All Blog
พาไปดูนวัตกรรมใหม่ - กำจัดไขมันง่ายๆให้สิ้นซาก - SculpSure @Sinota Clinic


สวัสดีค่ะทุกคน blog นี้มายด์จะพาทุกคนไปรู้จักกับนวัตกรรมสลายไขมันตัวใหม่กัน
พอดีมายด์มีโอกาสได้ไปฟังคุณหมอ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดไขมันจาก Sinota Clinic มา
เค้าเคลมมาว่า เจ้าเทคโนโลยีตัวใหม่นี้ นางสลายไขมันเห็นผลชัดเจนสุดๆ !
คำเคลมแรงขนาดนี้ ผู้หญิงอย่างเราก็อยากรู้แล้วใช่ไหมว่ามันคืออะไร
ตามมายด์ไปกันเลยค่ะ 117

. . . . . . . . . . . . . . . . . .

เจ้าเทคโลโนยีตัวที่มายด์ว่ามานี้ มีชื่อว่า SculpSure ค่ะ
คลินิกที่เปิดให้บริการลดไขมันโดยเครื่อง SulpSure ในบ้านเราเนี่ยมีไม่เยอะนะคะ 
หนึ่งในนั้นก็คือ Sinota Clinic ชั้น 5 เกตเวย์เอกมัยค่ะ



ภายในงานกิจกรรมวันนั้นนะคะ
ทางคลินิกได้เชิญคุณหมอประจำคลินิกมาบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับเจ้าเครื่อง SculpSure ให้ฟังกันค่ะ
แอบกระซิบว่า พอฟังประวัติการศึกษาของคุณหมอแล้ว สุดยอดมากอ่ะทุกคน!
คุณหมอจบมาจากสาย anti ageing เลย ใครอยากหน้าเด็กมาหาคุณหมอที่นี่ ไม่ผิดหวังแน่ๆ



เข้าเรื่องๆ วันนั้นคือคุณหมออธิบายถึงเจ้าไขมันได้ละเอียดมากๆ
ลำพังความรู้ชีวะแค่ม.ปลายอย่างเรา ฟังแล้วถึงกับอึ้งไปเลยทุกคน!
เพราะเจ้าไขมันเนี่ย มีการทำงานที่ซับซ้อนมากๆ 
ไขมันอาจจะเกิดการสะสมจาก
1. การกินอาหารของเราเอง
2. อายุที่มากขึ้นระบบเผาพลาญแย่ลง
3. กรรมพันธุ์ที่ทำให้มีรูปร่างแบบนั้น
4. โรคบางชนิดที่ทำให้เกิดไขมันสะสม ทำให้เราอ้วน
หลายสาเหตุมากๆเลยทุกคนที่ทำให้ไขมันเราเกิดการสะสม

ส่วนการลดไขมันก็เช่นเดียวกัน ซับซ้อนยิ่งกว่า! 
สำหรับคนที่อ้วนมากๆ เอาจริงๆคือ การลดไขมัน กระชับสัดส่วนทางที่ดีและยั่งยืนที่สุด
ยังคงเป็นการควบคุมอาหารและออกกำลังกายนะคะ

แต่เซลล์ไขมัน เป็นเซลล์ที่ไม่มีทางตายไปจากร่างกายเรานะคะ
ในผู้หญิง หรือผู้ชายก็ตาม บางคนผอมแล้ว แต่ด้วยกรรมพันธุ์ รูปร่างเรา
ทำให้สัดส่วนบางอย่างมีไขมันสะสม เช่นเหนียง ต้นแขน ต้นขา หรือว่าพุงน้อยๆ
วิธีที่เห็นผลได้ชัดเจนที่สุดในตอนนี้ คือเครื่องนี้เลยค่ะ SculpSure




SculpSure เป็นนวัตกรรมเพื่อการสลายไขมันตัวล่าสุดจาก USA
โดยหลักการทำงานของเจ้าเครื่องนี้คือ ใช้ลำแสงที่มีความยาวคลื่น 1060 นาโนเมตรเข้าไปกำจัดเซลล์ไขมันต้นกำเนิด
ทำให้เกิดความร้อนประมาณ 47 องศา ส่งผลให้เซลล์ไขมันช็อก และไขมันค่อยๆตาย
เจ้าเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายนี้จะถูกขับออกจากร่างกายตามช่องทางการขับของเสียต่างๆ
เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัยมากๆในการกำจัดไขมันค่ะ เพราะไม่ต้องลงมีดใดๆ ไม่มีการผ่าตัดเลย
สิ่งที่เริ่ดขึ้นไปอีกก็คือ! สามารถเห็นผลในการทำครั้งแรกเลย เพราะไขมันจะลดลงไปถึง 24% เลยค่ะ
และจะเห็นผลชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไป 12 สัปดาห์งี้









อย่างที่บอกไปว่า เจ้าเครื่องนี้ใช้ลำแสงลงไปสลายไขมัน
ดังนั้นเราก็จะไม่เจ็บ เพราะไม่ต้องผ่าตัดใดๆ
ในแต่ละครั้งที่ใช้เครื่องตัวนี้ ใช้เวลาแค่ 25 นาทีเท่านั้นเองด้วยค่ะ

เอ่อ! ทุกคน เครื่องนี้จะได้ผลดีมากๆ ในคนที่มีดัชนีมวลร่างกาย (bmi) อยู่ในเกณท์มาตราฐานนะ



รู้จักเจ้าเครื่องสครับชัวร์ไปกันแล้ว
เดี๋ยวเราไปทำความรู้จักคลินิกกันบ้างเนอะ





Sinota Clinic อยู่ชั้น 5 เกตเวย์เอกมัยนะคะ
เดินทางสะดวกมากๆ มาทาง BTS ก็ลงสถานีเอกมัย จากนั้นก็เดินเข้ามาในเกตเวย์ได้เลยค่ะ



คลินิกที่นี่ตกแต่งไม่เหมือนคลินิกดูแลผิวพรรณที่อื่นเลยค่ะ
ให้ความรู้สึกเหมือนสปามากกว่า ผ่อนคลายไปด้วย และก็สวยกลับบ้าน ^^









ที่นี่เค้าจะเน้นความเป็นส่วนตัวของคนไข้นะคะ 
ทุกห้องไม่ว่าจะเป็น ทำเลเซอร์ ทำทรีตเม้นท์ ดริปวิตามินผิว
ทุกห้องจะเน้นมากๆเรื่องความสบาย ผ่อนคลาย และเป็นส่วนตัวค่ะ

ทุกเคสที่มาที่นี่ จะต้องพบคุณหมอนะคะ และข้อดีมากๆคือ ที่นี่ไม่ยัดคอร์สให้คนไข้ค่ะ
คุณหมอจะประเมินตามจริง ว่าเราควรเพิ่ม ลด หรือส่วนไหนของเราดีแล้ว (แอบกระซิบว่าคุณหมอเก่งจริงๆ)

นอกจากคุณหมอเก่งแล้ว สถานที่ดีแล้ว อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ เครื่องมือครบค่ะ!
ที่นี่มีทุกอย่างที่ต้องการเลย กำจัดขน กระชับผิว ทรีตเม้นท์บำรุง 
และที่สำคัญมากๆคือ เครื่องมือเป็นเครื่องจากบริษัทแท้แน่นอน สามารถเอาเลขไปตรวจสอบได้ด้วย



สาวๆคนไหน หรือหนุ่มๆก็ได้น้า
ทุกคนแหละ ใครอยากหันมาดูแลตัวเอง แล้วกำลังมองหาคลินิกดีๆสักที่
ลองเข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อนได้ เข้ามาสอบถามค่าบริการได้ 



ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าเว็บไซท์ของคลินิกได้เลยค่ะ
www.sinotaclinic.com

ครั้งหน้าจะพาไปไหนอีก ติดตามด้วยน้าาา
วันนี้ไปละ บะบายยยย xx




Create Date : 10 มีนาคม 2562
Last Update : 10 มีนาคม 2562 1:40:09 น.
Counter : 1836 Pageviews.

1 comment
ถ้าในหัวไม่มีเขา ก็มาทะเลแบบเราดูสิ -✱ ไปเกาะเสม็ดกันเถอะ! ✱-


มาทะเล ไม่ต้องรอให้ใจเซก็มาได้!

