เที่ยวไป..กินไป..ตามแต่ใจเราสองคน เป็นบล๊อกที่ทำขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวการเดินทางของเราทั้ง 2 คน และเป็นข้อมูลให้สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางด้วยตัวเอง

Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add 's blog to your web]
Links
 

 
เท็นเดย์อิน เนปาล. กาฐมาณฑุ

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม 2552 เข้าสู่วันที่ 9 แล้ว การเดินทางช่างเร็วเหลือเกิน แต่มีคนคิดถึงบ้านแล้วอยากจะกลับบ้าน ส่วนผมก็ได้แต่คิดว่านี่เป็นการเดินทางครั้งแรกของผมที่ได้อยู่ต่างประเทศนานที่สุดคือ 10 วัน ถามว่าคิดถึงเมืองไทยหรือไม่ ผมรู้สึกเฉยๆ เพราะว่าทำใจไว้รอแล้วว่าเราต้องไปในครั้งนี้ถึง 10 วัน

โปรแกรมเที่ยวของเราในวันนี้ก็คือ ช่วงเช้าพวกเราจะไปชมสถานที่สำคัญอีกแห่งของเมืองกาฐมาณฑุ ใครมาเที่ยวที่เนปาลมักจะไม่พลาดที่นี่นั้นก็คือ วัดปศุปตินาถ (Pashupatinath Temple) ซึ่งเป็นวัดของศาสนาฮินดู ไปชมพิธีการเผาศพซึ่งเป็นไฮไลค์ของที่นี่ ช่วงบ่ายๆ พวกเราจะไปต่อกันที่ วัดลิง (Monkey Temple) เป็นวัดศาสนาพุทธ ซึ่งวันนี้เป็นวันวิสาขบูชาด้วย ชาวเนปาลจะนับถือหลายศาสนา ศาสนาฮินดู 60% นับถือศาสนาพุทธ 30% นับถือศาสนาอื่นๆ 10%

เช้านี้พวกเราฝากท้องอาหารเช้าไว้ที่โรงแรม ได้เวลาประมาณ 8 โมงกว่าๆ เรียกแท็กซีให้ไปส่งที่วัดฯ ในราคา 400 รูปี จากที่ได้ข้อมูลค่ามาค่าแท็กซี่จะประมาณ 200 รูปีเท่านั้นเพราะอยู่ไม่ไกลจากย่านทาเมล แต่รถแท็กซี่ที่เราให้ไปส่งเป็นรถคันใหญ่นั่ง 4 คนสบายๆ ใช้เวลาจากย่านทาเมลเพียง 15 นาทีก็ถึงบริเวณวัดฯ ในวัดจะมีร้านค้าขายของ


ของที่ขายก็เป็นจำพวกของที่ใช้ไหว้ บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของศาสนาฮินดู และของที่ระลึกขายให้นักท่องเที่ยว


สีต่างๆ สวยงามเป็นสีที่ใช้ย้อมผ้า ทำจากพืช ย้อมแล้วสีจะไม่ตกวิธีการย้อมก็คล้ายบ้านเรา นำสีไปผสมกับน้ำอุ่นและเกลือละเลงให้ทั่ว นำผ้าลงไปจุ่มเป็นอันเสร็จ


ในวันที่พวกเราไปเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของศาสนาฮินดู ผู้คนมาวัดนี้เยอะมาก มาจากทั่วทุกสารทิศจากฮินเดียก็มี วัดนี้ถือเป็นวัดสำคัญมากๆ อีกวัดหนึ่งของศาสนาฮินดู ผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูต้องมาที่วัดนี้สักครั้งหนึ่งของชีวิต บริเวณวัดจะมีการทำพิธีเล็กๆ น้อยๆ เป็นกลุ่มๆ ผู้ร่วมทริปทั้ง 2 ของเราถ่ายชาวฮินดูกำลังสวดมนต์ สังเกตุเลนส์ครับทั้งใหญ่และยาว ขนมาเต็มอัตราศึก


วันที่พวกเราไปเที่ยววัดฯ นี้ ชาวฮินดูเต็มวัดไปหมด นั่งจับกลุ่มทำพิธีกันดูเหมือนกับว่าทำบุญให้กับญาติที่เสียชีวิตไปแล้ว คล้ายๆ กับทำเช็งเม็งที่บ้านเรา


วันนี้ก็เป็นวันสำคัญของศาสนาฮินดูเหมือนกันกับ วันนี้ก็เป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา จึงมีนักบวชทั้งชายและหญิงมากันเต็มวัดไปหมด


