, cerebellum เกี่ยวกับการทรงตัวและประสานงาน, medulla เกี่ยวกับระบบประสาทอัตโนวัติต่างๆ เช่น การหายใจ การเต้นของหัวใจ 21. ผิด ระบบ parasympathetic จะกระตุ้นทางเดินอาหาร ส่วน sympathetic จะยับยั้งทางเดินอาหาร 22. ผิด ระบบประสาทพบตั้งแต่ cnidaria แต่ระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) พบตั้งแต่หนอนตัวแบน 23. ผิด ต้องเปลี่ยน mesoderm เป็น ectoderm 24. ถูก กลิ่นและรส จะต้องมาในรูปโมเลกุลกลิ่นและโมเลกุลรส ตัวรับจึงเรียกว่าตัวรับเคมี (chemoreceptor) 25. ถูก Eustachian tube เปลี่ยนแปลงมาจากช่องเหงือก และเอกลักษณ์ของ chordate คือ 1) dorsal nerve cord 2) gill slit 3) muscular tail และ 4) notochord 26. ถูก ถ้าเกิดวัตถุไกล pupil จะขยาย (sympathetic) และถ้ามองวัตถุใกล้ pupil จะหรี่ (parasympathetic) 27. ผิด รงควัตถุต้องอยู่บน choroid 28. ถูก เพราะม่านตา (iris) มีหน้าที่หรี่-ขยาย เพื่อปรับปริมาณแสงที่ตกกระทบเรตินา เหมือนกับ diaphragm ของกล้องจุลทรรศน์ 29. ถูก นึกถึงวงแสงสามวงที่ประกอบไปด้วยสี แดง น้ำเงิน และเขียว ถ้าเกิดคนตาบอดสีแดงแสดงว่าวงสีแดงหายไป ทำให้เขามองเห็นแสงที่เกิดจากสีแดงเพี้ยนไปด้วย กล่าวคือ สีม่วง (เกิดจากแดง + น้ำเงิน) จะมองเห็นเป็นน้ำเงิน ส่วนสีเหลือง (เกิดจากแดง + เขียว) จะมองเห็นเป็นสีเขียว ขณะที่สีอื่นๆยังเป็นปกติ ทั้งน้ำเงิน เขียว เขียวแกมน้ำเงิน 30. ผิด ตามปกติมีรูปแท่งมากกว่ารูปกรวย ยกเว้นตรง fovea ที่จะมีรูปกรวยหนาแน่นกว่า
ตอนที่ 2 1. ค. a) ถูก อย่างเช่นตัวเซลล์ของ sensory neuron ใน dorsal root ganglion ก็อยู่ในรากบนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ spinal nerve (อยู่นอก CNS) b) ถูก อย่างเช่น motor neuron ที่เป็น postganglionic neuron ของ ANS ซึ่งอยู่ใน autonomic ganglion ต่างๆ ก็อยู่นอก CNS c) ผิด interneuron พบเฉพาะใน CNS เท่านั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสมองหรือไขสันหลัง 2. ก. a) ถูก axon ที่มี myelin sheath หุ้ม จะนำกระแสประสาทแบบกระโดด เร็วกว่าแบบไม่มี myelin ถึง 10 เท่า b) ผิด การมี myelin หุ้มไม่เกี่ยวกับความสามารถฟื้นฟูศักย์เยื่อเซลล์ให้เข้าสู่ภาวะปกติ c) ผิด ขนาด action potential (คือความสูงหรือแอมพลิจูดของเส้นกราฟ) จะมีขนาดเท่ากันในทุกๆเซลล์ตามกฎ all or none 3. ง. nerve impulse จะเคลื่อนได้เร็วก็ต่อเมื่อ 1) มี myelin sheath ห่อหุ้ม 2) ระยะระหว่าง node of Ranvier มาก จะได้กระโดดได้ไกลๆ 3) จำนวน synapse ยิ่งน้อยยิ่งไม่เสียเวลา 4) เส้นผ่านศูนย์กลาง axon ยิ่งใหญ่ยิ่งเร็ว ส่วนความแรงของตัวกระตุ้นจะส่งผลต่อความถี่ของ action potential มากกว่า 4. ก. a) ไม่หลั่ง 1 ไป 3 ยังอยู่ในเซลล์เดียวกัน ไม่มีไซแนปส์ b) หลั่ง 2 ไป 4 มีไซแนปส์จึงใช้สารสื่อประสาท c) หลั่ง 3 ไป 4 มีไซแนปส์จึงใช้สารสื่อประสาท d) หลั่ง 4 ไป 5 มีไซแนปส์ไปกระตุ้นกล้ามเนื้อ ใช้สารสื่อประสาทเป็น acetylcholine 5. ค. parasympathetic ทำให้ - กระตุ้นต่อมน้ำลาย น้ำลายมากและใส - กระตุ้นตับอ่อน ให้หลั่งสารต่างๆ - ทำให้อวัยวะเพศชาย (penis) เกิด erection แต่ต่อมหมวกไตชั้นในเป็นอวัยวะที่ควบคุมด้วย