ใจเรา... ตอนแรกคิดว่า ไปหัวหินละกัน ใกล้ๆ 
ขับรถแปปเดียว หาไรกินไปตามทางเรื่อยๆ

แล้วจู่ๆ ในหัวก็โผล่ประโยคที่ว่า "ไปเสม็ด เสร็จทุกราย"
เห้ยๆ เค้าว่ากันว่า "ไปเสม็ด เสร็จทุกราย" คือมันยังไงอ่ะ

ว่าแล้วก็ หยิบมือถือขึ้นมาเช็คโรงแรม หาคิวรถตู้ แล้วก็วิ่งไปแพคกระเป๋า
มาค่ะ! เราไปทะเล ไปเกาะเสม็ดกันเถอะ!



เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เดินทางไปง่ายมากๆเลย
จะขับรถไปเอง แล้วไปจอดแถวๆท่าเรือข้ามฝาก
หรือจะนั่งรถโดยสารสาธารณะไปก็ได้ หลับไปสบายๆ แปปเดียวถึง



เรานั่งรถตู้ไป ... จากคิวรถตู้หมอชิต อาคาร C
รถรอบแรกจะเริ่มตั้งแต่ 7 โมง ขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็จะถึงท่าเรือไปเกาะเสม็ด





วิธีข้ามไปเกาะเสม็ดมีทั้งเรือหวานเย็น ค่อยๆไป 
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เรือจะไปจอดที่ท่าเรือกลางของเกาะ
หรือนั่งเรือสปีดโบ๊ท 15 นาทีไปลงตามอ่าวที่เราพัก 
ใครแข็งแรง ก็อาจจะอยากว่ายน้ำไป 

สำหรับเรา เลือกขาไปๆด้วยสป๊ดโบ๊ท ขากลับนั่งเรือหวานเย็นชิลๆ





หาดที่เราพัก ชื่อหาดวงเดือน หาดที่ไม่เชิงเงียบ และไม่เชิงคึกคัก
ลงจากเรือมาปุ๊บ เดินเข้าฝั่ง ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยเก็บค่าเข้าอุทยานอยู่
คนละ 40 บาท ตลอดทริป! 
เก็บรักษาใบนี้ให้ดีๆละ หายไปต้องจ่ายอีกรอบนึงนะจ้ะ

---------------------------------------------

เก็บข้าวเก็บของ แล้วเดี๋ยวเราออกไปกินข้าวกัน
เนื่องจาก เราปุ๊บปั๊บมาเกาะเสม็ด โรงแรมที่จองได้ไม่สวย เราขอไม่รีวิวนะ



มื้อแรกเรามากันที่ ... หน้าโรงแรมนี่แหละ 555
หน้าอ่าววงเดือน มีร้านอาหารอยู่ประปรายค่ะ ไม่ได้เยอะมากนัก
เรามาวันธรรมดา เกาะค่อนข้างเงียบ คนไทยน้อย ต่างชาติมีบ้าง ยังคงมีความสงบอยู่มาก 
ถ้าคนชอบเงียบๆ คนไม่จอแจ ควรหาเวลามาวันธรรมดานะ





อ่าววงเดือน มีแม่ค้าหาบครกตำส้มตำ เดินรอบหาดด้วย
ส้มตำแซ่บอยู่นะ ส่วนรสชาติอาหารร้านที่เราเลือกนั้นใช้ได้ค่ะ พอกินได้นะเราว่า





นั่งมองฟ้า มองน้ำ มองหมาทะเล กันสักพัก พอให้อาหารย่อย
เดี๋ยวเราจะไปขี่มอไซค์สำรวจเกาะกัน

สำหรับราคารถมอเตอร์ไซค์นั้น มีตั้งแต่วันละ 300-500 บาท
ถ้าเช่ามาจากท่าเรือกลาง ราคาก็จะถูกกว่าเช่าตามอ่าว
ถ้าใครขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็น แนะนำให้นั่งรถ 2 แถวนะ รถมีวิ่งสนรอบเกาะด้วย





ถนนบางช่วงบนเกาะก็ปูทางด้วยตัวหนอน บางช่วงก็ถนนราดยางปกติ
ส่วนทางลงหาด ก็จะเป็นทรายๆบ้าง ขี่ระวังๆไปช้าๆ คอยมองรถดีๆล่ะ



เกาะเสม็ดมีพื้นที่ไม่ใหญ่นักเป็นเกาะเรียวยาวจากทิศเหนือลงมาทิศใต้
ความยาวของเกาะประมาณ 6.8 กิโลเมตร ช่วงกว้างที่สุดของเกาะประมาณ 2.5 กิโลเมตร







เกาะเสม็ด หรือเรียกอีกชื่อนึงว่า เกาะแก้วพิศดาร 
บริเวณอ่าวไผ่ จะมีปะติมากรรมรูปปั้นตัวละครในวรรณคดี เรื่องพระอภัยมณีอยู่ด้วย







นั่งเล่น มองฟ้า มองทะเล หลบแดดสักพัก 
เดี๋ยวเราจะไปดูจุดชมวิวบนเขากัน

ขี่มอไซค์ไปไหนบนเกาะเสม็ด ไม่มีหลงแน่ๆ มีป้ายบอกทางตลอด 
ส่วนถนนก็ตรงๆ เหนือจรดใต้เกาะมีถนนหลักอยู่เส้นเดียว



จุดชมวิว ควรมาดูวิวตอนเวลาใกล้ๆจะ 6 โมงไรงี้นะ
เรามาถึง 5 โมง! แดดยังส่องตาเรา แสบวิ้งๆอยู่เลย

ร้อนอ่ะ! เหนียวตัวด้วย ...
ไปหาร้านนั่งชิวๆ ดูดน้ำปั่นมองทะเลกันเหอะ





เราแว๊นซ์มอไซค์มาที่อ่าวพร้าว
เป็นอ่าวเดียวที่อยู่ทางทิศตะวันตก จากอ่าวนี้ มองเห็นพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดเลย
อ่าวนี้ยังค่อนข้างเงียบสงบ และห้องพักมีราคาแรงกว่าอ่าวอื่นๆด้วย









Buzz Restaurant at Levimarn Ao Prao Resort
ร้านอาหารชิคๆ มีทั้งโซน outdoor, ห้องแอร์ และดาดฟ้าร้านค่ะ
จริงๆร้านนี้เค้ามีขายอาหารตลอดทั้งวันนะ แต่เรายังไม่หิว
ก็เลยนั่งแตงโมปั่นเย็นชื่นใจ จิบเบาๆ นั่งฟังเพลง มองทะเลไปก่อน
สบายใจอ่ะ แค่นี้ก็มีความสุขละ 55555

เดี๋ยวเราจะไปอาบน้ำให้สบายกายแล้วเราจะไปกินข้าวเย็นกัน 
ร้านที่เล็งเอาไว้ตอนไปขี่รถสำรวจเกาะนั่นแหละ







มานั่งฝั่งทิศตะวันออก อ่าววงเดือน มองพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า
สำหรับอ่าวนี้ เราว่าตอนกลางวัน หรือตอนเย็น จำนวนคนออกมาเล่นน้ำพอๆกันเลย
เที่ยงๆ แดดเปรี้ยงๆ ฝรั่งก็กระโจนลงน้ำ สนุกสนาน 55555 
ส่วนเราอ่ะ เย็นๆ แดดร่มๆ ค่อยออกมานั่ง สบายใจกว่า ><

. . . .

