เที่ยวไป..กินไป..ตามแต่ใจเราสองคน เป็นบล๊อกที่ทำขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวการเดินทางของเราทั้ง 2 คน และเป็นข้อมูลให้สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางด้วยตัวเอง

Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add 's blog to your web]
Links
 

 
แชงกรีลา แดนในฝัน..เดินทางสู่ลี่เจียง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว วันนี้ว่างๆไม่รู้จะไปไหนเลยนั่งเล่น google earth แล้วไปเจอรูปภูเขาโค้งคล้ายๆ หัวเต่า แล้วมีถนนล้อมรอบ ด้านล่างของภูเขาเป็นแม่น้ำล้อมรอบเหมือนกัน ดูแล้วรู้สึกชอบ อยากไปเห็นกับตา มันแปลกดี โลกเราช่างสร้างอะไรมาให้เราดูแปลกๆ ดีเนอะ จึงไม่รอช้าดูต่อไปว่ามันอยู่ที่ไหนของโลกนี้ ค้นหาไม่นานจึงรู้ว่ามันอยู่ที่เมืองจงเตี้ยน มลฑลยูนาน ประเทศจีน ใกล้ๆบ้านเราด้วย จึงหาข้อมูลการเดินทางและสิ่งที่น่าสนใจต่อไป ไม่นานจึงได้รู้ว่าที่นี้เป็นดินแดนในฝันของนักเดินทางทั่วโลก ที่เรียกว่า Lost Horizon หรือ แชงกรีลา จากนวนิยายอันลื่อชื่อของเจมส์ ฮิตตัน แชงกรีลา จึงหมายถึง ดินแดนสุดขอบฟ้า ดินแดนอันสุขสงบแห่งเทือกเขาหิมาลัย

ตั้งใจว่า สงกรานต์ปีนี้ 2552 จะไป แชงกรีลา จึงชวนเพื่อนๆ ในที่ทำงานด้วยกันไปเที่ยว มีคนใจอ่อนไปด้วยรวมผมก็ 7 คนพอดี เมื่อสมาชิกมีแล้วไม่รอช้ากลัวตั๋วจะเต็มเพราะเป็นช่วงสงกรานต์ รีบโทรจองตั๋วเครื่องบินทันทีตั้งแต่เดือนมกราคม สรุปได้ตั๋วเครื่องบินการบินไทย ไป-กลับ กรุงเทพฯ-คุนหมิง ราคาคนละ 11,800 บาท เป็นราคาไม่มีโปรโมชั่นรวมทุกอย่างแล้ว ไปวันที่ 9 เมษา กลับ วันที่ 17 เมษา รวมเวลา 9 วัน ตั๋วพร้อมใจพร้อม แต่ร่างกายไม่พร้อม จึงต้องออกกำลังเพื่อป้องกันเป็นโรคแพ้ที่สูง (Acute Mountian Sickness) ช่วงระหว่างรอเวลาก็เก็บข้อมูลการเดินทาง สถานที่เที่ยวต่างๆ ไปด้วย แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การฝึกฝนภาษาจีนของผมต้องหนักขึ้นอย่างมาก เพราะในกลุ่มมีผมคนเดียวที่พอพูดภาษาจีนได้บ้างนิดหน่อย เพื่อนๆ จึงยกให้ผมเป็นหัวหน้าทัวร์เป็นผู้จัดการทุกอย่าง ทำให้ผมถึงกลับเครียดบ้าง แต่ไม่เป็นไรใจเต็มร้อยอย่างเราไม่กลัวอะไรง่ายๆ อยู่แล้ว ตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงวันที่ 9 เมษา เร็วๆ


เช้าวันที่ 9 เมษายน 2552 เวลาประมาณ 8.30 น. พวกเราทุกคนพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาร์เตอร์การบินไทย ทำการเช็คอินพร้อมๆ กัน เป็นที่เรียบร้อย ถ่ายภาพหมู่ก่อนการเดินทาง หนึ่ง (ซ้ามือเสื้อสีครีม) พี่หวาน ผู้ที่มีอายุมากสุดในกลุ่ม(คนที่ 2จากซ้ายมือ) บิ๋ม (เสื้อสีน้ำเงินยืนอยู่ด้านหน้า) อร (เสื้อสีชมพู่ตรงกลาง) เต่า หัวหน้าทริป (เสื้อสีลายแดงดำ) ตา (เสื้อสีชมพู่คนที่ 2จากขวามือ) อี๋ด (เสื้อขาวยืนขวาสุด) พวกเราเป็นเพื่อนร่วมที่ทำงานด้วยกัน รวมแล้วผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 4 คน รวม 7 คนพอดี


