จะสุขหรือทุกข์ ไม่ใช่อยู่ที่คนอื่นทำ แต่อยู่ที่เราเลือก
Group Blog
 
All blogs
 
Angels & Demons : Spoil (จบ)

ต่อจากคราวที่แล้วค่ะ (ภาคจบ)

###################################################

  เขาได้เข้าไปหอจดหมายเหตุอีกครั้ง เพื่อไปค้นหาผลงานของ เบร์นีนี ที่เกี่ยวกับไฟ แต่ครั้งนี้เขาไปคนเดียว วิตตอเรียไม่ได้ไปด้วย แต่กลับไปกับคาเมอร์เลโญเพื่อไปค้นหาความจริงที่ว่า พระสันตะปาปาองค์ก่อนสิ้นพระชนม์จากการฆาตกรรม ตามที่อิลลูมินาติกล่าวอ้าง มีการสันนิษฐานว่า ท่านใช้ยาเฮปารินเกินขนาด ยานี้ เป็นสารกันเลือดเป็นลิ่มที่แรงมาก ถ้าใช้ในปริมาณมากทำให้เลือดออกในร่างกายมากและเลือดคั่งในสมอง หลักฐานที่ปรากฏคือ หลังตาย ปาก,ลิ้น จะเป็นสีดำ เมื่อวิตตอเรียมาเห็นศพของ พระสันตะปาปา ก็รู้ว่าท่านถูกฆาตกรรมจริง

  เมื่อแลงดอนค้นหาข้อมูลจนพอมีเค้าโครงว่า แท่นบูชา แห่งที่ 3 คือ โบสถ์ ซานตามาเรียเดลลาวิตโตเรีย โดยมีสถาปัตยกรรมที่ชื่อ ดิเอ็คสตาซีออฟเซนต์เทเรซา เป็นรูปเทวฑูตกับเซนต์เทเรซา โดยมีคำบรรยายผลงานชิ้นนี้ว่าเกี่ยวกับไฟปรากฏอยู่

ซานตามาเรียเดลลาวิตโตเรีย

ดิเอ็คสตาซีออฟเซนต์เทเรซา

  หลังจากที่เขาได้คำตอบแล้ว ก็พยายามติดต่อกับวิตโตเรีย แต่ว่าติดต่อไม่ได้ โชคร้ายอีกครั้งที่ไฟดับ ทำให้เขาออกไปไม่ได้ เขามีเวลาเพียงน้อยนิดที่จะออกจากที่นี่ไป เพราะอากาศที่เบาบางลง สุดท้ายเขาต้องผลักชั้นวางหนังสือให้หล่นทับกันไปแบบโดมิโน ให้ชั้นหนังสืออันสุดท้ายหล่นใส่ผนังกระจก ซึ่งก็ได้ผล เขาออกมาได้ และคิดว่า มีใครบางคน พยายามจะฆ่าเขา

  เขาบอกถึงสถานที่ของแท่นบูชาแห่งที่ 3 เมื่อไปถึงที่นั่น เขาก็พบว่าโบสถ์ซานตามาเรียเดลลาวิตโตเรีย กำลังลุกไหม้ ภายในโบสถ์พบพระคาดินัลกีเดลาถูกห้อยโยนจากสายเคเบิลสองสาย ถูกดึงชักรอกขึ้นไป เขายังไม่ตาย ตรงหน้าอกถูกนาบด้วยแผ่นเหล็กคำว่า



  แต่ไฟกำลังเผาผลาญท่านอยู่ แลงดอนพยายามช่วย แต่สายเกินไป ที่นั่น โอลิเวตตี ถูกฆ่าตาย วิตโตเรียถูกจับตัวไป และแลงดอนก็พยายามสู้และหนีการตามฆ่าอย่างสุดฤทธิ์ของเจ้าฮัสซัสซิน สุดท้ายเขาติดอยู่ในหีบศพศิลา ฮัสซัสซินคิดว่าเขาตายแล้ว แต่ทหารองครักษ์สวิส ก็มาช่วยเขาในสภาพของคนหมดสติ