หิวยังๆ ไป dinner กันนนนนน

















ร้านนี้เราสั่งกับข้าว 2 อย่าง ปลาทอดน้ำปลา และโป๊ะแตก
อาหารอร่อย ใช้ได้ ปลาทอดได้กรอบ แต่น้ำยำที่กินคู่กันไม่ค่อยแซ่บเท่าไหร่
โป๊ะแตกรวมมิตรนั้น รสชาติจัดจ้านใช้ได้ ซดน้ำซุปได้คล่องคอ อร่อยทีเดียว

ในส่วนของค้อกเทลนั้น ดีมากกกกก อร่อยย แต่เราลืมชื่อเมนูไป ขอโทษที ><
น้องพนักงานเค้าเป็นคนแนะนำ รสชาติค้อกเทลคืออร่อยมาก อันนี้พูดจริง ยังอยากกินอยู่เลย
ส่วน shot เล็กๆนั่น เราเลือกเอง ด้วยความที่เป็นสีรุ้งน่ากิน แต่รสชาติก็ ,,, กลางๆค่ะ

นั่งกินข้าว ฟังเพลง ฟังเสียงน้ำทะเลขึ้น คลื่นกระทบหาดทราย ...
ชิลมาก ชิลจัด ชิลจนคิดว่า ทำไมก่อนหน้านี้เราไม่เคยได้มาเสม็ดเลย 
ด้วยความที่มันใกล้กรุงเทพ 2-3 ชั่วโมงก็ถึงแล้วอ่ะ 
ก็นั่งคิดอยู่นานนะ สงสัยในตัวเองทำไมไม่เคยมา 5555

ไม่คิดละ ง่วง ไปนอนๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน



- วันที่สอง บนเกาะเสม็ด -
เราตื่นสาย ภาพในหัวที่จะโรแมนติก ออกไปนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นก็เลยจบไป



ตื่นมาก็หิวมาก กินข้าวเสร็จ ออกไปเล่นน้ำ มองเด็กๆเล่นทรายกลางแดดจ้าๆ
เกือบๆเที่ยงเราก็อาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย วันนี้เราจะไปตะลุยรอบเกาะกันอีกครั้ง!





หาดแรกที่เรามากันก็คือ หาดทรายแก้ว
ชายหาดยาวๆ น้ำทะเลใสๆ ทรายขาวใสยังกับแก้ว
แล้วก็... หาดนี้คึกคักสุดบนเกาะเสม็ดละ 





ด้วยความที่เป็นหาดทรายที่มีความยาวสุดบนเกาะ 
activity ที่หาดนี้ก็เลยมีให้ทำเยอะแยะ
หาดทรายแก้วก็เลยมีสีสันๆ เหมาะกับคนที่ไม่อยากเงียบเหงาเกินไปนัก





บริเวณหาดทรายแก้ว นอกจากจะมีหาดทรายขาวๆ น้ำทะเลใสแล้ว
เดินขึ้นมาบนฝั่ง ยังมีร้านค้า ที่พัก เยอะแยะเต็มไปหมด
แล้วก็ยังมี ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วยนะ

---------------------------------------------

อย่างที่คนโบราณชอบพูดไว้ 'กองทัพต้องเดินด้วยท้อง'
เราคงขี่มอไซค์ไม่ไหว ถ้าไม่ได้กินข้าว









มื้อเที่ยงนี้ เราเลยมาฝากท้องที่ Baan Ploy Samet Restaurant
ร้านชิวมากกกกกกก หลังคาสูง โปร่งโล่งสบาย
มีที่นั่งแบบเอนหลัง ห้อยขาได้ มองทะเลไป กินข้าวไปแบบไม่ร้อน





เราสั่งกับข้าว 2 อย่างกับ 1 ค้อกเทล
แกงส้มปลา และหมูผัดกะปิ 2 อย่างนี้กินคู่กันฟินมาก อร่อยเลย
ส่วนค้อกเทลนั้น เราพูดเลยว่า เราไม่ชอบ,, กินไม่ลง ทิ้ง! 555
ลืมอ่านก่อนสั่งว่าส่วนผสมว่าเค้าใส่ coconut milk ลงไปด้วย... เราว่ามันไม่เข้ากัน
ไม่ใช่แค่ไม่เข้ากัน แต่มันไม่ควรจะมาอยู่ด้วยกันเลยล่ะ! สำหรับเรานะ



กินข้าวอิ่มแล้ว อย่าเพิ่งไปไหนนะ
ที่ร้านบ้านพลอย เค้าก็มีที่นั่งตาข่ายๆ ให้นั่งชิลๆมองทะเล
วิวที่นี่ดีมากๆ ท้องฟ้า ทะเล ลมเย็นๆ แดดจัดๆ ทุกอย่างลงตัวกันไปหมด

อิ่มแล้ว... เดี๋ยวเราจะไปดูวิวทะเล ที่ริมสุดของเกาะกัน!



ขี่รถมาตามทางเรื่อยๆ จนสุดเส้นถนนทางทิศใต้ของเกาะ
ก็จะเจอจุดหมายปลายทางของเรา







สำหรับเรานะ ... 
วิวแถวนี้คล้ายๆ 12 Apostles เส้น Great Ocean Road เลย
อาจจะเป็นเพราะด้วยความที่เป็นทะเล ลมแรงๆ ส่วนที่เป็นหินเยอะๆ ก็เลยให้อารมณ์คล้ายๆแบบนั้น



พอออกจากจุดชมวิวตรงนี้ เราวนไปอีกหลายอ่าว
เราตามหาอ่าวที่เราชอบที่สุด จะได้นั่งเสียบหูฟังเพลง มองทะเล
จนเรามาเจออ่าวหวาย อ่าวที่ถูกจริตเราที่สุด





ทางเข้าอ่าวหวาย จะเป็นเส้นทางเข้าเดียวกับทางเข้ารีสอร์ท
จอดรถข้างหน้า แล้วเดินเข้าไปนะคะ
อ่าวนี้เงียบสงบให้ความเป็นส่วนตัวมากๆ มีร่มไม้ริมหาด





อ่าวหวายดีมากกกกกกกกกก เหมาะกับการมาให้เวลากับตัวเองมากๆ
เอาจริง การมาเสม็ดครั้งนี้ เสร็จไม่เสร็จไม่รู้ แต่อ่าวหวายคือดีมาก 5555
เราใช้เวลาอยู่ที่อ่าวนี้สักพัก จากนั้นก็คิดว่า ...
ขยะบนเกาะนี้เอาไปทิ้งที่ไหนกันนะ
ต้องเผาสิ โรงเผาอยู่ตรงไหนกันนะ?






แล้วเราก็ขี่มอไซค์ไปเจอ โรงเผาขยะเฉย 5555555555
เราเลี้ยวผิดซอย จริงๆเราจะเลี้ยวไปแหลมเรือแตก
แต่มาโผล่โรงเผาขยะเฉย แต่ช่างเหอะก็เอาเป็นว่า... ไขข้อข้องใจของเราไปอีกหนึ่ง

แล้วบนเกาะเสม็ดยังมีอ่างเก็บน้ำจืดบนเกาะอีกด้วย





เหนื่อย เพลียแดด ร่างกายต้องการอาหารอีกแล้ว
เราจะไปดูพระอาทิตย์ตก และกินข้าวเย็นกันที่ อ่าวพร้าว กัน



พระอาทิตย์ตก ที่อ่าวพร้าวคือที่สุดบนเกาะนี้แล้ว
สายลมเย็นๆกระทบในหน้า นั่งมองออกไปไกลๆ เห็นท้องฟ้าค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีส้ม
เห็นแล้วก็หิวเนอะ 55555 ไม่เกี่ยวกันป่ะ









มื้อนี้เรามากันที่ Breeze Restaurant at Ao Prao Resort
ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมสุดหาดอ่าวพร้าว
ร้านนี้มีที่นั่งแบบเดียวนะ บรรยากาศดี มีดนตรีสดเล่นให้ฟังด้วย





ร้านนี้มีบาบีคิว เชฟเค้าจะมาปิ้งย่างให้เราต่อหน้าด้วย
หรือว่า ใครจะสั่งเป็น a la carte อาหารทะเลปกติก็มีเหมือนกัน











เราสั่งปอเปี๊ยะกุ้งหมู, ผัดไทกุ้งสด, ข้าวอบสัปปะรด และสัปปะรดปั่น
ร้านนี้เค้ามี Entree เสริฟด้วยนะ เป็นข้าวเกรียบปลา+ถั่ว รองท้องสำหรับผู้หิวโหยอย่างเรา

