ด้วยความที่รู้สึกห่างหายจากการถ่ายภาพมานาน(มากก) วันนี้ฉันจึงกลับมาพร้อมกับภาพถ่ายสวยๆของหอในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์มาให้ทุกคนดูกันค่ะ เนื่องจากเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว การเรียนจึงหนักขึ้นเป็นธรรมดา ทำให้ไม่มีเวลาได้ออกเดินทางไปถ่ายภาพบ่อยเหมือนแต่ก่อน ถ้าไม่ได้ปิดเทอมจริงๆ แต่...ก็ใช่ว่าอยู่แต่ในมหาวิทยาลัยอย่างเดียวจะอึดอัด โลกแคบนะคะ ฉันกลับรู้สึกว่าการที่ได้มาอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้มันเหมือนกับเราได้อยู่ในโลกอันกว้างใหญ่ตลอดเวลาถึงแม้จะสถานที่เดิมๆทุกวันแต่ธรรมชาติ สภาพแวดล้อมในแต่ละวันของที่นี่จะเปลี่ยนแปลงไปตลอด ฉันจึงไม่รู้สึกเบื่อเลย บางคนอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันกล่าวมา แต่หากทุกคนได้เห็นภาพเหล่านี้แล้วก็จะเข้าใจมันเองค่ะ
อยู่ที่นี่...เหมือนตัวเองได้ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆโดยไม่ต้องเดินทางเลย อยู่ที่นี่...เหมือนเรามีบ้านพักตากอากาศในฝันอีกหลัง
เริ่มที่ภาพแรกกันเลยดีกว่าเนอะ ภาพนี้ถ่ายตอนเย็นช่วง5โมงค่ะ
ณ ราตรีหนึ่งที่ดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงสว่างไสว ฉันเฝ้าออกมายืนมองที่หน้าระเบียงพลางนึกถึงใครคนหนึ่งที่อยู่ในใจ
หอพักนักศึกษาย่านมัทรีของฉันช่างโดดเด่นเป็นสง่าแต่ไกล
ภาพนี้ถ่ายตอนช่วง7โมงเช้า @มุมมองจากสะพานชุมชนตานิว-มณีวงศ์
หลายคนอาจมองหอแล้วคล้ายกับอยู่บนเนินเขานะคะ แต่ที่จริงอยู่บนพื้นราบค่ะ
แค่อยู่ใกล้กับภูเขา แต่วิวดีมากจริงๆ บรรยากาศคือฟินเว่อร์
ภาพต่อมานะคะ...สะพานชุมชนตานิว-มณีวงศ์อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ย่านมัทรีมากนัก ช่วงเย็นๆนักศึกษาก็จะมาเดินเล่นและขี่จักรยานรับลมธรรมชาติกันบริเวณนี้
ภาพต่อมา...ภาพนี้คือวิวหมอกลอยปกคลุมภูเขายามเช้าสวยๆ @มุมมองจากระเบียงห้องพักของหอนักศึกษาย่านมัทรีค่ะ งามแต๊ๆไม่แพ้ภาคเหนือเลยนะเออ
ภาพนี้ถ่ายที่เดียวกันแต่คนละเวลาค่ะ ภาพข้างต้นออกจากครึ้มๆยามเช้า
เพราะฝนเพิ่งหยุดตก หนาวกันเลยทีเดียว
ส่วนภาพนี้จะเป็นหมอกจากอากาศฤดูหนาวนะคะ
V
V
การถ่ายภาพหมอกและทะเลหมอกปกคลุมภูเขาเป็นสิ่งที่ฉันโปรดปรานมากที่สุดแลล้วค่ะ ตรงกับConceptตัวเองไง "รักสายหมอก"
ภาพสุดท้ายแล้วนะคะ...ภาพนี้ถ่ายช่วงเย็นฤดูหนาวค่ะ ประมาณ6โมงเย็น
