มาเก๊า-ฮ่องกง 4วัน 3คืน ตอน 1
และแล้ววันที่พวกเรารอคอยก็มาถึง วันที่ 12 - 15 สิงหาคม 2551 เป็นวันที่พวกเราต้องออกตลุย 2 ประเทศนั้นคือ มาเก๊า ฮ่องกง รวม 4 วัน 3 คืน โปรแกรมเที่ยวของเราไม่มีอะไรมาก คืนแรกนอนมาเก๊า 1 คืน แล้วค่อยเดินทางต่อไปเที่ยวฮ่องกงนอนที่ฮ่องกง 2 คืน แล้วเดินทางกลับมาเก๊า นั่งเครื่องกลับเมืองไทย
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ทำการตรวจผ่าน ตม. แล้วเดินเข้ามาเพื่อจะไปยัง Gate ที่เราจะขึ้นเครื่องบินทุกคนจะต้องผ่านสถาปัตยกรรมแบบไทยๆอันสวยงาม มาหลายครั้งไม่เคยถ่ายรูป ครั้งก็ขอถ่ายรูปหน่อย
ทริปนี้เราไปกัน 4 คน จองตั๋วเครื่องบิน Airaisa กรุงเทพฯ - มาเก๊า ในราคา 4,225 บาทต่อคน ไป-กลับ ก็นับว่าเป็นราคาที่ไม่ถูกไม่แพง จองตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2551 จองเสร็จก็หาข้อมูลต่างๆ
พวกเราขึ้นเครื่องบิน Airasia Airbus A320 ลำนี้แหละ Fight FD3600 เวลา 7.00 น ที่ Gate G4 ที่จะพาเราเหินฟ้าสู่ มาเก๊า เช็คความเรียบร้อยก่อนบิน
ถึงเวลา 7.00 น. เครื่องบินเริ่มเตรียม take off นับว่าตรงเวลามากสำหรับ Fight นี้ เหินฟ้ามุ่งหน้าสู่มาเก๊า ใช้เวลาบิน 2.30 ชั่วโมง เวลาที่มาเก๊าจะเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง การมาเที่ยว 2 ประเทศนี้ไม่ต้องขอ VISA สามารถมาเที่ยวได้เลย
ถึงมาเก๊าตรงเวลามาก 10.30 น. พวกเราทำการผ่าน ตม. เรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร รอรับกระเป๋าเสร็จ พวกเราก็แลกเงินเป็นเงินสกุลของมาเก๊า MOP ที่เคาร์เตอร์ในสนามบิน เสร็จแล้วก็เรียก TAXI ให้ไปส่งที่โรงแรม เราได้พิมพ์ชื่อโรงแรมเป็นภาษาจีน ไปยื่นให้คนขับ Taxi ดู คนขับพยักหน้า พร้อมกับบอกเราว่า "i know" นั่ง Taxi ผ่าน คาสิโนลิสบัว ที่มีความสวยงาม ลักษณะคล้ายกับคาสิโนที่ลาสเวกัส
นั่ง Taxi ประมาณ 30นาที ก็มาถึง โรงแรมMAN VA โรงแรม 2 ดาว ที่คนไทยนิยมมาพัก ราคาไม่แพงสะดวกต่อการเดินทาง ซึ่งอยู่ย่านถนน Rua de Felicidade ( ถนนแห่งความสุข) ค่า Taxi 70 MOP บวก ค่ากระเป๋าอีกใบละ 5 MOP 4ใบ = 20 MOP รวมทั้งหมด 90 MOP คิดเป็นเงินไทย 400บาท
