คือ...ส่วนผสมของความรัก รอยยิ้ม และความสุข....ที่ทำด้วยใจ
Born To Be & Try To Be...

สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามมิให้ผู้ใดนำ "ข้อความ" และ "รูปภาพ" ไปเผยแพร่ในที่สาธารณชนโดยมิได้รับอนุญาต...

Bambie
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Enjoy every moment of life...

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Bambie's blog to your web]
Links
 

 
Fresh Strawberry Tartlet ... ทาร์ตสรอว์เบอร์รี่



เริ่มจากทำคัสตาดครีม

นมสด 2 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วย
ไข่ไก่ 3 ฟอง
เนยละลาย 1/4 ถ้วย
วานิลา 2 ช้อนชา

ตีไข่กับน้ำตาลให้ขึ้น ใส่เกลือ นม น้ำละลายแป้ง เนยสด วานิลา คนให้เข้ากัน
นำไปตุ๋นจนส่วนผสมข้นสุก คนบ่อย ๆ ค่ะ กวนจนส่วนผสมข้น ไม่มีกลิ่นดิบของแป้ง
ทิ้งไว้ให้เย็นสนิท ถ้าแป้งเป็นก้อนๆ ก็กรองออกด้วยกระชอนนะคะ เป็นไส้ตัวเดียวกันกับเอแคลร์ค่ะ

** คัสตาร์ดนี้ทำทิ้งไว้ข้ามคืนได้ค่ะ ให้ตักใส่ถุงหรือกล่องปิดฝาให้เรียบร้อยแล้วเอาเข้าตู้เย็นนะคะ

จากนั้นมาทำแป้งทาร์ต

แป้งอเนกประสงค์ 5 ถ้วย
เนยจืด 1 1/4 ถ้วย (บีใช้เนยเค็มค่ะ)
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา (เนื่องจากบีใช้เนยเค็ม ก็เลยไม่ใส่เกลือแล้วค่ะ)
น้ำเย็นจัด 1/2 ถ้วย

ผสมน้ำตาลทราย เกลือ น้ำเย็น รวมกันให้ละลาย ใส่ตู้เย็นพักไว้
ร่อนแป้งแล้วตวง ใส่เนย ใช้มีดตัดเนยเป็นชิ้นเล็กๆ ใช้มือเคล้าแป้งกับเนยให้เข้ากัน ค่อยๆ เทน้ำเย็นลงในส่วนผสมของแป้ง
ใช้มือเคล้าเบาๆ จนแป้งรวมตัวจับกันเป็นก้อน นำไปแช่ตู้เย็นก่อนซัก 15 นาที

เตรียมทาพิมพ์ด้วยไขมัน (หรือจะไม่ทาก็น่าจะได้ค่ะ บีไม่ทาก็ไม่ติดพิมพ์นะคะ เอาออกมาง่ายเชียว)

แบ่งแป้งที่ผสมแล้ว คลึงให้บาง 1/4 นิ้ว กรุแป้งใส่พิมพ์ที่ทาไขมันแล้ว แต่งขอบแป้งให้สวย
ใช้ส้อมไล่อากาศให้ทั่วก่อนเข้าอบ หรือใช้เมล็ดข้าว หรือถั่ววางทับ กันไม่ให้แป้งพอง
อบไฟ 200 ํ ซ. หรือ 400 ํ ฟ. เวลาประมาณ 25-30 นาที ขนมเหลืองนำมาพักให้เย็น (เตาอบของบีใช้ไฟ 180 องศาก็ร้อนแรงแล้วค่ะ ถ้าเกินกว่านี้ เกรงว่าทาร์ตของบีจะสีเข้มเกินไปค่ะ)
เตรียมหั่นสตรอแบร์รี่ไว้ หรือถ้ามีผลไม้อื่น ๆ ก็ได้ กีวี แอ๊ปเปิ้ล องุ่น แคนตาลูป เมล่อน... แล้วแต่ชอบ

นำไส้ใส่ในทาร์ต แล้วเรียงผลไม้ให้สวยค่ะ

สุดท้ายใช้วุ้นผง น้ำ ตั้งไฟให้เดือด ใส่น้ำตาลพอเดือดยกลง ใช้แปรงชุบวุ้นทาบนหน้าผลไม้สดให้ทั่ว