  ฮัสซัสซินพาวิตโตเรียไปวิหารแห่งการรู้แจ้งของอิลลูมินาติ เพื่อต้องการที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเธอ เพราะถือว่าเป็นรางวัลในการทำงานอันยิ่งใหญ่ของตน แต่ต้องหลังจากปฏิบัติภารกิจสุดท้ายก่อน คือการสังหารพระคาดินัลแบ็กเจีย เมื่อแลงดอนฟื้นขึ้นมา เขาต้องการที่จะไปช่วยวิตโตเรีย เขาได้แต่คาดหวังว่า ฮัสซัสซินจะต้องทำงานชิ้นสุดท้ายก่อนที่จะทำอะไรกับวิตโตเรีย

  แลงดอนพยายามค้นหาแท่นบูชาแห่งสุดท้าย เขาเห็นว่า หอกของเทวฑูตชี้ไปทางทิศตะวันตก เขาลองตรวจสอบตำแหน่งของ แท่นบูชา 3 แห่งแรก เพื่อตรวจสอบความหมายของทิศทางทั้งหมดโดยหวังว่าจะทำให้ค้นหาตำแหน่งของแท่นบูชาแท่นสุดท้ายได้ เขาพบว่า ตำแหน่งทั้ง 4 น่าจะเป็นรูปไม้กางเขนขนาดใหญ่ ซึ่งตำแหน่งสุดท้ายจะไปตกที่จตุรัสนาโวนา

เซนต์แอกเนสอินอะโกนี

น้ำพุจตุมหานที


  ที่จตุรัสนาโวนา ข้างนอกโบสถ์ เซนต์แอกเนสอินอะโกนี มี น้ำพุจตุมหานที ที่เป็นผลงานของเบอร์นินีตั้งอยู่ แลงดอนไปถึงที่นั่นก่อนเวลาสังหาร เขาพอมีเวลาที่จะเตรียมพร้อมก่อนเจอฮัสซัสซิน ที่น้ำพุจตุมหานที เขาพบร่างของพระคาดินัลแบ็กเจียจมน้ำตายที่หน้าอกถูกนาบด้วยแผ่นเหล็กคำว่า



  สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถสู้กับฮัสซัสซินได้ เขาแกล้งทำเป็นตายขณะที่โดนฮัสซัสซินพยายามกดให้จมน้ำตาย เมื่อเขารอดมาได้ ฮัสซัสซิน หนีไป เขาเสียใจที่ไม่สามารถช่วยเหล่าคาดินัลได้ แต่เขาต้องช่วยวิตโตเรียให้ได้

  แลงดอนพยายามมองหาสัญลักษณ์สุดท้าย ที่จะชี้ไปวิหารแห่งการรู้แจ้ง เขาเห็นว่า ตรงยอดสุดของเสาโอเบลิสค์ตรงกลางน้ำพุมีนกเขาทำด้วยสำริดตั้งอยู่ นกเขาซึ่งหมายถึงเทวฑูตแห่งสันติภาพ มองตรงไปที่ปราสาทรูปวงกลมในวงล้อมของปราการรูปสี่เหลี่ยม ปราสาทกัสเต็ลซานตานเจโล ปราสาทแห่งเทวฑูต

  แลงดอนรีบตามไปที่ปราสาทแห่งนั้น พยายามหาทางเข้าปราสาท จากการตามรอยเลือดของฮัสซัสซิน เขาพบ อิลปาสเซตโต เป็นอุโมงค์แคบๆเชื่อมระหว่างกัสเต็ลซานตานเจโลกับวาติกัน โดยอุโมงค์นี้พระสันตะปาปาจะใช้เป็นทางเดินลับเมื่อคราวลี้ภัย ทำให้เขาไขปริศนาออกและทึ่งกับสถานที่ตั้งมั่นของอิลลูมินาติ

ปราสาทกัสเต็ลซานตานเจโล

อิลปาสเซตโต

  ในที่สุดเขาตามหาฮัสซัสซินพบ และช่วยวิตโตเรียออกมาได้ ฮัสซัสซินตกระเบียงบนปราสาทตาย