sympathetic นะ ส่วนชั้นนอกคุมโดยฮอร์โมน ACTH 6. ง. ถ้าสารตัวไหนจะมีคุณสมบัติเป็นยาชา จะต้องทำให้ไม่เกิดกระแสประสาท คือมีผลทำให้เกิด hyperpolarization ของศักย์เยื่อหุ้มเซลล์นั่นเอง a) ถูก ถ้า Na+ เข้าเซลล์ไม่ได้ก็เกิด hyperpolarization คือเซลล์เป็นลบมากขึ้นเรื่อยๆเพราะบวกเข้าเซลล์ไม่ได้ b) ถูก ถ้า K+ แพร่ออกจากเซลล์ก็เกิด hyperpolarization คือเซลล์เป็นลบมากขึ้นเรื่อยๆเพราะบวกออกจากเซลล์เรื่อยๆ c) ถูก ถ้า Cl- แพร่เข้าเซลล์ก็เกิด hyperpolarization คือเซลล์เป็นลบมากขึ้นเรื่อยๆเพราะลบเข้ามาในเซลล์ 7. ค. กระแสประสาท (nerve impulse) เกิดจากการเหนี่ยวนำของ action potential จากบริเวณ A ให้เกิดขึ้นที่บริเวณ B ที่อยู่ถัดไป โดยกลไกของ action potential คือการแพร่เข้าเซลล์ของ Na+ นั่นเอง ดังนั้นข้อ ค. เลยถูกต้อง 8. ก. ก. ผิด Na+ - K+ pump พบใน a และ f เพื่อรักษา resting state และยังพบในระยะ e เพื่อให้ศักย์เยื่อหุ้มเซลล์กลับมาเป็นปกติ ข. ถูก b และ c เป็น depolarization ของเยื่อหุ้มเซลล์ มีการกรูเข้ามาในเซลล์ของ Na+ ค. ถูก ระยะ d คือ repolarization เกิดการแพร่ออกอย่างมากของ K+ จนกระทั่งแพร่ออกมากเกินไป เกิด hyperpolarization ที่ระยะ e ง. ถูก เมื่อถึง threshold potential แล้ว (จุด 1) จะทำให้เกิดกระบวนการต่างๆของ action potential ตามมาอีกเป็นพรวนจนถึงจุด 2 ถ้าเกิดไม่ depolarize ไปถึงจุด 1 กระบวนการต่างๆก็ไม่เกิด เรียกว่ากฎ all or none 9. ค. ก. ถูก ระบบประสาทรอบนอกประกอบด้วยเส้นประสาทสมอง 12 คู่ และเส้นประสาทไขสันหลัง 31 คู่ ข. ถูก PNS บางเส้นก็เป็น sensory เช่น CN คู่ที่ 1 2 8 หรือเป็น motor เช่น CN คู่ที่ 3 4 6 11 12 หรือบางเส้นก็ทำหน้าที่ทั้งสองอย่างเรียก mixed nerve คือ CN คู่ที่ 5 7 9 10 และ SN ทุกเส้น ค ผิด การแยกเป็น sympathetic และ parasympathetic นั้นเป็นส่วนสั่งการ (motor) เท่านั้น ง. ถูก คำอธิบายในข้อ ข. 10. ก. a) ถูก กระตุ้นโดย ANS แบบ parasympathetic b) ผิด เกิดขึ้นนอกอำนาจจิตใจ (involumtary) ก็จริง แต่สั่งการไปที่กล้ามเนื้อลายจึงเป็น SNS นะ c) ผิด ร่างกายสั่นเทิ้มเกิดจากกล้ามเนื้อลายส่วนนู้นส่วนนี้หดตัว จึงเป็น SNS เหมือนกัน 11. ค. ถ้า 1 =interneuron, 2 = motor neuron แล้ว แสดงว่าเป็นการสั่งการแบบ SNS เพราะใช้ motor neuron เพียง 1 เซลล์ a) ถูก เพราะ SNS สั่งการไปที่กล้ามเนื้อยึดกระดูก (skeletal muscle) b) ถูก เป็นข้อยกเว้นของ ANS ซึ่งปกติใช้ motor neuron 2 เซลล์ยกเว้นที่ต่อมหมวกไตชั้นในเท่านั้นที่ใช้ 1 เซลล์ c) ผิด กระเพาะปัสสาวะถูกควบคุมโดย ANS ทั้ง parasympathetic และ sympathetic จึงต้องใช้ motor neuron สั่งการ 2 เซลล์ 12. ข. ก. ผิด ยับยั้งตับอ่อน เป็น sympathetic ข. ถูก ค. ผิด หัวใจเต้นเร็วและเหงื่อออก เป็น sympathetic ง. ผิด หายใจคล่อง เป็น sympathetic 13. ง. เล่มพิมพ์ครั้งที่ 1/2 ช่วยแก้โจทย์เป็น ข้อใดถูก นะครับ อวัยวะเป้าหมายเป็นลำไส้ แสดงว่าถูกควบคุมโดย ANS โดย A = interneuron, B = preganglionic neuron, C = postganglionic neuron และ B ยาวกว่า C แสดงว่าเป็นระบบ parasympathetic a) ถูก เมื่ออยู่ในภาวะตึงเครียดและคับขัน sympathetic