เช็คอินเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร พวกเราก็ผ่านการตรวจ ตม. ก็ไม่มีปัญหาอะไรอีกเช่นกัน เวลายังมีเหลือก็เดินเล่นร้านค้าปลอดภาษี พวกเราไปไฟล์ TG 612 เวลา 10.50 น. ขึ้นเครื่องที่ gate C3


เครื่องบินขึ้นตรงเวลาไม่ดีเลย์ ใช้เวลาบินจากกรุงเทพถึงคุนหมิง 2 ชั่วโมง ไม่นานเราก็ถึงสนามบินคุณหมิง เวลาประมาณบ่าย 2 โมง ซึ่งเป็นเวลาท้องถิ่นที่จีนจะเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง ผ่านด่านตรวจ ตม. รับกระเป๋ากันเรียบร้อยไม่มีปัญหา พวกเราเดินออกมาหน้าสนามบินก็จะเจอคนมาถามตลอด "จะไปไหน รถแท็กซี่ไหมครับ มีโรงแรมพักหรือยัง" พูดภาษาจีนบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง ที่ประเทศจีนไม่ว่าเราจะไปที่เมืองอะไร ตามสนามบิน สถานนีรถไฟ ท่ารถขนส่ง จะเจอนายหน้ามาถามแบบนี้ประจำ

พวกเราไม่ได้สนใจคุย จึงพากันเดินออกมาหน้าประตู ผมบอกกับผู้ชายชาวจีนว่าเราต้องการรถตู้ไปส่งที่สถานีรถขนส่ง หนานเย่าจั้น เพื่อจะซื้อตั๋วรถนอนไปลี่เจียง เขาจะคิดเท่าไร เขาบอก 100หยวน ผมต่อเหลือ 50 หยวน ตกลงกันที่ 70 หยวน พวกเราขึ้นรถตู้ คนขับรถตู้เริ่มออกลาย พาเราไปยังท่ารถ ใกล้ๆ กับ หนานเย่าจั้น เพื่อไปดูรถพวกของเขา เพื่อให้เราขึ้นรถเขาไปลี่เจียง พวกเราไม่เชื่อใจกลัวเป็นรถไม่ดี และกลัวโดนหลอก พวกเราจึงไม่ยอมขึ้นรถของพวกเขา บอกคนขับรถตู้ไปส่งที่ หนานเย่าจั้น มีนายหน้าผู้หญิงตามขึ้นรถตู้มากับพวกเราด้วย และพยายามบอกผมว่ารถที่หนานเย่าจั้นไม่มีแล้ว พวกเราไม่เชื่อ ผมไปถามเจ้าหน้าที่ใน หนานเย่าจั้น อยู่หน้าสถานีรถไฟคุนหมิงจั้น


เจ้าหน้าที่บอกว่ารถมีเยอะมากแล้วชี้ให้ไปซื้อตั๋วที่ช่องขายตั๋ว นายหน้าผู้หญิงหันมาบอกผมอีกว่าจะลดราคาให้เหลือคนละ 140 หยวน ผมบอกไปว่าไม่เอาพวกเราจะซื้อตั๋วที่นี้ เมื่อไม่สมประโยชน์นายหน้าผู้หญิงก็เดินจากไป ที่นำมาเล่าเพราะจะบอกว่าที่เมืองจีนมีนายหน้าแบบนี้เยอะมากๆๆๆๆ ทุกที่บางคนก็ดีบางคนก็หลอก ฉนั้นเราต้องระวังเวลาไปเที่ยวเมืองจีน ผมได้แต่คิดในใจว่า "ลงเครื่องบินก็เจอดีเลยเรา" จากนั้นเราก็ไปซื้อตั๋วรถนอนด่วนพิเศษไปลี่เจียง เที่ยว 20.00 น. ราคาคนละ 169 หยวน ที่ช่องขวามือสุดในรูปที่เขียนว่า Expess Bus Tiket


