เที่ยวไป..กินไป..ตามแต่ใจเราสองคน เป็นบล๊อกที่ทำขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวการเดินทางของเราทั้ง 2 คน และเป็นข้อมูลให้สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางด้วยตัวเอง

Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add 's blog to your web]
Links
 

 
มนต์เสน่ห์.. บาหลี วัน4

มนต์เสน่ห์.. บาหลี วัน4 ตรงกับวันที่ 5 เมษายน 2553 วันนี้พวกเรามีสมาชิกทั้งหมด 8 คน ตื่นกันตั้งแต่เช้าเพราะนัดรถตู้คันเดิมไว้ 9 โมงให้มารับที่โรงแรมราคาที่พวกเราเหมาก็เท่าเดิมคือ 350,000 รูเปี้ย ต่อ 10 ชั่วโมง โปรแกรมเที่ยวของพวกเราวันนี้ก็คือ Pura Tirta Empul วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เป็นแห่งแรก จากนั้นก็จะไปกินข้าวเที่ยงชมภูเขาไฟ Batur ที่ Kintamani ย้อนกลับลงมาเที่ยว Rice Terrace นาขั้นบันได แล้วไปช๊อปปิ้งของฝากที่ร้านขายของฝากอยู่ที่ทางกลับไปสุกะวาตี หลังจากช๊อปปิ้งเสร็จก็จะกลับมาโรงแรมเพื่อเอาของเก็บแล้วไปดู Barong Dance ที่โรงแสดงอุบุต


แปดโมงเช้าพวกเราพร้อมกันที่ห้องอาหารเช้าโรงแรม อาหารก็เหมือนเดิมให้เลือกว่าจะเอาอะไรก็สั่ง ผมก็เหมือนเดิม Nasi Grolang อาหารบาหลีเช่นเดิม กินอาหารเช้าเรียบร้อยกันทุกคนก็ออกเดินทางใช้เวลาประมาณ 50 นาทีพวกเราก็มาถึงจุดหมายแรก วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ Pura Tirta Empul วัดนี้เสียค่าเข้าชมคนละ 6,000 รูเปี้ย ประตูทางเข้าวัด


เดินผ่านประตูวัดเข้าไปก็จะสู่บริเวณวัด เดินตรงเข้าไปอีกซ้ายมือจะเป็นที่ให้ยืมโสร่งใส่ ก่อนเข้าวัดฮินดูต้องใส่โสร่งและต้องมีผ้าคาดเอว เป็นธรรมเนียมของวัดฮินดู ใส่กันแล้วต้องขอถ่ายรูปไว้ดูสักหน่อย


แต่งองค์ทรงเครื่องแล้วก็เข้าไปในส่วนที่เป็นศาสนสถานต่างๆ ด้านในวัด จะมีเป็นศาลาเล็กๆ อยู่หลายหลังเป็นที่ประกอบพิธีกรรม


บ่อน้ำนี้คือบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ผุดมาจากใต้ดิน กลางบ่อที่เห็นเป็นวงกลมใหญ่ๆ สีขาวจะเป็นบริเวณที่มีน้ำผุดขึ้นมาตลอดเวลา


ขอถ่ายรวมหมู่เฉพาะสาวๆ ทั้ง 5 คน ก่อนออกจากวัดส่วนของด้านใน


ออกจากส่วนด้านในวัดก็จะเป็นส่วนที่ของน้ำพุ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สักการะของชาวบาหลี โดยเชื่อว่าถ้าได้มาอาบน้ำจะเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและยังช่วยรักษาโรคร้ายต่างๆ ได้ วันที่พวกเราไปผู้คนไม่เยอะ


ในการมาอาบน้ำแต่ละครั้งจะต้องไหว้บูชาแท่นน้ำขอพร โดยการไหว้และอาบน้ำตั้งแต่แท่นน้ำพุแรกไปจนถึงอันสุดท้าย


ไหว้บูชาเสร็จก็ก้มลงอาบน้ำจากแท่นน้ำพุ


ที่แท่นน้ำพุจะมีเครื่องเซ่นไหว้วางอยู่บนแท่น เป็นเครื่องเซ่นของชาวฮินดู ตลอดเวลาที่เราอยู่ในบาหลี เราจะพบเห็นเครื่องเซ่นไหว้นี้อยู่ทั่วไป