พวกเราได้เดินถ่ายรูปบริเวณรอบวัดฯ เดินชมสินค้าต่างๆ ที่ชาวบ้านนำมาขาย แต่ไม่ได้ซื้ออะไรเพียงแต่เดินสำรวจตรวจตราเท่านั้น พวกเรามาวัดนี้เพื่อมาชมพิธีกรรมทาวศาสนาฮินดูนั้นก็คือการเผาศพคนตาย ถ้าต้องการเข้าไปเที่ยวชมบริเวณที่มีการเผาศพต้องเสียค่าเข้าคนละ 300 รูปี ที่วัดนี้จะมีการเผาศพตลอดทั้งวัน มองไปจะเห็นควันลอยคลุ้งทั่วบริเวณเผาศพริมแม่น้ำ Bagmati


ใน 1 วันจะมีการนำศพมาทำพิธีที่วัดนี้หลายศพด้วยกัน ศาสนาฮินดูศพจะไม่ใส่โลงศพเหมือนศาสนาพุทธ จะนำศพมาทำพิธีที่ริมแม่น้ำฯ หน้าวัดปศุปตินาถ วัดนี้เป็นวัดของศาสนาฮินดู จึงห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาฮินดูเข้าไปภายในบริเวณวัด หน้าประตูจะมี รปภ. เฝ้าอยู่


แม่น้ำฯ นี้ถือเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวฮินดู เพราะแม่น้ำแห่งนี้จะไหลลงสู่แม่น้ำคงคาที่ประเทศอินเดีย ชาวฮินดูจะกราบไหว้พร้อบกับเอาน้ำมาลูบหน้าลูบหัว พวกเราเห็นบางคนก็นำดื่มกิน เพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเอง เช่นกันเมื่อมีคนตายก็จะนำมาทำพิธีข้างๆ กับแม่น้ำนี้ นำศพมาเคารพแม่น้ำฯ เอาน้ำล้างหน้าศพ เอาน้ำล้างเท้าศพ พวกเรานั่งดูพิธีตั้งแต่มีการยกศพมาที่นี่


เมื่อทำพิธีที่ริมแม่น้ำฯ เสร็จ ก็จะนำศพมาเผาโดยตั้งไม้เป็นเชิงตะกอนแล้วนำศพขึ้นไปวางแล้วทำการเผา ขั้นตอนนี้ไม่มีพิธีอะไรมาก อยู่ใกล้ๆ จะได้กลิ่นเหมือนย่างเนื้อ ศาสนาฮินดูเมื่อมีคนตายต้องทำการเผาภายใน 24 ชั่วโมง เป็นความเชื่อของศาสนา และลูกชายคนโตในตระกูลของผู้ตายต้องโกนหัวเป็นการไว้ทุกข์ด้วยครับ


เมื่อเผาศพเสร็จเรียบร้อย เถ้ากระดูกต่างๆ ก็จะเขี่ยลงแม่น้ำ คล้ายกับการลอยอังคารที่บ้านเรา เป็นอันเสร็จพิธี บริเวณนี้จะเป็นที่เผาศพ จะมีการตั้งเชิงตะกอนเอาไว้เพื่อเตรียมรอศพที่จะมาวางเผา


แม่น้ำ Bagmati สายนี้มีความศักดิ์สิทธิ์และสำคัญมากของชาวศาสนาฮินดู คงไม่แตกต่างอะไรกับแม่น้ำคงคาที่ประเทศอินเดีย ที่ชาวฮินดูนับถือมาก มีทั้งการนำมาล้างหน้า ล้างเท้า และดื่มกิน


ไม่เพียงแค่นั้นยังมีการชำระล้างสิ่งต่างๆ เช่น การซักผ้า อาบน้ำ แม้กระทั้งเอาน้ำและดินในแม่น้ำมาแปรงฟัน เป็นความเชื่อทางศาสนา


บริเวณข้างๆ แม่น้ำฯ ยังมีสถานที่เที่ยวชมสิ่งต่างๆ อยู่มาก และบริเวณนั้นจะมีผู้รับใช้พระศิวะ นั้นก็คือ Poly Man มานั่งคอยให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปด้วยพวกเราก็ต้องถ่าย ให้ไปคนละ 20 รูปีก็พอ


