เที่ยวไป..กินไป..ตามแต่ใจเราสองคน เป็นบล๊อกที่ทำขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวการเดินทางของเราทั้ง 2 คน และเป็นข้อมูลให้สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางด้วยตัวเอง

Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add 's blog to your web]
Links
 

 
เท็นเดย์อิน เนปาล. โพคารา

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2552 วันนี้พวกเรามีโปรแกรมต้องเดินทางไปยังเมือง โพคารา อยู่ห่างจากเมืองกาฐมาณฑุ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 200 กิโลเมตร เป็นเมื่องเริ่มต้นของการไปเทรกกิ้งยังที่ต่างๆ เช่น Poon Hill, Jomsom ฯลฯ ใช้เวลาในการเดินทางทางรถยนต์ประมาณ 7 ชั่วโมง เพราะทางส่วนใหญ่จะเป็นทางลัดเลาะไปตามไหล่เขา ด้านซ้ายเป็นภูเขา ด้านขวาจะเป็นแม่น้ำ วิว 2 ข้างทางจึงมีความสวยงาม เป็นธรรมชาติ

พวกเราตื่นเช้า แล้วมากินอาหารเช้าที่โรงแรม ราคาค่าห้องไม่รวมอาหารเช้านะครับ ค่าห้อง 30$US รวมเซอร์วิส 10% รวมภาษีอีก 13% สรุปแล้ว 1 คืนพวกเราต้องเสียค่าห้องสุทธิ 36.9$US ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 1300 บาทรวมทุกอย่าง บางคนอาจจะบอกว่าถูกมาก แต่บางคนอาจจะบอกว่าแพง เพราะโรงแรมแถบนั้นราคาไม่เกิน 1000 บาท ต่อคืน แต่ไม่เป็นไรซื้อความสะดวก อาหารเช้าที่โรงแรมพวกเราใช้วิธีสั่งเอา กินเท่าไรก็จ่ายเท่านั้น เพราะถ้าคิดเป็นหัวแล้วจะแพงกว่าที่เรากิน

ในการเดินทางพวกเราได้จ้างรถตู้ให้ไปส่งพวกเราทั้ง 4 อย่างเดียวเขาคิด 10,000 รูปี เพราะว่าพวกเราต้องการแวะถ่ายรูปไปด้วย ถ้าเจออะไรถูกใจก็จอด โดยให้ทางโรงแรมจัดรถตู้ให้ก็สะดวกดี ถ้าใครไม่อยากเหมารถตู้ไปก็สามารถขึ้นรถโดยสารไปได้ราคาตั้งแต่ 10-20$US พวกเราเริ่มออกเดินทางประมาณ 8.00น.


รถเริ่มออกเดินทางช่วงแรกๆ จะเป็นทางขึ้นเขาได้ประมาณ 10 กิโลเมตร จากนั้นก็จะเป็นทางลงเขาชันๆ รถบรรทุกเยอะมาก สวนไปมาตลอด เป็นรถบรรทุกของมาจากอินเดีย ถนนไม่กว้างมี 2 เลน เป็นถนนลาดยางแต่ไม่เรียบบางช่วงเป็นหลุม บางช่วงเป็นเขาบางช่วงก็จะเป็นท้องนา


ผ่านไปได้สักประมาณ 2 ชั่วโมงระยะน่าจะประมาณ 70 กิโลเมตร พวกเราเจอบรรยากาศดี เลยจอดถ่ายรูปรถตู้ที่พวกเราเหมามายี่ห้อ KIA รุ่น PREGIO จอดพักเหนื่อยพร้อมกับถ่ายรูป


ผู้หญิงชาวนาปาลีเดินแบกฟางข้าว เห็นแล้วก็รู้สึกชมผู้หญิงนาปาลีว่าแข็งแรงดีสามารถทำงานของผู้ชายได้ เดินแบกฟางข้าวมัดใหญ่มากๆ ได้สบายไม่เห็นบ่นสักคำ เพิ่งมารู้หลังๆ ว่าผู้หญิงนาปาลีต้องทำงานด้านเกษตรหรืองานบ้าน ทำสวน ทำไร่ ปลูกข้าว ส่วนผู้ชายไปทำงานแรงงาน ก่อสร้าง ก็แปลกดีนะครับ ต่างกันกับบ้านเรา


