|
เย็นทั่วหล้าปีใหม่ไทย
ตรุษสากลไปแล้ว ตรุษจีนไปแล้ว แล้วก็ตรุษไทยเสียที.. ทุกปี.. ที่ 13 เมษายน
อวยพรผู้ใหญ่ รดน้ำดำหัว เย็นทั่วหล้าฟ้าไทย
คำว่า "สงกรานต์" มาจากภาษาสันสฤกตว่า สํ-กรานต แปลว่า ก้าวขี้น ย่างขึ้น หรือก้าวขึ้น การย้ายที่ เคลื่อนที่ คือพระอาทิตย์ย่างขึ้น สู่ราศีใหม่ หมายถึงวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งตกอยู่ในวันที่ ๑๓,๑๔,๑๕ เมษายนทุกปี แต่วันสงกรานต์นั้นคือ วันที่ ๑๓ เมษายน เรียกว่า วันมหาสงกรานต์ วันที่ ๑๔ เป็นวันเนา วันที่ ๑๕ เป็นวันเถลิงศก
สงกรานต์ ที่แปลว่า "ก้าวขึ้น" "ย่างขึ้น" นั้นหมายถึง การที่ดวงอาทิตย์ ขึ้นสู่ราศีใหม่
มหาสงกรานต์ แปลว่า ก้าวขึ้นหรือย่างขึ้นครั้งใหญ่ หมายถึงสงกรานต์ปี คือปีใหม่อย่างเดียว กล่าวคือสงกรานต์หมายถึง ได้ทั้งสงกรานต์เดือนและสงกรานต์ปี แต่มหาสงกรานต์ หมายถึง สงกรานต์ปีอย่างเดียว
วันเนา แปลว่า "วันอยู่" คำว่า "เนา" แปลว่า "อยู่" หมายความว่าเป็นวันถัดจากวันมหาสงกรานต์มา ๑ วัน
วันเถลิงศก แปลว่า "วันขึ้นศก" เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ การที่เปลี่ยนวันขึ้นศกใหม่มาเป็นวันที่ ๓ ถัดจากวันมหาสงกรานต์ ก็เพื่อให้หมดปัญหาว่า การย่างขึ้นสู่จุดเดิม
วันสงกรานต์เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ ซึ่งกษัตริย์สิงหศแห่งพม่า ทรงตั้งขึ้นเมื่อปีกุนวันอาทิตย์ พ.ศ. ๑๑๘๑ โดยกำหนดเอาดวงอาทิตย์เข้าสู่ราศีเมษได้ ๑ องศา ประกอบกับไทยเราเคยนิยมใช้จุลศักราช สงกรานต์จึงเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยอีกด้วย ในปีแรกที่กำหนดเผอิญเป็นวันที่ ๑๓ เมษายน ซึ่งอันที่จริงไม่ใช่วันที่ ๑๓ เมษายนทุกปี แต่เมื่อเป็นประเพณี ก็จำเป็นต้องเอาวันนั้นทุกปี
(ตัดต่อมาจากเว็บอะไรไม่รู้เกี่ยวกับเทศกาล)
Create Date : 13 เมษายน 2548 | | |
Last Update : 13 เมษายน 2548 12:07:31 น. |
Counter : 1867 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
คลอดแล้ว ผมคนปรกติ
สองอาชีพ ที่ไม่เคยมีอยู่ในสมองตั้งแต่เกิดมา คือขายหนังสือ กับเขียนหนังสือ แต่จู่ๆ เพื่อนก็มาชวนไปขายหนังสือ ทำให้เห็นความยากลำบากของร้านขายหนังสืออย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ เปิดแผงขายหนังสือเอนเตอร์เทนจะขายง่ายกว่าเยอะ จึงต้องปิดร้านโดยดุษฎี คือดีใจที่ปิด จากนั้น ก็ไม่ได้สนใจเรื่องเขียนหนังสืออยู่ดี เพราะความที่เป็นคนไม่ช่างจำ ไม่สนใจข้อมูลทุกชนิด วิชาที่ว่าด้วยความจำสมัยเรียนหนังสือ ก็สอบตกหมด
