ถนอมผิวเท้า



เท้าเป็นจุดศูนย์กลางของจุดประสาทหลาย ๆ จุดทั่วร่างกาย

ซึ่งหากว่าเท้าของคุณไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอก็จะส่งผลถึงความไม่สดใส สดชื่น

และอาจดูร่วงโรยไปได้เช่นกัน

ทุก ๆ ครั้งที่อาบน้ำ ควรขัดเท้าให้นุ่มเนียนด้วยหินขัดเท้าเสมอ

โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นตาปลา หรือบริเวณที่มีหนังแข็งกระด้าง

และยังสามารถผ่อนคลายความเมื่อยล้าให้กับเท้าที่ต้องรับน้ำหนักมาทั้งวัน

ด้วยการแช่เท้าในน้ำอุ่นที่ผสมเกลือนานสัก 10-15 นาที แล้วต่อด้วยแช่ลงในน้ำเย็น 1-2 นาที

คุณจะรู้สึกถึงความผ่อนคลาย

ถ้าทำเป็นประจำผิวเท้าเหี่ยว ๆ ก็จะไม่มาเยือนคุณแน่นอน




 

Create Date : 09 เมษายน 2553   
Last Update : 9 เมษายน 2553 9:37:47 น.   
Counter : 568 Pageviews.  

ส้นเท้าแตก...แทรกแซงหัวใจ



มองส้นเท้าตัวเองทีไร แหมมันเจ็บใจทุกทีซิน่า ใครรู้สึกเช่นนี้ ลองนำวิธีที่แนะนำนี้ไปใช้ดูนะคะ




ข้อแนะนำรักษาผิวแห้งแตกบริเวณส้นเท้า คือ

1.ควรใส่รองเท้าหรือถุงเท้าเพื่อปกปิดส้นเท้าไม่ให้คราบสกปรกสะสมและยังช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิวหนังได้

2.ทำความสะอาดแต่พอควรการใช้น้ำอุ่น การใช้สบู่และการแช่น้ำนานๆ จะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น

3.เมื่อทำความสะอาดโดยการขัดหรือแปรงผิวควรทาครีมหรือขี้ผึ้งเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นทุกครั้งและควรสวมใส่รองเท้าปิดส้นจนกว่าผิวจะปกติ

4.ถ้าเป็นร่องลึกเจ็บอาจปิดร่องด้วยกาวตราช้างเพื่อทุเลาอาการเจ็บ กาวจะหลุดออกเองภายหลัง

5.ใช้ยาทาผิวส้นเท้ารักษาผิวแห้ง ลักษณะของยามี 2 แบบ คือ

ขี้ผึ้งกรดซาลิซิลิค เนื้อยาจะผสมในวาสลินในความเข้มข้นร้อยละ 5-40 โดยกรดซาลิซิลิคช่วยลอกผิว ส่วนวาสลินจะเคลือบผิวให้อ่อนนุ่ม ช่วยป้องกันการระเหยของน้ำจากผิวและช่วยเร่งการซ่อมแซมของผิวหนัง แต่ขี้ผึ้งเหนียวเหนอะหนะเปรอะเปื้อนหลายท่านจึงไม่นิยมใช้ ประสิทธิภาพขี้ผึ้งจะดีกว่าครีม จึงแนะนำให้ใช้ทาขี้ผึ้งก่อนนอนพร้อมสวมใส่ถุงเท้า

ครีมผิวแห้งผสมสารเพิ่มความชุ่มชื้น ครีมจะประกอบด้วยน้ำมันและไขหลายชนิดผสมในน้ำโดยใช้สารลดแรงประจุช่วยให้เกิดเนื้อครีมและจะใส่สารเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น น้ำมันสกัดต่าง ๆ ลาโนลิน กรีเซอริน กรดผลไม้ ยูเรีย โปรตีน ฯลฯ ครีมเมื่อทาเนื้อครีมจะแห้งซึมหายไปจึงเป็นที่นิยมใช้ แต่ถ้าผิวแห้งมากก็ไม่ได้ผล ในปัจจุบันมีการพัฒนาครีมซิลิโคน ซึ่งจะช่วยเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ไม่เหนียวเมื่อทาจะซึมหายในชั้นผิวหนังและเคลือบผิวได้ดีกว่าครีมธรรมดา แต่ราคาจะแพงกว่าขี้ผึ้งกรดซาลิซิลิค

การรักษาส้นเท้าแตกควรหลีกเลี่ยงปัจจัยส่งเสริมให้ผิวแห้ง โดยป้องกันการระเหยของน้ำควรใส่รองเท้าหุ้มส้นจนกว่าสภาพผิวคืนกลับปกติ ควรทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้นทุกครั้งที่ทำความสะอาดเท้า และไม่ควรใส่รองเท้าเปิดส้นตลอด ถ้าส้นเท้าเริ่มมีรอยแห้งแตกก็ควรเปลี่ยนกลับมาใส่รองเท้าหุ้มส้นชั่วคราวก่อน และเมื่ออยู่ในบ้านการใส่ถุงเท้าหรือรองเท้าหุ้มส้นตลอดเวลาปัญหาส้นเท้าแตกก็จะทุเลา ผู้มีปัญหาส้นเท้าแตกคงมีความมั่นใจในตัวเอง และมีความสุขเพิ่มขึ้นเมื่อได้ใส่รองเท้าตามความนิยมในบางโอกาส แต่ถ้าทำใจได้ว่าส้นเท้าแตกเป็นเรื่องธรรมดาก็คงหมดปัญหาเรื่องเท้ามีไว้เดิน ไม่ใช่ไว้ดูให้ทุกข์ใจ.

ที่มา : //lifestyle.th.msn.com/beauty/skincare




 

Create Date : 15 มีนาคม 2553   
Last Update : 19 มีนาคม 2553 21:43:58 น.   
Counter : 515 Pageviews.  


ตติตา
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ผู้รักชีวิตอิสระ
[Add ตติตา's blog to your web]