ระหว่างถ่ายรูปวิวต่างๆ ข้างทางมีเด็กชายเดินผ่านมาก็เลยเรียกขอถ่ายรูปเด็ก ให้ความร่วมมืออย่างดีมากๆ มายืนยิ้มให้เราถ่ายพวกเราก็เลยแจกซ๊อกโกแล็กกับปากกาให้ พวกเราไปเนปาลได้เตรียมซ๊อกโดแล๊กไปแจกเด็กๆ ด้วย


พวกเราแวะถ่ายรูปบริเวณนั้นประมาณ 30 นาที ก็เดินทางกันต่อ ถนนลาดยาง 2 เลน มีรถวิ่งสวนกันไปมาตลอด ด้านซ้ายมือจะเป็นภูเขา ส่วนด้านขวามือจะเป็นแม่น้ำตลอดยาวเป็นสิบๆ กิโล รถที่เนปาลจะวิ่งเลนเดียวกับบ้านเราคือวิ่งชิดซ้าย


รถวิ่งไปก็จะผ่านตัวเมืองเล็กบ้าง เจอด่านตรวจบ้าง ในการเจอด่านตรวจแต่ละครั้งรถจะจอด จะมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ถือของมาขายกันรุ่มเข้ามาล้อมรถ มีทะงน้ำ ผลไม้ ขนมต่างๆ ขาดแต่ไก้ย่างอย่างเดียว ถ้ามีก็จะเหมือนบ้านเรา


ตลอดที่พวกเรานั่งรถเดินทางไปยังเมืองโพคารา สิ่งที่พบเห็นอยู่เรื่อยๆ ก็คือ แท่นหินที่มีก๊อกน้ำ จะมีน้ำไหลออกมา เป็นเหมือนปะปาหมู่บ้าน ชาวบ้านมักจะออกมาอาบน้ำ ซักผ้า เอาถังมารองน้ำไปใช้ ไม่ใช่เฉพาะที่ก๊อกน้ำเท่านั้น ยังมีตามลำธาร หรือแม่น้ำข้างทาง จะมีชาวบ้านจอดรถอาบน้ำ ซักผ้า ตากผ้า อยู่ข้างๆ ถนน หรือ ติดกับถนนเลย

นั่งรถไปเรื่อยๆ เจออะไรแปลกๆ สวยๆ พวกเราก็จะจอดไปเรื่อย เจอสะพานข้ามแม่น้ำเป็นสะพานที่ยาวมาก เป็นสะพานเหล็ก สะพานลักษณะนี้ชาวเนปาลนิยมใช้กันมากๆ จะมีทุกหนทุกแห่ง เป็นสะพานข้ามแม่น้ำ คลอง ต่างๆ


ทางลงไปหาสะพานจะมีชาวบ้านมานั่งรอรถโดยสารและจับกลุ่มเล่นกัน สะพานนี้คงเป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำไปแล้วมีหมู่บ้านอยู่หลายหมู่บ้าน


พื้นสะพานจะทำด้วยเหล็ก ราวจับจะเป็นลวดสลิง โดยมีด้านข้างจะเป็นเหล็กป้องกันการตกจากสะพาน เวลาเดินสะพานจะสั่นหน่อยๆ


มาแล้วต้องขอถ่ายรูปคู่กับสะพานเนปาล


ลีลาการถ่ายรูปของพี่ชาลี ถ่ายรูปชาวบ้านกับสะพาน


บริเวณสะพานจะเป็นฝั่งของแม่น้ำ ทางด้านเราอยู่มีชาวบ้านกำลังปลูกข้าว ใช้ควายไถนาเหมือนบ้านเรา แต่นาจะเป็นลักษณะขั้นบันได เพราะแถบนี้จะเป็นภูเขา ไม่ค่อยจะมีนาที่เป็นพื้นราบ


นั่งรถชมวิว แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก็ถึงเมืองโพคาราประมาณ บ่าย 2 โมงกว่าๆ รวมเวลาเราเดินทางแล้วก็ประมาณ 6 ชั่วโมงกว่าๆ ถือว่าเป็นเวลาที่เร็วมากๆ ก็ไม่แปลกพวกเราเหมารถตู้มากันเอง แล้วคนขับก็ขับค่อนข้างเร็ว ประกอบกับความโชคดีของพวกเราที่ไม่เจอปัญหาเรื่องรถติด ที่เกิดจากอุบัติเหตุ จากที่รู้มาก่อนหน้าที่จะมาเนปาลว่า นั่งรถจากกาฐมาณฑุไปยังโพคารา ส่วนมากที่เจอจะใช้เวลานานมาก บางคนจะโดนเป็นวัน บางคนก็ 15 ชั่วโมงบ้าง 10 ชั่วโมงบ้าง สาเหตุมาจากรถเกิดอุบัติเหตุ คนเนปาลขับรถเร็วและน่ากลัวมาก

