Bloggang.com : weblog for you and your gang
เที่ยวไป..กินไป..ตามแต่ใจเราสองคน เป็นบล๊อกที่ทำขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวการเดินทางของเราทั้ง 2 คน และเป็นข้อมูลให้สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางด้วยตัวเอง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [
?
]
Group Blog
Good morning "Vietnam"
Welcome & Next Trips
"ปาย"...รักจัง
โซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน
สะบายดี หลวงพระบาง
ไปเที่ยวง่ายๆ สบายๆ ...ที่ สิงคโปร์
เดินเล่น.... เกาะเกร็ด
มาเก๊า-ฮ่องกง 4วัน 3คืน
ไปฝึกภาษาจีนที่ ฮ่องกง-เซินเจิ้น
แบกเป้เที่ยวปักกิ่ง
แชงกรีลาแดนในฝัน.
เท็นเดย์อิน เนปาล
ตลาดคลองสวน 100 ปี
สิงคโปร์ กับ โปรฯ 0 บาท
สำรวจ... มาเลเซีย
มนต์เสน่ห์.. บาหลี
พม่า. ไหว้พระทำบุญ
ไหว้พระทำบุญ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน
คิงคอง พาเที่ยวฮ่องกง-ดีสนีย์แลนด์
เที่ยว เชียงคาน ภูเรือ จ.เลย
ใคร ใคร ก็ไปเกาหลี
All Blogs
มนต์เสน่ห์.. บาหลี ตอนจบ
มนต์เสน่ห์.. บาหลี วัน4
มนต์เสน่ห์.. บาหลี วัน3
มนต์เสน่ห์.. บาหลี วัน2
มนต์เสน่ห์.. บาหลี วันแรก
Friends' blogs
kateking
mamminnie
smo
tsubai
Hot Vanilla
หมอหมู
DogRobo
liminghui
พี่ถึก
nenenery
Lady Formosa
nokparichad
มิสเตอร์ฮอง
Webmaster - BlogGang
[Add 's blog to your web]
Links
BlogGang.com
มนต์เสน่ห์.. บาหลี วัน4
มนต์เสน่ห์.. บาหลี วัน4
ตรงกับวันที่ 5 เมษายน 2553 วันนี้พวกเรามีสมาชิกทั้งหมด 8 คน ตื่นกันตั้งแต่เช้าเพราะนัดรถตู้คันเดิมไว้ 9 โมงให้มารับที่โรงแรมราคาที่พวกเราเหมาก็เท่าเดิมคือ 350,000 รูเปี้ย ต่อ 10 ชั่วโมง โปรแกรมเที่ยวของพวกเราวันนี้ก็คือ
Pura Tirta Empul
วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เป็นแห่งแรก จากนั้นก็จะไปกินข้าวเที่ยงชมภูเขาไฟ Batur ที่
Kintamani
ย้อนกลับลงมาเที่ยว
Rice Terrace
นาขั้นบันได แล้วไปช๊อปปิ้งของฝากที่ร้านขายของฝากอยู่ที่ทางกลับไปสุกะวาตี หลังจากช๊อปปิ้งเสร็จก็จะกลับมาโรงแรมเพื่อเอาของเก็บแล้วไปดู
Barong Dance
ที่โรงแสดงอุบุต
แปดโมงเช้าพวกเราพร้อมกันที่ห้องอาหารเช้าโรงแรม อาหารก็เหมือนเดิมให้เลือกว่าจะเอาอะไรก็สั่ง ผมก็เหมือนเดิม Nasi Grolang อาหารบาหลีเช่นเดิม กินอาหารเช้าเรียบร้อยกันทุกคนก็ออกเดินทางใช้เวลาประมาณ 50 นาทีพวกเราก็มาถึงจุดหมายแรก
วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์
Pura Tirta Empul
วัดนี้เสียค่าเข้าชมคนละ 6,000 รูเปี้ย ประตูทางเข้าวัด
เดินผ่านประตูวัดเข้าไปก็จะสู่บริเวณวัด เดินตรงเข้าไปอีกซ้ายมือจะเป็นที่ให้ยืมโสร่งใส่ ก่อนเข้าวัดฮินดูต้องใส่โสร่งและต้องมีผ้าคาดเอว เป็นธรรมเนียมของวัดฮินดู ใส่กันแล้วต้องขอถ่ายรูปไว้ดูสักหน่อย
แต่งองค์ทรงเครื่องแล้วก็เข้าไปในส่วนที่เป็นศาสนสถานต่างๆ ด้านในวัด จะมีเป็นศาลาเล็กๆ อยู่หลายหลังเป็นที่ประกอบพิธีกรรม
บ่อน้ำนี้คือบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ผุดมาจากใต้ดิน กลางบ่อที่เห็นเป็นวงกลมใหญ่ๆ สีขาวจะเป็นบริเวณที่มีน้ำผุดขึ้นมาตลอดเวลา
ขอถ่ายรวมหมู่เฉพาะสาวๆ ทั้ง 5 คน ก่อนออกจากวัดส่วนของด้านใน
ออกจากส่วนด้านในวัดก็จะเป็นส่วนที่ของน้ำพุ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สักการะของชาวบาหลี โดยเชื่อว่าถ้าได้มาอาบน้ำจะเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและยังช่วยรักษาโรคร้ายต่างๆ ได้ วันที่พวกเราไปผู้คนไม่เยอะ
ในการมาอาบน้ำแต่ละครั้งจะต้องไหว้บูชาแท่นน้ำขอพร โดยการไหว้และอาบน้ำตั้งแต่แท่นน้ำพุแรกไปจนถึงอันสุดท้าย
ไหว้บูชาเสร็จก็ก้มลงอาบน้ำจากแท่นน้ำพุ
ที่แท่นน้ำพุจะมีเครื่องเซ่นไหว้วางอยู่บนแท่น เป็นเครื่องเซ่นของชาวฮินดู ตลอดเวลาที่เราอยู่ในบาหลี เราจะพบเห็นเครื่องเซ่นไหว้นี้อยู่ทั่วไป
ที่วัดนี้มีบ่อเลี้ยงปลา จะอยู่ใกล้ๆ กับทางเข้าวัด พวกเราให้อาหารปลา
เดินถ่ายรูป ชมความสวยงามต่างๆ ในวัดเสร็จพวกเราก็ต้อเดินกลับมายังที่ลานจอดรถ แต่ระหว่างทางเดินจะต้องผ่านร้านค้าขายของที่ระลึกต่างๆ มากมาย แม่ค้าจะร้องเรียกให้เข้ามาซื้อโดยพูดเป็นภาษาไทย "5 อันร่อย 2อันร่อย" ตลอด 2 ข้างทางจะมีร้านค้ายาวไปเรื่อยๆ บางร้านเดินผ่านแม่ค้าดึงมือเข้าไปในร้านก็มี พวกเราหลายคนต้องเสียเงินที่ตลาดนี้เหมือนกัน ถามว่าถูกหรือแพงตอบไม่ได้เอาเป็นว่าตาดีได้ตาร้านเสีย ตลาดนี้เรียกว่า " ตลาดปราบเซียน "
พวกเราออกจากวัดได้ก็มุ่งหน้าสู่
Kintamani
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึงจุดหมาย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ผ่านจะต้องเสีนเงินคนละ 3000 รูเปี้ย จากนั้นพวกเราก็ต้องไปยังร้านอาหารเพื่อกินข้าวเที่ยง พร้อมกับชมภูเขาไฟ Bartu แต่วันที่เราไปกันท้องฟ้าไม่เป็นใจ