จะถูกกระตุ้น ส่วน parasympathetic และทางเดินอาหารจะทำงานลดลง b) ถูก ปลาย axon ของ motor neuron 2 เซลล์ของ parasympathetic ต่างก็หลั่ง acetylcholine c) ถูก A เป็น interneuron ซึ่งพบเฉพาะในสมองหรือไขสันหลัง ส่วนที่พบตัวเซลล์ได้ใน CNS จึงอาจเป็น grey matter ของสมอง (อยู่ด้านนอก) หรือของไขสันหลัง (อยู่ด้านใน) 14. ข. a) ถูก ความจำกัดความของ SNS คือสั่งการไปที่ skeletal muscle โดยเราอาจควบคุมได้ (เช่นยกแข้งยกขา) หรือควบคุมไม่ได้ (เช่น knee jerk reflex) ก็ได้ b) ผิด SNS มี motor neuron แค่ 1 เซลล์ไซแนปส์กับ interneuron ใน CNS จึงไม่พบปมประสาทใดๆ c) ถูก ปลาย motor neuron ที่มีอยู่เซลล์เดียวนั้นจะหลั่ง acetylcholine ไปกระตุ้นกล้ามเนื้อยึดกระดูกให้หดตัว 15. ค. ข้อนี้เป็นข้อสอบเอนท์ที่ค่อนข้างยากเลยล่ะ ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า อัตราการเต้นของหัวใจ (heart rate : HR) หรือชีพจร (pulse) ของคนเรานั้นมีค่าประมาณ 72 ครั้งต่อนาที (HR = 72/min) (เรื่องการรักษาดุลยภาพของร่างกายไง) และภูเขาแต่ละลูกที่แสดงในกราฟนั้น บ่งบอกถึงการเต้นของหัวใจ ซึ่งทำให้แรงดันเลือดขึ้นๆลงๆเป็นภูเขาอย่างที่เห็น กราฟ I เห็นว่าแรงดันเลือดมีภูเขา 6 ลูกใน 10 วินาที แสดงว่ามีอัตราการเต้นของหัวใจ 6 x 6 ครั้งใน 60 วินาที (HR = 36/min) กราฟ II เห็นว่าแรงดันเลือดมีภูเขา 12 ลูกใน 10 วินาที แสดงว่ามีอัตราการเต้นของหัวใจ 12 x 6 ครั้งใน 60 วินาที (HR = 72/min) แสดงว่ากราฟ II เป็นกราฟปกติ ส่วนกราฟ I คือ parasympathetic ถูกกระตุ้นหัวใจเลยเต้นช้ากว่าปกติ 16. ง. เมื่อเราเดินไปที่มืด รูม่านตาต้องขยายขึ้นเพื่อให้แสงเข้าไปหาเรตินาได้มากขึ้น กล้ามเนื้อที่ควบคุมม่านตามี 2 มัด คือกล้ามเนื้อแนวรัศมี ที่หดขยายคลายหรี่ กับกล้ามเนื้อวง ที่หดหรี่คลายขยาย แสดงว่าในที่มืด กล้ามเนื้อแนวรัศมีต้องหด กล้ามเนื้อวงต้องคลาย รูม่านตาขยาย = sympathetic นึกถึงเวลาเราตกใจ ตาจะโตๆ, รูม่านตาหรี่ = parasympathetic 17. ค. ต้องส่วน C (occipital lobe) ที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็น ส่วน A B D เรียกว่า frontal, parietal, temporal lobe ตามลำดับ 18. ค. A = cerebrum, B = cerebellum, C = medulla, D = hypothalamus ส่วนที่ไวต่อคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด และสั่งการไปยังกล้ามเนื้อกระบังลมได้ แสดงว่าเป็นศูนย์การหายใจ (อยู่ในเรื่องการรักษาดุลยภาพร่างกาย) นั่นคือ medulla นั่นเอง 19. ค. การที่ตัวร้อนและเป็นไข้ เกี่ยวข้องกับ hypothalamus ซึ่งควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย การที่รู้สึกร้อนไปทั้งตัว เกี่ยวข้องกับ cerebrum ซึ่งรับรู้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ปล. หน้าที่ของ hypothalamus มีดังต่อไปนี้ ..