โพคารา พวกเรามาถึงเมืองโพคาราแล้วรถตู้ก็พาพวกเราไปยังโรงแรม New Pokhara Lodge ซึ่งอยู่ย่าน Lake Side พวกเราจองมาแล้วโดยจองผ่านทาง //www.pokharalodge.com เป็นเว็ปไซค์ของโรงแรมเลยครับ ค่าห้องที่พวกเราจองมาห้องละ 25$US รวมทุกอย่างแล้ว แต่ไม่มีอาหารเช้า สาเหตุที่เราจองที่นี่เพราะโรงแรมมีดาดฟ้าที่สามารถขึ้นไปถ่ายรูปได้ และทำเลก็ดีไม่ไกลมากสามารถเดินไปเล่นที่ทะเลสาปเพวาได้


พวกเราเก็บกระเป๋าเข้าห้องกันเรียบร้อย ก็เตรียมตัวไปเดินเล่น ถ่ายรูปรอบๆ ทะเลสาปเพวา ก่อนไปเดินถ่ายรูปกันพวกเราก็ได้แวะกินข้าวเที่ยงแต่กินเวลาบ่าย 3 โมง ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารเที่ยงเป็นอาหารเนปาลให้ชม (เอาไว้จะเล่าเรื่องการสั่งอาหารที่เนปาลให้ฟัง และเรื่องสนุกๆ ของการกินอาหารที่เนปาลรอติดตามจะเล่าให้ฟัง) กินข้าวเที่ยงเสร็จก็เริ่มเดินชมเมืองโพคารา


เมืองโพคารา เป็นเมืองเริ่มต้นของการเทรกกิ้งของหลายๆ แห่งเช่น Poonhill, Jomsom ฯลฯ จึงไม่แปลกที่จะมีร้านขายอุปกรณ์เทรกกิ้งทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น เต็นส์ ถุงนอน รองเท้า ไม้ค้ำเดิน เสื้อกันหนาว ฯลฯ มีร้านเยอะมากๆ มียี่ห้อดัง The North Face มีทั้งแบบขายและให้เช่า ส่วนราคานั้นจะถูกกว่าในห้างบ้านเรามาก ถ้าถามว่าของจริงหรือไม่ตอบไม่ได้ครับ ต้องลองไปดูเอง


เดินไปเรื่อยๆ ตามถนนมุ่งหน้าสู่ทะเลสาปเพวา พวกเราเดินผ่านพระราชวัง สุดรั้วพระราชวังก็จะเป็นทางลงไปสู่ท่าเรือที่ข้ามไป วัด Varahi Mandir เป็นวัดฮินดู อยู่เกาะกลางน้ำทะเลสาปเพวา


วัดนี้เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูมาก ชาวฮินดูนิยมมาวัดนี้ วัดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายแก่พระวิษณุ ในการนั่งเรือข้ามไปยังเกาะที่วัดอยู่จะเสียคนละ 25 รูปี หรือจะเช่าเรือพายเอง 200 รูปีต่อลำต่อชั่วโมง


ทะเลสาปเพวา ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองโพคารา มีความสวยงาม กว้างใหญ่ เป็นเหมือนแหล่งน้ำใช้ของชาวเมืองที่นี่ จะมีเรือให้เช่าสำหรับพายเล่นราคา 500รูปีต่อลำ


เรือให้เช่าส่วนมากจะเป็นเรือไม้ทางสีสวยงาม มีหลายสีแล้วแต่ชอบ


นำในทะเลสาปเป็นน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวเมืองโพคารา สังเกตุได้จากมีการมาอาบน้ำ ซักผ้า โรงแรมต่างๆ ต่อท่อน้ำมาสูบเอาน้ำจากทะเลสาปไปใช้ในกิจการโรงแรมต่างๆ เยอะมาก ในรูปเด็กหญิงนาปาลีมานั่งซักผ้าตั้งแต่เรามาถึง จนเราถ่ายรูปเสร็จก็ประมาณ 3 ชั่วโมง ยังซักไม่เสร็จคงต้องการให้ผ้าขาวสะอาด


ช่วงเย็นของทุกวันจะมีทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้านมาพายเรื่อเล่น มีเรือหลากหลายชนิดที่มี