Note: สูตร fresh strawberry tartlet จากพี่แพร (chef umim) ค่ะ คัสตาร์ดรสชาติกำลังดีไม่หวานไป ไม่มันจนเลี่ยนไปค่ะ ส่วนทาร์ตก็ถ้ากินด้วยกันกับคัสตาร์ดในคำเดียวกันเลยจะเข้ากั้นเข้ากันค่ะ รสขาติเค็มๆ มันๆ จากทาร์ต ตัดกับรสหวานมันจากคัสตาร์ด แหม ช่างลงตัวเสียนี่กระไร ยิ่งมีผลไม้สดอย่างสตรอว์เบอร์รี่มาเสริมรสเปรี้ยวหวานแล้ว อืมหืม เอาอะไรมาแลกก้ไม่ยอมจ้า ....


Create Date : 29 มกราคม 2550
Last Update : 29 มกราคม 2550 9:23:38 น. 8 comments
Counter : 924 Pageviews.

 
น่าทานมากค่ะคุณบี พีแพทมาเก็บสูตร
ชอบทานทั้งบลูเบอรร์รี่และสตรอเบอร์รี่
คงได้ลองทำเร็ว ๆนี้ล่ะค่ะ
เมื่อวานพี่ทำคุ้กกี้ข้าวโอ๊ต คราวนี้ทำเต็มสูตรเลยได้ 2 ก.ก.กับ 1 ขีดค่ะ
ทำแจกเพื่อน ๆและหลาน ๆค่ะ ทุกคนชอบค่ะบอกว่าอร่อยไม่หวานมาก


โดย: Petit Patty วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:15:20:57 น.  

 
น่ารักน่าทานดีจังเลยค่ะ


โดย: angielicious (angielicious ) วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:15:23:44 น.  

 
คุณบีคะ รบกวนช่วยบอกสัดส่วนวุ้นผง น้ำ น้ำตาล หน่อยนะคะ ขอบคุณค่า


โดย: เอแคลร์ IP: 203.150.202.226 วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:15:48:39 น.  

 
น่ากินๆจริงๆ


โดย: หลั่มหมั่เนหม่ง (หลั่มหมั่นเหม่ง ) วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:15:56:27 น.  

 
พี่แพท >> เอาภาพมาให้บีชมบ้างนะคะ ฝีมือพี่แพทต้องสวยกว่าของบีแน่ๆ เลย ดีใจด้วยนะคะที่คนชิมชอบ บีว่าอะไรก็ไม่สำคัญเท่าเวลาที่คนชิมเขาชอบเลยค่ะ ว่าไม๊คะ :)


คุณ เอแคลร์ คะ >> บีไม่ได้วงเล็บไว้ว่า บีไม่ได้ทาวุ้นค่ะ ผงวุ้นก็มีนะ แต่เพราะบีขี้เกียจ แหะแหะ แต่ก็ดีค่ะ ได้กินผลไม้แบบสดๆ เลย แต่เวลาเก็บรักษาในตู้เย็นควรจะใส่กล่องปิดฝามิดชิดนะคะ ผลไม้จะได้ไม่ช้ำและก็หน้าคัสตาร์ดจะได้ไม่แห้งไปค่ะ

angielicious, หลั่มหมั่นเหม่ง >> ขอบคุณนะคะที่แวะมาทักทาย มาบ่อยๆ นะคะ


โดย: Bambie วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:18:00:08 น.  

 
เจ๊หลีมาแล้วกินทั้งห้องก้นครัวกะบล็อกแก๊งค์เลยค่ะ คุณบีจะไปที่ไหนอีกคะเจ๊หลีตามติดด้วยแน่นอนค่ะ


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:20:57:03 น.  

 
แวะมาหาอาหารทางสายตาค่ะ

คุณบีทำได้น่าทานมาก


โดย: โสดในซอย วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:22:28:41 น.  

 
น่าทานค่า


โดย: สมาชิกหมายเลข 3445422 วันที่: 18 เมษายน 2563 เวลา:12:10:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.