ถ้าไม่นั่ง Taxi ก็สามารถนั่งรถเมล์ได้ โดยนั่งสาย AP1 จากสนามบินมายังท่าเรือ Ferry macau terminal แล้วต่อรถสาย 3, 3A ที่หน้าท่าเรือ นั่งรถเมล์มาลงหน้าเซนาโด้ สแควร์ แล้วเดินต่ออีกนิดหน่อยประมาณ 10 นาที พวกเราไม่ได้จองโรงแรมก่อนล่วงหน้า เพราะโรงแรมนี้ไม่รับจองเจ้าหน้าที่โรงแรมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เราใช้วิธีวัดดวง (walk in) สรุปเราได้ห้อง
ราคาค่าห้องต่อคืน 300MOP และต้องจ่ายค่ามัดจำอีก 100MOP พวกเราไปพักวันธรรมดาราคาจึงถูก ถ้าเป็นวันศุกร์ เสาร์ ราคาจะห้องละ 340MOP ห้องสะอาดดี ห้องน้ำก็ดีไม่น่าเกลียดอะไร แอร์เย็นดี
เก็บกระเป๋าเลร็จพวกเราก็ไม่รอช้าเตรียมออกตลุยเที่ยวกัน เดินออกจากโรงแรมมาประมาณ 50 เมตร ก็จะเจอถนน Rua de Felicidade ( ถนนแห่งความสุข) ช่วงศตวรรษที่ 19 ถนนเส้นนี้เป็นแหล่งบันเทิงของผู้มีอันจะกิน แต่ในปัจจุบันเหลือแต่ตัวอาคารเท่านั้น
ถนนแห่งความสุข ต้องขอเก็บรูปไว้หน่อย
การเดินทางในมาเก๊าส่วนมากจะใช้บริการรถเมล์ เพราะไม่มีรถไฟฟ้าใต้ดิน ป้ายรถเมล์ที่นี่จะบอกว่าป้ายนี้มีรถเมล์สายอะไรผ่าน และ สายอะไรไปไหน ดูจากป้ายที่ติดอยู่กับเสาป้ายรถเมล์ ส่วนค่าโดยสารดูที่ป้ายได้เลยว่าจะต้องจ่ายเท่าไร
รถเมล์ที่มาเก๊าต้องขึ้นประตูหน้า และลงประตูกลาง คนมาเก๊านิยมใช้รถเมล์เกือบร้อยเปอร์เซนต์
เมื่อขึ้นประตูหน้าจะเจอตู้อยู่ 2 ประเภทคือ ที่ใส่เหรียญสีแดง และ ตู้ที่แตะบัตรโดยสารสีเขียว ส่วนใครหยอดเหรียญต้องใส่ให้พอดีกับค่าโดยสารเพราะไม่มีการทอนเงินให้ หรือจะจ่ายรวมกันก็ได้ ไม่มั่นใจว่าใส่ใบแบงค์ได้หรือไม่ ทางที่ดีใส่เหรียญชัวร์สุด หาแลกได้ตามธนาคาร หรือ 7-11
สถานที่เที่ยวแรกที่เราจะไปคือ "วัดอาม่า หรือ A MA Temple" พวกเรารอขึ้นรถเมล์ที่ฝั่งตรงข้ามเซนาโด้ฯ หน้าธนาคารอะไรสักอย่าง รอรถเมล์สาย 10 ลงสุดสายก่อนถึงวัด ค่าโดยสารคนละ 3 MOP
นั่งรถเมล์ประมาณ 10 นาทีก็ถึงสุดสายป้ายข้างๆ วัด เดินมาอีกหน่อยก็จะเจอวัด ต้องถ่ายรูปรวมหมู่ ก่อนเข้าไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในวัดเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในการออกเที่ยว
ตอน 1 พวกเราขอไว้แค่นี้ก่อน ตอนหน้าจะพาเข้าวัดอาม่า และตามไปดูว่าพวกเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ บอกว่าเป็นสถานที่ๆ ดังอีกแห่งของมาเก๊า
Create Date : 18 สิงหาคม 2551 | | |
Last Update : 22 สิงหาคม 2551 19:08:07 น. |
Counter : 4078 Pageviews. |
| |
|
|
|