เยี่ยมบ้านคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ที่เขาใหญ่
สวัสดีค้าบ ตัวกระผมรู้สึกโชคดีตั้งแต่ รู้จักกับพี่กุ๊กไก่แล้ว พี่กุ๊กไก่ใจดี นิสัยน่ารักมาก พาเราไปแนะนำกับคนต่างๆที่สนิทกับพี่เขา และครั้งนี้ก็ครั้งใหญ่ครั้งนึงในชีวิตครับ ที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมบ้านกุฎาคาร ของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ที่เขาใหญ่ เมื่อช่วงวันที่ 16-20 มิ.ย. 2010 และได้พักที่เรือนรับรองของท่าน ชื่อ เรือนกัญหากับชาลี มาเที่ยวครั้งนี้ มาเที่ยวแบบกันเอง จริงๆแล้วไม่คิดว่าจะได้มาเที่ยวหรอกครับ แต่บังเอิญโชคดีตรงที่ เมื่อวันที่ไปงานเลี้ยงละครไฟอมตะ พี่เต้เขาถามเราว่า ขับรถเป็นไหม ผมก็บอกว่าเป็น พี่เต้ก็เลยชวนไปเขาใหญ่และไปทำธุระที่จังหวัดเลย ให้ผมช่วยเปลี่ยนพี่เต้ขับรถ เพราะพี่กุ๊กไก่ขับรถไม่เป็น (พี่เต้เนี่ย ทำงานให้กับคุณวิกรม มาได้ 10 ปีแล้ว เรียกได้ว่า เป็นมือขวาของคุณวิกรมเลยทีเดียว จัดงานประชุม เลขา ติดต่องาน ทำทุกอย่างแทนคุณวิกรมทั้งนั้น) วันนั้นวันที่ 15 มิ.ย. 2010 ผมได้มีโอกาสได้นั่งรถคันเดียวกันกับคุณวิกรม ภายในรถมี พี่เต้เป็นคนขับ คุณวิกรมนั่งหน้า พี่กุ๊กไก่กับผมนั่งด้านหลัง อิอิ (โชคดีเป็นบ้าเลย เพิ่งเคยใกล้ชิดเศรษฐี ว้าวๆ) ขอเล่าย้อนกลับไปนิดนึงนะครับ ผมอะโดยพื้นฐานครอบครัวเป็นคนยากจน พอมีพอกิน ไม่ได้มั่งมีเงินทองมากนัก และผมก็มีความฝันติดตัวมาตลอดนั่นคือ เราต้องรวยให้ได้เพื่อช่วยเหลือพ่อกับแม่ และผมชอบอ่านหนังสือ ชอบเข้าร้านหนังสือ ถึงแม้ว่าจะซื้อหนังสือมาอ่านตั้งหลายเล่มและก็อ่านไม่จบแทบทุกเล่ม ฮ่าๆ แต่ผมก็รักในการอ่านหนังสือ พอผมได้เห็นหนังสือเล่มนึงชื่อ "ก่อร่างสร้างธุรกิจ" เขียนโดย คุณวิกรม กรมดิษฐ์ โดยท่านเขียนบอกว่า จากหนึ่งสลึงถึงหมื่นล้าน เอาละซิครับ ผมก็อยากรู้เลยทันที เลยซื้อหนังสือมาอ่าน แล้วชอบมากกก วันนั้น ก็ค้นประวัติคุณวิกรม ใหญ่เลย จากพี่กูเกิ้ล และเห็นคุณวิกรมกำลังเล่าว่า กำลังทำโปรเจ็ค AMATA CASTLE ผมก็ไม่รีรอ เสิชรูปซิครับ จนกระทั่งได้มารู้จักกับพี่กุ๊กไก่ทางอินเทอร์เน็ต เรามันพวกชอบอยากรู้ ก็เลยเข้าไปตีสนิทกับพี่เขา ซึ่งพี่เขามีรูปโครงการ AMATA CASTLE ใน hi5 กับ facebook เราก็เลยคุยกันเรื่อยมา ตอนนี้พี่กุ๊กไก่ อายุ 46 แล้ว ทำงานเป็นผู้จัดการร้านอาหารที่ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำงานที่นั่นมา 2 กว่าปีแล้ว จะกลับมาเที่ยวไทย ปีละ 1 ครั้ง ซึ่งผมเข้าไปตีสนิทกับพี่เขาตอน ประมาณเดือน ตุลา 2009 โทรคุยเรื่อยมา จนพี่เขาบอกว่าจะมาเที่ยวไทย เดือน มิ.