ได้ตั๋วเรียบร้อยพวกเราก็เอากระเป๋ามาฝากไว้ที่ตรงข้ามกับช่องขายตั๋ว ค่าฝากกระเป๋าใบละ 5 หยวน แล้วเราก็ไปเดินเที่ยวเมืองคุนหมิง


ฝากกระเป๋าเสร็จพวกเราก็เดินออกจากสถานีขนส่ง ข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม มองเห็นสถานีรถไฟคุนหมิง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีขนส่ง หนานเย่าจั้น ขณะนี้เวลาประมาณ 16.00 น. เรามีเวลาเดินเล่นเกือบ 4 ชั่วโมง


พวกเราเดินเล่นไม่ไกลมามากจากสถานีขนส่ง ก็จะมีห้างฯ ร้านขายของทั่วไป แต่ไม่ได้ซื้ออะไรมาก ซื้อเฉพาะของใช้ส่วนตัวกันเท่านั้น เดินมากๆ เหนื่อยเลยมานั่งพักกันข้างห้างฯ


เดินๆ ไปเจอขายแป้งทอดอันละ 2 หยวน ลองซื้อกินแต่ยังไม่ทันได้กินรถเทศกิจมา คนขายรีบปั่นรถสามล้อขายของหนีการถูกจับของเทศกิจ แม่ค้าแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง พวกเราได้แต่ยืนมอง งงๆ บรรยากาศไม่แตกต่างกับเทศกิจของ กทม. บ้านเรา พอเทศกิจไปก็ปั่นรถสามล้อมาขายที่เดิม พวกเราก็รอกินแป้งทอด รสชาดจืดๆ


ได้เวลาประมาณ 19.30 น. พวกเราก็เดินกลับมายังสถานีรถ เพื่อเตรียมขึ้นรถนอนไปยังเมืองลี่เจียง สภาพภายในรถนอน เป็นเตียง 2 ชั้น รถที่พวกเราไปเป็นรถของ Yunan Expess เป็นรถด่วนมีห้องน้ำในตัว ห้ามสูบบุหรี่บนรถ ผู้โดยสารไม่มากมีประมาณ 10 กว่าคนเท่านั้น ที่นอนก็นอนพอดีกับตัว วิ่งแบบไม่มีจอดพัก พอถึง 2 ทุ่มรถก็เริ่มออกทันที


เป็นการนอนบนรถนอนในจีนครั้งแรกของพวกเรา นอนหลับๆ ตื่นๆ กันไป นอนชั้นบนรถจะแกว่งไปแกว่งมาสรุปผมนอนไม่ค่อยจะหลับ ไปถึงลี่เจียงตี 3 กว่าๆ ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงผ่านเมืองต้าลี่ด้วยแต่ไม่จอด ถึงท่ารถเขาก็จอดให้เรานอนไปเรื่อยๆ พอเวลาประมาณ 6โมงเช้ากว่าพวกเราจึงลงจากรถนอนแล้วพากันมาขึ้นรถแท็กซี่ใช้ 2 คันเพื่อไปเมืองเก่าลี่เจียง หรือเรียกว่า "ลี่เจียงกู่เฉิง" ค่ารถคันละ 10หยวน นั่งประมาณไม่ถึง 10นาทีก็ถึงหน้าเมืองเก่า พวกเราจึงเดินเข้าไปยังเมืองเก่าเพื่อหาโรงแรมพัก เดินหากันอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมงจึงได้ที่พัก สาเหตุที่ต้องใช้เวลาหาเพราะว่าโรงแรมส่วนใหญ่ในเมืองเก่าไม่เปิดเช้าๆ จะเริ่มเปิดกันประมาณ 8โมงเช้า พวกเราจึงได้พักที่ Guyuefang Inn ซึ่งอยู่ในเมืองเก่า ราคาห้องพักคืนละ 80, 100, 140 หยวน เราใช้ 3 ห้อง ราคาแตกต่างกันไปตามจำนวนคนพัก