แต่ก็มาเขียนหนังสือด้วยความทรมานเหมือนกัน เพราะหนังสือที่มีเป็นข้อมูลที่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเข้าใจชีวิต เรื่องที่เขียน ก็เลยจะดูต่างกับชาวบ้านอยู่พอสมควร จนต้องปรับตัวสองครั้งแล้ว ถ้าจะเขียนอะไรที่ต้องการข้อมูลขึ้นมา ก็ลำบากเอาเรื่อง เรื่องที่เขียนชุดแรก ยังไม่ได้ตีพิมพ์ ส่วนรวมเรื่องๆ นี้ กลับพิมพ์ออกมาก่อน ด้วยความอนุเคราะห์ จากบอกอ สำนักพิมพ์นวนิยายบางกอก ทันงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่จัดขึ้นที่หอประชุมแห่งชาติสิริกิติ์คราวนี้ด้วย.. คือวันที่ 25 มีนาคม - 6 เมษายน 48
น่าแปลก.. เรื่องที่ออกสู่สาธารณชนก่อน กลับเป็นเรื่องนี้ ผมคนปรกติ ฟังดูแล้ว ไม่รู้จะเดาออกหรือเปล่า ว่าปรกติของผู้เขียน หมายถึงอะไร ส่วนคำว่าว่า "ปรกติ" จริงๆ ก็คิดอยู่ว่า จะใช้คำ ปรกติ หรือ ปกติ ดี ที่สุด.. ก็ตัดสินใจใช้คำเก่ากว่าไป สองหัวคิด กับน้องที่ทำรูปเล่มให้.. ดูรายละเอียดเพิ่ม
Create Date : 20 มีนาคม 2548 | | |
Last Update : 29 พฤษภาคม 2548 15:30:42 น. |
Counter : 1189 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
คิดถึงแม่ชะมัด!!!
คิ ด ถึ ง แ ม่ ช ะ มั ด ! ! ! ...ในช่วงเวลาที่หาความเป็นแม่จากผู้หญิงยุคนี้ยากเข้าไปทุกที ด้วยกระแสนิยมของสังคมที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน เรียกผู้คนออกจากความสุขง่ายๆ ด้วยการสร้างความสุขเชิงวัตถุใหม่ที่ต้องแลกด้วยเงินตรา ต้องกระเสือกกระสนมีวัตถุให้มาก ความสุขถึงจะเดินทางมาหา แม้จะต้องแลกมันด้วยคุกตาราง หรือความหายนะ..
...สาวเขมรเดินทางเข้าไทย ปั๊มท้องมีลูก เพื่อให้คนมาเช่าไปขอทาน ครอบครัวแตกสลาย เด็กๆ เร่ร่อนออกหาที่อยู่ที่ไม่คับใจ แต่เคว้งคว้างน่ากลัวสำหรับเด็กตาดำๆ วัยรุ่นใจแตก ทำแท้งไม่ได้ ก็รอจนออกแล้วเอามาทิ้งถังขยะ พ่อแม่เครียดเรื่องส่วนตัว แล้วทุบตีลูกจนตาย..ฯลฯ
เรื่องความรักนี้แค่สอนกัน คงทำไม่ได้ เพราะความรักอยู่ที่การถ่ายทอด ไม่ใช่แค่เพียงลมปาก เหมือนความดี ที่ไม่ใช่แค่การสั่งสอน แต่ต้องทำให้เห็น
ย้อนไปตอนที่ผู้เขียนยังเล็ก ซอกรักแร้ของแม่ เป็นที่ซุกซ่อนยามหลับใหล มันคงแก้ฝันร้ายในโลกแห่งความไม่จริง การตื่นขึ้นมาบนโลก ที่มีแม่คอยเป็นกำลังใจ ดูแล มันเป็นเรื่องสำคัญ ที่ทุกชีวิตน้อยๆ ต้องการได้รับ เพื่อการเติบโตอย่างเข้มแข็งทางด้านหัวใจ ไม่ใช่แค่ร่างกายอย่างเดียว
Create Date : 16 มีนาคม 2548 | | |
Last Update : 23 มีนาคม 2548 11:11:00 น. |
Counter : 1213 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|