บรรยากาศร้านนี้ดีมาก ดนตรีสด เค้าจะร้องเพลงสากลยุคแบบเราเด็กๆอ่ะ
แขกส่วนใหญ่ก็จะเป็นชาวต่างชาติ ส่วนการบริการโดยรวมเราว่าโอเค
ถึงแม้จะรู้สึกว่า เค้าชอบดูแลต่างชาติมากกว่าก็เหอะ 555 
เรื่องของรสชาติอาหารนั้น ผัดไทติดหวานไปนิด ส่วนข้าวผัดจืดไปหน่อย
ปะเปี๊ยะอร่อยดี ส่วนข้าวเกรียบปลาของฟรีนั้น อร่อยมาก 5555
ทั้งหมดทั้งมวล ราคาอาจสูงไปนิดเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆที่ไปกินมาบนเกาะ



- วันที่สาม บนเกาะเสม็ด - 
เช้านี้ ตื่นมากินข้าวเช้า แพคกระเป๋า แล้วเตรียมกลับกรุงเทพกัน
ตอนแรกคิดว่า จะไปนั่งคาเฟ่ก่อนกลับ 
แต่ช้าไง มัวแต่กินข้าวเช้าจนอิ่ม ตักแล้วตักอีก 555



จากเกาะเสม็ด เราจะไปขึ้นฝั่งระยองด้วยเรือหวานเย็น
ขึ้นได้ที่ท่าเรือกลาง ท่าเดียวนะ ไม่สามารถขึ้นตามอ่าวได้







มาถึงเราก็เราตั๋วให้เค้าดู เราจะไปรอบไหนก็ได้ตามใจเรา มีรอบเรือขึ้นฝั่งเยอะมากๆ





นั่งเรือหวานเย็น ชิวมากๆ ค่อยๆไป 
ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 45 นาที ใช้เวลาไม่นานนะสำหรับเรา
ใส่หูฟัง ฟังเพลง มองฟ้า มองกลางทะเล แล้วก็ไม่น่ากลัวแบบสปีดโบ๊ทด้วย ฮ่าๆ

เราว่าไปเสม็ด เสร็จทุกราย คงอารมณ์แบบเราแน่ๆเลย
คือแบบ ไปแล้วอยากกลับไปอีก หลงรักเสม็ดเฉย...
อารมณ์ผู้หญิงอ่อยผู้ชาย แล้วผู้ชายติดกับ ฮ่าๆๆ

หรือมันแปลว่า xxx กันเสร็จอ่ะ 5555555555 
ช่างเหอะ เขิน (-///-)

เอาเป็นว่า เนี่ย,, ครั้งแรกของเราเลย ที่ได้ไปเสม็ด...
ไม่รู้จะชวนยังไง เธอถึงอยากมาที่นี่กัน

เอาเป็นว่า... เหนื่อยก็พัก เขาจะรักหรือไม่รักก็ลองไปทะเลดูนะ 

555555555555555555555
เจอกันใหม่ทริปหน้า ไปละบะบาย




Create Date : 23 พฤศจิกายน 2561
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2561 11:39:36 น.
Counter : 966 Pageviews.

2 comment
✱ พาไปนมัสการ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ฉบับคนนอกพื้นที่ ☺


สวัสดีค่ะ

เมืองพุทธอย่างเมืองไทยเรานั้น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
มีภิกษุสงฆ์ที่มีชื่อเสียงที่เป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนไทยมากมาย

หนึ่งในที่สุดของพระสงฆ์ที่คนไทย รวมถึงคนต่างชาติรู้จักก็คือ
สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์ หรือที่รู้จักกันในนาม หลวงปู่ทวด 

ตำนาน "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" ที่มีมานานกว่า 400 ปี

คุณเคยได้ยินตำนานเรื่องนั้นมาบ้างไหมคะ?
หรือเคยได้ยินเรื่องพระเครื่อง "หลวงปู่ทวด วัดช้างให้" ราคาองค์เป็นล้านบาทกันไหม?

เรื่องของตำนานมายด์ไม่อาจพาย้อนเวลาไปพิสูจน์ได้

แต่สิ่งที่ทำให้มายด์สงสัยคือ ทำไมต้องวัดช้างให้?
หลายวัดก็มีพระเครื่องหลวงปู่ทวด ... แล้วทำไมต้องเป็นวัดช้างให้ด้วย

ทริปนี้ มายด์พาไปวัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี
พาไปไหว้หลวงพระปู่ทวดกันค่ะ



วัดช้างให้ หรือวัดราษฎร์บูรณะ ตั้งอยู่ที่อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี 
ที่ตั้งของวัดอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครฯ ประมาณ 1,032 กิโลเมตร
ซึ่งทริปนี้เราจะบินไปลงกันที่สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ แล้วค่อยขับรถกันไปที่ปัตตานีค่ะ



จากกรุงเทพฯ บินไปหาดใหญ่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ
ทริปนี้รู้สึกโชคดีตั้งแต่เดินทางเลย เพราะว่าได้ชิมขนมจาก After You x AirAsia ด้วย



จากตัวเมืองหาดใหญ่ เราเดินทางต่อกันด้วยรถยนต์กันค่ะ
ไปวัดช้างให้ ปัตตานีระยะทางประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร ขับชิวๆไม่ทำเวลาก็ประมาณ 2 ชั่วโมง

ก้าวขาขึ้นรถขอสารภาพก่อนเลยว่า ... เมื่อได้ยินว่าจะไปปัตตานี
จิตใจคนนอกพื้นที่อย่างมายด์นั้นมีความกังวลค่ะ

รู้สึกกลัวว่าจะอันตรายไหม
ถนนหนทางจะดีรึป่าว ด่านตรวจจะเยอะไหม คิดไปเองเยอะแยะมากมาย



ในอดีตเมืองปัตตานียังเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรลังกาสุกะ
จากหลักฐานที่พบซากเมืองเก่าของยุคนั้นที่ปรากฏให้เห็นทุกวันนี้ที่อำเภอยะรัง

คำว่าลังกาสุกะในภาษามลายูแปลว่า “ช่างมีความสุขความรื่นรมย์”
ชื่อของเมืองก็มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตผู้คนภายในราชอาณาจักร 
จากหลักฐานที่พบว่า ลังกาสุกะเป็นเมืองการค้าชายฝั่งที่มีความมั่งคั่ง สงบสุข 
อุดมสมบูรณ์ไปด้วยข้าวปลาอาหาร ในขณะเดียวกันศาสนาพุทธมหายานก็รุ่งเรือง 
จากหลักฐานพบว่าพระจากเมืองจีนหลายรูปก็แวะพักที่นี่ ระหว่างทางไปกลับ-แสวงบุญจากประเทศอินเดีย

การค้นข้อมูลเมืองปัตตานีมาอ่านทำให้ตื่นตา ตื่นใจมากค่ะ



มาพูดถึงปัจจุบันกันบ้างงง (>_<)
ปัตตานีเป็นหนึ่งจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลตะวันออกติดกับทะเลจีนใต้
ปัตตานียังเป็นเมืองที่มีความงดงาม และลงตัวของ 3 วัฒนธรรมอีกด้วย
ทั้งไทยพุทธ ไทยมุสลิม และไทยจีน



ขับรถมาถึงตรงนี้แล้ว หาข้อมูลอ่านไปเพลินๆเรื่องเมืองปัตตานี
สลับกับฟังเพลงบ้าง มอง 2 ข้างทางบ้าง

คิดขึ้นมาได้ว่า เห้ย! ไม่มีไรเลยนี่นา ...
ความกังวลทั้งหมดก่อนหน้านี้ คือ เราคิดไปเองทั้งหมด!