สภาพห้องก็ดีมีน้ำอุ่น มีที่นอนไฟฟ้า แต่ไม่มีแอร์ โรงแรมที่พักในเมืองเก่ามีเยอะมากๆ สามารถเดินหาได้เลย พวกเราไม่ได้จองมาใช้วิธีเดินหา ถูกใจก็พักไม่ถูกใจก็ไม่พัก หลังจากได้ห้องพักเรียบร้อยพวกเราอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็ออกไปกินอาหารเช้ากันเดินออกไปทางด้านข้างของเมืองเก่า อาหารเช้ามื้อแรกในจีนก็เป็นโจ๊กไม่ใส่อะไรเลย กินกับไข่ต้ม ปลาท่องโก้ ส่วนผมกินก๊วยเตี๋ยวหมู หมดค่าอาหารกันไปไม่กี่หยวน


หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จโปรแกรมเที่ยวของพวกเราวันนี้ก็คือภูเขาหิมะมังกรหยก หรือภาษาจีนว่า อยูหลงเซียซาน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทีมีชื่อเสียงมากในแถบนี้ ใครมาเที่ยวเมืองลี่เจียงต้องขึ้นไปชมความสวยงาม พวกเราได้เหมารถตู้เล็กวันละ 100 หยวนนั่งได้ 7คนพอดีพาพวกเราเที่ยว ก่อนขึ้นเขาหิมะพวกเราได้แวะซื้ออ๊อกซิเจนกระป๋องๆ 30 หยวนไปด้วยแต่คุณภาพไม่ค่อยดีใช้แป็บเดียวก็หมด ในการเข้าไปเที่ยวต้องเสียค่าเข้าอุทยานที่ด่าน (ในรูปนี้) คนละ 190หยวน ค่าบำรุงเมืองลี่เจียงคนละ 80 หยวน รวม 2 อย่างคนละ 270หยวน แต่มีบัตรนักศึกษาสามารถลดราคาค่าเข้าอุทยานได้ 50% เพื่อนเราในกลุ่มมีบัตรนักศึกษาอยู่ 3คน ได้ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดูบัตร เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้เพราะว่าอ่านภาษาไทยไม่ออก ผมก็ได้อธิบายอยู่สักพักว่าเป็นบัตรนักศึกษาจริงๆ เจ้าหน้าที่ก็เลยยอมให้ผมก็ได้แต่นึกขำในใจว่า "ทำไมบัตรนักศึกษาไทยจึงเหมือนใบขับขี่ และ เหมือนบัตรประชาชน จัง ผมน่าจะลองยื่นซองยาทัมใจให้ดูซะรู้แล้วรู้ลอดไป 55555" ภาพนี้รถจอดจ่ายเงินค่าเข้าอุทยาน ที่ด่านทางเข้า


เสียเงินค่าเข้าอุทยานเสร็จ รถก็พาเรามาส่งบริเวณด้านหน้าของทางเข้าภูเขาหิมะมังกรหยก เดินเข้าประตูมาก็จะเจอที่ขายตั๋วค่าขึ้นกระเช้า อยู่ทางด้านขวามือ ค่าขึ้นกระเช้าคนละ 150 หยวน และต้องเสียค่ารถโดยสารนั่งในอุทยานอีกคนละ 20 หยวน รวมต้องจ่ายที่นี่ 170 หยวน ใช้ซื้อตั๋วที่ช่อง1 เมื่อได้ตั๋วแล้วให้เอาไปขึ้นเลขลำดับขึ้นรถโดยสาร เพื่อไปขึ้นกระเช้าที่ช่อง3 (สังเกตุผมยืนสะบายเป้รอเอาตั๋วไปขึ้นเลขลำดับที่ช่อง 3)


เมื่อได้เลขลำดับขึ้นรถแล้วก็เดินต่อเข้าไปยังอาคารข้างในเพื่อรอขึ้นรถ ด้านหน้าจะเห็นป้ายแจ้งสถานที่เที่ยวแห่งนี้ได้ 5A หรือ AAAAA จึงถือว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่ดีที่สุดของจีน ภายในอาคารจะพบนักท่องเที่ยวนั่งรอรถเยอะมากๆ มีการประกาศบอกเป็นระยะๆ ว่าถึงตัวอะไรแล้ว ลำดับแถวเป็นตัวภาษาอังกฤษ ผมฟังประกาศแล้วไม่เข้าใจฟังยากมากต้องใช้วิธีเดินไปดู พวกเรานั่งรอประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ได้ขึ้นรถ ช่วงระหว่างรอก็หาอะไรรองท้องกัน