อ่านเฉพาะที่อยู่นอกวงเล็บจะได้ท่องตอนสอบนะครับ หิว อิ่ม กระหาย(น้ำ) หื่น ตื่น(รวมทั้งง่วง) (หัวใจ)เต้น (อุณหภูมิร้อนและ)เย็น อารมณ์ สมดุล(ยภาพของร่างกาย) ความ(ดัน) ท่องง่ายๆว่า หิว อิ่ม กระหาย หื่น ตื่น เต้น เย็น อารมณ์ สมดุล ดัน 20. ค. การสั่งการกล้ามเนื้อต่างๆผ่าน SNS ใช้ cerebrum ส่วนการประสานกล้ามเนื้อมัดต่างๆให้ทำงานได้พร้อมๆกันใช้ cerebellum 21. ง. a) ถูก สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำอย่าง cnidarian ยังไม่มีปมประสาทเลย ยิ่งวิวัฒนาการสูงขึ้นปมประสาทยิ่งมากและใหญ่ขึ้น b) ถูก อย่างใน cnidarian มีเซลล์ประสาทแค่ชนิดสองชนิด แต่ในคนมีเซลล์ประสาทหลายสิบหลายร้อยชนิด c) ถูก ยิ่งร่างกายมีความสลับซับซ้อนเท่าไหร่ เซลล์ประสาทก็ต้องยิ่งกระจายไปควบคุมส่วนต่างๆมากขึ้นเท่านั้น 22. ก. ใยประสาท คือ nerve fiber หมายถึง axon ต่างหาก ส่วนของพารามีเซียมจะชื่อคล้ายๆกัน เรียกเส้นใยประสานงาน (coordinating fiber) 23. ง. a) ถูก จิ้งจกเป็น reptile มี CN 12 คู่ ส่วนจิ้งจกน้ำเป็น amphibian มี CN 10 คู่ b) ถูก midbrain ในปลาเจริญดีมากช่วยควบคุมการมองเห็นจนเรียกว่า optic lobe ส่วน midbrain ของคนเจริญน้อย ควบคุม reflex บางอย่างของลูกตาและการได้ยินเท่านั้น c) ถูก เพราะสัตว์ที่ต้องเคลื่อนที่ในแนวสามมิติอย่างปลาและนก ต้องทรงตัวดีจึงมี cerebellum เจริญ 24. ค. ก. ผิด จริงๆมันก็ถูกแต่สรุปแบบนี้มันไม่ดี ถ้าจะสรุปแบบนี้ใช้บีกเกอร์แรกบีกเกอร์เดียวก็พอแล้วนะ ข. ผิด เราไม่รู้ว่าสิ่งที่พบในบีกเกอร์แรกแล้วทำให้หัวใจบีกเกอร์สองเต้นช้าลงนั้น คือสารสื่อประสาท เป็นการสรุปที่ใส่ความรู้ตัวเองเข้าไป ค. ถูก เห็นจากการทดลองยังไง ก็สรุปยังงั้น ดีมาก เมื่อหยดสารละลายในบีกเกอร์ 1 ใส่บีกเกอร์ 2 แล้วหัวใจเต้นช้าลง แปลว่ามันต้องมีสารอะไรซักอย่างถูกถ่ายโอนให้มัน สารนั้นจะมาจากไหนล่ะ ก็มาจากการกระตุ้น CNX นั่นเอง ง. ผิด อันนี้ก็มาแนวเดียวกับข้อ ก. คือทดลองแค่บีกเกอร์เดียวดีกว่าไหมถ้าจะสรุปแบบนี้ และผิดที่คำว่า หดตัว ต้องบอกว่า หดตัวลดลง หรือ เต้าช้าลง 25. ค. สรุปคือถามว่า มองวัตถุไกล จะเกิดอะไรขึ้น A (ciliary muscle) จะคลาย, lens จะแฟบ, B (suspensory ligament) จะตึง 26. ข. สายตาพร่าเพราะรงควัตถุที่ใช้มองเห็น (rhodopsin) มันค่อยๆหมดไปทีละน้อย เราต้องหลับตาเพื่อสร้าง rhodopsin ขึ้นมาใหม่ในเรตินา ส่วนการที่ ciliary muscle หดตัวจนเมื่อยล้านั้นเกิดจากการจ้องและเพ่งนานๆก็จริง แต่ไม่เกี่ยวกับการที่สายตาพร่า 27. ง. bipolar neuron เป็น sensory neuron ที่พบอยู่ในตา จมูก และหู จำไปเลย เวลาจำก็แค่ เอานิ้วชี้แตะปลายจมูก แล้วก็แตะที่ตา แล้วก็จับใบหู พร้อมกับพูดว่า หนึ่งสองแปด..หนึ่งสองแปด..หนึ่งสองแปด ไปเรื่อยๆ มีความหมายว่า 1) CN คู่ที่ 1 2 และ 8 รับรู้เกี่ยวกับ กลิ่น การมองเห็น การทรงตัว+การได้ยิน ตามลำดับ 2) ทั้งสามเส้นนี้เป็น CN ที่เป็น sensory nerve 3) ทั้งสามอวัยวะนี้มี sensory neuron รูปร่างแบบ bipolar 28. ค. a) ถูก การรับรสที่ลิ้น ใช้ CN คู่ที่ 7 และ 9 b) ถูก การได้ยิน ใช้ CN คู่ที่ 8 c) ถูก การทรงตัว CN คู่ที่ 8 d) ผิด การมองเห็น ใช้ CN คู่ที่ 2 29. ค. hair cell พบสองที่คือ 1) cochea เกี่ยวกับได้ยินเสียง 2) อยู่ที่กระเปาะ (ampulla) ใต้ semicircular canal เกี่ยวกับการทรงตัว ส่วนที่ semicircular canal ไม่มี hair cell หรอกนะ 30. ค. โครงสร้างที่ขยายแอมพลิจูดคลื่นเสียงมี 1) เยื่อแก้วหู ขยาย 17 เท่า 2) กระดูกค้อน ทั่ง โกลน ขยาย 1.3 เท่า เอามารวมกันแล้ว ทั้งสองจะช่วยขยายคลื่นเสียงได้ 22 เท่า
