Just......
 
เพื่อนซี้ที่เรียกว่า "หมา"

ทางเดินกลับบ้าน ผมจะต้องเดินผ่านหมา 2 แห่ง
และถ้าวันไหนต้องแวะซื้อข้าวก่อนกลับ ก็จะผ่านหมาถึง 3 แห่งด้วยกัน

แรกๆพวกเราไม่ถูกกันนักหรอกครับ
ตรงร้านข้าว เป็นหมาลูกอ่อน มักจะแง่งๆ เวลาเดินผ่าน
ต่อมาตรงหัวโค้ง เป็นหมาใหญ่อยู่ที่โรงจอดรถบ้านหลังหนึ่ง
และสุดท้าย เป็นหมาใต้ตึกตรงกันข้ามกับบ้านผม ตัวนี้
พิเศษหน่อยคือ ไม่ถูกกันตรงที่มันมักจะวิ่งหนีผมบ่อยๆ
ทั้งๆที่ไม่เคยทำร้ายอะไรมันเลยนี่หน่ะซิ

ทุกวันนี้พวกเราปรองดองกันแล้วครับ โชคดีที่พวกมัน
เห็นแก่กิน
คือวันไหนถ้าพอมีโอกาส ผมก็จะเอาของกินเล็กๆน้อยๆ
มาฝากพวกมัน แต่ไม่ประจำเพราะเดี๋ยวจะกลายเป็น
ผู้ให้ความอนุเคราะห์ โดยเฉพาะแม่ลูกอ่อนที่ร้านข้าว
ที่เป็นพันธุ์ middle road แท้ๆ
ส่วนหมาที่โรงรถ เวลาเดินผ่านถ้าเรียกก็หางกระดิก อย่างกับเจ้าของมาหา
แต่กระนั้น เจ้าตัวที่อยู่ใต้ตึก มันก็ยังวิ่งหนีผมอยู่ทุกวันนี้
ทำไมฟระนี่

ด้วยความญาติดีกันแล้วระหว่างผมกับหมาๆ
ก็ทำให้นึกถึงโบราณกาลว่า หมา มาเป็นเพื่อนซี้คนเรา ได้ยังไง?

ลอง search ดูในเนท ก็มีปรากฎให้เห็นเกลื่อนเลยว่า
เราเป็นคู่ซี้กันมานานแล้ว อย่างเมืองจีนนี่ เลี้ยงหมามา
ตั้งแต่ราชวงศ์ไหนๆก็ไม่รู้ ซึ่งไอ้ความนานเนี่ยเข้าใจ
แต่ทำไมนะ ทำไม

ก็เลยลองตั้งสมมติฐานเอาเองไว้หลายๆข้อ
โดยย้อนไปโน่นเลย สมัยยุคหิน

1.เห็นแก่กิน
เอาจากที่ผมทำนี่หล่ะเป็นข้อแรกไว้ก่อน เป็นไปได้ไหมว่า เราสนิทเพราะแบ่งกันกิน
สมมติว่า มนุษย์หินคนหนึ่ง กำลังนั่งกินอาหารที่เขาเพิ่งล่ามาได้หมาดๆ
กลิ่นเนื้อนี่ช่างยั่วยวนเสียกระไร หมาตัวหนึ่งผ่านมาพอดี มันก็นั่งมองอย่างโหยหา
อาหารไม่ตกถึงท้องมันสองวันแล้ว ถ้าได้เนื้อสักชิ้นคงดี
มนุษย์หินเห็นเข้า ก็นึกขำ ประกอบกับเขากินอิ่มแล้วพอดี จึงโยนเนื้อชิ้นที่เหลือ
ให้กับมัน แน่หล่ะ มันวิ่งหนี แต่จากนั้นก็มาดมๆ พร้อมกับกินเนื้อนั้นอย่างเอร็ดอร่อย

จนหมาเริ่มเคยชิน มารออยู่ที่เดิมเป็นประจำ
แหม เข้าหลักทฤษฎีอะไรนะ ที่มีการสั่นกระดิ่งก่อนหมากินข้าว เป็นประจำ
จนวันหนึ่งสั่นกระดิ่งเปล่าๆ แต่ไม่มีข้าว หมามันยังน้ำลายไหล

นี่เหมือนกันครับ หลายวันเข้า ระยะห่างของการนั่ง
ก็น้อยลงเรื่อยๆ ทั้งมนุษย์และหมา รู้ว่าต่างคนต่างไม่ทำร้ายกัน
ในที่สุด หมามันก็มาหมอบอยู่ข้างๆมนุษย์หินคนนั้น แถมยังไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
บางครั้งมันช่วยวิ่งไปลากหมูป่า มาให้เขาหลังจากที่เขาขว้างก้อนหินใส่หมูนั่นจนสลบเหมือด