ได้ขึ้นรถแล้วรถก็จะพาพวกเราไปยังบริเวณที่ขึ้นกระเช้า แล้วต้องไปต่อแถวขึ้นกระเช้าอีก แต่ละคนตั้งใจที่จะขึ้นไปพิชิตยอดเขาหิมะลูกนี้ให้ ถ่ายรูปในขณะเข้าแถวรอขึ้นกระเช้า


ใช้เวลารอประมาณ 30นาทีพวกเราก็มาถึงทางจะขึ้นกระเช้าแล้วรวมเวลาตั้งแต่ที่พวกเรามาซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าจนถึงจะขึ้นกระเช้าใช้เวลาประมาณ 3ชั่วโมง วันที่เราไปคนมากเป็นปรกติของที่นี่ แนะนำใครจะมาเที่ยวที่นี่ควรจะมาเช้าๆ จะได้ขึ้นกระเช้ารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ขึ้นเขาหิมะที่สวยงามมาก


กระเช้าที่เราขึ้นไม่ใหญ่เป็นกระเช้าขนาดนั่งได้ 6 คน นั่งหันหลังชนกัน ระดับของความสูงน่ากลัวมากเพราะว่าจะค่อยไต่ความสูงไปเรื่อยๆ ไปถึงกลางๆ ทางจะต้องขึ้นเขาสูงชันยิ่งน่ากลัว ขาขึ้นผมว่าไม่น่ากลัวรอดูขาลงแล้วกันครับว่าจะน่ากลัวขนาดไหน


กระเช้าใช้เวลาไม่นานประมาณ 30 นาทีก็พาพวกเราขึ้นมาถึงยอดเขาหิมะมังกรหยก บนระดับความสูงกว่าน้ำทะเล 4506 เมตร มาถึงพวกเราก็ไม่รอช้าขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกก่อน แต่ขาด พี่หวาน ไป 1 คนเพราะว่ารู้สึกอาการไม่ค่อยดีอากาศเบาบางมากหายใจลำบากทำให้เวียนศีรษะนิดหน่อย จึงขอตัวไปพักในห้องพัก จึงเหลือพวกเรา 6 คน (เสียดายแทนพี่หวาน)


พี่หวาน ยืนชูกระป๋องอ๊อกซิเจน แต่ก็ยังไม่ไหว หลังจากถ่ายรูปนี้แล้วก็ขอไปพักผ่อนในบริเวณห้องพัก ได้ถ่ายรูปไปแค่ 2 รูปเท่านั้น (ไม่เป็นไรเอาไว้โอกาสหน้าจะพามาแก้ตัวใหม่ ว่าแต่จะมากับผมอีกหรือไม่)


ภูเขาหิมะมังกรหยก แห่งนี้จะมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ช่วงที่ยิยมเที่ยวมากที่สุดก็คืน ช่วงเดือนกุมภา- เมษายน ของบ้านเรา เพราะว่าจะมีหิมะปกคลุมมากเป็นพิเศษ ในบางช่วงอาจจะมีหิมะปกคลุมยอดเขาน้อยมาก เป็นยอดเขาหิมะที่ใกล้เมืองไทยมากที่สุด จะมีทางเดินไม้ขึ้นไปด้านบนความสูง 4600 กว่าเมตร


พวกเราอยู่บนเขาได้ไม่นานหิมะก็เริ่มตกเบาๆ มีลมแรงเป็นช่วงๆ หนาวมากๆ ด้านหลังของทางเดินไม้นี้คือธารน้ำแข็ง จะเย็นเยือกตลอดทั้งปี เมื่อเราไปยื่นใกล้ๆ ยิ่งรู้สึกเย็น