ที่วัดนี้มีบ่อเลี้ยงปลา จะอยู่ใกล้ๆ กับทางเข้าวัด พวกเราให้อาหารปลา


เดินถ่ายรูป ชมความสวยงามต่างๆ ในวัดเสร็จพวกเราก็ต้อเดินกลับมายังที่ลานจอดรถ แต่ระหว่างทางเดินจะต้องผ่านร้านค้าขายของที่ระลึกต่างๆ มากมาย แม่ค้าจะร้องเรียกให้เข้ามาซื้อโดยพูดเป็นภาษาไทย "5 อันร่อย 2อันร่อย" ตลอด 2 ข้างทางจะมีร้านค้ายาวไปเรื่อยๆ บางร้านเดินผ่านแม่ค้าดึงมือเข้าไปในร้านก็มี พวกเราหลายคนต้องเสียเงินที่ตลาดนี้เหมือนกัน ถามว่าถูกหรือแพงตอบไม่ได้เอาเป็นว่าตาดีได้ตาร้านเสีย ตลาดนี้เรียกว่า " ตลาดปราบเซียน "

พวกเราออกจากวัดได้ก็มุ่งหน้าสู่ Kintamani ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึงจุดหมาย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ผ่านจะต้องเสีนเงินคนละ 3000 รูเปี้ย จากนั้นพวกเราก็ต้องไปยังร้านอาหารเพื่อกินข้าวเที่ยง พร้อมกับชมภูเขาไฟ Bartu แต่วันที่เราไปกันท้องฟ้าไม่เป็นใจ


ร้านอาหารนี้จะอยู่ข้างทาง มีที่นั่งเป็นม้านั่งยาวๆ หันหน้าออกสู่ภูเขาไฟ และส่วนที่เป็นภายในห้องแอร์ แต่พวกเราเลือกนั่งที่เป็นซุ้มแล้วมีโต๊ะคล้ายขันโตกบ้านเรา


อาหารส่วนมากจะเป็นอาหารบาหลี สามารถตักได้ตามใจชอบ


หินอาหารเสร็จก็มากินผลไม้ตามฤดูกันต่อได้ และมีขนมหวาน ชา กาแฟ ให้ตบท้ายด้วยครับ


นั่งกินอาหารเที่ยงไปก็ชมวิวภูเขาไฟไป แต่วันนี้ฟ้าไม่เป็นใจมีทั้งเมฆ และ หมอก เยอะมากทำให้ไม่สวยงามดังใจอยาก


ยอดภูเขไฟ Bartu วันที่ฟ้าไม่เป็นใจ


นั่งชมวิวภูเขาไฟไม่สวย เลยหันไปมองวิวญี่ปุ่น บ้าง แต่ก็พอที่จะผ่อนคลายได้


บรรยากาศรอบๆ ภูเขาไฟ


สรุปค่าอาหารมื้อนี้พวกเราจ่ายคนละ 80000 รูเปี้ย รวมภาษีและเซอร์วิสแล้วครับ ยกเว้นค่าน้ำดื่มต้องจ่ายเพิ่ม

ออกจากร้านอาหารพวกเราก็มุ่งหน้าย้อนกลับลงมาเพื่อมาเที่ยว Rice Terraces หรือ นาขั้นบันได ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของบาหลีอีกแห่ง อยู่ไม่ไกลจากอุบุต


มาถึงต้องขอถ่ายรูปหมู่พวกเราทั้งหมด 8 คนแต่ถ่ายแค่ 6 คน ขาดแต่ผม กับอี๊ดที่เป็นคนถ่าย เท่านั้น


การมาเที่ยวที่นาขั้นบันไดนี้ไม่ต้องเสียค่าเข้าชมเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ แต่ข้างๆ จะมีร้านขายอาหาร เครื่องดืมต่างๆ เพื่อให้นั่งชมบรรยากาศนาขั้นบันได


นาที่นี่เหมือนจะถูกทำขึ้นเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว เพราะ 2 ข้างทางจะมีร้านค้าเต็มตลอด นาขั้นบันไดก็เป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรม และ สัญญาลักษณ์ของบาหลี


ถ่ายรูปกันให้จุใจ พวกเราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมง นั่งพักผ่อน คุยกัน ถ่ายรูปกันไป ก็สนุกดี ไม่รีบไม่ร้อน การมาเที่ยวกันเองไม่ได้มากับทัวร์ก็ดีแบบนี้แหละครับ สบายๆ อยากกลับก็กลับ อยากอยู่ก็อยู่ ไม่ต้องรอใคร ก่อนลาจากนาขั้นบันได สาวๆ ทั้ง 5 ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานเพราะครั้งนี้มีตากล้องมาถึง 3 คน