2.กักขังหน่วงเหนี่ยวหมาตัวหนึ่งถูกจับมาพร้อมๆกับสัตว์หลายๆตัว ที่มนุษย์หินคนหนึ่งได้ล่ามา
บังเอิญว่าเป็นหมาลักษณะดี สวยงาม จึงถูกเลือกเก็บไว้แทนที่จะเป็นอาหาร
แน่นอนหล่ะ ไม่ว่ามนุษย์หินจะให้อาหาร จะดูแลมันดียังไง
แต่อิสรภาพ ก็เป็นสิ่งที่มันโหยหา ซึ่งพอนานเข้า ประสบการณ์ก็ทำให้รู้ว่า
อยู่ที่ยอมรับมัน อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน แล้วมันก็เคยชินกับการถูกกักขัง
อาจจะเป็นการมองโลกในแง่บวกของมันก็ได้ ตอนนี้คอก ได้กลายเป็นบ้านมันแล้ว
ถึงเวลาก็มีอาหารมาให้อีกต่างหาก
ผู้กักขังมันตามที่มันเคยคิด ก็กลายเป็นเจ้านายที่มันรักไปเสียนี่
เมื่อต่างฝ่ายต่างเปิดใจให้กัน มันก็ได้มานอนสบายตัวอยู่ข้างๆมนุษย์ไปแล้ว

3.เป็นมาแต่กำเนิด
ลูกหมาตัวหนึ่งเดินกระเสาะกระแสะ มาที่ถ้ำของมนุษย์ พ่อกับแม่มันเพิ่งโดนสิงโตจัดเป็น brunch เมื่อสิบนาทีก่อน
มนุษย์จึงเก็บเอาไว้หวังว่าจะเป็นอาหารในภายภาคหน้า พอเลี้ยงๆไป เจ้าลูกหมา
กลับน่าเอ็นดูขึ้นทุกวัน ความซนความน่ารักของมัน ทำให้มนุษย์กินไม่ลง
เมื่อมันโตขึ้น ยังกลับทำประโยชน์ให้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเฝ้ายาม หรือช่วยล่าสัตว์
เรียกว่าเป็นการแลกกันอย่างคุ้มค่า เจ้าหมาได้ที่พักพิง ได้อาหาร ได้การดูแล
มนุษย์ได้สัตว์เฝ้าถ้ำ ได้ผู้ช่วยในการหาอาหาร

ก็เป็นตัวอย่างสมมติฐานที่เอาไว้เล่ากันเล่นๆละกันครับ จริงไม่จริงนี่ไม่รู้หรอกครับ
ไว้จะพยายามค้นคว้าเรื่อยๆ ถ้าไม่ได้คำตอบอย่างน้อยก็ได้สมมติฐานเพิ่มอีกหล่ะน่า

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อก็คือ ที่สนิทกันได้ก็เนื่องจาก หมา เป็นสัตว์ที่รู้คุณคน ครับ
จะเพราะ อาหาร ที่พัก ความรัก หรือ ผลประโยชน์ ก็ช่าง
แต่มันรู้คุณคน มันรู้ว่าใครดีกับมันอย่างไร ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละตัว

มันรู้จักการ ดีตอบ คนที่ดีกับมัน ไม่ทำร้ายคนที่ดีกับมัน แถมบางครั้งยังเอาใจใส่คนที่ดีกับมันด้วย
(เคยเห็นเวลาหมามองอย่างเป็นห่วง เวลาเราป่วยไหมหล่ะ)

เท่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้คน ลงไปสนิทและรัก แล้วหล่ะครับ

แล้ว คนกับคน หล่ะ
อายหมามันมั๊ย


Create Date : 06 พฤษภาคม 2550
Last Update : 6 พฤษภาคม 2550 22:25:59 น. 4 comments
Counter : 243 Pageviews.  
 
 
 
 


จ๊ะเอ๋
ไม่อายคะ เพราะไม่เคยขอใครทาน
และไม่ปลอกลอกใคร เอ . . จะเกี่ยวไหมนี่ อิอิ
และก๊ไม่ใช่หมาด้วยน๊าๆ ๆ ๆ


แอบบบบ กระซิบดีกว่า
จขบ. เขียนได้ดีนะคะ เปรียบเทียบได้ดีด้วยคะ

หนี่ฯ แอบบบบ สงสัยชื่อ จขบ.
ชอบชื่อนี้มากเรยรึคะ ถึงได้ขอสามสีชาติ แนะ
ไปแระ เด๋วโดนเตะ . . ฝันดีนะคะ
 
 

โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:40:59 น.  

 
 
 
โอว ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมกันอย่างรวดเร็ว
ขอบคุณที่ชื่นชอบ และ ยินดีที่ได้รู้จักครับ

ปล.เรื่องชื่อ "จขบ." นั้นอ่านได้ที่บล๊อกแรกเลยครับ
 
 

โดย: ขอชื่อสุธีสามสี่ชาติ วันที่: 6 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:42:43 น.  

 
 
 
หวัดดีคะ มะกอกรักหมารักแมว ยังไงหมาก็เป็นหมานะคะ
 
 

โดย: Makok (Castertroy ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:0:17:20 น.  

 
 
 
เจ้าหมาแห่งที่สองคงเคยโดนทำไม่ดีใส่เลยยังกลัวอยู่ อุปถัมภ์เพื่อนริมทางด้วย ใจดีจัง หมาแถวบ้านเคยเดินไปส่งเรากลับบ้านถึงประตูเลยล่ะ แถมไล่หมาสองเท้าให้ไกลๆเราด้วย น่าร๊าก
 
 

โดย: อั๊งอังอา (อั๊งอังอา ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:0:27:53 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

ขอชื่อสุธีสามสี่ชาติ
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ขอชื่อสุธีสามสี่ชาติ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com