สิ่งที่ผ่านไป...เหลือไว้ในความทรงจำ
กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ต้องไปทำงานที่แม่ฮ่องสอน เป็นการไปแม่ฮ่องสอนครั้งที่สาม แต่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสแวะเที่ยวบ้าง ดูรูปกันเลยละกันนะคะ ^O^ลาด้วยรูปตัวเองสักนิดละกันนะคะ
ภูเก็ต...กินแหลก..ภาคต่อ
จากครั้งก่อนที่พาไปกิน กิน และกิน ในวันแรกแล้วมาต่อกันเลยนะคะ..แต่ครั้งนี้คงไม่ละเอียดเท่าไหร่ เพราะจำไม่ค่อยได้แล้วค่ะ เน้นดูรูปละกันเนอะ เริ่มจากมื้อเช้า บุฟเฟ่ที่โรงแรมชิโนฯ อาหารก็ไม่เยอะ ไม่น้อยจนเกินไป (สำหรับเรานะคะ) คุณเพื่อนจัดให้ถ่าย..แบบนี้ค่ะ น่าทานไหมคะ..อีกจานละกัน มาต่อมื้อกลางวันกันเลย...ร้านระย้า...บรรยากาศเก่าๆ ได้ใจเลยค่ะ จานแรก..ขนมจีน น้ำยาปู..รสชาติกลมกล่อมดีค่ะ...แต่สำหรับเราที่ไม่ค่อยกินเผ็ด จะค่อนข้างจัดไปนิดนึง...แต่ the gang ร่วมโต๊ะมีความสุขกับจานนี้กันดี อาหารขึ้นชื่ออีกอย่าง..หมูฮ้องคล้ายๆ หมูพะโล้ แต่เคี่ยวนานกว่า รสออกหวานๆ ค่ะ อร่อยดีน้ำพริกกุ้งเสียบ..พร้อมผักแกล้มตามด้วย..ข้าวผัดระย้าสนนราคา.....เอ่อออ จำไม่ได้แล้วน่ะค่ะ ขอโทษทีนะคะ คิดซะว่าแวะผ่านมาดูรูปเล่นๆ กันนะคะ จ่ายเงินแล้ว..แต่ขอถ่ายรูปกันในร้านก่อน (ฝนตก..เลยไม่มีลูกค้าใหม่เข้ามา สบายพวกเราแฮ.... )เจ้าของร้านใจดี..แถมมะม่วงหวานๆ อร่อยๆ ให้กินล้างปากด้วย ขอบคุณนะค๊าจากมื้อกลางวัน...ก็ข้ามมามื้อเช้าอีกวันเลยนะคะเพราะเย็นวันนั้น ไปกินส้มตำท่ามกลางสายฝน เลยไม่ได้รีวิวค่ะ มื้อเช้าโดยฝีมือคุณเพื่อนเช่นเดิม...บุฟเฟ่ที่โรงแรมเซนทารา กะรน (เอ..หรือกะตะ ไม่แน่ใจแล้วอ่ะค่ะ )บุฟเฟ่ที่นี่มีให้เลือกเยอะเลยค่ะของหวานจากนั้น..ตามแผนคือคุณเพื่อนอยากไปซื้อขนมเปี๊ยะที่ อ.ตะกั่วป่า พังงา (ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่ามันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ )แต่พอดูระยะทางแล้ว..ไกลเกินไปไม่ไหวอ่ะ กลายเป็นขับรถเล่นไปพังงา..กันซะงั้นน่ะค่ะ กว่าจะไปถึงก็เกือบๆ บ่าย 3 ...เราก็โมโหหิวสุดฤทธิ์ หน้าตูมจะกินคนทั้งรถได้แล้ว คุณเพื่อนเลยต้องรีบหาร้านดับโมโหให้..ได้ร้านริมชายทะเลเล็กๆ รสชาติก็..ไหวน่ะ..แต่อารมณ์นั้นวิเคราะห์ไม่ได้เท่าไหร่หรอกค่ะ เพราะหิวมากกก จบดื้อๆ แบบนี้ละกันค่ะ เพราะหลังจากมื้อนี้ ก็เข้าเมืองเพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่องแวะเวียนมา ก็ทักทายไว้ได้นะคะ
ทริปภูเก็ตหนนี้...มีแต่กินกับกิน
