Bloggang.com : weblog for you and your gang
::พลังขจัดสิ่งอัปมงคล::
Group Blog
พระพิฆเนศ(GANESH)
พระแม่กาลี(Kali)
*เช่าเทวรูป* ปรับราคาพิเศษครับ
ติดต่อเรา(Contact us)
จี้ 199 บาท
เครื่องบูชาอื่นๆ
วัตถุมงคล
All blogs
ประวัติพระแม่กาลี
ประวัติพระแม่กาลี
พระแม่กาลี หรือ กากิลา
(काली, Kālī, แปลว่า หญิงดำ) เป็นปางหนึ่งของพระอุมาเทวี ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีกายสีดำสนิท มีลักษณะดุร้าย มี ๑๐ พระกร ถืออาวุธร้ายอยู่ในพระกรทั้งสิบนั้น แลบลิ้นยาวถึงทรวงอก ที่ริมฝีปากมีเลือดไหลหยดเป็นทางยาว เครื่องประดับเป็นหัวกระโหลก มีงูใหญ่ร้อยคาดองค์ดั่งสังวาลย์
การบูชาพระแม่กาลี ต้องใช้เลือดบริสุทธิ์ ในอดีตมีการใช้หญิงพรหมจารีย์ไปบูชายัญด้วยเลือดจากลำคอ แต่เมื่ออังกฤษเข้าปกครองอินเดีย ได้สั่งห้ามการฆ่าคนเพื่อบูชายัญ ปัจจุบันนี้การบูชาพระแม่กาลีใช้เลือดแพะแทน
ความเป็นมาอย่างย่อ
....................พระแม่กาลีนี้ได้แบ่งภาคจากการบำเพ็ญตบะของพระอุมาเทวี โดยทรงมีจุดประสงค์เพื่อปราบอสูร
ตนหนึ่ง นามว่า อสูรทารุณ อสูรทารุณนี้แม้ว่าจะถูกฆ่าก็ไม่มีวันตาย เมื่อเลือดตกลงพื้นเมื่อใดก็จะทวีขึ้นเรื่อยไป
ไม่หมดสิ้น ความที่คิดว่ามีอิทธิฤทธิ์มากมายฆ่าไม่ตายจึงทำให้อสูรทารุณเกิดหลงผิดคิดว่ามีอำนาจขนาดนี้แล้วครอง
โลกทั้งสามเลยดีกว่า เมื่อเป็นดังนี้แล้วเหล่าเทวดา จึงต้องนำเรื่องเข้าเฝ้าพระศิวะ เพื่อหาทางปราบอสูรทารุณ เหล่า
เทวดาทั้งหลายเมื่อได้ฟังสรรพคุณของอสูรก็ไม่มีใครกล้าอาสาไปสู้รบเลย จนที่สุดจะทนองค์พระศรีมหาอุมาเทวี
เทพสตรีแห่งสวรรค์ได้มีความประสงค์ที่จะออกปราบอสูรร้าย ซึ่งพระองค์ได้ขอพรต่อองค์พระศิวะผู้เป็นเจ้า เพื่อให้
ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ แล้วจึงเสด็จเพื่อบำเพ็ญตบะทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ให้มีฤทธิ์อำนาจปราบอสูรร้ายได้
ซึ่งไม่นานพระแม่กาลีก็ได้เผชิญหน้ากับอสูรทารุณ และด้วยฤทธิ์อำนาจของทั้ง 2 ฝ่าย การต่อสู้ที่ยาวนานจึงเกิดขึ้น
พระแม่กาลีคิดกลอุบายเพื่อเอาชัยชนะในครั้งนี้ให้ได้ โดยการตัดหัวอสูรพร้อมทั้งทรงดูดกินเลือดอสูรก่อนที่เลือดจะ
ตกลงสู่พื้น เมื่อกินจนกระทั่งหมดสิ้นแล้วรูปกายของพระแม่กาลีถึงกับพุงกางด้วยความอิ่ม ในมือนั้นถือหัวของอสูรที่
ตัดร้อยเป็นพวงไว้จนที่สุดของที่สุด อสูรตนนั้นจึงสิ้นฤทธิ์ลงเพราะไม่มีหยดเลือดหยดลงพื้นแล้วจึงสิ้นสุดลง