ย. 2010 ผมก็เลยไปต้อนรับพี่ซะหน่อย อิอิ เพราะพี่กุ๊กไก่เขาสนิทกับคุณวิกรม แบบพี่ชายน้องสาว ช่วยเหลือกันมาตลอด ซึ่งพี่กุ๊กไก่ก็ใจดี น่าร้ากก เวลาจะไปไหน ก็ชวนเราไปเที่ยวด้วยตลอดเลย ผมรู้จักคุณวิกรม ผ่านทางหนังสือ "ก่อร่างสร้างธุรกิจ" และฝันว่าจะทำยังไงให้ได้เจอตัวจริง ความฝันนั้นเป็นจริงครั้งแรก เมื่อประมาณ ช่วงต้นปี 2010 มีงานสัปดาห์หนังสือที่หอประชุมแห่งชาติสิริกิต บังเอิญคุณวิกรม มาแจกลายเซ็นที่บูธหนังสือ "มองซีอีโอโลก" เอาล่ะครับ ตื่นเต้นๆๆ เล่าไปกลัวมันจะยาวไป ฮ่าๆ วกมาเล่าปัจจุบันก่อนดีกว่า รูปด้านล่างเป็นรูปถ่ายรวมมีพี่ เรียงจากซ้ายไปขวานะครับ (ผมเอง - พี่กุ๊กไก่ - คุณวิกรม - พี่แชมป์ - ตาว) รูปด้านล่าง พี่เต้ - ผม - พี่กุ๊กไก่ หันเฉียงหน่อยๆ ให้เห็นภูเขาด้านหลัง ในเขาใหญ่ โอ้ สวยงามมากก ขอเดี่ยวๆ จากด้านหน้า ด้านหลัง กุฎาคาร เอาล่ะครับ มาถึง จุดไคลแม็กกัน ผมล่ะก็ชอบความเร็วเหมือนคุณวิกรม นั่นแหล่ะครับ และนี่คือโรงรถของคุณวิกรม ตั้งอยู่หน้าบ้านท่านเลย เดินเข้าไปถ่ายใกล้ๆ กันหน่อยซิ อิอิ จะเห็นได้ว่า มีรถ SuperCar อยู่ด้วยกัน 3 คน เรียงจาก ด้านหน้าสุดก่อนนะครับ Porsche Cayman S สีเทา, Ferrari สีฟ้า, Lamborghini สีดำ , Porsche รถครอบครัว เป็นครั้งแรกครับที่ได้เห็นรถ SuperCar ของคุณวิกรมต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ ใจสั่น ตื่นเต้น ชอบมากกกก รูปด้านล่างมะ ไหนๆ ก็ได้มาทั้งทีแล้ว ขอถ่ายซักหน่อย อิอิ Lamborghini คุณวิกรม กรมดิษฐ์ คันนี้ พี่เต้บอกว่า 30 ล้าน (ตอนก่อนถ่ายรูป ถ้าเรายืนถ่ายเฉยๆ มันก็เหมือนพริตตี้ซิครับ เราก็เนียนทำเป็นรถของเราไปเลยละกัน จุ๊จุ๊ คุณวิกรมค้าบ ขอแตะรถหน่อยนะค้าบ ) ปกติก็เห็นแต่งานมอเตอร์โชว์กับในห้างพารากอน ใครเล่าจะกล้าไปแตะค้าบ แหม เกิดมาก็เพิ่งได้แตะเนี่ยแหล่ะค้าบ บ้านผมจนก็งี้แหล่ะ ตื่นเต้นๆ รูปด้านล่าง คันต่อไป Ferrari คุณวิกรม กรมดิษฐ์ คันนี้ 17 ล้าน แตะอีกแล้ววว (คันนี้ได้มีโอกาสได้นั่งรถตอนคุณวิกรมขับลงถนนจริงด้วย เดี๋ยวจะมาเล่าในตอนท้ายๆ) รูปด้านล่าง Porsche คุณวิกรม กรมดิษฐ์ คันนี้ สิบกว่าล้าน จำไม่ได้ว่าเท่าไร ดูจากท่าโพสแล้ว ประหนึ่งดังรถตัวเอง ฮ่าๆๆ แหม เมื่อมีโอกาสแล้วก็ต้อง act ไปโลด รูปด้านล่าง เมื่อวนถ่ายครบ 3 คันแล้ว ก็ วกกลับมาถ่ายแลมโบ ต่อ อีกมุมนึง (ชอบรูปนี้มาก แลดูเหมือนเสี่ยจริงๆ ฮ่าๆๆ ) เอาล่ะครับทีนี้ ถ่ายๆกันอยู่ดีๆ พี่เต้บอกว่า "ยูอยากลองนั่งไหม เอากุญแจนี่ไปเปิด" โอ้โหหหห ความฝัน สายฟ้าแห่งโชคแวบเข้ามาสถิตย์ในตัว อึกๆ ก็เลยพูดกลับไปว่า "พี่เต้ครับ ผมไม่กล้านั่งหรอก แค่ได้ถ่ายก็ดีใจแล้ว" พี่เต้บอกต่อมาว่า "ไม่เป็นไรหรอก โอกาสมาแล้วก็รีบๆคว้า" อึกเอาไงก็เอา ขอลองเปิดหน่อยนะค้าบ ฉึก หึ่ย ประตูปีกนก ว้าวววว มามาๆ พี่แชมป์ มาลองนั่งกัน นั่งคนเดียว มันเสียว พี่แชมป์ก็หยิบ BB มาถ่ายรูปด้านในใหญ่เลย ครับ ฮ่าๆๆ ว่ะ ฮ่าๆๆ ถ่ายกัน แชะๆๆ มันส์ๆ (ดูจากสีหน้าและคำบรรยายเหมือนจะไม่เข้ากัน จิงๆแล้ว ผมเป็นคนตลกแต่ในรูป ดูเหมือนขรึมๆ เพราะ ถ่ายให้ดูเหมือนว่ารถช้านนน ) ลองนั่งเฟอรารี่กันบ้าง ฟิ้วๆๆ บั้นท้ายของ Porsche สวยมั้ย ค้าบ โอเค เล่ามาซะเหนื่อยเลย ขอพักแปป เดี๋ยวกลับมาเขียนต่อ
Create Date : 02 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 2 กรกฎาคม 2553 16:42:31 น. |
|
27 comments
|
Counter : 12602 Pageviews. |
|
|
|