  ในขณะเดียวกัน ที่วาติกัน มีข่าวว่าจะมีอัศวินม้าขาวผู้ที่รู้เรื่องของปฏิสสารจะมาช่วยการค้นหา โดยการขอเข้าพบ คาเมอร์เลโญ แลงดอนคิดว่านี่เป็นกลลวง ผู้ที่จะมาพบกับคาเมอร์เลโญคือเจนัส ประมุขของอิลลูมินาติ จะมาเพื่อกำจัดท่านคาเมอร์เลโญและนาบตราประทับบนหน้าอก สัญลักษณ์ของอิลลูมินาติอันสุดท้าย และประกาศชัยชนะ

  ปรากฏว่า ผู้ที่มาวาติกันคือ โคห์เลอร์ โดยที่โรเชร์ให้เข้าพบกับคาเมอร์เลโญโดยลำพัง แลงดอนกับวิตโตเรีย รีบไปหาโรเชร์เพื่อเตือนถึงภัยอันตราย เมื่อไปถึงเขาพบว่า ท่านคาเมอร์เลโญถูกนาบตราแล้ว ด้วยสัญลักษณ์เพชรอิลลูมินาติ


  ภายในห้อง พบ โคห์เลอร์ บนรถเข็น โรเชร์เตรียมเข้ามาทำร้ายคาเมอร์เลโญ แต่ถูกชาร์ตรองด์ยิงตาย โคห์เลอร์ถูกทหารองค์รักษ์ยิงตายเช่นกัน ก่อนตายเขามอบกล้องวีดีโอเล็กๆให้แลงดอน และขอให้เขามอบให้กับผู้สื่อข่าว

  ขณะนั้นใกล้เวลาเที่ยงคืน อันเป็นเวลาที่ปฏิสสารจะทำลายล้าง ทหารองค์รักษ์รีบนำคาเมอร์เลโญส่งรถพยาบาล แต่เขากลับลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปในเซนต์ปีเตอร์ในลักษณะคล้ายคนคลุ้มคลั่ง แลงดอน วิตโตเรีย ชาร์ตรองด์ และนักข่าวอีกสองคน ก็วิ่งตามกลับเข้าไปด้วยเช่นกัน

ภายในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์

  คาเมอร์เลโญวิ่งลงคูหาที่อยู่ต่ำลงไปจากระดับพื้นวิหาร ลงบันได ผ่านอุโมงค์ สู่ระดับพื้นล่างลึกลงไป คาเมอร์เลโญบอกกับผู้ติดตามทั้งหลายว่า พระเจ้าบอกกับเขาว่า ปฏิสสารอยู่ตรงที่ฝังศพของนักบุญปีเตอร์ เขานำปฏิสสารกลับขึ้นมาบนพื้นดิน และรีบวิ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์

  เหลือเวลาอีก 4 นาที คาเมอร์เลโญ นั่งที่คนขับเครื่องบิน แลงดอนแอบหยิบหลอดปฏิสสารแล้วขึ้นนั่งในเฮลิคอปเตอร์ เขาหวังว่าคาเมอร์เลโญจะนำ เฮลิคอปเตอร์ไปใกล้ๆเหมือง แล้วทิ้งปฏิสสารลงไป แต่คาเมอร์เลโญ เพียงแค่บังคับเฮลิคอปเตอร์ให้บินสูงขึ้นไปเท่านั้น

  ขณะที่เขายังไม่เข้าใจเหตุผลที่คาเมอร์เลโญไม่บินต่อไป เขากลับเห็นคาเมอร์เลโญหยิบปฏิสสารใส่ลงในกล่อง ล็อคกุญแจ ทิ้งกุญแจออกไป แล้วคว้าร่มชูชีพพร้อมกับกระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์ เขาสับสน งุนงง ในนาทีสุดท้าย เขาคว้าที่กำบังแดด แล้วกระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์ ในขณะที่ปฏิสสารเกิดระเบิดทันที เขาตกลงไปแม่น้ำในสภาพเกือบตาย ส่วนคาเมอร์เลโญตกลงบนยอดหลังคามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ด้วยความอัศจรรย์ใจของคนทั้งประเทศ จากการรายงานข่าวสดของกลิกและกรุนดิก