ร้านอาหารนี้จะอยู่ข้างทาง มีที่นั่งเป็นม้านั่งยาวๆ หันหน้าออกสู่ภูเขาไฟ และส่วนที่เป็นภายในห้องแอร์ แต่พวกเราเลือกนั่งที่เป็นซุ้มแล้วมีโต๊ะคล้ายขันโตกบ้านเรา
อาหารส่วนมากจะเป็นอาหารบาหลี สามารถตักได้ตามใจชอบ
หินอาหารเสร็จก็มากินผลไม้ตามฤดูกันต่อได้ และมีขนมหวาน ชา กาแฟ ให้ตบท้ายด้วยครับ
นั่งกินอาหารเที่ยงไปก็ชมวิวภูเขาไฟไป แต่วันนี้ฟ้าไม่เป็นใจมีทั้งเมฆ และ หมอก เยอะมากทำให้ไม่สวยงามดังใจอยาก
ยอดภูเขไฟ Bartu วันที่ฟ้าไม่เป็นใจ
นั่งชมวิวภูเขาไฟไม่สวย เลยหันไปมองวิวญี่ปุ่น บ้าง แต่ก็พอที่จะผ่อนคลายได้
บรรยากาศรอบๆ ภูเขาไฟ
สรุปค่าอาหารมื้อนี้พวกเราจ่ายคนละ
80000 รูเปี้ย
รวมภาษีและเซอร์วิสแล้วครับ ยกเว้นค่าน้ำดื่มต้องจ่ายเพิ่ม
ออกจากร้านอาหารพวกเราก็มุ่งหน้าย้อนกลับลงมาเพื่อมาเที่ยว
Rice Terraces
หรือ นาขั้นบันได ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของบาหลีอีกแห่ง อยู่ไม่ไกลจากอุบุต
มาถึงต้องขอถ่ายรูปหมู่พวกเราทั้งหมด 8 คนแต่ถ่ายแค่ 6 คน ขาดแต่ผม กับอี๊ดที่เป็นคนถ่าย เท่านั้น
การมาเที่ยวที่นาขั้นบันไดนี้ไม่ต้องเสียค่าเข้าชมเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ แต่ข้างๆ จะมีร้านขายอาหาร เครื่องดืมต่างๆ เพื่อให้นั่งชมบรรยากาศนาขั้นบันได
นาที่นี่เหมือนจะถูกทำขึ้นเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว เพราะ 2 ข้างทางจะมีร้านค้าเต็มตลอด นาขั้นบันไดก็เป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรม และ สัญญาลักษณ์ของบาหลี
ถ่ายรูปกันให้จุใจ พวกเราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมง นั่งพักผ่อน คุยกัน ถ่ายรูปกันไป ก็สนุกดี ไม่รีบไม่ร้อน การมาเที่ยวกันเองไม่ได้มากับทัวร์ก็ดีแบบนี้แหละครับ สบายๆ อยากกลับก็กลับ อยากอยู่ก็อยู่ ไม่ต้องรอใคร ก่อนลาจากนาขั้นบันได สาวๆ ทั้ง 5 ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานเพราะครั้งนี้มีตากล้องมาถึง 3 คน
ออกจากนาขั้นบันได พวกเรามีโปรแกรมจะไปช๊อปปิ้งที่ตลาดสุกาวาตี แต่เนื่องด้วยตลาดนี้ปิดเร็วพวกเราไปก็คงจะได้ช๊อปปิ้งไม่เกิน1 ชั่วโมงแน่ พวกเราทั้งแปดคนก็เลยมุ่งหน้ากลับมายังโรงแรมเพื่อล้างหน้าล้างตา เพื่อเตรียมตัวไปเดินช๊อปปิ้งที่ตลาดอุบุต และช่วงค่ำๆ จะรอชมระบำบาลอง