ก่อนมาภูเขาหิมะมังกรหยกนี้ ผมตั้งใจจะเดินขึ้นไปให้ถึงระดับความสูง 4600 เมตรคือด้านบนสุดของทางเดินไม้นี้ แต่เดินไปได้แค่นิดเดียวก็ต้องหยุดเปลี่ยนใจเพราะว่ารู้สึกหายใจไม่ถนัด มีอากาศเวียนหัวนิดๆ จึงหยุดถ่ายรูปตรงที่เดินมาไกลสุด


ต้องควักอ๊อกซิเจนกระป๋องออกมาสูดให้หายเวียนหัวกันหน่อย ดูท่าสูดอ๊อกซิเจนของภรรยาผมซิครับ ท่าทางอร่อยไม่เบา


บิ๋ม สาวแก่งของเรามาคราวนี้ก็ต้องพึ่งอ๊อกซิเจนกระป๋องบ้าง ส่วน ตา ขอสวยไว้ก่อนอ๊อกซิเจนกระป๋องมีไว้โชว์อย่างเดียว


ส่วนผมเองก็ใช่ว่าจะเก่งนะครับ สังเกตุด้านมือซ้ายของผมจะถือกระป๋องอ๊อกซิเจนตลอดเวลา ว่างๆ ก็เอามาสูดดมเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นโรคแพ้ความสูง


ส่วนอีก 2 หนุ่มของเราไม่มีปัญหาเรื่องแพ้ความสูง ลุยได้เต็มที่ อี๋ด ขอถ่ายรูปหล่อๆ บ้างหลังจากถ่ายให้คนข้างกายเยอะแล้ว


ส่วน หนึ่ง ก็ไม่มีปัญหาเรื่องแพ้ความสูงเหมือนกัน แถมยังซื้อเบียร์จีนขึ้นไปแช่หิมะเย็นๆ ดื่มซะด้วย เจ้งจริงๆ


เดินเล่นถ่ายรูปกันอยู่บนเขาหิมะประมาณชั่วโมงกว่าๆ พวกเราก็ได้นั่งกระเช้าลงจากเขา เพราะอากาศก็หนาวมาก คนก็เยอะกลัวจะต่อแถวขึ้นกระเช้านาน และถ้าอยู่นานกลัวจะค่ำเสียก่อนแล้วไม่ได้ไปเที่ยวที่อื่นอีก

การเดินทางของพวกเราแค่เริ่มต้นเท่านั้น ตอนหน้าจะพาไปดูความเสียวของการนั่งกระเช้าลงเขาหิมะนี้ ดูซิว่าใครจะรู้สึกอย่างไรบ้าง แล้วเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ รอติดตามชมนะครับ

**** เมื่อเปิดแล้วรูปไม่โชว์ ให้เอาเมาส์ไปชี้ที่ว่างๆ แล้วคลิกขวา เลือก Show Picture รูปก็จะโชว์ทันที ***


Create Date : 28 เมษายน 2552
Last Update : 12 พฤษภาคม 2552 17:00:34 น. 23 comments
Counter : 5111 Pageviews.

 
แชงกรีล่า ดินแดนในฝันเลยนะเนี่ย รอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ


โดย: kapaeng_83 วันที่: 1 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:56:24 น.  

 
สวยมากๆๆเลยค่ะ...เรามีแพลนจะไปแชงกรีล่า เดือน ก.ค.นี้นะคะ..

จะไปดูสุริยปราคาด้วย..


โดย: nuanapa วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:23:38 น.  

 
เป็นกำลังใจให้ครับ


โดย: ขมิ้น IP: 125.24.237.236 วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:21:04 น.  

 
Kapaeng_83
- พอดีช่วงนี้ยังไม่ค่อยว่าง แต่ถ้ามีเวลาจะรีบทำตอนต่อๆ ไปอย่างเร่งด่วนครับ

nuanapa;
- ช่วงเดือน กค. เป็นหน้าฝนของประเทศจีนครับ แต่ดีตรงที่ไม่หนาว
- ดูสุริยปราคาเผื่อด้วยนะครับ

ขมิ้น;
- ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณทั้ง 3 ท่านที่แวะมาชมบล๊อกครับ


โดย: taotao_s วันที่: 11 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:25:58 น.  