  แลงดอนได้รับการช่วยเหลือจากหมอ เขาหยิบกล้องวีดีโอของโคห์เลอร์ออกมาดู ทำให้เขาเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง ที่วัดน้อยซีสตีนเหล่าคาร์ดินัลทั้งหลายต่างให้การสนับสนุนที่จะแต่งตั้งคาเมอร์เลโญเป็นพระสันตะปาปาคนต่อไป แต่มอร์ตาติไม่เห็นด้วยกับการคัดเลือกแบบนี้

  ขณะที่เกิดความขัดแย้งในการคัดเลือกพระสันตปาปา แลงดอนก็ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น จากกล้องวีดีโอที่ได้จากโคห์เลอร์ ซึ่งเป็นการบันทึกการพบกันระหว่างโคห์เลอร์กับคาเมอร์เลโญ

  ภายในกล้องวีดีโอแสดงให้เห็นว่า โคห์เลอร์สามารถประติประต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ว่า คาเมอร์เลโญได้มาพบกับเลโอนาร์โด เวตรา เมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้ โดยมาในฐานะตัวแทนขององค์พระสันตะปาปา เพราะ เลโอนาร์โดประสบความสำเร็จในการทดลองเพื่อจำลองเหตุการณ์การสร้างโลกและพระสันตะปาปาอยากให้เปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณชน เพราะคิดว่าการค้นพบนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างวิทยาศาสตร์กับศาสนา แต่คาเมอร์เลโญกลับคิดว่า การค้นพบนั้นเป็นการเหยียบย่ำศาสนา พระเจ้าไม่สามารถพิสูจน์ได้จากการทดลอง เขาจึงวางแผนการทั้งหมด ติดต่อกับฮัสซัสซิน ขโมยปฏิสสาร ฆ่าเลโอนาร์โดกับพระคาดินัลทั้ง 4

  หลังความจริงถูกเปิดเผย คาเมอร์เลโญ ยังยืนยันว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้น เพื่อเป็นการเรียกศรัทธาจากประชาชนที่มีต่อพระเจ้า เขายอมรับอีกว่าเป็นคนวางยาพระสันตปาปา เพราะเสียใจผิดหวังคิดว่าองค์ท่านเป็นคนหลอกลวงเพราะพระสันตปาปาได้บอกกับเขาว่า พระองค์เป็นพ่อของเด็กคนหนึ่ง

  พระคาร์ดินัลมอร์ตาติเป็นคนที่เล่าความจริงทั้งหมดให้ทุกคนทราบ พระสันตปาปาเมื่อครั้งที่เป็นพระรูปหนึ่ง มีความรักกับนางชีสาวคนหนึ่ง แต่ทั้งคู่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ผู้หญิงสามารถให้กำเนิดบุตรได้โดยการผสมเทียม เธอให้กำเนิดบุตรด้วยวิธีดังกล่าว ซึ่งเป็นบุตรของเธอกับพระสันตปาปา เด็กคนนั้นคือ คาเมอร์เลโญ

จตุรัสเซนต์ปีเตอร์

  คาเมอร์เลโญ ไม่อาจรับความจริงนี้ได้ อีกทั้งความจริงที่เขาเป็นคนฆ่าพ่อของตนเอง เขาวิ่งไปที่ระเบียงขององค์พระสันตปาปา แล้วจุดไฟเผาตัวเอง ท่ามกลางสายตาประชาชนจำนวนมาก
พระคาร์ดินัลมอร์ตาติได้รับเลือกเป็นพระสันตปาปาคนใหม่

  ชาร์ตรองด์นำของสิ่งหนึ่งจากพระสันตปาปานำมามอบให้ แลงดอน สิ่งนั้นคือ เพชรอิลลูมินาติ แลงดอนกับวิตโตเรียพักผ่อนกันที่โรงแรมเบร์นีนี หลังผ่านเหตุการณ์เรื่องร้ายๆตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เก็บตก