เมืองปัตตานี ถนนหนทาง ทางเรียบดีเว่อร์
สองข้างทางค่อนข้างสงบ ขับรถไปสัก 15 นาทีถึงจะเจอสิ่งปลูกสร้างที



เนื่องจากปัตตานี เป็นจังหวัด 1 ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่เราพอจะได้ยินข่าวเรื่องความไม่สงบอยู่บ้าง

เมื่อเข้ามาในเขตจังหวัดปัตตานีแล้ว 
จะพบด่านทหารตำรวจคอยตรวจความปลอดภัยอยู่เป็นระยะๆ
คือ... คำว่าระยะๆที่พูดถึง คือไม่ได้มีด่านตั้งอยู่แบบถี่ๆนะคะ
พอมีด่านให้ยังรู้สึกว่าปลอดภัย แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น



อย่างที่ชมไปล่ะค่ะว่าถนนดี 
ส่วนเส้นทางที่ขับมาก็มีความสะดวกมากๆเลยค่ะ
เพราะว่าเราให้ Google Map นำทางเรา 55555

ถ้าพูดถึงในกรณีที่ไม่มี Application นำทาง การมาวัดช้างให้ก็ไม่ได้ลำบากนะคะ
เพราะว่าตลอดเส้นทาง ก็จะมีป้ายบอกทางอยู่ ไม่หลงแน่นอน



วัดช้างให้เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในจังหวัดปัตตานี สร้างขึ้นมานานกว่า 300 ปี
ตามตำนานกล่าวว่า... เจ้าเมืองไทรบุรีในสมัยนั้นต้องการสร้างเมืองใหม่ให้น้องสาวครอบครอง
ก็เลยเสี่ยงอธิษฐาน แล้วปล่อยช้างคู่บ้านคู่เมืองออกเดินเพื่อหาทำเลดีๆในการสร้างเมืองใหม่
วันหนึ่งช้างได้ทำการหยุดเดิน ณ บริเวณที่เป็นวัดช้างให้ในปัจจุบัน 
จากนั้นช้างก็ร้องขึ้น เจ้าเมืองเห็นเป็นสัญญาณที่ดีที่จะสร้างเมืองใหม่บริเวณนี้
แต่ก็ไม่ได้สร้างเมืองใหม่ ณ ตรงนั้นนะคะ เพราะว่าน้องสาวไม่ชอบที่บริเวณนี้ 
เจ้าเมืองจึงให้ช้างเดินต่อ ...
ส่วนบริเวณที่ช้างร้องก็ได้สร้างวัดขึ้น จึงเป็นที่มาของ "วัดช้างให้"

ตามตำนานยังกล่าวว่า 
ท่านเจ้าเมืองยังได้กราบนิมนต์หลวงปู่ทวด 
ซึ่งขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่เมืองไทรบุรีมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดนี้อีกด้วย



ก่อนที่มาถึงวัด... ความเข้าใจของเราคือ วัดช้างให้เป็นวัดที่มีชื่อเสียง 
มีพระเครื่ององค์เป็นสิบๆล้าน ต้องเป็นวัดที่มีความโอ่อ่า ใหญ่โตแน่ๆ
แต่พอมาถึงวัดจริงๆ คนละเรื่องกับสิ่งที่เราคิดเลยค่ะ

วัดช้างให้ เป็นวัดที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่นัก มีความสงบมากๆ
ถึงแม้จะเป็นวัดดัง แต่คนที่แวะมากราบไหว้หลวงปู่ทวดที่ปัตตานีนั้นยังคงมีอยู่เรื่อยๆค่ะ
คือ... ไม่ได้มีคนที่แวะมาเยอะเท่าวัดดังอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้น้อยแบบเงียบจนน่ากลัวค่ะ
เรามาถึงวัดประมาณบ่ายๆ จากที่เราสังเกต คนจะทยอยมาเรื่อยๆนะคะ 
ทั้งคนในพื้นที่เอง และคนจากจังหวัดใกล้เคียงค่ะ (เราสังเกตจากป้ายทะเบียนรถเอานะ)

ส่วนตัววัดเองด้านหน้าอยู่ติดกับทางรถไฟสถานีวัดช้างให้ค่ะ
ด้านหน้าวัดมีวิหารที่ประดิษฐานรูปหล่อเหมือนหลวงปู่ทวด และสถูปบรรจุอัฐิหลวงปู่ทวด
เมื่อเดินเข้ามาถึงในวัดจะเห็นเจดีย์ที่กำลังทำการบูรณะอยู่ค่ะ ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่



สำหรับการกราบไหว้ขอพรหลวงปู่ทวด
สามารถจุดเทียนจุดธูปได้ที่บริเวณหน้าวิหารสมเด็จหลวงพ่อทวด
ส่วนแผ่นทอง และดอกไม้สามารถนำเข้าไปสักการะภายในวิหารได้ค่ะ





ภายในวิหารสมเด็จหลวงพ่อทวด
จะมีรูปหล่อเหมือนหลวงปู่ทวดอยู่ตรงกลาง พร้อมทั้งบทสวด เซียมซี และพานสำหรับวางดอกไม้
ส่วนความกว้างของวิหาร จากการคาดคะเนของเราคิดว่าเต็มที่น่าจะจุคนได้ 15 คน



ภายในวิหารด้านซ้ายมือก็จะมีรูปหล่อหลวงปู่ทวดสำหรับแปะทอง


สำหรับการจุดประทัดที่วัดช้างให้ เราไม่แน่ใจว่ามีความเชื่ออะไรหรือเปล่า?
แต่เราอยากจุดแค่นั้นเอง 55555555


ที่วัดจะมีเด็กๆในพื้นที่คอยช่วยจุดประทัดด้วยค่ะ
ก่อนจุดประทัดน้องๆบอกว่า พี่ต้องไปสวดมนต์และขอพรที่หน้าหลวงปู่ทวดก่อน



จากนั้นน้องๆจะพาเรามาที่ช้างตัวใหญ่สีขาวที่อยู่ด้านหน้าวัด
ให้รอดใต้ท้องช้างโดยเริ่มจากขาหลังก่อน รอดมาออกที่ด้านหน้า
เค้าว่ากันว่า ถ้าผู้หญิงรอดจะทำให้คลอดลูกง่าย และลูกที่เกิดมาก็เลี้ยงง่ายด้วยค่ะ



สำหรับประทัดสีแดงๆนั้น น้องๆจะเป็นคนจุดให้เรานะ
สิ่งที่ได้มาหลังจุดประทัดคือผ้าสีแดงๆ เขียนว่า มั่งมีศรีสุข
ส่วนเรื่องให้เงินน้องไหม น้องก็ไม่ได้ขอทิปนะ แต่เราให้เอง 55555555



จากนั้นก็เอาผ้าแดงๆ ที่ได้จากประทัดเมื่อกี้มาผูกไว้ที่ต้นไม้ค่ะ
ไม่แน่ใจว่าทำไม แต่เราเห็นเค้าทำ เราก็ทำ (>w<) 5555555

เสร็จสิ้นแล้ววว คิดว่ารอบวัดแล้วล่ะ
อ้อ! ใครอยากเช่าบูชาหลวงปู่ทวดที่วัดก็มีนะคะ
อาคารสำหรับเช่าพระจะอยู่ตรงข้ามกับวิหารสมเด็จหลวงพ่อทวด



เนื่องจากเราไม่รีบ เราเลยนั่งพัก นั่งอ่านประวัติวัดอยู่นั้น
เสียงปู๊ดๆๆ ก็มา...........

เราดีใจมาก เราไม่ได้เห็นบรรยากาศแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ > <
รีบวิ่งไปถ่ายรูปไว้เลย แบบชอบมากกกกก
คือวัดสงบมาก แล้วก็มีคนไฟผ่าน มาจอดหน้าวัดอีกกกก



ลองไปเดินเล่นสถานีรถไฟวัดช้างให้กันค่ะ
ไม่ไกลจากประตูทางเข้าวัดเลย สามารถเดินทางมาวัดช้างให้โดยรถไฟก็ได้นะคะ
นอกจากนี้แล้ว หน้าวัดยังมีรถตู้ไปหาดใหญ่อีกด้วยค่ะ ใครไม่สะดวกขับรถก็สามารถมารถตู้ได้
สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟ และรถตู้ต้องเช็ดเวลาก่อนมานะคะ เพราะเค้าไม่ได้มีรอบรถทั้งวัน



พามาไหว้พระ ไหว้หลวงปู่ทวด มาเที่ยววัดพุทธในปัตตานี 
อย่างเราฉบับคนนอกพื้นที่ด้วย เดินทางตอนกลางวันไม่น่ากลัวเราพูดเลย

ถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวไม่ว่าจะเป็นปัตตานี ยะลา หรือนราธิวาส
เราก็อยากให้เปิดใจ ละลองมาเที่ยวที่นี่ดูนะคะ