ย่างเข้าสู่เขตฤดูฝนพรำ .....ยินดีต้อนรับเข้าสู่หน้าฝน และช่วง Low Season ของการเที่ยวทะเลจ้า ช่วงนี้เป็นช่วงทองของคนเบี้ยน้อย..น้อยเช่นเรา หน้าฝนปีนี้....ยินดีต้อนรับสู่....ภูเก็ต...ไข่มุกแห่งอันดามัน ทริปนี้ ก่อนไปเราก็คิดว่าคงเป็นทริปเที่ยวธรรมดาๆ กับ the gang เหมือนทริปเชียงรายเมื่อปลายปีที่แล้วแต่......ม่ายช่ายเลย ทริปนี้กลายเป็นทริปเชลล์ชวนชิมไปซะงั้น เรื่องของเรื่องก็ไม่ใช่อะไรหรอก..หัวหน้าทัวร์อาม่าเจ้าเดิม..ช่วงนี้ทำงานเกี่ยวกับอาหาร เลยเอาความชอบส่วนตัว + หน้าที่การงาน รีวิวข้อมูลร้านอาหารมาให้เพียบ แถมมีสโลแกนประจำตัวว่า ถ้าไม่ไปร้าน....นี้ เดี๋ยวมาไม่ถึงภูเก็ตนะ ทำเอาลูกทัวร์แทบกลิ้งกลับมากันเลยทีเดียวเชียว ..... พูดมาซะนาน..เดี๋ยวจะหาว่าโม้มากเกินไป เริ่มเดินทางกันเลยละกันการเดินทางครั้งนี้..เราใช้บริหารเจ้าหางแดงจากสุวรรณภูมิ-ภูเก็ตค่ะจากนั้นก็เช่ารถที่สนามบิน..หนนี้ได้ Civic ...แล้วก็เพิ่งรู้ว่าประหยัดน้ำมันมากกกกก ร้านแรกที่เรามาถึง...ติ่มซำ ร้านบุญรัตน์...ร้านนี้มีด้วยกันหลายสาขานะคะ สาขาที่เราไปเป็นสาขาที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับห้างโรบินสัน (ภูเก็ต) และตลาดสด (เช้า) ตอนที่ไปถึงประมาณ 9 โมงกว่า ติ่มซำมีให้เลือกน้อยแล้ว แถมซาลาเปาหมดอีกต่างหาก ......เราไม่ต้องสั่งติ่มซำเลยนะคะ เพราะพอนั่งที่โต๊ะเค้าจะเอาทุกแบบที่มีมาเสิร์ฟ ถ้าเราไม่กิน ก็แยกไว้ แล้วเค้าก็ไม่คิดเงิน (แต่พวกเรา..เค้าลงอะไรมาก็หมดอ่ะ ) มีรูปให้ดูแค่รูปเดียวค่ะ เพราะหิวมาก มาถึงก็ซัดกันก่อนเลยถ่ายไม่ทัน รสชาติโอเคนะคะ เพราะปกติเราเป็นคนไม่ค่อยชอบทานพวกนี้เท่าไหร่ เพราะมีความรู้สึกว่าอาหารประเภทนี้ค่อนข้างเลี่ยน แต่ของร้านนี้ไม่ค่อยเลี่ยน กลมกล่อมดีทีเดียว (เอ...หรือว่าเป็นเพราะหิวก็ไม่รู้นะ )..นอกจากติ่มซำ ก็สั่งข้าวต้มปลา มาชิมอีก 1 ชาม...เนื้อปลาดูเป็นชิ้นเป็นอันดี ใส่พริกไทยค่อนข้างเยอะ คุณเพื่อนเราชอบค่ะ ส่วนเครื่องดื่มก็สั่งชาเย็น อร่อยดีค่ะ ...ไม่มีรูปนะคะ ราคาค่าเสียหายเช้านี้ 352 บาทค่ะมีติ่มซำประมาณ 10 กว่าจานข้าวต้มปลา 1 ชามชาเย็น 4 ชานม (ร้อน) 1จากมื้อเช้า ก็เป็นมื้อเที่ยงตามมาติดๆร้านที่ 2 .....กันเอง 2.... ร้านนี้มี 2 สาขา ..คุณเพื่อนเคยพาแม่มาเที่ยวเมื่อปีที่แล้ว ไปกินที่สาขา 1 บอกว่าบรรยากาศดีมาก ปีนี้ก็เลยอยากลองอีกสาขานึง..เราจึงมาลงเอยที่กันเอง 2 นี่และจ้าบรรยากาศในร้าน ..จัดสวยนะคะ บรรยากาศดี ติดชายทะเลเลย มีเรือยอร์ชให้ดูเพลินตาดีมาดูอาหารกันจานแรก..เบือทอด..