Create Date : 03 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 7 ธันวาคม 2552 15:43:13 น. |
|
26 comments
|
Counter : 32079 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: MN IP: 118.172.27.35 วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:14:46:29 น. |
|
|
|
โดย: MN IP: 118.172.27.35 วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:15:00:40 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:15:41:51 น. |
|
|
|
โดย: ฺBS IP: 125.27.210.171 วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:20:19:23 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:22:36:01 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 172.16.3.178, 202.129.12.194 วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:11:22:48 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:47:26 น. |
|
|
|
โดย: hi IP: 115.67.230.62 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:04:18 น. |
|
|
|
โดย: hi IP: 115.67.230.62 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:28:53 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:00:55 น. |
|
|
|
โดย: hi IP: 115.67.91.146 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:07:32 น. |
|
|
|
โดย: ป้อน IP: 203.144.144.165 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:38:56 น. |
|
|
|
โดย: ป้อน IP: 203.144.144.165 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:46:30 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:12:21:24 น. |
|
|
|
โดย: ... IP: 125.25.6.139 วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:17:04:26 น. |
|
|
|
โดย: kigkapoo IP: 183.89.173.41 วันที่: 3 เมษายน 2553 เวลา:16:41:02 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:17:48:35 น. |
|
|
|
โดย: kigkapoo IP: 183.89.183.163 วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:13:51:25 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:19:37:51 น. |
|
|
|
โดย: ooui IP: 114.128.123.157 วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:17:54:22 น. |
|
|
|
โดย: นาจะติ๊ก IP: 114.128.124.112 วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:22:05:23 น. |
|
|
|
โดย: แทแท IP: 112.142.131.189 วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:45:17 น. |
|
|
|
โดย: ....... IP: 58.8.90.127 วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:20:48:28 น. |
|
|
|
โดย: aonjun IP: 115.87.169.189 วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:21:24:49 น. |
|
|
|
โดย: zk. IP: 58.8.170.90 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:13:26 น. |
|
|
|
โดย: tufrio IP: 223.206.52.113 วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:10:09:47 น. |
|
|
|
| |
|
|
มิสเตอร์คัสตาร์ด |
|
|
|
|
โจทย์ถามว่าข้อใดผิดอ่าพี่เต๊น
งี้ก้ไม่มีคำตอบอ่ะดิ ??