ทริปนี้เอง ทำให้เรามองเห็นเมืองไทยในอีกมุม
มุมที่เราเคยมองว่าน่ากลัว มุมที่เราสัมผัสได้แค่คำบอกเล่าในโทรทัศน์
แค่เรามาวัดช้างให้ เราอาจได้เห็นเพียงเสี้ยวเดียวของปัตตานี
แต่เป็นเสี้ยวที่หักมุมในความคิดเรามาก
เพียงเสี้ยวเดียวเท่านี้ ทำให้เราได้คิดอะไรมากมาย
เราก็อยากแบ่งปันเสี้ยวเล็กๆ ให้อีกหลายคนที่ไม่เคยเห็นภาพในมุมนี้ของปัตตานี

ก็อย่างที่เราบอกล่ะ
ถึงเราจะมาเที่ยวที่ปัตตานีเป็นทริปสั้นๆ เราก็สัมผัสได้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่มีเสน่ห์
มีวัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งผสมผสานความหลากหลาย

ขอให้พระคุ้มครองค่ะ
เจอกันใหม่ทริปหน้า บะบาย ❤



Create Date : 17 ตุลาคม 2561
Last Update : 17 ตุลาคม 2561 15:14:34 น.
Counter : 2035 Pageviews.

1 comment
✱|| Gold Coast - Brisbane ||- We've only been there once.


just keep in mind
Gold Coast & Brisbane - 3 days 2 nights

รีวิวนี้ 
มีแต่ความรู้สึกเรา ความทรงจำเรา ความประทับใจของเรา
แถม resize รูปซะเล็กมากนะ บอกไว้เลย 555



 โกลโคส - บริสเบน รัฐควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย
เมืองที่ใครหลายคนบอกว่าเงียบ ...
จริงๆมันก็เงียบจริงๆละ แต่เราชอบนะ 

ทริปนี้สำหรับเรา จะเป็นทริปที่ใจว้าวุ่นไปสักนิด
จริงๆ ตอนนี้เค้าแทบไม่อยากจะเขียนถึงทริปนี้ด้วยซ้ำ
แต่อีกใจนึงเราก็บอกกับตัวเองว่า 
โกลโคส - บริสเบนเป็นอีกเมืองในออสที่เราชอบ
เขียนเถอะ ถึงมันจะออกมาเศร้าๆหน่อยก็ตาม


เราบินมาจากเมลเบิร์น มาลงที่โกลโคสใช้เวลาประมาณเกือบๆ 3 ชั่วโมงได้
เราบินไฟล์ทเช้า จะได้ถึงไวไว ไปเที่ยวกัน แต่เราดันเกิดปัญหา check-in ไม่ได้
วุ่นวายมากๆ อารมณ์เสียมากตั้งแต่เมลเบิร์น

ส่วนอีกคนบินมาจากกรุงเทพ ต่อเครื่องที่มาเลฯ และมาลงที่โกลโคส
นั่งเครื่องหลายชั่วโมงเลยเนอะเพื่อมาเจอกับเรา

แต่มาถึงเรากลับอารมณ์ค้าง ปรับไม่ทัน อารมณ์เสียใส่เขาซะงั้น
..........................................

ว่ากันเรื่องของสนามบินโกสโคล เป็นสนามบินเล็กๆ 
เรากะไม่ถูกว่าประมาณสนามบินไหนของบ้านเรา
แต่เอาแน่ๆคือ เป็น international airport ที่เล็กกว่าสนามบินดอนเมืองอีก



แต่การเดินทางเค้ากลับสะดวกกว่าเรามากๆ มีบัตรเดียวพอ
จะขึ้น bus ขึ้น tram ขึ้น boat ขึ้นอะไรก็ด๊ายยยย


Glod Coast เมืองฟ้าใส แสงสวย ชายหาดและนักกล้าม
ก่อนหน้านี้เราจินตนาการภาพไม่ออกว่าโกลโคสนี่มันยังไงกันหรอ?
คิดว่าเมืองชายหาดเล็กๆ คงไม่มีอะไรให้เที่ยว
เราเลยวางแผนอยู่ที่นี่แค่ 2 วัน 1 คืนเท่านั้น 
แต่เอาเข้าจริงคือ โกสโคลสามารถอยู่ท่องเที่ยวได้เป็นสัปดาห์ๆเลย
เพราะมีทั้งสวนสนุก ชายหาด กิจกรรมให้ทำเยอะแยะ หรือจะเลือกแค่พักผ่อนเฉยๆก็ได้





เราชอบเมืองนี้นะ ทั้งๆที่อากาศที่เมลเบิร์นยังหนาวอยู่
โกสโคสกลับอบอุ่น ฟ้าใส ฝนไม่ตก และเป็นเมืองที่ผู้คนแต่งกายยัง sexy สุดๆ
ใครนึกไม่ออก ลองนึกภาพแคลิฟอเนียเอาก็ได้(มั้ง)
แต่ผู้คนจะน้อยกว่าที่นั้น 40% เลย 55555 





วัยรุ่นที่นี่เอ่ะอะโชว์ซิกแพค เอ่ะอะชุดว่ายน้ำ 
และเราเพิ่งรู้ว่าหลายแบรนด์ที่ขายที่ไทยเป็นแบรนด์ที่นี่



โกลโคสเดินทางสะดวกมากนะ ใช้รถรางเดินทางง่าย
ช่วงที่เราไปอ่ะ ทำไมผู้คนน้อยก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะมันยังไม่ summer ก็ได้

เนื่องจากเราอยู่โกลโคสแค่ 2 วัน 1 คืนเท่านั้น
เวลาส่วนใหญ่ที่เราใช้ไปคือ ชายหาดและห้องพัก
ใครมาเที่ยวออสเตรเลีย เราแนะนำให้เช่าห้องแบบอพาทเม้นท์เซอร์วิสนะ











ห้องที่เขาคนนั้นจองไว้ ดีมากกกกกกกกกเลยนะ ดูวิวสิ
เราเป็นคนชอบมองวิวมากๆ มองแม่น้ำ มองทะเล
มองที่โล่งๆ มองไปไกลๆ เปิดเพลงละนั่งมองวิว เรามองได้ทั้งวันเลย

อ๋อ! ลืมบอกเรานอนแถว southport อยู่ไม่ไกลจากเมืองเลย
เห็นตึกในรูปนั้นไหมๆ พวกตึกสูงๆนั้นอ่ะ เมือง





ลืมบอกว่า อพาทเม้นท์เซอร์วิสจะมีพวกเครื่องซักผ้า และอุปกรณ์ครัวครบเลยนะ
ใครทำอาหารเป็นจัดเลยจ้า อยากซักผ้าก็ย่อมได้ มีผงซักฟอกให้อีก



มากินกันบ้างงง ... มาทะเลต้องไปกินไอติมมมมม 
Gelatissimo หาได้ทั่วไปในออสเตรเลียเค้าหล่ะ
ไอติม กับริมทะเลเป็นอะไรที่... หกเลอะเทอะไปหมด 555



ใครชอบโดนัทชิ้นใหญ่ๆ ไปกินโดนัทไทม์กัน
โดนัทที่นี่น่ารักมากเลยน้าา ชื่อของแต่ละชนิดอ่ะ น่ารักมากๆ
ไม่บอกให้ไปลองกินกันเอง 55555 (ไม่บอกเพราะจำไม่ได้)

เออ แล้วไปทะเลฝรั่ง
อย่าไปถามฝรั่งเชียวนะว่ากินอะไรดี คำตอบร้อยทั้งร้อยจะเป็น fish and chips



อยากกินเบอร์เกอร์ อยากกินเฟสฟายไม่รู้จะกินที่ไหนดี
ไปที่นี่เลย Betty's Burgers จ้าา หาได้ทั่วไปในออสเตรเลียอีกแล้ว 555
ร้านนี้ชุดพนักงานเสิร์ฟน่ารักมากๆ ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นซะด้วย

เอาจริงคือ ทริปนี้เราพยายามไม่เลือกร้านเลยนะ
เพราะเราห่วยแตกเรื่องการเลือกเมนูเอามากๆ ไม่มีสัญชาตญาณทางนี้เลย