เบือเป็นผักชนิดหนึ่ง จากที่เค้าทอดมา ก็คล้ายๆ กับผักบุ้งทอดกรอบ จานนี้เค้าเสิร์ฟเบือทอด + กุ้งทอด พร้อมน้ำจิ้มหวานๆ ...รสชาติดีนะคะ..ทอดกรอบ ไม่อมน้ำมัน เข้ากันกับน้ำจิ้มได้ดีต่อด้วย ..แกงส้มกุ้งยอดมะพร้าวอ่อนรสชาติธรรมดาค่ะ ..เผ็ดนำแต่ไม่กลมกล่อมอย่างที่คาดหวัง ส่วนจานนี้..ออส่วนรสจืด ดีแต่ว่าหอยสด แต่ก็ยังไม่ประทับใจอย่างแรงค่ะ(คอมเม้นนี้จากคุณเพื่อนเรานะคะ...เพราะเราไม่ชอบทานหอย เลยไม่ชิม)..ยำผักกูด..เป็นผักกูดลวก ยำผสมกับเนื้อหมูสับ ..ใส่กะทิด้วยเราก็โอนะ..หวานๆ ดี แต่คุณเพื่อนเราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แถมยังบอกว่าถ้าไม่ใส่กะทิน่าจะรสดีกว่า....เอิ้กกก อันนี้เราไม่รู้ เพราะทำกับข้าวไม่เก่ง ...น้ำพริกกุ้งสด..พร้อมผักลวกน้ำพริกรสค่อนข้างจืด แต่ผักลวกมีหลายอย่าง มีสาหร่ายที่มันเป็นเม็ดกลมๆ ด้วยอ่ะ (ไม่เคยกิน -*- ) รสเค็มๆ เหมือนกันอุ้มน้ำทะเลมาเลย กรุบๆ แปลกๆ ดี (คุณเพื่อนเม้นว่า..เหมือนน้ำพริกละลายน้ำมาสัก 50% ได้ )มาถึงจานสุดท้าย..ที่หลังจากชิมกันแล้ว ลงมติว่าน่าจะเป็นเมนูที่ดีที่สุดของมื้อนี้...ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา เสิร์ฟพร้อมยำมะม่วง...ตัวปลาสดดีค่ะ ทอดกรอบนอกนิดๆ นุ่มใน มีรสน้ำปลาเค็มๆ ดีเราชอบ..แต่ดั๊นน..ลืมบอกให้เค้าแยกยำมะม่วงมาให้ น้ำมันเลยผสมกัน ทำให้รสตก เสียดายจริงๆ มื้อนี้จบลงด้วยราคา 880 บาท การบริการในร้าน...ดีนะคะ..เด็กในร้านหน้าตายิ้มแย้ม ถามอะไรก็พยายามตอบ (แต่น้องคงนึกในใจว่าพวกพี่ทำไมช่างสงสัยกันจัง )คุณเพื่อนเราฝากเม้นนิดนึง...คุณชายเธอบ่นว่าน้ำจิ้มสงสัยใช้มะนาวขวด อยากได้มะนาวสดๆ จัง น่าจะช่วยให้รสดีขึ้นอีกโขเลยจบของคาวมันก็ต้องต่อด้วยของหวานกันใช่ป่ะ...อิอิไปต่อกันที่ร้านกาแฟชื่อดังของภูเก็ต....KOPI de Phuketมาร้านกาแฟ..แต่สั่งชาเย็นอ่ะ..อร่อยยยยย หวาน มัน โอนะพร้อมด้วยขนมปังปิ้ง + สังขยาขนมปังกรอบดี แต่สังขยาเราว่าหวานไปนิดค่ะ...แต่ของหวานนี่เนอะสรุปชอบๆ คุณเพื่อนเอาขนมปังกรอบมากินด้วย ..แต่ไม่ได้ชิมอ่ะ มันกินหมดก่อน ค่าเสียหาย..165 บาท ค่ะภาคบ่ายก็จบลงไป.......รู้สึกหิวกันบ้างรึยังคะ ไม่ให้ขาดตอน...มาต่อที่ไฮไลท์ของทริปนี้เลยนะคะ...กระชังครูวิทย์ซีฟู้ด..ร้านตั้งอยู่แถวๆ แหลมหิน ถ้าออกจากตัวเมืองภูเก็ต วิ่งเส้นที่จะอำเภอถลางนะคะ ร้านจะอยู่ฝั่งขวามือ ก่อนถึงโบ๊ตลากูนรีสอร์ท และอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีย์ฯ ค่ะ พอยูเทิร์นกลับมาอีกฝั่ง มองหาป้ายซอยเข้าท่าเรือแหลมหิน จะอยู่บนเนินเล็กๆ .......