การชมการแสดงต่างๆ ที่อุบุต สามารถซื้อตั๋วสำหรับเข้าชมได้ที่บริเวณสี่แยกศุนย์ข้อมูลท่องเที่ยว และสามารถสอบถามและซื้อตั๋วได้ที่นี่ หรือไม่ก็จะมีคนบาหลีมาเดินขายตั๋วการแสดงต่างๆ ให้กับนักท่องเที่ยว วันนี้พวกเราไม่ได้ชมระบำบางลอง เพราะพวกเราไปชมการแสดง
ระบำเลกอง
พวกเราซื้อตั๋วเข้าชมราคาใบละ 80,000 รูเปี้ย เริ่มการแสดงเวลา 1 ทุ่มครึ่ง การแสดงวันนี้ย้ายจากเวทีกลางแจ้งมาเป็นในเวทีในร่มเนื่องจากช่วงนี้ฝนตกบ่อย เวทีอยู่ตรงข้ามกับศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว ติดกับสี่แยกอุบุต ได้เวลาการแสดงก็เริ่มขึ้น
การแสดงจะไม่เป็นเรื่องราว แสดงเป็นชุดๆ ชุดนี้จบชุดใหม่ก็ออกมาโชว์ต่อ
ผมไม่ค่อยรู้เรื่องราวของตัวแสดงก็เลยไม่ขอเล่ากลัวข้อมูลจะผิด แต่จะเป็นการเล่าความรู้สึกที่เห็นก็แล้วกัน สำหรับคนนี้เป็นการระบำแบบทำตัวยึกๆ ยักๆ แข็งๆ ดูแล้วรู้สึกทึ่งในความสามารถเพราะทำได้สวยงามมากทั้งลูกตา และร่างกาย
การแสดงแต่ละชุดใช้เวลาประมาณ 10 นาที มีทั้งระบำเดียว
ทั้งระบำเป็นชุดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
ในการแสดงระบำทุกชุดจะมีการเล่นดนตรีพื้นเมืองบาหลีประกอบไปด้วย เพื่อให้เข้ากับการแสดง เล่นเครื่องดนตรีได้พร้อมเพียงกันมาก
มีทั้งเครื่องตี เครื่องดีด เครื่องเคาะ กล้อง เรียกได้ว่ามีครับ มีผู้เล่น 2 ฝั่งๆ ละประมาณ 10 คน เล่นพร้อมเพียงกันมาก ตั้งหน้าตั้งตาเล่น ไม่มีพูดคุยกัน
คนนี้เป็นคนที่รำได้สวยงามที่สุดในสายตาผม รำได้อ่อนช้อยมาก รำจนเหงื่อไหล รำนานมาก ชุดนี้มีการแสดง 2 คน ช่วงท้ายๆ จะมีผู้ชายออกมารำคู่ด้วย
และแล้วกาแสดงชุดสุดท้ายก็มาถึงเป็นการแสดงแต่วตัวเป็นคนแก่ ผมขาว ออกมาระบำ
ใช้เวลาในการแสดงทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง การแสดงประมาณ 8 ชุด(เท่าที่จำได้) นักแสดงก็ออกมาขอบคุณผู้ชม วันนี้ผู้ชมเต็มทุกที่นั่ง
หลังจากชมการแสดงจบลงพวกเราก็ได้เหมารถให้ไปส่งโรงแรม แล้วก็แยกย้ายกันเขาห้อง เป็นอันจบการเที่ยวของพวกเราทั้ง 8 คน ในวันที่ 4 ของการเดินทาง
ผ่านไปแล้ว 4 วัน วันพรุ่งนี้พวกเราทั้ง 8 คน ต้องกลับแล้ว ต้องขึ้นเครื่อง 12.00 น. ตามเวลาของบาหลี คงไม่มีเวลาไปเที่ยวที่ไหนแล้วเพราะว่าเราต้องเดินทางจากอุบุต กลับไปยังสนามบินฯ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
Create Date : 27 พฤษภาคม 2553
Last Update : 28 มิถุนายน 2553 10:57:49 น.
0 comments
Counter : 3541 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.