 
Ni Hao ka!!!
Hui Jide wo ma?
hahahaaaa
ไปเที่ยวอีกแล้นนน
เที่ยวบ่อยจังเลยค่ะ
มีเพื่อนร่วมทริปเยอะเลยนะคะ ทริปนี้
แอบจำพี่เสื้อชมพูได้ ว่าใช่เพื่อนร่วมทริป
ตอนไปมาเก๊า ฮ่องกงใช่ป่าวคะ
วิวสวยมากๆเลยค่ะ น่าไปที่สุด อิอิ
คนขายของเหมือนเมืองไทยเลย ปั่นหนีเทศกิจด้วย
อิอิ




โดย: Cee++Junno IP: 192.168.77.7, 203.147.21.247 วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:32:42 น.  

 
Cee++Junno; (แฟนบล๊อกพันธ์แท้)

- Ni hao.
- Ni hao ma?
- wo hen hao.
- ใช่แล้วทริปนี้มีสมาชิกทั้งหมด 7 คนรวมพี่ด้วย
- ใช่แล้ว เพื่อร่วมทริป มาเก๊า-ฮ่องกง
- เคยไปเที่ยวแถบแชงกรีลาหรือยัง ว่างๆ ลองไปดูนะ
- ขอบคุณมากๆ ที่แวะมาชม และ เป็นแฟนบล๊อก


โดย: taotao_s วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:51:38 น.  

 
เดือนกรกฎาคม นี้เหมาะที่จะเที่ยวเชียงกรีล่าหรือไม่ ไม่หนาวแต่ฝนตกก็ไม่ดี
ได้ไปเต่อชิงด้วยหรือไม่ ค่าใช้จ่ายไปกันเองทั้งหมดประมาณเท่าไร คงจะถูกกว่าไปกับทัวร์ เพราะว่าทัวร์เขาคิด ประมาณ 30000 กว่าบาท


โดย: nida IP: 125.25.145.35 วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:37:13 น.  

 
nida;
- เดือนกรกฏาคม ไม่หนาวครับแต่ฝนจะตก เที่ยวช่วงฝนตกก็จะลำบากไปไหนไม่ได้ ยิ่งถ้าตกทั้งวันก็ต้องนอนอยู่แต่ในโรงแรม
- ผมว่าถ้าฝนตกไม่ควรไปเที่ยวเต๋อชิง เพราะถนนจะลื่น ทางก็ไม่ดี อันตราย ครับ
- ถ้าไปเองก็จะได้เที่ยวดังใจ อยากอยู่ต่อก็อยู่ ไม่อยากดูก็ไม่ต้องไป แต่จะลำบากเรื่องภาษาต้องพูดจีน ราคาถูกกว่าไปกับทัวร์แน่นอน พวกผมไปกันหมด 23000 บาทรวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับแล้ว
- ขอบคุณมากๆ ที่แวะมาชมบล๊อกเรา



โดย: taotao_s วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:26:44 น.  

 
สวยใกๆ เลยค่ะ อยากไปมากๆ แต่ไม่รู้ว่าถ้า หญิง ฉายเดี่ยวนี่จะอันตรายมากมั้ยค่ะ


โดย: Mini_Piglet IP: 58.9.154.247 วันที่: 7 มิถุนายน 2552 เวลา:21:27:39 น.  

 
Mini_Piglet;
- ถามว่าอันตรายหรือไม่ บางครั้งการไปเที่ยวแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราคือ เราไม่ไปในที่อโคจร ไปไหนก็ดูว่าทางที่เราไปเป็นอย่างไรน่ากลัวไหม เปลี่ยวหรือไม่ เป็นต้น
- ถ้าไปคนเดี่ยว ในความคิดผมคิดว่าไม่น่าจะดี เวลาเราเป็นอะไรจะไม่มีคนช่วย ไม่มีคนช่วยคิด แต่ก็มีหลายๆ คนที่ไปคนเดียว แนะนำหาเพื่อนไปด้วยอีกสักคน
- ขอบคุณมากครับที่แวะมาชมบล๊อก


โดย: taotao_s วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:9:22:06 น.  

 
ติดตามชมค่ะ รายละเอียด ภาพแจ่มมากค่ะ


โดย: อ้อย IP: 124.121.28.193 วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:21:04:50 น.  