ช่วงที่เราไปเนปาลเป็นช่วงหน้าร้อนจะเข้าหน้าฝน จึงทำให้มีเมฆมากอาการมืดครึ้ม ถ่ายรูปไม่ค่อยสวยเพราะแสงน้อย รูปนี้บรรยากาศยามเย็นมีแสงอาทิตย์เป็นลำส่งลอดกลุ่มเมฆลงมา ดูเหมือนเป็นการส่องไฟมาให้เรือกำลังพายในความมืด รูปของพี่ชาลี


รูปพี่ชาลีอีกรูป แสงแดดตกกระทบน้ำในทะเลสาปเปล่งประกายเป็นสีทอง


หลังจากถ่ายรูปกันอยู่นานสองนาน ความมืดค่ำก็มาเยือนพวกเรา แต่ก็ยังมีแสงสาดส่องมาให้พวกเราได้ถ่ายกันก่อนลาจากทะเสสาปเพวา


ความมืดมาเยือนพวกเราแล้ว อากาศไม่หนาวไม่ร้อนกำลังดี ฝนก็ยังไม่ตก พวกเราจึงได้เริ่มเดินกลับโรงแรมโดยเดินตามถนนพร้อมกับสำรวจเมืองโพคาราย่าน Lake Side ไปในตัว มีร้านอาหารกับร้านค้าต่างๆ ตลอด 2 ข้างถนน ถึงโรงแรมก็แยกย้ายกันนอน



ก็ผ่านวันที่ 2 ของการเดินทาง วันนี้ก็ถือเป็นวันที่ราบรื่นมากๆ สิ่งที่ผมกลัวที่สุดในวันนี้ก็คือเรื่องของรถติดในระหว่างเดินทางจากเมืองกาฐมาณฑุมายังเมืองโพคารา แต่พวกเราโชคดีที่ไม่ได้เจอเหตุการณ์นั้น ส่วนโปรแรมในวันพรุ่งนี้พวกเราต้องเดินทางต่อไปอีกแห่ง จะไปเทรกกิ้งกันหรือไม่ หรือไปถ่ายรูปที่ไหน จะเป็นอะไรนั้น รอติดตามนะครับ


ถ้าเปิดแล้วรูปไม่ขึ้นโชว์ให้เอาเมาส์ไปคลิกขวาที่พื้นที่ว่างๆ บริเวณรูปแล้วเลือก Show Picture รูปก็จะปรากฏมาให้ชม ครับ







Create Date : 15 มิถุนายน 2552
Last Update : 22 มิถุนายน 2552 15:43:54 น. 6 comments
Counter : 5096 Pageviews.

 
วันนี้มาอ่านเรื่องราวเป็นตอนที่ ๒ ต่อไป...ขอขอบคุณแนะนำเรื่องที่พักตึกสีแดงสด ฉันดูว่าใช้ได้ดี เอาจักรยานทัวร์ริ่งขึ้นห้องพักได้ก็ดีค่ะ

แล้ว...จะติดตามชมด้วยค่ะ :-)



โดย: Oiltrips IP: 118.173.94.167 วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:21:46:03 น.  

 
มาติดตามตอนที่สองค่ะ


โดย: flymom IP: 75.168.246.39 วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:22:00:57 น.  

 
Oiltrips;
- ขอบคุณครับที่ตามชม กำลังเร่งตอนต่อๆ ไปครับ มีเรื่องแปลกๆ มาเล่าด้วยครับ
- ใช้ได้ครับเรื่องที่พัก กว้างขวางดี ผมยืมจักรยานของโรงแรมปั่นเล่นมาแล้ว

flymoon;
- ขอบคุณมากๆ ครับที่ตอดตามเรื่องราวของเรา จะรีบออกตอนต่อๆ ไปเร็วๆ ครับ


โดย: taotao_s วันที่: 22 มิถุนายน 2552 เวลา:12:38:19 น.  

 
Sanook dee ค่ะ เล่าเรื่องได้อารมย์ดี


โดย: Mother J IP: 10.9.0.128, 203.144.224.162 วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:05:56 น.  

 
สวยจังค่ะ กำลังหาข้อมูลอยากไปบ้าง


โดย: Summer Flower วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:9:12:10 น.  

 
ขอบคุณทั้ง 2 ท่านที่เข้ามาชมบล๊อก และคำชม ครับ


โดย: taotao_s วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:21:41:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.