พวกเรามาถึงวัดฯ ประมาณ 9 โมงเช้า ใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ได้เวลากลับจึงเดินย้อนกลับไปอีกทางเพื่อหามุมถ่ายรูป มุมนี้จะเห็นว่าแม่น้ำเริ่มแห้ง มีน้ำไหลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อนานมาแล้วแม่น้ำสายนี้จะมีน้ำเต็มฝั่งตลอด ช่วงหลังๆ มานี้ไม่ค่อยมีน้ำเท่าไรอาจจะเกิดจากปัญหาโลกร้อน ด้านนี้เป็นปลายแม่น้ำฯ สิ่งที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ จากวัดจะไหลมายังบริเวณนี้ จึงไม่แปลกที่จะมีอะไรลอยน้ำมา


สิ่งต่างๆ ไหลมากองรวมกันเยอะไปหมดตลอดแนวแม่น้ำ


วันนี้อากาศร้อนมากๆ ทำเอาพวกเราเหนื่อยล้าเต็มที่ เดินออกมาบริเวณที่มีขายของที่ระลึกใกล้ๆ กับลานจอดรถนั่งกินน้ำเย็น เจอคุณลุงหนวดงามมองไปมองมาก็หล่อละม้ายคล้าย "ลีโอนาโด ดาวินชี่" เหมือนกันแฮะ พยายามเก็บภาพคุณลุงอยู่นานแต่มือยังไม่นิ่งพอก็เลยมีแต่ภาพเบลอ ๆ (ก็คุณลุงแกเดินเก็บของจากรถเข้าบ้านตลอดเวลาเลย T___T ) แต่พี่ชาลีรัวชัตเตอร์เก็บภาพไว้หลายมุมอยู่ครับ เลยโชคดีไม่พลาดภาพคนที่ประทับใจมาให้ชมกันครับ :)


นั่งพักหลบร้อนได้สักพักพวกเราก็ต้องเดินทางกัน จุดมุ่งหมายของพวกเราต่อไปก็คือ วัดสวยมภูวนาถ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งของเมืองกาฐมาณฑุ และเป็นวัดของชาวศาสนาพุทธ ประกอบกับวันนี้เป็นวันพระใหญ่ด้วยนั้นก็คือวันวิสาขบูชา ได้ข่าวว่าจะมีชาวพุทธนับหมื่นคนมาร่วมทำพิธีต่างๆ ที่นี่ พวกเราก็หวั่นๆ อยู่เหมือนกันว่าจะเข้าไปไม่ได้เพราะคนเยอะมากๆ

ใช้เวลาจากวัดปศุปตินาถประมาณ 30 นาที ก็มาถึงวัดสวยมภูวนาถ เป็นไปตามที่พวกเราคาดไม่มีผิด รถราเยอะมากๆ และทุกที่จะเต็มไปด้วยผู้คน คงถ่ายรูปได้ไม่สะดวก ประกอบกับอากาศร้อนมากๆ พวกเราจึงตัดสินใจไม่ขึ้นไปที่วัด ให้แท็กซี่กลับไปส่งพวกเราที่โรงแรมพักผ่อนเอาแรงไว้ เย็นๆ แล้วค่อยไปเดินถ่ายรูปที Kathmandu Durbar Square ถ่ายเก็บสถานที่ต่างๆ ที่เรายังไม่ได้ถ่าย

กลับถึงโรงแรมพักผ่อนตามอารมณ์ นั่งๆ นอนๆ ไปตามเรื่อง ได้เวลาประมาณ 15.00 น. พวกเราก็ออดเดินทางไปยัง Durbar Square พวกเราให้รถแท็กซี่หน้าโรงแรมไปส่ง จ่ายไป 200 รูปี ถึงด้านหน้าทางเข้าพวกเราก็เดินเข้าไปเลยครับไม่ต้องเสียค่าผ่านประตู 300 รูปีอีกครั้ง เพราะพวกเราได้แจ้งไว้แล้วโดยเจ้าหน้าที่ออกตั๋วใหม่ให้พวกเราแล้ว แต่ไม่วายจะมีคนเนปาลมาแสดงตัวว่าเป็นไกค์นำเที่ยว และแจ้งพวกเราว่าต้องเสียค่าเข้าคนละ 300 รูปี ผมได้เอาตั๋วให้ดูถึงกับหน้าถอดสีเลยครับ ไม่ได้กินเงินพวกเราหรอกครับ เดินไปก็ได้เริ่มถ่ายรูปมองไปเจอรูปปั่นไม้แกะสลักที่หน้าต่าง เป็นไม้แกะสละรูปพระศิวะ กับพระนางปารวตี มองลงมาด้านล่างเพื่อมองประชาชน