 
อ้อย;
- ขอบคุณมากครับสำหรับคำชม และแวะมาชมบล๊อกเรา


โดย: taotao_s วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:23:48:02 น.  

 
สวยมาก ๆ ค่ะ จะติดตามดูทุก blog เลย
คาดว่าคอเดียวกัน กะจะไปเหมือนกัน
แต่ก้อกลัวนะคะ เพราะพูดภาษาจีนไม่เป็นเลย
อาจไปกับทัวร์ค่ะ

จะติดตามภาพสวย ๆ อีกนะคะ

blog : aor_wal


โดย: aor (aor_wal ) วันที่: 11 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:08:29 น.  

 
aor;
- ขอบคุณมากครับสำหรับคำชม
- ไปเที่ยวเองก็ได้ครับ แต่ถ้าพูดจีนไม่ได้อาจจะลำบากนิดหน่อย แต่ได้เข้าไปดูในบล๊อกก็เห็นไปเที่ยวที่ปักกิ่งมาแล้วนี่ครับ
- บล๊อกคุณมีหลายหลายเรื่องดีครับ ส่วนผมมีแต่เรื่องเที่ยวครับ
- ขอบคุณมากครับที่แวะมาชมบล๊อก


โดย: taotao_s วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:02:39 น.  

 
รวมๆแล้วหมดไปคนละกี่หยวนนะครับ


โดย: kritz IP: 125.24.108.17 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:49:52 น.  

 
kritz;
- คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 21000 บาท รวมทุกอย่างแล้ว เช่น ตั๋วเครื่องบิน ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ
- ขอบคุณมากครับที่แวะมาชมบล๊อก


โดย: taotao_s วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:54:29 น.  

 
คุณอยู่บริษัท ais หรือเปล่าค่ะคุ้นหน้ามากเลย อิจฉาคุณมากเลยได้เที่ยวเยอะมาก อากาศที่แชงการีล่ากับฮาร์บินที่ไหนหนาวกว่ากันค่ะ


โดย: KEN IP: 10.239.37.104, 202.149.29.83 วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:13:50:22 น.  

 
Ken;
- ใช่ครับ เที่ยวยังไม่เยอะครับ ถ้าว่างเมื่อไรก็ไปเที่ยวครับ ลองหาเวลาเที่ยวดูนะครับ ให้รางวัลกับชีวิต
- แชงกรีล่า กับ ฮาร์บิ้น เรื่องความหนาวในจีนไม่มีที่ไหนหนาวเท่าฮาร์บิ้นแล้วครับ -30c แต่ผมเองยังไม่เคยไปฮาร์บิ้นนะครับ
- ขอบคุณมากๆ ครับที่แวะชมบล๊อกเรา ว่างๆ หาเวลาเที่ยวบ้างนะครับ


โดย: taotao_s วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:10:05:36 น.  

 
ผมพึ่งไปสงกรานต์ปีนี้ ขับรถไปกันเองครับ
ดูรูปในนี้ได้ครับ //www.weekendhobby.com/offroad/mitsubishi/Question.asp?ID=18306


โดย: khonoffroad IP: 183.89.193.100 วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:15:10:02 น.  

 
ผมก้ไปมาเมื่อ ปลายปี 53 ไปแค่จงเตี้ยน เกิดอาการแพ้ที่สูงเลยกลับ ปีนี้ขอเริ่มใหม่


โดย: ลุงหมัก IP: 58.9.204.11 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:14:37:47 น.  

 
ลุงหมัก

ผมก็อยากไปอีกสักครั้งครับ แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะไปช่วงไหนดี
ถ้าแพ้ที่สูงให้ซื้อยาจีน หงจิ้นเทียน กินนะครับช่วยได้ และก่อนไปควรออกกำลังให้มากๆ ครับ


โดย: taotao_s วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:17:13:40 น.  

 
ไปเดือนไหนสวยค่ะ


โดย: สุทิศา IP: 125.24.79.181 วันที่: 12 กันยายน 2556 เวลา:12:02:05 น.  

 
ปีหน้าคงได้ไปเที่ยว
ภาพสวยมากๆค่ะ


โดย: น้องนัท IP: 118.175.91.145 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2557 เวลา:19:27:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.