Group Blog
 
All Blogs
 
ตัวนี้เจอโดยบังเอิญครับ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เป็นเจ้าของ Oberheim Matrix-1000

ย้อนหลังไปในสมัยที่ยุค analogs กำลังเฟื่องฟู สมัยนั้นมี synth ที่เป็นสายพันธุ์อเมริกันที่ขึ้นชื่ออยู่หลายเจ้า เช่น Sequential , Oberheim , Linn electronics , Moog (พันธุ์ผสมอังกฤษ) , ARP และอื่นๆอีกมากมาย จนมาถึงยุค 80 ที่ Digital synth เริ่มเข้ามามีบทบาทขึ้นจนทำเอา analogs synth หายสาบสูญไปกว่าสิบปีจนมาถึงยุค dance , electro ที่กระแส vintage เริ่มกลับมาอีกครั้งหนึ่ง analog synth รุ่นโบราณก็เริ่มเป็นที่ต้องการมากขึ้น เพราะน้ำเสียงและเนื้อเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มีความแน่นของเสียงแบบมันจุกอกที่ digital ในยุค 90 ยังเลียนแบบไม่ได้ แม้ในยุคปัจจุบัน

Oberheim เป็นบริษัทที่ผลิต synth มานับสิบปีครับ และสายการผลิตสุดท้ายก่อนที่จะขายกิจการให้กับ Gibson ก็คือ Oberheim Matrix-1000

Series สุดท้ายนี้จะประกอบด้วย Keyboard 2 ตัวและ sound module 2 ตัว ได้แก่ Oberheim matrix12, Oberheim expander, Oberheim matrix 6 , oberheim matrix 6r และ oberheim matrix 1000 โดยทั้งหมดมีพื้นฐานของวงจรเหมือนกันหมดคือเป็น Digital generate waveform ผ่าน analog circuit โดย matrix 12 จะมีจำนวน oscillators มากกว่าตัวอื่นเท่าตัว คือสามารถเล่น polyphony ได้สูงสุด 12 voices ส่วนรุ่นอื่นๆจะมาสุดที่ 6 voices และ matrix 6r , expander กับ matrix-1000 จะเป็น sound module เหมือนกัน ต่างกันที่ expander จะมี control knob สำหรับโปรแกรมเสียงได้ แต่ 6r, matrix-1000 ต้องผ่านโปรแกรม editor librarian เท่านั้นครับ

สิ่งที่ matrix 1000 มีเหนือกว่ารุ่นพี่ทั้งสี่ก็คือ หน่วยความจำเสียงที่เรียกได้ว่ามหึมาในสมัยนั้นเลย หรือแม้ในปัจจุบันก็ยังถือว่ามากมายทีเดียว คือมี 1000 preset (800 ROM + 200 RAM) ผมยังจำโฆษณาในปกหลัง Keyboard magazine ยุคนั้นได้เลยว่า รายชื่อของเสียงมันเยอะจน ไม่รู้จะตั้งชื่อไปทำไม

Matrix-100 จะมีการจัดแบ่งหมวดหมู่ของเสียงเพื่อการเรียกใช้งานที่ง่ายดายโดยการแบ่งตามหลักร้อยเป็น synth, lead, string, brass เป็นต้น

นอกจากนี้ Matrix-1000 ยังมี UNISON mode โดยการ stack เสียงทั้ง 6 เสียงเข้าด้วยกัน เพื่อทำเป็น power lead แบบ analogs mเสียงแน่นมากขึ้นครับ และสามารถพ่วง Matrix 1000 ได้ถึง 6 ตัวโดยที่แต่ละตัวสามารถรับ midi channel คนละ channel กัน หรือ รับ channel เดียวกันเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของการเล่นและสร้าง sequencer

เสียงของตัวนี้ค่อนข้างดิบทีเดียวครับ ถ้าเทียบกับ digital หรือ virtual analog ในปัจจุบันที่อาศัย effects ช่วยมากมาย แต่ในความดิบของ matrix-1000 นั้น ปฏิเสธในความแน่นของเสียงไม่ได้เลยครับ เพราะเสียงที่ได้มีน้ำหนักมาก และครบคุณลักษณะของ oberheim ทุกประการ คือแน่น นุ่ม และกว้าง

ตัวนี้ผมไปได้มาจากสื่อซื้อขายที่พันธ์ทิพย์ชั้น M ครับ เดินผ่านแล้วเห็นแว้ปๆ ราคาตอนนั้ประมาณ หมื่นนิดๆซึ่งถือว่าไม่แพงเลยในยุคที่ digital ราคาถูกลงเรื่อยๆ แต่ analog ที่เป็น vintage นี่หายากขึ้นทุกที




Create Date : 30 เมษายน 2548
Last Update : 30 เมษายน 2548 15:08:05 น. 4 comments
Counter : 495 Pageviews.

 
แวะมาดูนะคะ


โดย: อพันตรี (อพันตรี ) วันที่: 30 เมษายน 2548 เวลา:15:32:08 น.  

 
แวะมาอ่านเรือยๆนะครับ คุณหมอ

ได้ความรู้ดีจัง


โดย: XXRAM IP: 203.151.140.119 วันที่: 30 เมษายน 2548 เวลา:16:19:33 น.  

 
ฉันซื้อมา 5 พัน


โดย: ช IP: 124.121.19.14 วันที่: 21 ธันวาคม 2550 เวลา:16:52:15 น.  

 
โชคดีมาก เหนใน ebay อยากซื้อเหมือนกันครับ แต่เค้าไม่ส่งเมืองไทย T_T


โดย: ! o_o ! IP: 203.144.131.123 วันที่: 24 มีนาคม 2552 เวลา:12:37:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมอจุ๊บ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หมอจุ๊บ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.