....................ด้วยความดีพระทัยในการได้รับชัยชนะในครั้งนี้ พระแม่กาลีจึงทรงเต้นรำอย่างสำราญฤทัยที่สุด จน
ลืมพระองค์ไป ทรงยกเท้าขึ้นสูงหมายจะกระทืบลงบนพื้นโลก แล้วพระศิวะจึงทรงตระหนักได้ว่าพระแม่กาลีที่รูปกาย
น่าเกลียดนั้นแท้จริงแล้วก็คือพระศรีมหาอุมาเทวี พระมเหสีแห่งพระองค์นั้นเอง เมื่อเป็นดังนี้พระแม่กาลีก็ย่อมก็ต้อง
ทรงเกรงใจ และจดจำพระองค์ได้บ้างเป็นแน่ พระศิวะจึงเสด็จไปพบพระแม่กาลีและทรงลงไปนอนขวางพื้นโลกไว้
ในขณะที่พระแม่กาลีกำลังดีใจจะกระทืบเท้าลง ก็ต้องชะงัก เมื่อมองเห็นพระศิวะผู้สวามีลงไปนอนขวางอยู่
พระแม่กาลีทรงมีความเกรงใจต่อพระศิวะผู้เป็นสวามีอย่างที่สุด จึงไม่กล้ากระทืบลงพระอุระ และหยุด
การกระทำนั้นลง เหล่าเทวดาทั้งหลายทั้งมวลจึงยกย่องพระศิวะและแม่กาลี พากันศรัทธาในพระองค์ยิ่งขึ้น
บทสวดคาถาบูชาพระแม่กาลี
โอม เจ มาตา กี (แม่อุมา) 3 จบ
โอม เจ มาตา กาลี (แม่กาลี) 3 จบ
โอม สตี เยมาตา กาลี (แม่กาลี) 3 จบ
โอม ศรี ทรุคา เจ นะ มะ ฮา (แม่ทุรคา) 3 จบ
โอม หรีม ครีม ทูม ทุรคา ชัยนมัส 3 จบ
บทสรรเสริญพระแม่กาลี
โอม กาลิกาแย วิทัมเห ศมะศานวาสินยา
ธิมหิ ตันโน โหรา ปรโจหยาต
โอม ตักริม ตักริม ตักริม หู หู หริม หริม
แภ ภัทรกาลีน แภ น หริม หริม
หนู หู ตักริม ตักริม สวาหา
โอม สรวะ กาลราตริกามินี คะเณสวแย นมัช
โอม แยภวนี มาตามหากาลี นมัช
เทวาลัยพระแม่กาลี(Kaali Mandir)
แห่งนี้เป็นศิลปะเบงกอลสมัยกลาง เลียนแบบกระท่อมที่มุงด้วยแฝกสมัยโบราณของอินเดีย เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต่างจากทั่วไปที่เป็นจำลองแบบภูเขาไกรลาส ฐานเทวาลัยยาวด้านละ 75ฟุต สูง 90 ฟุต
เทวรูปพระแม่กาลี
Create Date : 17 มิถุนายน 2551
Last Update : 30 ธันวาคม 2551 14:49:48 น.
1 comments
Counter : 14306 Pageviews.
Share
Tweet
ขอบคุณค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้รู้พระประวัติปางนี้อย่างละเอียดค่ะ
โดย:
little bear june
วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:21:25:58 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
booz-zaa
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add booz-zaa's blog to your web]
Links
จำหน่าย Wilma Schumann & Repechage(เครื่องสำอางค์ชั้นนำ)
otonil-จำหน่ายกล้วยไม้
Big819-จำหน่ายกล้วยไม้
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.