ได้เวลาเดินทางกันต่อ โชคดีที่มีคนเดินทางด้วยนะเนี่ย
ตอนที่เราอยู่ที่ออสฯ เราไปไหนมาไหนคนเดียวบ่อยมากกกกก
ไปคนเดียวมันมีข้อดีเยอะมากนะ แต่ไปหลายคนก็สนุกกว่า (^_^)

เดี๋ยวเราจะนั่งรถไฟ ไปบริสเบนกันจ้าา
แต่! จากเมือง เราต้องนั่งบัสออกไปที่สถานีรถไฟกันก่อน



ถ้ารถไฟยังไม่มาก็ต้องนั่งรอนะ ไม่รู้ทำไมยังไง ลมที่นี่แรงมากๆ
ระหว่างนั่งรอ เราก็ถ่ายรูปตัวเองเล่นไป
เพราะจากโกลโคสไปบริสเบนใช้เวลา ชั่วโมงกว่า...
ค่อยไปหลับบนรถไฟ ฮ่าๆๆๆๆ



ถึงแล้ววววว บริสเบน



จากสถานีรถไฟ เราก็เรียกอูเบอร์เอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมก่อน
แอบเคืองนิดนึงคือ จ่ายเงินสดที่โรงแรมแล้วไม่ยอมเอาตังค์มาทอน ประมาณ 5$ ได้



โรงแรมเราอยู่แถว kangaroo point ดีมากเลยสวยมากเลย
ไม่ไกลจากเมือง เดินไปได้ อากาศที่บริสเบนดีมากๆ ท้องฟ้าสดใส
เราจำบรรยากาศที่เราเดินเล่นวันนั้นได้อยู่เลย



อากาศสดใส ท้องฟ้าเปิด ท้องฟ้าที่ออสฯเป็นอะไรที่เราชอบมากๆ
ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า ไม่ขุ่วมัวเหมือนท้องฟ้าเอเชียทำไมก็ไม่รู้อ่ะ

แล้วระหว่างที่เราเดินอยู่ ...
มีคุณตาคุณยายคู่นึงออกมาเดินเล่น เค้าขอให้เราถ่ายรูปให้
เค้าบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณตา อยู่ด้วยกันมากี่ปีแล้วนิแหละ
เราจำตัวเลขไม่ได้ แต่เราจำความรู้สึกนั้นได้อยู่เลยว่ามัน amazing มากๆ ปิติอ่ะ







ทางเดินเท้าที่ออสเตรเลีย เรายอมรับเลยว่าทำมาดีมากๆ
ทำมารองรับคนเดินทางด้วยเท้า เดินทางด้วยรถสาธารณะ
อากาศดี ทางเดินดี เราก็อยากเดินใช่ไหมล่ะ สุขภาพดีอีกด้วย







CBD ของบริสเบน เล็กมากเลย 55555
เรายืนอยู่ฝั่ง cbd มองไปฝั่ง South bank
อีกแปปเราก็จะเดินไปฝั่งนู่น เสร็จก็เดินวนกลับมาฝั่งนี้
เดินวนไปค่ะ ไม่รู้ว่าวนหรือว่าหลง (> <)





และแล้วเราก็เดินมาหยุดที่หน้าคาสิโน คาสิโนสวยๆมีตลาดมาเปิด
เราเลยหาของกินกันก่อน เติมพลังเพราะวันนี้เรายังไม่ได้กินอะไรเลย
ฮอทดอกบิ๊กบึ้มจากประเทศอะไรอ่ะ เยอรมันหรืออิตาลี่ หรืออะไรสักอย่าง 555
ข้อดีของออสเตรเลียอีกอย่างคือ! เราจะได้กินอาหารจากหลากหลายชนชาติ
มันอร่อยจริงๆนะชิ้นนี้ เขาชอบกินไส้กรอกด้วย เลยชอบมากไปกันใหญ่



กินของคาวแล้ว ต้องหาอะไรดับกลิ่นในปาก 5555
เราชอบ Boost มากกกก ชอบ watermelon อะไรของเค้าสักอย่าง
อร่อยมากกกกกกกกก ต้องที่นี่เท่านั้นนะ เรากินที่มาเล อร่อยไม่เท่า!
ดีใจมากก ทริปนี้เราเหมือนเป็นเด็กอ่ะ งอแงๆ หิวๆ





CBD ที่นี่คือ เดินทั่วถึงกันหมดแหล่ง shopping ก็รวมตัวกันหาง่าย
ใครจะมาเรียนต่อที่ออสเตรเลียเราว่าบริสเบนเป็นเมืองที่น่าสนใจนะ
ยกเว้นบางคนก็อาจจะบอกว่าเงียบเกินไป 55555 อันนี้ก็จริง






ก่อนที่เราจะเดินไปเที่ยวต่อ เรามากินแพนเค้กกัน
ร้านนี้! หาได้ในออสเตรเลียเหมือนกันจ้า แต่เหมือนว่าสาขานี้เป็นต้นตำหรับนะ
จริงๆร้านนี้ต้องมากินแพนเค้ก แต่เรากลับสั่งเครปซะงั้น 555555
ทำไมเป็นคนแบบนี้ละมายด์



ข้ามฝั่งมาแล้ววว ห่างกันเพียงสะพานกั้นเอง
มาฝั่ง South Bank เหมือนจะไม่มีอะไร แต่จริงๆมันสวยมากๆเลยนะ
ฝรั่งเค้าก็พาลูก พาหลานมาเดินเล่น ทำกิจกรรม



บางทีการที่เราอยู่นอกเมืองละมองเข้าไปในเมืองก็ดีเนอะ
จะเห็นความวุ่นวายต่างๆ แต่มันก็สวย มีเสน่ห์ในตัวเองไปอีกแบบ
เหมือนเวลาคนเรามีปัญหาอ่ะ ถ้าเรามัวแต่จมอยู่ในปัญหา
เราก็อาจจะมองไม่เห็นปัญหา...
พอได้ลองก้าวออกมา มองย้อนกลับไป
อืม... ปัญหาหลายอย่างมันก็เยอะจริงด้วย รอวันถูกแก้ไข
ถ้าแก้ไขได้ ก็แก้กันไป สู้กันไป
ถ้าแก้ไม่ได้ ก็คงปล่อยมัน

อย๊ากกกกกกกกก ทำไมลามมาเรื่องนี้ได้ ไปๆ ไปกันต่อ 555



เออ อย่างนึงที่เราสงสัยคือ ไอเจ้าชิงช้าสวรรค์เนี่ย
ใครเป็นผู้นำเทรนด์การนำมันมาตั้งริมโค้งน้ำ!
ต้องโค้งน้ำด้วยนะ บ้านเราก็มีเนอะที่เอเชียทีค
ในความคิดเรานะ เราว่าลอนดอนอาย คือผู้นำเทรนด์นี้!



กลับเข้าเมืองกันเถ๊อะ .......
เรากลับเข้าเมืองโดยบัส แต่! บัสทำเราหลง 5555

เราหลงไม่พอ แบตเราหมด!
ไม่มีกูเกิลแมพแล้วทำไงดีๆๆๆๆ



โชคดีที่เขาจำทาง เย้เย้ๆ ค่อยๆไปตามทาง
มาจบที่เรือข้ามฝาก! ที่นี่ดีมากเลยตรงที่มีเรือฟรีด้วย
และเขาก็พาเรากลับโรงแรมได้อย่างปลอดภัย 55555



ตื่นเช้าตรู่มานั่งรถไฟไปสนามบินจ้าาาา
เดี๋ยวเราจะพาเขาไปเที่ยวกันต่อที่เมลเบิร์น

สำหรับ 3 วัน 2 คืนที่โกลโคสกับบริสเบนสนุกมากในความทรงจำของเรา



ขอบคุณนะ xx




Create Date : 24 สิงหาคม 2561
Last Update : 24 สิงหาคม 2561 18:43:06 น.
Counter : 1537 Pageviews.

✱ 5 สถานที่ต้องไปถ่ายรูป ลงให้โลกรู้ว่าไป | Sydney | แล้ว!


Hi! how's it going?