ออกจากนาขั้นบันได พวกเรามีโปรแกรมจะไปช๊อปปิ้งที่ตลาดสุกาวาตี แต่เนื่องด้วยตลาดนี้ปิดเร็วพวกเราไปก็คงจะได้ช๊อปปิ้งไม่เกิน1 ชั่วโมงแน่ พวกเราทั้งแปดคนก็เลยมุ่งหน้ากลับมายังโรงแรมเพื่อล้างหน้าล้างตา เพื่อเตรียมตัวไปเดินช๊อปปิ้งที่ตลาดอุบุต และช่วงค่ำๆ จะรอชมระบำบาลอง
การชมการแสดงต่างๆ ที่อุบุต สามารถซื้อตั๋วสำหรับเข้าชมได้ที่บริเวณสี่แยกศุนย์ข้อมูลท่องเที่ยว และสามารถสอบถามและซื้อตั๋วได้ที่นี่ หรือไม่ก็จะมีคนบาหลีมาเดินขายตั๋วการแสดงต่างๆ ให้กับนักท่องเที่ยว วันนี้พวกเราไม่ได้ชมระบำบางลอง เพราะพวกเราไปชมการแสดง ระบำเลกอง พวกเราซื้อตั๋วเข้าชมราคาใบละ 80,000 รูเปี้ย เริ่มการแสดงเวลา 1 ทุ่มครึ่ง การแสดงวันนี้ย้ายจากเวทีกลางแจ้งมาเป็นในเวทีในร่มเนื่องจากช่วงนี้ฝนตกบ่อย เวทีอยู่ตรงข้ามกับศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว ติดกับสี่แยกอุบุต ได้เวลาการแสดงก็เริ่มขึ้น


การแสดงจะไม่เป็นเรื่องราว แสดงเป็นชุดๆ ชุดนี้จบชุดใหม่ก็ออกมาโชว์ต่อ


ผมไม่ค่อยรู้เรื่องราวของตัวแสดงก็เลยไม่ขอเล่ากลัวข้อมูลจะผิด แต่จะเป็นการเล่าความรู้สึกที่เห็นก็แล้วกัน สำหรับคนนี้เป็นการระบำแบบทำตัวยึกๆ ยักๆ แข็งๆ ดูแล้วรู้สึกทึ่งในความสามารถเพราะทำได้สวยงามมากทั้งลูกตา และร่างกาย


การแสดงแต่ละชุดใช้เวลาประมาณ 10 นาที มีทั้งระบำเดียว


ทั้งระบำเป็นชุดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป


ในการแสดงระบำทุกชุดจะมีการเล่นดนตรีพื้นเมืองบาหลีประกอบไปด้วย เพื่อให้เข้ากับการแสดง เล่นเครื่องดนตรีได้พร้อมเพียงกันมาก


มีทั้งเครื่องตี เครื่องดีด เครื่องเคาะ กล้อง เรียกได้ว่ามีครับ มีผู้เล่น 2 ฝั่งๆ ละประมาณ 10 คน เล่นพร้อมเพียงกันมาก ตั้งหน้าตั้งตาเล่น ไม่มีพูดคุยกัน


คนนี้เป็นคนที่รำได้สวยงามที่สุดในสายตาผม รำได้อ่อนช้อยมาก รำจนเหงื่อไหล รำนานมาก ชุดนี้มีการแสดง 2 คน ช่วงท้ายๆ จะมีผู้ชายออกมารำคู่ด้วย


และแล้วกาแสดงชุดสุดท้ายก็มาถึงเป็นการแสดงแต่วตัวเป็นคนแก่ ผมขาว ออกมาระบำ


ใช้เวลาในการแสดงทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง การแสดงประมาณ 8 ชุด(เท่าที่จำได้) นักแสดงก็ออกมาขอบคุณผู้ชม วันนี้ผู้ชมเต็มทุกที่นั่ง


หลังจากชมการแสดงจบลงพวกเราก็ได้เหมารถให้ไปส่งโรงแรม แล้วก็แยกย้ายกันเขาห้อง เป็นอันจบการเที่ยวของพวกเราทั้ง 8 คน ในวันที่ 4 ของการเดินทาง

ผ่านไปแล้ว 4 วัน วันพรุ่งนี้พวกเราทั้ง 8 คน ต้องกลับแล้ว ต้องขึ้นเครื่อง 12.00 น. ตามเวลาของบาหลี คงไม่มีเวลาไปเที่ยวที่ไหนแล้วเพราะว่าเราต้องเดินทางจากอุบุต กลับไปยังสนามบินฯ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง


Create Date : 27 พฤษภาคม 2553
Last Update : 28 มิถุนายน 2553 10:57:49 น. 0 comments
Counter : 3541 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.