แต่ป้ายทางเข้าเล็กมากกกก หาแทบไม่เจอ พอเข้าซอยไป ถนนเล็กๆ ค่อนข้างลึก ถึงท่าเรือจอดรถไว้บนฝั่งแล้วต่อเรือหางยาวไปกระชังปลากลางทะเล ได้บรรยากาศมากๆ เสียดายตอนไปมืดแล้ว เลยอดได้รูปบรรยากาศมาฝากเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปเก็บบรรยากาศมาฝากนะคะพูดถึงเส้นทางมานาน..เริ่มกินกันเลยละกันหอยแมลงภู่นึ่ง...จานใหญ่มาก 80 บาท หอยสดมาก เนื้อหวานอร่อย (เม้นจากคุณเพื่อนนะคะ...เพราะเราไม่ได้ชิม.ก็ไม่ชอบกินหอยอ่ะ) ปูนึ่ง..ปูสด เนื้อหวาน แทบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลยค่ะ อย่างที่บอกตั้งแต่แรก...ร้านนี้เป็นกระชังอยู่กลางทะเล ดังนั้น อาหารจึงสดมากค่ะ เค้ามีแบบให้ไปยืนชี้ๆ ได้เลยนะคะ ว่าจะเอาตัวไหนมาประกอบอาหาร...แต่พวกเราขอแบบบาปทางอ้อมแล้วค่ะ สั่งเมนูไปเลย ให้เค้าจัดการเองดีกว่า มาถึงจานโปรดของเรา...กุ้งผัดซอสมะขาม...กุ้งทอด..กรอบนอก นุ่มใน ซอสที่ราด..รสหวานเคี้ยวกุ้งกรุบๆ ดีค่ะ ..เข้ากันได้ดีกับซอสเลย ...จานนี้ ชอบมากกกก สองเมนูสุดท้ายประกอบจากปลาตัวเดียวกัน...เมนูแรก....หัวปลาเก๋าต้มเต้าเจี้ยว.. คุณเพื่อนเราฝากบอกว่า ถ้ามาร้านนี้ ขอแนะนำเมนูนี้เลยนะคะ...รสกลมกล่อมากกกส่วนตัวปลา..เอามาทอดกระเทียม เข้ากันดีกับยำมะม่วง (คราวนี้ฉลาดแระ..ให้น้องเค้าแยกมาอีกจาน )รวมค่าเสียหายมื้อนี้..1600 จ้า ......กินกันแทบตาย การกินของวันยังไม่จบเท่านี้นะจ๊ะ....คืนนั้นยังไปต่อ...ร้านโรงหนัง..ตั้งอยู่ถนนกระค่ะ ถ้ามาจากหน้าโรบินสัน (ที่เมื่อเช้าเวียนไปกินติ่มซำมาแล้ว) ก็ตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 2 ไฟแดง ร้านอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ..น้องขวัญเจ้าของร้าน น่ารักมากๆ อิอิ ...คืนนั้น คุณเพื่อนกับคุณน้องก็กรึ๊บๆ ไป แต่เราไปกินกับแกล้มรอ จบวันแรกไปด้วยการใช้พลังงานของระบบย่อยอาหารอย่างมากมายถ้าสนใจทริปแห่งการกินนี้...อย่าลืมติดตามตอนต่อไปอีก 2 วันที่เหลือนะคะบายค่ะ
...ปีนัง....เมืองที่ยังติดอยู่ในใจ
ต่อจากหลีเป๊ะ...เราก็นั่งรถตู้ต่อไปปีนังดูรูปกันเลยละกันค่ะ น้อยไปสักนิด เพราะเหนื่อยกับการเดินมากมาย ลาด้วยแสงไฟของปีนังยามค่ำคืนค่ะ....สถานีหน้า...กัวลาลัมเปอร์ถ้ายังไม่เบื่อ ก็ตามไปเที่ยวกันนะคะ
แบกเป้เที่ยวหนแรก....หลีเป๊ะ ปีนัง กัวลา.......ตอน 1 จ้า
ไม่พูดพล่ามทำเพลง...ดูรูปกันเลยละกันนะคะบล๊อกนี้ขอลงรูปหลีเป๊ะก่อนที่เดียวค่ะ ส่วนที่เหลือจะพยายามตามมาค่ะ ^ ^ไปละค่า...แวะมาก็เม้นทักทายกันด้วยนะคะ