ช่วงนี้เป็นยังไงกันบ้างคะ?
ปีนี้ผ่านมาถึงสิงหาคม จวนจะเข้ากันยายนเดือนเกิดของมายด์แล้ว

วัน เวลา ผ่านไปไว ....
ใครยังไม่ได้ทำอะไร รีบทำนะคะ
ก่อนที่จะหมดไปอีกปีนึง <3

ครั้งนี้ มายด์จะพาไปเที่ยวในเมืองซิดนี่ย์กันค่ะ
ช่วงเวลานี้ที่ออสเตรเลียจะเป็น winter หนาวๆเย็นๆฝนตกๆ
แต่ที่ซิดนี่ย์อากาศจะไม่ได้หนาวรุนแรงเท่าไหร่ ใส่เสื้อแขนยาว สบายๆชิวๆ

ซิดนี่ย์เป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของออสเตรเลียเค้าล่ะ!
พร้อมแล้วก็! ไปกันเลยยยย (^_^)/



ประเทศออสเตรเลีย จะค่อนข้างโดดเดี่ยวนิดนึงนะคะ
เนื่องจากเป็นประเทศที่ถูกแยกตัวออกมาจากทวีปเอเชีย
ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบเรียบ มีชายฝั่งทะเลที่มีความยาวววหลายพันกิโลเลย

ส่วนเวลาเนี่ย! ในช่วงหน้าหนาวจะไวกว่าเมืองไทย 3 ชั่วโมง
ส่วนในหน้าร้อนจะมีการ +1 ชั่วโมงเรียก Daylight saving time
พระอาทิตย์ตกกัน 3-4 ทุ่มนู่นนนน ดี๊ดี



สำหรับใครที่มาเที่ยวซิดนี่ย์ มายด์ไม่แน่ใจนะคะ
ว่านั่งเครื่องกี่ชั่วโมงจากไทย เพราะว่ามายด์นั่งเครื่องมาจากเมลเบิร์นประมาณ 2 ชั่วโมงได้
ค่าเครื่องบินในประเทศ low-cost ก็อยู่ที่ประมาณหลักพันบาทไม่แพงค่ะ



เอาจริงๆคือ ไม่ได้มาพาเที่ยวอะไรเลยค่ะ
แต่จะพาไปถ่ายรูปกัน!

ไปดูกันว่า สถานที่สุดฮอต! ที่มาซิดนี่ย์แล้วต้องไปถ่ายรูปเก็บไว้มีอะไรบ้าง



 1 Sydney opera house ที่ฮอตฮิต!  

ใครมาซิดนี่ย์ แล้วไม่ได้มาถ่ายรูปที่นี่คือเหมือนไม่ได้มาค่ะ 5555
คนเยอะ นกแยะ! ใครอยากได้รูปสวยๆที่นี่ มายด์แนะนำว่าต้องใช้เวลาค่ะ
จริงๆนั่งหาอะไรกินชิวๆ มองผู้คน มองนก มองทะเลก็มีความสุขดีนะ

แต่ถ้ามาช่วงเทศกาล ที่นี่คนจะเยอะมากๆค่ะ ยิ่งมีงานจุดพลุด้วยคนเป็นหนอนกันเลย




  2 Darling Harbour  
ท่าเรือที่มีเรือมาจอดเยอะมากๆ เดินไปเรื่อยๆจะเจอพวกเรือเก่าๆ
เรือที่เอาจอดไว้ให้เข้าเสียค่าชม ...
เดินเลยไปอีกก็จะเจอป้ายแนะนำเรื่องประวัติศาสตร์ด้วย
ประมาณว่าสมัยก่อนที่เค้าอพยบกันมา
จากเอเชียก็ดี ยุโรปก็ดี เค้ามาลงกันที่ท่าเรือบริเวณนี้
แถวนี้ก็เป็นอีกที่ๆมีคาเฟ่ให้นั่งเยอะนะคะ อากาศดีๆนั่งหาอะไรกินชิวๆ
ถ่ายรูปเรือ ท่าเรือ มองทะเล ท้องฟ้า ก็เป็นอีกทางเลือกที่อยากให้มากันค่ะ



  3 Harbour bridge  
สะพานเหล็กถักทรงโค้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นอีกหนึ่งจุดที่มองเห็นจากโอเปร่าเฮ้าส์ค่ะ
บอกเลยว่า ถ้าเราข้ามสะพานมาเรื่อยๆ จะเจอจุดที่สามารถมองเห็นที่ 2 แหล่ง
แถวนี้ดูเหมือนจะเป็นพวกสวนสาธารณะนะคะ เช่นเคยคือมาคาเฟ่เยอะ
อ๋อ! อีกอย่างนึงของซิดนี่ย์ที่โด่งดังคือ อาหารไทยนะคะ
ซิดนี่ย์มีร้านอาหารไทยเยอะมาก! 
ใครคิดถึงบ้านก็แถวๆนี้มีอยู่หลายร้านนะ มายด์เห็น 



  4 Bondi Beach  
ใครที่ชอบเอาหน้าโต้ลม สูดกลิ่นทะเล มองท้องฟ้า มองฟองคลื่น
แนะนำที่นี่เลยค่ะ บอนไดบีช! อีกอย่างคือคนเค้าชอบมาเล่นโต้คลื่นกัน
แนะนำว่าให้เอาผ้ามาปูนั่งบริเวณหญ้าแบบนี้นะคะ
นั่งตากแดด อ่านหนังสือ ฟังเพลงที่นี่ ชิวมากๆเลยค่ะ
หรือจะแอบส่องฝรั่งโต้คลื่นก็ขำๆไปอีกแบบนะ (^_^)



อีกกิจกรรมที่ควรอยู่ทำที่บอนไดบีช คือนั่งรอดูพระอาทิตย์ตกค่ะ!
รอบๆบอนไดมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ รวมไปถึงซุปเปอร์มาเก็ต
ให้หาซื้ออะไรมานั่งกินไปชิวไปกับบรรยากาศได้เลย
โดยเฉพาะไวน์ถูกมากกกกก มาออสต้องซื้อไวน์เด้อ <3



5 CBD Sydney  
เข้ามาเดินในย่านธุรกิจของซิดนี่ย์กันคร่าาาาา
ถ่ายในเมืองให้ดูชิคๆ คูลๆ อย่าลืมแต่งตัวมาให้ถูกงาน 555
การถ่ายในเมืองข้อดีของมันคือ สถาปัตยกรรมที่แปลกตา 
อย่าลืม เลือกมุมที่ไทยเราไม่มีนะคะ จะดูชิคขึ้นไปอีก


หมดแล้ววววว 5 สถานที่ ที่มายด์อยากมาแนะนำให้ไปกัน
เดี๋ยวก่อนๆ มีอีกที่นึง เพื่อนแนะนำมาาาาา



  Cow and The Moon  
“World’s Best Gelato” Found In An Unassuming Shop In Sydney
เป็นไงล่ะ คำโปรยยยย! ร้านไอติมเจลาโต้ที่ดีที่สุดในโลกกกก
ใครชอบกินไอติมแวะไปกินกันได้นะคะ วิธีไปก็ง่ายๆคือไปด้วยกูเกิลค่ะ 555
ไม่รู้จะกินรสชาติอะไร สามารถขอชิมได้ก่อนน้าาา
ร้านนี้ไม่ได้มีแค่ไอติมนะคะ เค้กก็มี กาแฟก็มี ลองแวะไปได้ ร้านเล็กๆน่ารัก (^w^)

ครั้งหน้าจะพาไปไหนอีก ตามมาอ่านกันด้วยน้าาาา
รัก.





Create Date : 20 สิงหาคม 2561
Last Update : 20 สิงหาคม 2561 19:07:40 น.
Counter : 927 Pageviews.

0 comment
1  2  3  

sweetie_mild
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



ชื่อมายด์นะคะ

❥ วิศวกรโยธา
❥ ชอบแต่งหน้า
❥ ชอบกิน กินเยอะด้วย
❥ ชอบถ่ายรูป หลงใหลกล้องฟิลม์
บางครั้งก็ to be a backpacker ☺

มีเพจด้วย ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ

( /) ❤
( . .)/
c(”)(”) มี facebook fanpage ด้วย
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ IG : sweetie_mild ♥ ♥ ♥ ♥ ♥