ด้วยมหาวิทยาลัยแห่งนี้รายล้อมไปด้วยธรรมชาติทำให้ท้องฟ้าสวย ปลอดโปร่งทั้งวัน โดยเฉพาะยามเย็นบางวันฟ้าก็จะเป็นสีแดง บางวันก็สีทองๆส้มๆ บางวันก็สีชมพู แต่ไม่ว่าจะสีไหนก็งดงามจากฝีมือของธรรมชาติเป็นผู้สร้างสีสันทั้งนั้น
หอในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มองจากมุมบนสะพานดูแล้วโดดเด่น ตระหง่านอยู่ท่ามกลางขุนเขา หลายคนพูดกันว่าอยู่ที่นี่คงจะเหงาน่าดู มองไปทางไหนก็เจอแต่ภูเขาและทุ่งนา คนเลี้ยงควาย ตึกรามบ้านช่องก็น้อย คงลำบากน่าดู ไม่เหมือนในตัวเมืองเลย สะดวกสบาย เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก ร้อนก็ไปเดินห้าง
แต่จากใจของฉันเลยนะคะ...ถ้าให้เลือกระหว่างอยู่ในตัวเมืองกับอยู่ที่นี่...ย่านมัทรี ฉันขออยู่ย่านมัทรีค่ะ จริงอยู่ที่นี่อาจจะดูไม่สะดวกสบายเหมือนอยู่ในตัวเมืองเพราะรถไปมาก็น้อย ไปไหนมาไหนก็ลำบาก มองไปทางไหนก็เจอแต่ทุ่งนา แต่ฉันกลับรู้สึกมีความสุขมากที่ได้อยู่ที่นี่ เพราะมองในทางกลับกัน มันเหมือนกับชีวิตเราSlow Life ไม่ต้องไปแย่งกันกินอยู่่ ไม่มีหมอกควันจากรถยนต์หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นพิษเหมือนในตัวเมือง ไม่มีรถติด ข้าวของ อาหารทุกอย่างก็ไม่แพง บางวันวัดมณีวงศ์ซึ่งอยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัย(ตรงสะพานชุมชนตานิว)ก็จะมีตลาดเย็นให้พวกเรานักศึกษาได้ไปซื้อกับข้าว อยู่ที่นี่เรืองอดไม่มีแน่นอน พ่อค้าแม่ค้าชาวบ้านก็เป็นมิตรกับพวกเราทุกคน ถึงวันลอยกระทงก็ไม่ต้องหารถไปลอยถึงในตัวเมืองเลย ที่วัดก็จัดค่ะ มีรำวงย้อนยุคด้วย เรื่องสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ที่นี่ดีกว่าในตัวเมืองมากด้วยความที่บริเวณนี้เป็นภูเขาและทุ่งนา ทำให้อากาศเย็นสบาย แม้อากาศจะร้อนแต่ก็มีลมพัดตลอด ยามเย็นท้องฟ้าก็จะเปลี่ยนไปทุกวัน เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่โล่งทำให้ทุกวันบนท้องฟ้า เมฆจะสวยตลอด ไม่เพียงเท่านั้น...ช่วงเช้าๆอากาศที่นี่จะเย็นสบายตลอดเพราะมีภูเขาและต้นไม้ ตื่นขึ้นมาและเปิดประตูระเบียงห้องพักออกเราก็จะได้เห็นหมอกสวยๆลอยมาปกคลุมภูเขาตามภาพด้านล่างนี้แหละค่ะ ฉันคิดตลอดว่าถ้าตัวเองขึ้นไปยืนบนเขาลูกนี้ได้แล้วมองลงมาข้างล่าง หมอกเหล่านี้คงกลายเป็นทะเลหมอกไปเลย ไม่ต้องเดินทางไปถึงภาคเหนือก็ได้ มหาวิทยาลัยนี้เปรียบเสมือนสวรรค์ของรักสายหมอกจริงๆ
ติดตามภาพของรักสายหมอกได้ >> https://www.facebook.com/LoveTalemok/
VIDEO
ถ้ามีโอกาสถ่ายภาพอีกเมื่อไหร่จะเอามาฝากทุกคนนะ