ถ่ายรูปได้ไม่ถึง 10 นาทีพวกเราก็ได้ยินเสียงแตรวงดังขึ้นมา พวกเราก็หันไปดู


อยากจะรู้ว่าเป็นขบวนของงานอะไร มายืนดูเจอคนในขบวนถือธงไม้สูงๆ ไม่รู้มีความหมายอะไร เป็นไม้สูงปลายประดับไปด้วยธงสี และ มีผมทั้งสีขาวและดำอยู่ตรงบริเวณกลางๆ ไม้ คนถือจะเดินควงไม้ตลอดการเดินขบวน


ยืนดูได้สักพักใหญ่ๆ เพราะขบวนยาวมากกกก จึงได้รู้ว่าเป็นขบวนแห่พระพุทธรูป ซึ่งเป็นการแห่ของชาวศาสนาพุทธ เพราะวันนี้เป็นวันวิสาขบูชา ชาวพุทธจะมีการแห่พระฯ ไปให้ทั่วเมืองกาฐมาณฑุ


พวกเราใช้เวลายืนชมขบวนแห่และพร้อมกับถ่ายรูปไปด้วยเป็นเวลานาน หลังจากขบวนแห่ผ่านไปหมด พวกเราต้องสำรวจแผนที่ อีกครั้งว่าจะไปถ่ายรูปที่ไหนดี อร กับ ทอย ทั้ง 2 ช่วยกันดูแผนที่


Durbar Square ประกอบด้วยทั้งพระราชวัง และ วัด ต่างๆ มากมาย


นี่ก็เป็นยอดของวัดๆ หนึ่งใน durbar square


ในบริเวณ durbar square นี้จะมีนักบวชของศาสนาฮินดู มานั่งคอยให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ แต่ทั้ง 2 คน ไม่ใช่นักบวชที่แท้จริงนะครับ เป็นคนที่แต่งกายเลียนแบบ มานั่งรอขอเงินจากนักท่องเที่ยว พวกเราถ่ายเสร็จก็ให้เงินไปคนละ 20 รูปี


มีคนอยากจะขอเดียวบ้างเลยจัดให้


ถ่ายรูปจนทั่วบริเวณ durbar square แล้วพวกเราก็ได้เดินกลับโรงแรม รูปนี้เป็นรูปสุดท้ายสั่งลา ผู้คนยังเดินเที่ยวกันเยอะมาก แต่พวกเราขอลาก่อน




ผ่านไปแล้วครับ 9 วันในการเดินทางของพวกเราทั้ง 4 คน ในประเทศเนปาล ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางจากทั่วทุกมุมของโลก มายังประเทศนี้ เนปาลมีแห่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆ เยอะมากๆ เช่นพรุ่งนี้พวกเรามี 2 คนที่จะไปชมเทือกเขาหิมาลัย ไปชมยอดเขาเอเวอร์เรส ยอดเขาที่ได้ขึ้นชื่อว่า สูงที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เดินไปชม แต่พวกเรา 2 คน ก็จะพาไปชมยอดเขาโดยการขึ้น Moutian Flight รอติดตามชมในตอนหน้านะครับ



Create Date : 03 สิงหาคม 2552
Last Update : 17 สิงหาคม 2552 20:08:25 น. 3 comments
Counter : 7855 Pageviews.

 
เข้ามาเจิม หลังลุงเต่าอับเดช

โอ้โห ลุงเต่า บอกว่าเหมือนเนื้อย่าง
เดี๋ยวผมกินเสต๊กไม่ลงไปอีก ผอมแน่เลย

ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย เดือนนี้ผมก็ไม่มีวันหยุด
ทำงานเกือบทุกวัน เป็นประชุมซะมาก
วันนี้ก็นั่งดูผลบอล

ไว้เจอกันนะ เที่ยวเผื่อด้วย


โดย: ลุงบอย IP: 112.143.27.28 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:1:30:50 น.  

 
ลุงบอย;

- กลิ่นก็เนื้อย่างเกาหลีบ้านเราดีๆ นี่แหละ แต่จะไม่หอมเพราะเป็นเนื้อสดๆ ไม่ได้ใส่เรื่องเทศ
- ว่างๆ ก็หาโอกาสไปเที่ยว พักผ่อนบ้างก็ดีนะ อย่าทำแต่งานมากเดี๋ยวจะไม่สบาย
- ช่วงนี้ยังไม่ได้ไปเที่ยวเลย

แล้วเจอะกันครับ


โดย: taotao_s วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:17:50:55 น.  

 
น่าเศร้ามากๆ อันนี้คนไทยรับไม่ได้จริงๆ จากช่างก่อสร้างและช่างกำจัดปลวก //www.028884888.com


โดย: ดารณียา IP: 171.96.179.235 วันที่: 14 มีนาคม 2558 เวลา:10:21:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.