ชุดแต่งกายทหารองครักษ์สวิส

  ชุดแต่งการทหารองครักษ์สวิสนี้ ในนิยายบอกว่าออกแบบโดย ไมเคิลแองเจิลโล ชุดที่เห็นในรูปนี้เป็นชุดในพิธี ข้างล่างนี้เป็นคำบรรยายชุดแต่งกายนี้เมื่อแลงดอนกับวิตโตเรียพบกับทหารองครักษ์ขับเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำคนทั้งคู่ไปวาติกัน

  "เสื้อทูนิกฟูฟ่องเป็นลายทางขวางสีฟ้าสลับทอง สวมกางเกงขายาวแบบตัวตลกกับเครื่องหุ้มหลังเท้าเข้าชุดกัน ที่เท้าเป็นแผ่นสีดำหน้าตาเหมือนรองเท้าแตะและเหนือสิ่งอื่นใด เขาสวมหมวกเบเรต์สักหลาดสีดำ"
นาฬิกามิกกี้เมาส์ของแลงดอน

  นาฬิกามิกกี้เมาส์รุ่นนักสะสมของแลงดอน ของขวัญจากพ่อแม่ให้กับเขาตั้งแต่ยังเด็ก เป็นนาฬิกากันน้ำและเรืองแสงในความมืด เขาใส่นาฬิกาเรือนนี้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้มีหัวใจเป็นหนุ่มอยู่เสมอ

ต้นแบบโบอิ้งเอกซ์-33

โบอิ้ง x-33 ที่นำแลงดอนมา CERN

#############################################################

  จบแล้วค่ะ Angels & Demons lunar ใช้เวลาหลายวันทีเดียวในการเขียน blog นี้ นับว่าเป็น blog ที่ใช้ระยะเวลานานที่สุด อ้อ รูปภาพต่างๆ ใน web นี้ เอามาจากเว็บพันทิพโดยคุณชาเขียว และ ก็เว็บของแดน บราวน์เอง ใครสนใจก็แวะไปดูได้ค่ะ

คุณชาเขียว
แดน บราวน์
John Langdon(ผู้ออกแบบ แอมบิแกรมให้แดน บราวน์)



Create Date : 06 สิงหาคม 2551
Last Update : 6 สิงหาคม 2551 23:29:32 น. 5 comments
Counter : 3416 Pageviews.

 
เรื่องนี้ชอบมากค่ะ
ในแง่ของการใช้สัญลักษณ์ในการดำเนินเรื่อง ล้ำลึกมาก

ชอบมากกว่า The Da Vinci Code อีกนะคะ


โดย: BeCoffee วันที่: 7 สิงหาคม 2551 เวลา:23:48:24 น.  

 
ชอบอักษรอิลูมินาติอ้ะ สุดยอดมากๆ

สำหรับงานเขียนของแดน บราวน์ เราก็ยังชอบเรื่องนี้มากๆ อยู่ดีน่ะแหละ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:17:29:18 น.  

 
เยี่ยมครับ


โดย: คนผ่านมา IP: 125.25.106.197 วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:10:23:55 น.  

 
อ่านเรื่องนี้จบนานแล้วนะครับ แต่มาเห็นภาพสถานที่จริงๆแล้ว โอ้ววว ช่างตื่นตาตื่นใจ ขอบคุณนะครับที่เอามาให้ดู ^_^


โดย: Pipe IP: 58.9.18.50 วันที่: 31 ตุลาคม 2551 เวลา:15:49:22 น.  

 

ขออนุญาต COPY เรื่องย่อส่งอาจารย์ครับ

พอดี ทำรายงานภาษาไทยเรื่องนี้พอดี

ขอบคุณครับผม


โดย: เด็ก ม 3 IP: 203.144.144.164 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:58:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

susanjoan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




    ข่าวท่องเที่ยว

    ข่าวไลฟท์สไตล์

Friends' blogs
[Add susanjoan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.